webnovel

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

เมื่อจู่ๆ โชคชะตาก็ทำให้ เยี่ยหวันหวั่น ฟื้นขึ้นมาในคืนแห่งความทรงจำอันเลวร้ายเมื่อ 7 ปีก่อน เธอย้อนเวลากลับมาเกิดใหม่ในบ้านหลังเดิม ที่ยังมีปีศาจแสนเย็นชา ซือเยี่ยหาน คอยอยู่ข้างกาย เขา... คนที่เธอเคยพยายามหนีไปให้พ้น ยอมแม้แต่ทำให้ตัวเองอัปลักษณ์ น่าอับอาย และรักกับชายคนอื่น! แต่ชาติก่อนสมองของเธอคงมีปัญหา ถึงได้ปล่อยสามีสุดหล่อคนนี้เอาไว้ไม่เหลียวแล จึงได้ถูกหญิงร้ายชายชั่วทำร้าย เธอถูก เฉินเมิ่งฉี เพื่อนสนิทที่ไว้ใจที่สุดล้างสมองและหาทางเข้าใกล้ซือเยี่ยหาน จนในที่สุดความสัมพันธ์ระหว่างเธอและสามีก็ถึงคราวแตกร้าว และตัวเธอต้องมีจุดจบอันน่าเวทนา ชาตินี้ในเมื่อมีโอกาสกลับมาอีกครั้ง เธอจะยึดตำแหน่งคนข้างกายซือเยี่ยหานไว้ คอยอาศัยความรักและบารมีของเขา ใช้ชีวิตใหม่ให้คุ้มค่าที่สุดเพื่อเอาคืนคนชั่วพวกนั้น และที่สำคัญคือมีชีวิตที่ดียิ่งกว่าเดิม! ...คิดจะตีหน้าซื่อหลอกใช้ สรรหาวิธีให้เธอยอมถอยเหรอ? ‘ขอโทษที สติปัญญาของฉันอัปเกรดมาแล้ว!’

จ่งจ่งโหย่วเยา · Urban
Not enough ratings
570 Chs

บทที่ 4 โง่จนน่าเวทนา

บทที่ 4 โง่จนน่าเวทนา

ในชาติก่อน เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกเพียงว่าการที่ตนเสียความบริสุทธิ์ เป็นเรื่องที่ทำผิดต่อกู้เยว่เจ๋อ จึงไม่มีอะไรโต้แย้งคำพูดไม่น่าฟังประโยคนั้นของเขา เพียงได้ยินเขาบอกว่าทำไปเพราะไม่รู้ตัวก็ให้อภัยหมดสิ้น พอรู้ว่าเขาจะพาตนหนีก็ยิ่งรู้สึกซาบซึ้ง คิดว่าในใจของเขายังมีตัวเองอยู่

เรียกง่ายๆ ว่าโง่จนน่าเวทนา

ไม่รู้เลยว่า นี่เป็นเพียงการสร้างเกียรติให้ตัวเองของชายคนนี้เท่านั้น

อย่างไรเธอก็เคยเป็นคู่หมั้นของกู้เยว่เจ๋อ แต่ตอนนี้เป็นคนรักของซือเยี่ยหานแล้ว หากว่าเรื่องแบบนี้แพร่สะพัดออกไป จะให้เขาเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

วินาทีที่กู้เยว่เจ๋อพูดว่าเขาจะพาตนหนีไป เยี่ยหวันหวั่นสัมผัสได้ว่าอากาศรอบด้านหนาวเย็นลงกะทันหัน

ในมุมลับสายตาห่างจากเยี่ยหวันหวั่นไปเพียงไม่กี่ก้าว

ใบหน้าของของชายหนุ่มหมองคล้ำกลืนไปกับสีของความมืด รังสีความโกรธแผ่ซ่านรอบกายอย่างควบคุมไม่ได้ ราวกับวินาทีต่อไปจะบดขยี้คนให้เละ แล้วกลืนกินจนแม้แต่กะโหลกศีรษะก็ไม่ให้เหลือ

สวี่อี้ผู้ช่วยข้างกายของซือเยี่ยหาน เวลานี้มีเหงื่อผุดขึ้นมาเหมือนสายฝน ขาสองข้างสั่นเทาไม่หยุด

ชีวิตแสนบัดซบนี้ ไม่นึกว่าจะมาเจอผู้หญิงของนายท่านกำลังจะแอบหนีตามผู้ชาย สวมหมวกเขียวให้กับนายท่าน!

ตั้งแต่ผู้หญิงที่ชื่อเยี่ยหวันหวั่นคนนี้ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ นายท่าน ผู้ช่วยอย่างพวกเขาก็ไม่มีวันที่ดีเลยสักวัน เมื่อไหร่ที่นายท่านโมโห พวกเขาทุกคนจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย

และสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ชำนาญที่สุดก็คือยั่วโมโหซือเยี่ยหาน

คราวนี้ระดับความโกรธของใครบางคนมากพอจะเผาทำลายทั้งเมืองหลวงให้พินาศเป็นเถ้าถ่านได้แล้ว!

สวี่อี้หลับตาลงอย่างสิ้นหวัง ไม่ต้องมองเขาก็เดาออก ว่าต่อไปศีรษะของนายท่านจะเขียวขนาดไหน...

กู้เยว่เจ๋อเห็นเยี่ยหวันหวั่นยังนิ่งไม่ขยับ สีหน้าก็เผยความหงุดหงิด ยื่นมือหมายจะดึงเธอออกไป

เยี่ยหวันหวั่นถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างว่องไว หลบการสัมผัสเนื้อต้องตัวของอีกฝ่าย

“หวันหวั่น?” กู้เยว่เจ๋อขมวดคิ้ว

เยี่ยหวันหวั่นสีหน้าเย็นชา “กู้เยว่เจ๋อ ฉันเคยพูดว่าจะหนีไปกับนายเหรอ?”

แววตาของกู้เยว่เจ๋อฉายประกายเห็นใจ “หวันหวั่น คนฐานะอย่างซือเยี่ยหาน เขาแค่เล่นๆ กับเธอเท่านั้น ทำไมเธอต้องทำแบบนี้เพื่อแก้แค้นฉันด้วย ทำแบบนี้มีแต่จะเป็นการทำร้ายตัวเธอเองนะ!”

ในความทรงจำของเขา เยี่ยหวันหวั่นเป็นผู้หญิงที่รักเขาแทบยอมตายถวายชีวิต ทั้งยังเชื่อฟังเขามาโดยตลอด ดังนั้นกู้เยว่เจ๋อจึงคิดว่าเธอเพียงทำเพื่อเรียกร้องความสนใจของตนเอง

“ทำร้ายตัวเอง?”

เยี่ยหวันหวั่นเหมือนได้ยินมุกตลกอะไร จึงแค่นเสียงหัวเราะพลางเอ่ย “ซือเยี่ยหานรวยกว่า มีอำนาจมากกว่า มีหน้ามีตามากกว่า ทั้งยั้งรูปร่างดีกว่านายด้วย ต่อให้นอนกับเขาครั้งเดียว ก็ยังดีกว่าฝืนอยู่กับนายไปตลอดชีวิต! นายไปเอาความมั่นใจจากไหนมาพูดแบบนี้?”

“เธอ...” กู้เยว่เจ๋อไม่เคยคิดเลยว่าเยี่ยหวันหวั่นจะพูดถ้อยคำประเภทนี้ออกมาได้ ใบหน้าเคร่งเครียดทันที

เวลาเดียวกันนี้ รังสีอำมหิตรุนแรงที่แผ่ซ่านรอบกายใครบางคนที่แอบสุ่มอยู่ สงบลงไปทันทีราวกับสัตว์ป่าตัวหนึ่งที่ถูกลูบขนปลอบโยน

สวี่อี้ทำหน้าโล่งใจดั่งผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติ เหลือบมองไปทางเยี่ยหวันหวั่นด้วยสายตาประหลาดใจ

วันนี้ทำไมคุณหนูเยี่ยคนนี้ถึงดูผิดปกติไป?

เธอไม่น่าจะเป็นคนที่พูดคำพูดพวกนี้ออกมาได้ เธอรักกู้เยว่เจ๋อแทบยอมตายถวายชีวิตไม่ใช่เหรอ?

ควรจะรีบร้อนแอบหนีตามกู้เยว่เจ๋อไปสิถึงจะถูก

หรือจะเป็นกลยุทธ์หลอกให้ตายใจ?

ครั้งนี้กู้เยว่เจ๋อถูกสะกิดต่อมโมโหจริงๆ แล้ว เอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบสุดขีด “หวันหวั่น เธออย่าเอานิสัยงอนเป็นเด็กมาใช้กับฉัน เบื้องหลังของซือเยี่ยหานลึกเกินหยั่ง ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองบรรลุเป้าหมาย เธอรู้หรือเปล่าว่าเขาอันตรายมากแค่ไหน? จะอยู่ข้างคนแบบนี้ เธอไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม?”

สำหรับคำเตือนที่รุนแรงของกู้เยว่เจ๋อ เยี่ยหวันหวั่นทำเพียงหาวหวอดใหญ่อย่างเกียจคร้าน วินาทีต่อมา เธอปรายตามองไปทางเขาเล็กน้อย แล้วบอกเสียงเบา “แล้วยังไงล่ะ ตายใต้ดอกโบตั๋น ถึงกลายเป็นผีก็คุ้มค่า[footnoteRef:1]~” [1: ตายใต้ดอกโบตั๋น ถึงกลายเป็นผีก็คุ้มค่า ประโยคนี้มาจากบทกวีในสมัยราชวงศ์หยวน “หลงใหลในไซซี” หมายถึง เพียงเพื่อให้ได้หญิงที่ถูกตาต้องใจ ถึงตายก็คุ้มค่า ]

…….…………………………………………………………..