บทที่ 19 อาศัยความสามารถสอบได้ที่โหล่
เยี่ยหวันหวั่นฟังคำซุบซิบนินทาตนเองอย่างสนอกสนใจ ได้ข้อมูลที่เธอเกือบจะลืมไปแล้วอยู่บ้าง พลางเดินทอดน่องสบายๆ ไปทางประตูห้อง F
วินาทีที่เธอเดินมาถึงประตูห้อง บรรยากาศในห้องเรียนเงียบลงอย่างประหลาดไปวินาทีหนึ่ง ก่อนจะตามมาด้วยเสียงทุบโต๊ะและเสียงผิวปากอย่างบ้าคลั่ง
ทุกคนต่างอยากสร้างความวุ่นวาย
พูดให้ชัดเจน เธอก็คือยัยอัปลักษณ์ที่เพื่อนนักเรียนมักจะแกล้งแก้เบื่ออยู่เป็นประจำ
และทุกครั้งเยี่ยหวันหวั่นก็ไม่เคยทำให้พวกเขาผิดหวัง
“ฮะฮะฮ่า โอ้โห! เยี่ยหวันหวั่นทรงผมเธอนี่เจ๋งมากเลย!”
“ใช่ๆ เท่ระเบิดกว่าทรงหัวระเบิดวันนั้นอีก!”
พวกนักเรียนชายพากันหัวเราะขบขัน นักเรียนหญิงแสดงสีหน้ารังเกียจเหยียดหยาม
“เอะอะเสียงดังอะไรกัน! เงียบกันให้หมด! ไม่ได้ยินเสียงออดเข้าเรียนกันใช่ไหม?” น้ำเสียงโมโหของอาจารย์ประจำชั้นดังมาจากหน้าประตู
“เยี่ยหวันหวั่น เธออีกแล้วนะ! เธอ...เธอดูซิ นี่มันสภาพอะไรของเธอ? ยังไม่กลับไปนั่งที่ของตัวเองอีก!” อาจารย์ประจำชั้นเห็นทรงผมสีเขียวของเยี่ยหวันหวั่นแล้ว ก็โมโหจนอกแทบแตก เดิมคิดอยากตำหนิต่อว่าอีก แต่กลับไล่ให้เธอไปนั่งที่อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ถึงอย่างไรนักเรียนคนนี้ก็จะโดนไล่ออกอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดกับเธอให้เสียเวลา
เยี่ยหวันหวั่นมองไปในห้องเรียน ไม่จำเป็นต้องเรียกความจำ ก็รู้ได้ทันทีว่าที่นั่งของเธออยู่ที่ไหน
เพราะทุกระดับชั้นจัดเรียงที่นั่งตามคะแนน และเธอก็ได้ที่โหล่มาตลอด แน่นอนว่าเธอต้องนั่งแถวหลังสุด
ที่นั่งชิดหน้าต่างแถวหลังสุด มีนักเรียนชายคนหนึ่งฟุบอยู่
ชายหนุ่มตัดผมซอยยุ่งไม่เป็นทรง เสียบหูฟังไว้ในหู ฟุบหลับอยู่บนโต๊ะเรียน แสงแดดลอดผ่านตามช่องว่างระหว่างกิ่งก้านใบไม้ กระโดดโลดแล่นอยู่บนเสี้ยวหน้าของคนที่นอนหลับอยู่ ขับให้เขาดูไปแล้วเหมือนออกมาจากภาพถ่ายแฟชั่น
ซือเซี่ย หนุ่มหล่อประจำโรงเรียนมัธยมปลายชิงเหอ
สูบบุหรี่ ชกต่อย โดดเรียน ไม่มีเรื่องไหนที่เขาไม่เชี่ยวชาญ เรื่องคะแนนก็เหลวแหลกเป็นโคลนตม แต่เพราะหน้าตาดี ทางบ้านมีฐานะร่ำรวย จึงครองตำแหน่งเดือนโรงเรียนไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
ได้ยินเสียงฝีเท้าข้างกาย ชายหนุ่มที่กำลังหลับอยู่ลืมตาขึ้นมาอย่างหงุดหงิด “ออกไป!”
นักเรียนในห้องคนอื่นๆ โดยเฉพาะนักเรียนหญิงเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ล้วนทำหน้ายินดีที่จะได้เห็นคนอื่นเดือดร้อน
พวกเธอกำลังชื่นชมใบหน้าหล่อเหลาของคุณชาย ทว่ากลับโดนยัยอัปลักษณ์ขัดจังหวะเข้าให้
ยัยอัปลักษณ์นี่ มีสิทธิ์อะไรมานั่งร่วมโต๊ะกับซือเซี่ย!
แต่ว่า ท่าทางโกรธเกรี้ยวอยากด่าคนของเทพบุตรคนนี้ช่างหล่อเหลาซะเหลือเกิน!
ก่อนได้เกิดใหม่ แม้ว่าเยี่ยหวันหวั่นจะแต่งตัวเยอะเกินเหตุ แต่ความจริงแล้วเธอเป็นคนซื่อบื้อมาก ในใจรู้สึกตัวเองด้อยค่าอ่อนแอ นิสัยก็มืดหม่นมาก
หากเป็นเมื่อก่อน โดนซือเซี่ยตะคอกใส่แบบนี้ เยี่ยหวันหวั่นคงไปนั่งหดตัวอยู่กับโต๊ะขาหักตรงขยะนานแล้ว
แต่ครั้งนี้ เผชิญกับเสียงตวาดกร้าวของชายหนุ่ม เยี่ยหวันหวั่นกลับยืนมองลงไปที่ชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตากึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม ทำท่าราวกับไม่ได้ยินอะไร ก่อนจะหย่อนก้นลงบนที่นั่งข้างเขา
ชายหนุ่มสีหน้าเปลี่ยนไปถนัดตา “อยากตายหรือไง? ออกไป!”
เยี่ยหวันหวั่นค่อยๆ ยัดกระเป๋าหนังสือเก็บใต้โต๊ะ หยิบหนังสือเรียนและกล่องเครื่องเขียน จากนั้นหันไปมองเขาพลางกล่าวว่า “ฉันอาศัยความสามารถสอบได้ที่โหล่ อาศัยความสามารถได้ตำแหน่งนี้มา แล้วนายมีสิทธิอะไรมาไล่ฉัน?”
ซือเซี่ย “...”
เพื่อนนักเรียกทุกคนในห้อง “...”
แม้แต่สีหน้าของอาจารย์ประจำชั้นยังดำคล้ำไปแล้ว
................................................................