บทที่ 16 มโนธรรมของนายไม่เจ็บปวดบ้างเหรอ?
เช้าวันถัดมา
เยี่ยหวันหวั่นนอนหลับสนิทจนตื่นด้วยตนเอง
จากนั้น เริ่มพิจารณาว่าวันนี้จะแต่งตัวอย่างไร
อันที่จริง การแต่งตัวสุดโต่งของเธอก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะทำให้เธอประสบกับความทุกข์ยากไม่น้อย แต่ก็เป็นการพรางตัวของเธอ ช่วยหลีกเลี่ยงความยุ่งยากไปได้มาก ไม่อย่างนั้นกลัวว่าแม้แต่โรงเรียนก็คงไม่ได้ไป ในเมื่อเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของหนุ่มสาวมัธยมปลายวัยแรกแย้ม หากเผยโฉมหน้าที่แท้ทริงไป แล้วมีเพื่อนผู้ชายคนไหนมาสารภาพรักกับเธอ เธอคงจบเห่แน่
กว่าจะได้มาเกิดอีกครั้งไม่ใช่ง่ายๆ แม้ว่าอยากกลับไปเป็นตัวเองแทบตาย แต่หลังจากไตร่ตรองอย่างหนัก เธอก็รู้ว่าก่อนที่เธอจะแข็งแกร่งเพียงพอ เรื่องเหล่านี้จำเป็นต้องหักห้ามใจเอาไว้ก่อน
เยี่ยหวันหวั่นจึงยังเลืองแต่งตัวฉูดฉาดเหมือนเก่า แล้วฉวยเอาวิกผมสีเขียวที่สว่างแสบตามาใส่
ตอนที่เยี่ยหวันหวั่นลงมาจากชั้นบน ไม่เห็นซือเยี่ยหาน กลับพบว่าหลินเชวียอยู่ที่นี่
คนคนนั้นกำลังคุยกับคนที่อยู่ตรงข้ามอย่างออกรสออกชาติ เมื่อเหลือบตามาเห็นเธอเข้าโดยบังเอิญ ก็พลันพ่นกาแฟในปากออกไปทั้งหมด…
“เฮ้ย! ตาฉัน!!”
เยี่ยหวันหวั่นกลอกตามองบนใส่เขา ทำท่าทางเหมือนเห็นสิ่งประหลาด
เธอกวาดตามองชั้นล่าง พบว่าวันนี้ไม่ได้มีเพียงหลินเชวีย เซี่ยเจ๋อจือเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งของซือเยี่ยหานก็อยู่ที่นี่ด้วย
นัยน์ตาดอกท้อแวววาวของเซี่ยเจ๋อจือมองมาทางเยี่ยหวันหวั่น โดยเฉพาะเมื่อเห็นผมของเธอ ท่าทางตะลึงนั่นเห็นได้ชัดว่าเกิดขึ้นเพราะเธอ “หลินเอ้อร์ (คุณชายหลินสอง) นี่เหรอเรื่องเซอร์ไพรส์...ที่นายปลุกฉันตั้งแต่ตีห้าให้รีบมาดูที่สวนจิ่นหยวน? อื้ม เซอร์ไพรส์มากจริงๆ ทรงผมของเสี่ยวเยี่ยจื่อครีเอทขึ้นทุกวันเลย!”
“ไม่! ไม่ใช่ เมื่อวานเธอ...เมื่อวานเธอหน้าสด ไม่ได้แต่งหน้า สวยมากสวยกว่าเทพธิดาอีก ฉันยังตะลึงไปเลย...” หลินเชวียอธิบายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เซี่ยเจ๋อจือยิ้มจนคนใจสั่นไหว “ใช่ๆๆ สวยมากกว่าเทพธิดา นายก็ไปหาผู้หญิงสไตล์นี้กับพี่เก้าได้นี่”
หลินเชวียหมดหนทางอธิบาย ทำได้เพียงมองค้อนไปทางเยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นเลิกคิ้ว “มองฉันทำไม? การแต่งหน้าเป็นมารยาทขั้นพื้นฐานในการปฏิบัติต่อผู้อื่นไม่รู้หรือไง?”
มุมปากของหลินเชวียกระตุก “เธอมีมารยาทมากเกินไปแล้ว...”
เวลานี้เอง เสียงฝีเท้าหนึ่งดังขึ้นจากทางเหนือศีรษะ ซือเยี่ยหานตื่นแล้ว
ชายหนุ่มกวาดตามองชั้นล่างอย่างเฉยเมย ขณะที่สายตามองผ่านเยี่ยหวันหวั่น บนใบหน้าไม่มีสิ่งใดผิดปกติ
ถ้าจะให้พูด คงเป็นจิตใจของคนโรคจิตบางคนแข็งแกร่งเกินไป เห็นเธอในสภาพนี้แล้ว ตายังไม่กะพริบสักนิด
เยี่ยหวันหวั่นไม่ลืมว่าเวลานี้เรื่องสำคัญที่สุดก็คือการแสดงความรู้สึกดีและความภักดีที่มีต่อซือเยี่ยหาน ให้เขาเชื่อในตัวเธอ วางใจในตัวเธอ จึงวิ่งตึกตักไปตรงหน้าเขา “คุณชายเก้าๆ คุณว่าวันนี้ฉันสวยไหม?”
ในเมื่อซือเยี่ยหานชอบรสชาติถึงพริกถึงขิงแบบนี้มาก ถ้าอย่างนั้นตัวเธอในลักษณะนี้คงจะตรงใจเขาพอดีสินะ?
ซือเยี่ยหานมองดวงตาเป็นประกายตรงหน้าซึ่งกำลังรอคำชม และสีหน้าท่าทางตื่นเต้นมากของหญิงสาว อารมณ์ขุ่นมัวทั้งคืนเพราะเธอจะหนีไป มลายหายหลายส่วนอย่างประหลาด “อื้อ”
เยี่ยหวันหวั่นดีใจ ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง!
หลินเชวียทำหน้าเวทนาเกินจะทนดูได้ พี่เก้า มโนธรรมของพี่ไม่เจ็บปวดบ้างเหรอ?
เห็นบรรยากาศการพูดคุยของซือเยี่ยหานกับเยี่ยหวันหวั่นในวันนี้ เซี่ยเจ๋อจือกลับเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเล็กน้อย นิ้วมือเคาะเบาๆ ที่คาง ใบหน้าหล่อเหลาเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง
................................................................