webnovel

ตอนที่ 15 เมา

จันทร์กระจ่างลอยเด่นอยู่บนฟากฟ้า เซนิตนั่งดูดาวอยู่บนระเบียงห้อง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนดูเหม่อลอยและเศร้าหมองในเวลาเดียวกัน

ยามมองท้องฟ้าในเวลาค่ำคืนเช่นนี้ ชวนให้นางนึกถึงตอนที่ท่านแม่พานางไปเรียนวิชาดาราศาสตร์กับท่านสมียิ่งนัก

ยามนางอายุพอจะรู้ความขึ้นมาหน่อย ท่านแม่ก็เริ่มให้นางร่ำเรียนศาสตร์ต่างๆ และแน่นอนว่าคนที่ปราดเปรื่องที่สุดในแดนซาตานคงหนีไม่พ้นท่านสมี ซึ่งเป็นเสมียนคนโปรดของท่านพ่อ

นางเห็นดาวเต็มฟ้าครั้งแรกเมื่อตอนสิบขวบ ยามนั้นนางตื่นเต้นมาก เพราะชานเรือนของท่านสมีสามารถมองเห็นดาวได้ทั่วสารทิศ

ชมดาวไป สอนนางไป

'องค์หญิงเห็นดาวตรงนั้นไหมพ่ะย่ะค่ะ นั่นเรียกว่าดาวโพลาริส ไม่ว่าพระองค์จะอยู่ที่ใด มันจะชี้ไปยังทิศเหนือเสมอ ไม่เปลี่ยนแปลงพ่ะย่ะค่ะ'

'ดียิ่งนักท่านสมี เราชอบดาวดวงนี้'

'หากองค์หญิงหลงทาง มันจะพาองค์หญิงกลับบ้านได้พ่ะย่ะค่ะ'

'อย่างไรหรือ ท่านสมีบอกเราที'

'เรื่องนี้ยากพอสมควร ไว้กระหม่อมค่อยสอนวันหลังนะพ่ะย่ะค่ะ'

ความทรงจำในวัยเด็กหวนคืนมาเมื่อมองหมู่ดาว นอกจากท่านแม่ เพธา และเพนนี ก็มีท่านสมีอีกคนที่นางอยู่ด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัย

นางอยากกลับไปนอนชมดาวกับท่านสมีและท่านแม่เหลือเกิน….

"ว๊าย! คิกๆๆ อย่าเพคะ ฮะๆ"

ขณะตกอยู่ในภวังค์ เซนิตได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของหญิงสาวดังลอยมาตามสายลมยามราตรี ครั้นดวงตากลมโตเลื่อนมองไปตามเสียงก็พบกับฉากที่ทำให้นางใจกระตุกวูบ

ชายที่นางคะนึงหาตลอดทั้งวันกำลังแอบอิงอยู่กับบ่าวสาวคนหนึ่ง คลีโอโอบเอวคอดกิ่วของแมรี่ ใบหน้าคมคายวซุกลงกับซอกคอนาง

สองร่างอิงแอบหยอกเย้าภายใต้แสงจันทร์ราวกับนกเงือกเกี้ยวคู่

"อุ๊ย! อย่าเพคะรัชทายาท เดี๋ยวผู้อื่นผ่านมาเห็นนะเพคะ"

แมรี่จงใจร้องปรามเสียงดัง สายตาร้ายกาจช้อนมองสาวน้อยที่อยู่บนระเบียงอย่างลำพองใจ

บ่าวสาวเบะปากเย้ยหยันดุจผู้ชนะ

เซนิตมองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจที่สั่นไหว ดวงตาเริ่มมีหยาดน้ำพราวตีตื้นขึ้นมา นางรู้สึกราวกับมีบางอย่างกำลังทิ่มแทงหัวใจ เหตุใดถึงรู้สึกเช่นนี้ เหตุใดนางถึงไม่ชอบให้คลีโอเข้าใกล้หญิงอื่น

เป็นความรู้สึกที่นางเองก็อธิบายไม่ได้เช่นกัน

"ไปที่ห้องเถิดเพคะ หม่อมฉันจะปรนนิบัติฝ่าบาททั้งคืนเลย" แมรี่พูดกับคลีโอ ทว่าสายตาจับจ้องไปที่เซนิต

"อืม..." ร่างสูงเอ่ยเสียงเอื่อย

จากนั้นสองชายหญิงก็เดินแนบชิดกันเข้าไปยังวิมานทอง โดยมีแมรี่คอยกอดประคองคลีโอเอาไว้

เซนิตมองตามทั้งสองคนด้วยความรู้สึกหลากหลาย นางไม่ชอบที่เห็นภาพตรงหน้าเช่นนั้น มันทำให้นางเจ็บในทรวงแปลกๆ กระวนกระวายใจแปลกๆ

อีกอย่างนางนึกว่าคลีโอเป็นสุภาพบุรุษที่สุขุมเยือกเย็น อบอุ่นใจดีและวางตัวเหมาะสม ทว่าภาพตรงหน้ากลับไม่ใช่เลย เขาทำตัวเหมือน…

เหมือนกับบิดาของนาง

เด็กสาวรู้สึกผิดหวังอย่างที่สุดกับสิ่งที่เห็น นางนึกเสียใจที่มองคนผิด น้ำตาหยดเล็กไหลตกลงมาบนหน้าขาวเนียนโดยไม่รู้ตัว ร่างบางสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อข่มอารมณ์เศร้าสร้อยนี้เอาไว้ ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องไป

เซนิตนอนอยู่บนเตียงใหญ่ที่ปูด้วยผ้าปักดิ้นสีทอง นางเริ่มทบทวนเกี่ยวกับอารมณ์ของตัวเองที่มีต่อภาพเมื่อครู่

นางเฝ้ารอเจอหน้าคลีโอมาทั้งวัน เมื่อเห็นเขาชิดใกล้กับแมรี่ก็รู้สึกใจเสียและกระวนกระวาย

ความรู้สึกเช่นนี้จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจาก...ความเสน่หา

นางมีใจให้เขาอย่างนั้นหรือ

เซนิตเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเหตุใดถึงอ่อนไหวต่อเขาง่ายเช่นนี้ ทั้งที่รู้จักกันได้ไม่กี่วัน

อาจเป็นเพราะความเอาใจใส่และความดีของเขาที่ทำให้นางรู้สึกอุ่นใจยามอยู่ใกล้ รวมไปถึงเสน่ห์อันชวนหลงใหลของเขาที่มักทำให้นางใจเต้นรัวอยู่เสมอ

ทว่า….ท่านแม่คอยพร่ำสอนนางเสมอว่าหากเจอชายใดเหมือนท่านพ่อ จงอย่าเผลอใจให้กับชายประเภทนั้น เพราะจะทำให้นางทุกข์ตรมอย่างที่ท่านแม่เป็นมาตลอด

บุรุษเช่นนั้นอันตรายประหนึ่งยาพิษ

"ก๊อก ก๊อก" เสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะความคิดของเด็กสาว

"ใครกัน ดึกเพียงนี้แล้ว"

ร่างอรชรลุกจากเตียง หย่อนขาเรียวก้าวตรงไปที่ประตู ทว่านางไม่ได้เปิดออก แต่กลับยืนสังเกตการณ์อยู่ตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อน

"ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!"

คราวนี้เสียงเคาะดังหนักขึ้นและถี่ขึ้นกว่าเดิมราวกับกำลังหงุดหงิดที่นางไม่เปิดประตูให้ มือเรียวจึงตัดสินใจเอื้อมไปเปิดประตูออก

ครั้นประตูเปิดกว้าง กลิ่นกายบุรุษที่เคล้ากับกลิ่นสุราก็ลอยโชยเข้ามาปะทะจมูก ร่างสูงใหญ่หน้าแดงก่ำ สายตาฉ่ำเยิ้ม ยืนโอนเอนเกาะขอบประตูอยู่หน้าห้อง

"ท่านคีลส์" เซนิตเอ่ยชื่ออีกฝ่ายด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะเห็นเขาในสภาพเช่นนี้ เมื่อครู่เขาอยู่กับแมรี่ไม่ใช่หรือ

คลีโอเดินโซเซเข้ามาในห้องพลางจ้องหน้าหญิงงามตรงหน้า

"ขอนอนด้วยสิ"

...…..

*ดาวโพลาริส ชื่อไทยคือ ดาวเหนือ