webnovel

4. พบกับสาวงาม

สายลมยามค่ำคืนของมหาสุทรอันดามันนั้นไม่ได้สงบดั่งความมืดมิดที่เป็นอยู่แม้คลื่นลมจะสงบแต่เสียงคลื่นก็ยังครวญไปกับแสงประกายของท้องฟ้ายามค่ำคืน

มีเพียงแสงสีเสียงบนดาดฟ้าเรือของ st.mareya เท่านั้นที่ส่องสว่างแข่งกับแสงดาวในค่ำคืนนี้ เหล่าเซเลบริตี้ ไฮโซ เศรษฐี เศรษฐิณี ทั้งหลายที่มาร่วมงานประมูลเครื่องเพชรในค่ำคืนนี้ต่างประดับกายด้วยเครื่องเคราอัญมณี ราวกับตู้เพชรเคลื่นที่ก็มิปาน

" คืนนี้มีข่าวว่าเราจะได้ยลโฉมเเมร์รี่เพอร์รี่นั้นคงจะเป็นจริงนะคะคุณหญิง...ดูนู้น..คุณไลอาห์ ที่เป็นเจ้าของเครื่องเพชรที่ว่สกันว่างามที่สุดทีเดียว" คุณนายนางหนึ่งที่ประดับประดาด้วยเพชรจนแสบตากระซิบคุยกันอย่างตื่นเต้นพลางชี้ชวนให้คู่สนทนาดูชายหนุ่มในชุดสูทสุดหรูสีน้ำตาลขับผิวสีน้ำผึ้งให้โดดเด่น ดวงหน้าคมเข้มกับแพขนตาที่งอนหนาคล้ายชาวตะวันออกไกลดวงตาสีอำพันสุกสกาวราวกับแสงของดาวงดาวที่ประกายอนู่ในหน่วยตา ร่างสูงกำยำตึงแน่นที่แม้จะหลบซ่อนในชุดสูทก็มองออกว่ากล้ามนั้นแน่นตึงน่าขยำขนาดไหน นั่นทำให้หญิงสาวน้อยใหญ่ต่างพากันเหลียวมองชายหนุ่มหน้าตาดีดีกรีสูงคนนี้ไม่วางสายตากันทีเดียว

อัญชันกับเพียงจันทร์เองที่ยืนหลบมุมอยู่ไกลๆก็อดชื่นชมความงดงามของชายหนุ่มนั้นด้วยไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นสองสาวก็คิดเพียงว่าคนๆนี้หล่อเท่านั้นไม่ได้คิดว่าน่าจับจ้องไปมากกว่าอาหารอันหรูหราที่เติมได้ไม่อั้นตรงหน้ามากกว่า

" จริงๆแล้วป้าหมี่บอกว่าพนักงานห้ามมางานประมูลเด็ดขาด...แต่ทำไมเราเข้ามาได้ล่ะพี่ดาว" อัญชันกระซิบพลางหยิบชอตเค้กขนาดพอดีคำเข้าปาก ชุดราตรีหรูหราเครื่องเพชรพลอยแสบตา มันช่างต่างกับเธอสองคนที่มีเพียงชุดเดรสธรรมดากับสร้อยจากร้านทุกอย่างร้อยเดียว

"ไม่รู้สิ...ป้าอ้วนพาเรามานี่นา...เราไม่ผิดหรอก...รีบกินรีบกลับเถอะ...ขืนอยู่อีกนิดตาคงจะบอดแน่ๆ" เพียงจันทร์บอกพลางหยิบไก่อบเข้าปากไม่หยุดมือ

" เพราะพวกแกต้องมาอยู่เป็นเพื่อนพี่ต่างหาก...ให้พี่มาเจออีพวกตู้เพชรเคลื่อนที่แบบนี้คนเดียว ได้ตาบอดจริงๆแบบที่ยัยดาวว่า" เสียงอันคุ้นหูพูดเรียกให้สองสาวหันไปดูต้นเสียง ร่างอวบๆอันคุ้นตาในชุดสูทยืนทำหน้ามุ่ยข้างหลังพวกเธอ

"พี่ฟ้า!!!" สองสาวประสานเสียงดีใจจนแทบกระโดด

" พี่มาได้ยังไง...ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!!" อัญชันถามอย่างตื่นเต้น

" มาเช็คงานหน่ะ...อีพวกถาดวางเครื่องเพชรนั่นไง...พี่เขยของพวกแกก็มาด้วยนะ...แต่ไปตกปลากับพวกลูกเรือที่ท้ายเรือนุ้น" นภัทธาทำหน้าเหนื่อยใจพลางส่ายหัว

" พีคในพีคคือพี่แต่งตัวนี่แหล่ะ!!" เพียงจันทร์ มองอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อสายตา เพราะหญิงสาวตรงหน้าไม่แม้แต่จะชอบแต่งตัวแบบนี้ด้วยซ้ำไป

" นานๆทีก็แต่งได้...แต่แบบตู้เพชรพวกนี้ก็ไม่ไหว...สะดุดล้มที เงินที่เอามาแขวนที่ตัวหายแน่ๆแต่ละอัน...ฉันสร้างบ้านได้สิบหลังมั้ง" นภัทธาพูดพลางยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นดื่มพลางทำหน้าปุเลี่ยนๆ ราวกับว่ากำลังดื่มยาอะไรสักอย่างลงไป

ด้านหลังเวทีห้องพักของเหล่านางแบบที่ได้รับเกียตริให้เป็นพรีเซนต์เตอร์เครื่องเพชรน้ำงามราคาหลายสิบล้าน กำลังวุ่นวายเพราะเสียงโวยวายเอาแต่ใจของนางแบบชื่อดังกระฉ่อนโลกอย่าง มิสซูซี่ เซอร์เรสเทีย

"ทำไมฉันถึงไม่ได้เดินฟินนาเล่ห์ แมร์รี่เพอร์รี่!!!" เสียงแสบแก้วหูของนางแบบสาวหวีดร้องอย่าอารมณ์เสีย

" ต้องขอโทษด้วยนะคะซิส!!เป็นคำสั่งของท่านไลอาห์ให้มิสใส่ อาร์คซอว์ แทนค่ะ" ดีไซน์เนอร์ตอบเสียงสั่นเครือ เธอได้แต่อดกลั้นกับความงี่เง่าของหญิงสาว

" งั้นฉันจะไม่ใส่!!!...หากคุณไลอาห์จะให้ฉันใส่...ให้เขาไปหาฉันที่ห้องเอาเองก็แล้วกัน" ว่าแล้วร่างบางก็เดินสะบัดกายออกจากห้องแต่งตัวออกไป โดยนึกกระหยิ่มใจไปว่าชายหนุ่มต้องไปตามหาเธอแน่นอน และการที่เขาไปตามหาเธอที่ห้องเท่ากับประกาศถึงความสัมพันธ์ของเธอและเขาจะเป็นที่โจษจันท์ไปทั่วโลกเป็นแน่นอน คิดไปแล้วเรียวปากอิ่มของนางแบบสาวก็กระหยิ่มยกขึ้นอย่างหยามใจ

ดวงหน้ามนรูปไข่ ผิวขาวเนียนราวกับแสงของดวงจันทร์ เรียวปากกระจับได้รูป ยามเธอยิ้มนั้นราวกับแสงดาวที่ประปรายอยู่บนฟ้า เธอเปล่งประกายเมื่อเธอหัวเราะกับเพื่อนๆ ชุดเดรสธรรมดาๆของเธอแม้จะไม่หรูหราแต่กลับขับผิวขาวๆนั้นให้เด่นออกมา เขามองเธออยู่นานแล้ว มองหญิงสาวที่ไม่โดดเด่นสำหรับใครๆแต่กลับตรึงใจของเขาจนกระทั่งตอนนี้เขากลับไม่สามารถวางตาได้ลง

" คุณไลอาห์...ขออภัยนะคะ..." ดีไซน์เนอร์กระซิบรายงานให้แก่ผู้เป็นเจ้านายเรื่องที่มิสซูซี่คัดค้านการใส่อาร์คซอว์และยืนยันที่จะใส่ แมร์รี่เพอร์รี่แทน

" ไม่ใส่ก็ไม่ต้องใส่สิแมร์รี่เพอร์รี่มีคนที่เหมาะสมกว่า...อาร์คซอว์ก็ด้วย..." ใบหน้าคมพยักหน้าไปยังกลุ่มสาวๆที่อีกฝากของกาบเรือ พวกเธอยังคงมีความสุขกับอาหารตรงหน้าไม่ได้สนใจความวิบวับของเครื่องเพชรราคาแพงแต่อย่างใด

" คุณหนูตระกูลธาราลัยหรือคะ" ดีไซน์เนอร์เพ่งมองร่างบางในชุดราตรีสีสดที่ยืนกระมิดกระเมี้ยนอยู่อีกฝั่งของกาบเรือ

" ไม่ใช่...สามคนที่นั่งอยู่ตรงโน้นต่างหาก" เขาชี้เลยหญิงสาวคนนั้นไป ทางสามสาวที่นั่งทานอาหารกันอย่างอเร็จอร่อยและมีเพียงสามคนนั้นเท่านั้น ที่กำลังนั่งอยู่

" นั่น...ไม่ใช่นางแบบนะคะ...ดูๆแล้วน่าจะเป็นพนักงานมากกว่า" ดีไซน์เนอร์คัดค้านเพราะความสลัวๆของแสงไฟและความวิวับของเหล่าไฮโซทั้งหลาย ทำให้เขาดูไม่ค่อยขาดว่าหญิงสาวที่เจ้านายของตนต้องการนั้นเหมาะกับเครื่องเพชรราคาหลายสิบล้านได้ยังไง

" รีบไปจัดการสิ..." คำสั่งที่เป็นคำขาดนั้นทำเอาดีไซน์เนอร์ที่มากประสบการ์ณอย่าง เซรีนถึงกับถอนใจ แต่ก็ไม่อาจขัดขืนคำสั่งของเจ้านายของตนได้

"ไม่ว่าหน้าไหนๆก็เอาแต่ใจชะมัด...เห้อ!!!ชีวิตฉัน!!!" หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปดสิบสี่สิบแปดไปจนสุดทาง แต่ยิ่งไปถึงกลุ่มของสามสาวเสียงบ่นก็เบาลง เธอเริ่มมองเห็นความงามที่คู่ควรกับแมร์รี่เพอร์รี่แล้ว รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความจริงใจใสซื่อนั้น และผิวราวกับจันทร์ฉายนั่นต้องทำให้แมร์รี่เพอร์รี่โดดเด่นขึ้นมาเป็นแน่นอน ส่วนอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆก็เหมือนกับเธอเองก็ควรค่าแก่อาร์กซอว์ อัญมณีสีชมพูอ่อน

" ขออภัยนะคะสาวๆที่มารบกวนเวลาสนุกของคุณ...ดิฉัน เซรีนค่ะ ดีไซน์เนอร์ของบริษัท โลอาห์จิลเวล ค่ะ คือ...ไม่ขออ้อมค้อมนะคะ...อยากจะขอให้พวกคุณช่วยเหลือเราหน่อยได้ไหมคะ" เซรีนยื่นนามบัตรให้แก่หญิงสาวทั้งสาม พลางเอ่ยขอความช่วยเหลือทันทีโดยไม่ปล่อยให้เวลานั้นเสียเปล่า ใบหน้าที่อมทุกข์นั้นทำเอาสามสาวอดที่จะเป็นกังวลไม่ได้

" มีอะไรให้เราช่วยเหรอคะ" นภัทธาออกหน้าถามอีกฝ่ายแทนน้องๆ

" ตรงนี้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ขอเชิญสาวๆทางนี้ได้ไหมคะ" เซรีนร้องขออีกครั้งพลางเดินนำสามสาวไปยังหลังเวทีที่เป็นห้องแต่งตัวของนางแบบ

" พอดีว่านางแบบที่เราจ้างมาเดินแบบเกิดปัญหาเล็กน้อยทางเราเองก็ขาดคนพอดี อยากจะขอความช่วยเหลือของคุณมาเดินแบบให้เราได้ไหมคะ" เซรีนชักชวน แน่นอนว่าปฏิกริยาของสามสาวนั้นไม่ได้เป็นไปตามคาด สองสาวที่เธอหมายปองไว้ใบหน้าถอดสีพลางส่ายหน้าปฏิเสธทันควัน เว้นเสียแต่อีกคนที่ขมวดคิ้วมุ่นเคร่งเครียด

" พวกฉันเดินไม่ได้หรอกค่ะ" อัญชันปฏิเสธพลางถอยหลังหลบอยู่ด้านหลังของนภัทธา เพียงจันทร์นั้นไม่ได้พูดอะไรแต่ก็ถอยหลบไปกับอัญชันเช่นกัน

" ต้องขอโทษด้วยนะคะคุณเซรีน...ของมีค่าพวกนี้พสกน้องๆของฉันไม่กล้าใส่หรอกค่ะหายขึ้นมาไม่ต้องเป็นหนี้หัวโตเลยหรือคะ...ต้องขอโทษด้วยนะคะ" นภัทธายกมือไหว้พลางรีบจูงมือสองสาวออกไปจากงาน พวกเธอทั้งสามเริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที เครื่องเพชรราคาหลายร้อยล้านพวกเธอรับผิดชอบไม่ไหวหรอกหากทำของเขาหายไป สามสาวรีบก้าวเท้ากึ่งเดินกึ่งวิ่งจนมาถึงท้ายเรือ

" ตอนแรกก็สนุกอยู่นะ...แต่มาเจออีแบบนี้น่ากลัวจะตายชัก" อัญชันทำท่าขนลุก พลางหอบน้อยๆ

" นั่นสิ...ฉันเคยอ่านข่าวมานะที่ว่ามันมีกระบวนการขโมยเพชรอะไรกันแล้วคนที่ซวยก็คือนางแบบอะไรแบบนี้" เพียงจันทร์ทรุดกายลงบนเก้าอี้พลางหอบเพราะเหนื่อยจากการวิ่งกึ่งเดินมาตลอดทาง

" พี่ว่าพวกเอ็งรีบไปพักเถอะอีแบบนี้อันตรายชะมัดเดี๋ยวพี่จะไปตามหาพี่ปีก่อนตีสี่พี่ก็ลงกลับขึ้นฝั่งกันแล้ว พวกเอ็งตั้งใจทำงานล่ะ" นภัทธาโบกมือลาน้องๆพลางไล่ให้ทั้งคู่เข้าไปพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนที่จะได้ทำงานกันอีกหลายต่อหลายวัน ส่วนตัวเองก็รีบเดินหายไปจากทางเดินเพื่อไปตามหาสามีของตน