webnovel

19. ไม่ใช่เธอ

" อุ๊...แหว่ะ!!!!!"

เสียง อาเจียนของ นภัทธาที่พึ่งเหยียบผืนดินของฮาลัน ดังลั่นห้องน้ำสนามบิน หญิงสาวอาเจียนออกจนแทบหมดใส้หมดพุงเพราะเวียนหัวจากอาการเจ็ทแลค เนื่องจากนั่งเครื่องบิน บินข้ามขอบฟ้ามาหลายต่อหลายที

" ให้ดิ้นตายสิ...ทรมานชิบ!! " หญิงสาวล้วงยาดมที่พกมาด้วยขึ้นสูดดมให้คลายวิงเวียนโดยมีเพียงจันทร์คอยดูแลอยู่ใกล้ๆ

" พี่อาการหนักนะไปหาหมอกันเถอะ" เธอเสนอสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย แต่มืออวบๆของนภัทธากลับโบกหยอยๆห้ามไว้

" ไม่เป็นไรหรอก...รีบไปกันเถอะฉันใจไม่ดีรู้สึกห่วงยัยอัญยังไงไม่รู้ " นภัทธาพูด ทั้งสองคนเดินทางไปยังโรงแรมที่อยู่ไม่ห่างจากสนามบินนัก ด้วยความเห็นจากเอฮาซานเขาเสนอให้ หญิงสาวพักผ่อนก่อนที่จะรีบเดินทางไปยังฮาลันน่าร์

" คุณไม่บอกพวกนางเรื่องของมิสอัญชันหรือครับคุณไลอาร์ " ผู่ช่วยของเขาถามเมื่อเห็นว่าไลอาร์ไม่มีทีท่าที่จะบอกเรื่องที่อัญชันหายตัวไปให้แก่หญิงสาวต่างแดนทั้งสอง

หลังจากที่ไปส่งเพียงจันทร์ ที่สนามบิน เขาก็รีบกลับมายัง ห้องพักของตนอย่างทันทีเพื่อเร่งการช่วยเหลือเจ้านายตามหาอัญชัน

" เราจะบอกพวกนางตอนนี้ไม่ได้...ยังไม่ถึงเวลา" เขาตอบ ลางสังหรณ์ของเขาบอกเอาไว้ว่าหากพวกนางรู้เรื่องนี้เข้าอาจจะเกิดเรื่องที่แย่กว่าเดิมก็เป็นได้

อัญชันขยับกายที่เมื่อยขบ ดวงตากลมกระพริบถี่ๆเพื่อปรับสายตาให้รับแสงจ้าได้ เธอจำได้ว่าเธอเห็นว่าเรนดอลถูกตีจนเลือดอาบและมีมือหนามาเกาะกุมเธอเอาไว้ ร่างบางผุดลุกขึ้นด้วยความตกใจเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเกิดอะไรกับตัวเอง เรือนร่างที่ถูกขัดสีจนเนียนหอมปรุงแต่งด้วยเครื่องเคราจนดูงดงาม ทว่าอาภรณ์ที่ใส่กลับเปิดเผยเนื้อหนังจนเหินงาม ข้อเท้าของเธอถูกล่ามเอาไว้ และที่สำคัญกองหมอนที่เธอกำลังนอนอยู่นี่ มันอยู่ในกรง!!

" เกิดอะไรขึ้น!!! " อัญชันหวาดกลัวพยายามดึงโซ่ที่ข้อเท้าออกทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่เป็นผล หญิงสาวเริ่มตัวสั่นและตะโกนร้องให้คนมาช่วยแต่ดูเหมือนว่า ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากใครสักคน ไม่นานนักก็มีชายสองคนเดินเข้ามา คนหนึ่งคือชายชราอีกคนร่างสูงใหญ่ราวยักษ์ปักหลั่น เขามามองอัญชันสักครู่แล้วพูดอะไรก็ไม่รู้ อัญชันไม่เข้าใจภาษาถิ่นของที่นี่ พวกนี้ไม่ได้พูดสำเนียงเดียวกับที่ฮาลันน่าร์ เธอจึงรู้ได้ว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ๆเธอเคยอยู่แน่นอน

" เธออย่าร้องไปเลยยอมรับชะตากรรมเถอะ" เสียงนั้นพูดขึ้นจากกรงข้างๆ อัญชันที่กำลังสติแตกถึงได้สังเกตุว่าในที่ตรงนี้ไม่ได้มีเธอเพียงคนเดียวที่ถูกขังเอาไว้ แต่มีเด็กสาวและหญิงสาวอีกหลายๆคนที่ถูกจับเอาไว้ อัญชันเช็ดน้ำตาที่ไหลเอ่อออกมา

" เธอพูดอังกฤษได้??" อัญชันถาม หญิงสาวร่างบางเล็กๆที่อายุราวๆยี่สิบกว่าๆ ผมของเธอมีสีอ่อนหว่าชนพื้นเมืองเล็กน้อย แต่เธอก็เป็นคนสวยที่สุดเท่าที่อัญชันเคยเห็นมา

" สวัสดี...ฉันราญา บุตรของพ่อค้าต่างเมือง..ฉันเองก็ถูกจับมาเหมือนกับเธอนั่นแหล่ะ เห็นว่าพวกนั้นจะเอาเราไปขายทอดตลาด" เธอแนะนำด้วยน้ำเสียงที่หมดหวัง อัญชันเห็นข้อเท้าของเธอมีรอยแดงอยู่แต่ไม่มีโซ่ที่คล้องเอาไว้แบบเธอ

" ไม่ต้องกังวลหรอกนะ...โซ่นั่นเดี๋ยวพวกนั้นก็ปลดให้เธอเองแหล่ะหากเธอไม่คิดจะหนีไปที่ไหน" เธอพูดพลางยื่นผ้าเช็ดหน้าให้แก่อัญชัน เธอรับมันเอาไว้ ในผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นถูกปักด้วยข้อความที่เป็นภาษาไทยที่เธอคุ้นเคย ' พ่อคะราญายังมีชีวิตอยู่ช่วยราญาด้วย' อัญชันเบิกตาโพลงพลางมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา

" เธอ...เป็นคนไทยเหรอ?" อัญชันถามเป็นภาษาไทย คำพูดของเธอทำเอาหญิงสาวรีบลุกขึ้นนั่งหลังตรง

"เธอก็เป็นคนไทยเหรอ!!" ราญา ดูเหมือนสดใสมากขึ้นกว่าเดิม หญิงสาวได้พูดคุยแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆด้วยกัน อัญชันจึงได้รู้ว่าเดิมทีพ่อของราญาเป็นลูกครึ่งไทยโดยมีคุณย่าเป็นคนไทย เธอได้เรียนอยู่ที่ไทยมาตั้งแต่เด็กแต่พอจะกลับมาที่ซิบิลินก็ดันถูกจับตัวมาเสียก่อน ที่ๆแห่งนี้คือร้านค้าทาส ในทุกๆคืนจะมีเหล่าเศรษฐีมาเลือกซื้อทาส เด็กสาวและหญิงสาวจะถูกขายออกไปในทุกๆคืน ทว่าหากเป็นหญิงต่างแดนแบบพวกเธอจะถูกพาออกนอกแคว้นเพื่อนำไปขายเก็งราคา ระหว่างที่อยู่ที่นี่เพื่อรอการเดินทางเวลาว่างเหล่าสาวๆก็จะปักผ้าหรือไม่ก็ทำกิจกรรมเล็กๆน้อยๆภายในกรงนี้ โชคดีที่ยังได้อยู่อย่างสบายมีข้าวให้กินมีคนอาบน้ำแต่งตัวให้ตลอด ทว่าหากหนีหรือขัดขืนก็อาจจะถูกตีจนตายก็เป็นได้ อัญชันตัวสั่นด้วยความกลัวเมื่อได้ยินที่ราญาเล่า

" แล้วทำไมเธอถึงไม่หนี " เธอถามราญา

" ไม่หนีหรือหนีไม่ได้มากกว่าหากหนีก็ถูกตีจนตายต้องวางแผนดีๆต้องรอจังหวะ ได้ยินพวกมันพูดว่าอีกสองวันจะเดินทางเอาพวกเราไปขายที่จอร์แดน จังหวะนั้นแหล่ะที่ฉันรอ" ราญาทำสายตาแข็งกร้าว อัญชันรู้จักสายตาแบบนั้นดี เซนต์ของเธอบอกได้เลยว่าคนๆนี้นั้นมีออร่าแบบเดียวกับนภัทธา!!!

ตึกสูงตระหง่านขนาดสิบสี่ชั้น คือโรงแรมหรูระดับห้าดาวในซิบิลิน ไลอาร์ที่กำลังร้อนใจยืนมองจุดสีแดงที่กระพริบอยู่บนจอสมาร์ทโฟน เขา เอฮาซาน และเซลซิล พร้อมที่จะตามไปยังจุดสีแดงนั้นด้วยใจที่คาดหวังว่าเจ้าของจุดนั้นยังคงปลอดภัยดี เขาไม่รีรอเวลาที่จะก้าวเท้าเข้าไปยังในตัวอาคาร จุดนั้นบอกว่ามันอยู่ที่ห้องสวีทชั้นบนสุด หัวใจของชายหนุ่มเต้นระทึกครึกโครม

" ยินดีต้อนรับค่ะท่าน" ประชาสัมพันธ์สาวกล่าวต้อนรับตามหน้าที่ ชายหนุ่มรูปงามทั้งสามคนส่งสายตาเย็นเยือกตอบทำเอาประชาสัมพันธ์สาวสั่นสะท้านด้วยความกลัว

" ฉันบนสุดมีใครพักอยู่ " เซลซิลถามด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ ทำเอาหญิงสาวตรงหน้าใบหน้าซีดเผือดเธอรู้จักคนทั้งสามดีพวกเขาเป็นคนที่ใครๆต่างรู้จักโดยเฉพาะไลอาร์ ที่มีนามสกุล อัลโลฟาร์ บ่งบอกถึงตำแหน่งของเขา

" ตอนนี้...มีคุณผู้หญิงและนักท่องเที่ยวอีกสองคนค่ะ " เธอตอบ คำตอบของประชาสัมพันธ์สาวนั้นทำให้ทั้งสามคนมองหน้ากันอย่างสงสัย ชั้นบนของโรงแรมนี้มีไม่กี่คนที่จะสามารถเข้าพักได้ง่ายๆเพราะราคาค่าที่พักนั้นสูงมากก็ว่าได้ ทั้งสามคนรีบเดินขึ้นลิฟท์ด้วยใจที่ร้อนรนยิ่งกว่าแต่ก่อนเสียอีก

" ผมไม่คิดว่ามิสอัญชันจะอยู่ที่นั่น" เอฮาซานออกความเห็น

" ใช่...นางไม่ใช่คนที่จะใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแบบนั้น " ไลอาร์เห็นด้วย ตลอดเวลาที่เขาใช้ชีวิตอยู่กับอัญชัน เขาได้รู้จักนิสัยของหญิงสาวมากขึ้น ต่อให้เธอมีเงินมากแค่ไหนเธอก็จะไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเป็นอันขาด โดยเฉพาะเรื่องที่พักเธอยังเลือกโรงแรมที่ถูกที่สุดแทนโรงแรมหรูเลย

ลิฟท์ค่อยๆเคลื่อนตัวไปยังชั้นบนสุดเสียงครืดๆขณะลิฟท์เลื่อนนั้นทำให้ไลอาร์รู้สึกว่าเวลามันนานกว่าปรกติ เขาอยากจะวาร์ปไปยังชั้นนั้นภายในห้าวินาทีเลยด้วยซ้ำ

" ติ้ง!!!!"

"ชั้น 14"

เสียงเอไอดังขึ้นในอากาศ ประตูลิฟท์เปิดขึ้นพวกเขารีบก้าวออกจากประตูโดยที่ประตูยังไม่เปิดจนสุดเลยเสียด้วยซ้ำ ไลอาร์ก้าวเท้ายาวๆไม่กี่ก้าวเขาก็หยุดอยู่ตรงหน้าประตูบานหนึ่ง เขามองจุดสีแดงบนจอสมาร์ทโฟนอย่างตื่นเต้น เพียงประตูกั้นเท่านั้นที่กั้นเขาและจุดสีแดงนั้นไว้

" กิ๊งงงงงง "

เซลซิลเอื้อมมือไปกดออด ทั้งสามคนยืนรอคนจากอีกฝั่งด้วยใจระทึก พวกเขาได้ ยินเสียงประตูเปิดออก ทว่าภาพตรงหน้ากลับไม่เป็นดั่งที่พวกเขาคิด

" ซูซี่!!!" ไลอาร์อุทาน

" ไลอาร์!!!คุณรู้ได้ยังไงคะว่าซูซี่อยู่ที่นี่!!" ร่างบางระหงร้องทักด้วยท่าทีดีอกดีใจ เธอสวมชุดพื้นเมืองคลุมด้วยนิกอบตัวยาว ชายหนุ่มมองหน้าจออย่างพินิจจุดสีแดงนั้นบ่งบอกว่านั่นคือคนที่ตรงหน้า

" รออยู่ตรงนี้" เขาบอกผู้ติดตามส่งสายตาให้เอฮาซานแทนคำสั่ง พวกเขารู้ทันทีว่าซูซี่คือคนที่ลักพาตัวอัญชันไป เพราะไม่อย่างนั้นจีพีเอสที่ถูกสั่งทำมาเพื่ออัญชันโดยเฉพาะนั้นจะมาอยู่ที่เธอได้ยังไง

" ไม่คิดว่าคุณจะมาหาซูซี่แบบนี้...เลยไม่ได้เตรียมไวน์ชั้นเลิสเอาไว้เลย" ซูซี่หยามใจหญิงสาวถอดผ้าคลุมนิกอบออกแล้วหยิบบรั่นดีรสเริสมาต้อนรับชายหนุ่มแทน ไลอาร์จ้องมองที่ลำคอระหง สร้อยสีประกายอยู่กับลำคอของเธอ และเมื่อเขาได้เห็นจี้รูปผีเสื้อ ความอดทนของเขาก็ขาดผึง ร่างสูงโผล่เข้าหาร่างบางระหง ผลักกายบางลงบนโซฟาตัวนุ่ม สายตาของเขาดุเดือดราวกับสิงโตป่า

" ใจร้อนไปแล้วนะคะไลอาร์...อะ...อ๊อก!!! " ซูซี่ถลึงตาตกใจ มือหนาคว้าลำคอของเธอแล้วบีบจนเธอหายใจแทบไม่ออก เขาใช้มืออีกข้างกระชากสร้อยที่อยู่บนคอจนสุดแรง จนทำให้ลำคอระหงของหญิงสาวเป็นบาดแผล

" เจ้าบอกข้ามาเดี๋ยวนี้ซูซี่...คุณอัญอยู่ที่ไหน!!"