อาจเพราะหวนกลับไปคิดเรื่องความตายของลูกและเมียเมื่อช่วงบ่าย ทำให้ตกกลางคืนการินฝันร้ายว่าจมน้ำอีกแล้ว ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ฝันแบบนี้มาสักพักหนึ่ง
เขาสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย ความฝันเรื่องจมน้ำอันน่าอึดอัดทำให้เหงื่อแตกโซมทั้งตัว กระทั่งปลายผมก็ยังเปียกลู่ติดหน้าผากดูเหนอะหนะ
พอเปิดโคมไฟตรงหัวเตียง เห็นตัวเลขดิจิทัลของนาฬิกาตั้งโต๊ะบอกเวลา 04:37 นั่นแปลว่าเขานอนไปนานพอสมควร จะให้นอนต่อก็ยาก เขาเลยคิดจะไปล้างหน้าให้สดชื่นเสียหน่อย
หนุ่มน้อยหน้าสวยกัดฟันเกร็งแขนที่พอจะแข็งแรงขึ้นแล้วบนไม้ค้ำ ใช้มันยันตัวเองทีละก้าวจนมาถึงห้องน้ำได้ในที่สุด ชายหนุ่มดีใจที่หลายวันแล้วในสัปดาห์นี้ที่ไม่ต้องพึ่งรถเข็นไปไหนมาไหนเลย
พอได้สัมผัสกับความเย็นสดชื่นของสายน้ำตรงอ่างล้างหน้า การินก็คิดว่าดูเหมือนแค่นั้นจะไม่พอ อาบน้ำไปเลยดีกว่า
เขาค่อย ๆ ประคองตัวเองยันไปตามผนังห้องน้ำ อย่างช้า ๆ และระมัดระวัง ส่วนหนึ่งเพราะยังเดินไม่ถนัด ที่เหลือคือเพราะกลัวลื่นล้มในห้องน้ำมาก ๆ
พอคิดถึงตรงนี้ทำให้การินขันตัวเองนิดหน่อย สงสัยติดนิสัยคนสูงวัยในร่างที่แล้วมา เขาเปล่งเสียงหัวเราะหึ ๆ ออกมาจริง ๆ
ในที่สุดหนุ่มน้อยก็เข้ามาในห้องอาบน้ำได้อย่างปลอดภัย
ห้องน้ำของห้องพักแห่งนี้ดูดีใช้ได้ ผนังปูด้วยกระเบื้องสีเหมือนทราย ส่วนพื้นก็ใช้กระเบื้องสีใกล้เคียงกันแต่เป็นแบบหยาบเพื่อความปลอดภัย
ในห้องอาบน้ำเขาเอื้อมมือขึ้นหยิบขวดสบู่เหลว แต่ด้วยการเคลื่อนไหวที่ยังเงอะงะ ทำให้ชนเอาประดาขวดทั้งหลายหล่นลงมาบนพื้นห้องน้ำ บางขวดหล่นลงมากระทบไหล่ผอมบางติดกระดูกของเขา มันเจ็บพอสมควรสำหรับร่างกายที่ยังอ่อนแอ เขานิ่วหน้า แต่พยายามลืมความเจ็บไป
พอเปิดฝักบัวสายน้ำละเอียดก็ตกกระทบตัว การินไม่เปิดเครื่องทำน้ำอุ่นเลย เขาชอบความเย็นของน้ำ เขาเทสบู่ลูบไล้ฟองไปมา พอยืนอาบน้ำต่อสักพักก็รู้สึกเมื่อย เลยลงไปนั่งบนแท่นยกที่มีในห้องน้ำแห่งนี้ มืออีกข้างจับราวสเตนเลสไว้ สายน้ำจากเรนชาวเวอร์ตกกระทบศีรษะและไหล่ ขวดสบู่เหลวสีขาวเล็ก ๆ ที่ตกลงมาจากชั้น ตอนนี้วางนอนอยู่ข้างตัว
เขาก้มมองหน้าอกที่มีกล้ามเนื้อบาง ๆ ขึ้นจากการไปไหนมาไหนด้วยไม้ค้ำกับรถเข็นในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา มือเขาแตะที่หน้าท้องแบนราบ ลูบแขนกับขาที่ค่อนข้างเรียวเล็ก ไล่ไปตามผิวขาวซีดเผือด ซึ่งพอร่างกายของอีกฝ่ายเริ่มแข็งแรงขึ้น ผิวพรรณของคำมรก็สวยขึ้นจนแทบเปล่งประกายออกมาราวกับหินอ่อนสีขาว
เอาเข้าจริงเขายังไม่ชินกับการมองร่างนี้ตอนเปลือยเปล่า เขายังรู้สึกกระดากกระเดื่องราวกับดูคนอื่นแก้ผ้าอยู่เลย
ซึ่งพอคิดแบบนี้ชายหนุ่มก็นึกขำในใจนิดหน่อย ร่างเดิมของเขาช่างแตกต่างจากร่างนี้ชนิดฟ้ากับเหว แต่ก่อนเขามีผิวสองสี ตัวอ้วนลงพุง แถมสายตาก็สั้นแล้วก็ยาวด้วยในเวลาเดียวกัน เวลาอาบน้ำเลยไม่เคยเห็นร่างกายตัวเองชัด ๆ แถมพุงก็ใหญ่บังจนมองไม่เห็นปลายเท้าตัวเองด้วยซ้ำ
แต่ร่างกายนี้สายตาของเขาคมชัดเป็นปกติ นี่คือข้อดีอีกข้อที่เพิ่มเข้าไปจากที่คิดไว้เมื่อบ่ายนี้
'อา สดชื่นจัง อยากนั่งอาบน้ำแบบนี้ไปนาน ๆ เลย' เขาคิดแล้วก็เอื้อมมือไปหยิบขวดสบู่เหลว หรี่ตามองลวดลายบนสติกเกอร์ติดบนขวด
บนสติกเกอร์คือภาพตัดของขวดน้ำหอมที่มีโครงร่างคล้ายรูปหัวใจ มีจุกปิดเป็นทรงพีระมิด ด้านบนมีแฉกของรัศมีซึ่งเขารู้ด้วยว่ามี 21 เส้น ตัวเลขซ้ายมือของขวดน้ำหอมคือ 19 ขวามือคือ 92 เขารู้อีกเช่นกันว่าพอเขียนรวมกันนั่นคือปีค.ศ. ปี 1992
เป็นปีที่ลาโฮมกรุปก่อตั้ง งั้นปีนี้ก็ครบสามสิบปีพอดี
ด้านล่างเขียนตัวหนังสือไว้ว่าลาโฮม—L'arÔme
หนุ่มน้อยหมุนเกลียวฝาขวด สูดดมกลิ่นสบู่เหลวเข้าไปเต็มปอด กลิ่นอันคุ้นเคย เขาจำได้ดีว่ากลิ่นนี้ชื่ออะไร มันชื่อว่า 'ทะเลแห่งรัก' ช่างน่าแปลกที่ชายหนุ่มได้ใช้สบู่กลิ่นนี้ในสถานที่ที่เหมาะเหม็งกับชื่อของมันพอดี
การินจำได้กระทั่งว่ากลิ่นหอมนี้มีส่วนผสมจากอะไรบ้าง และที่มาของกลิ่นคืออะไร
ลาโฮมรังสรรค์มันขึ้นมาได้อย่างน่าประทับใจ กลิ่นอันหอมหวนยังอ้อยอิ่งที่จมูกแม้อยู่ท่ามกลางสายน้ำเย็นชื่นใจที่รินรดลงจากเบื้องบนก็ตาม
+++++
อีกไม่กี่นาทีต่อมาการินก็อาบน้ำเสร็จ หนุ่มน้อยหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำที่แขวนไว้จากราวมาสวม จากนั้นก็ยันตัวเองกลับมาด้วยไม้ค้ำ พออาบน้ำเสร็จเขายังไม่ง่วงเลยมานั่งพักบนเก้าอี้นวมข้างหน้าต่าง รูดม่านออกไปข้างนอกดูวิวยามค่ำคืนของแท่นขุดเจาะ
ขณะกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ จู่ ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกเสียงดังผลัวะ มีใครบางคนผลักมันเปิดเข้ามาอย่างแรง
การินหันไปมองอย่างว่องไว เดวิส เขาแอบเข้ามาในห้องนี้อีกแล้ว!
แต่คราวนี้ประธานหนุ่มรูปหล่อมาในสภาพไม่เหมือนเดิม ใบหน้ายังคงหล่อเหลาราวกับรูปปั้น แต่ตอนนี้ท่อนบนของเขาเปลือยเปล่า ผิวสีแทนของเขาเป็นมันวับ ทั้งเนื้อทั้งตัวสวมแค่กางเกงนอนผ้าฝ้ายสีเทามีเชือกผูก แถมเอวกางเกงยังรั้งลงมาจนเห็นแนวเส้นขนสีดำแข็งรำไร เหมือนเขารีบวิ่งออกมาทันทีในชุดนอน
แต่ที่น่าแปลกคือใบหน้าของเดวิสสั่นระริกและหวั่นไหว ต้นคอเปียกเหงื่อ เหมือนเขากำลังเจ็บปวดทรมาน
ใบหน้าของเขาแดงซ่าน เหงื่อซึมตามหน้าผากและไรผม เขารุดมายังที่ที่คำมรนั่งอยู่ทันที
"ฮึก อา...ช่วยด้วย ช่วย มันปวด..ทรมาน"
เดวิสเอามือกุมเป้ากางเกง ใต้เนื้อผ้านุ่มนั้นมีส่วนนูนเป็นก้อน ท่ามกลางแสงสีเหลืองในห้องหนุ่มน้อยเห็นว่ามันเต้นตุบ ๆ การินสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นกับตรงส่วนนั้นของเขา
"แข็งจนเจ็บไปหมดแล้ว ช่วยหน่อย"
"เฮ้ย อะไร คุณจะทำอะไรผม" หนุ่มหน้าหวานร้องเสียงหลง แต่ไม่มีประโยชน์ใด ๆ
เดวิสไม่พูดเปล่า เขากรากมายังเก้าอี้นวมตัวที่การินนั่งอยู่ มือแข็งแรงของเดวิสช้อนตัวคนที่ผอมกว่าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ราวกับยกของไร้น้ำหนัก จากนั้นก็โยนการินลงไปบนเตียงคนป่วยอย่างไม่นุ่มนวลนักทันที
แล้วเดวิสก็โถมทับลงมา มือของการินพยายามผลักที่กล้ามเนื้อหน้าอกนูนสวยที่เป็นมันวาวเพราะเหงื่อบาง ๆ แต่ไม่ได้ผล เสียงเดวิสคำรามแถมยังกุมมือไว้ที่เป้ากางเกง
"อุ๊บส์ แม่งยิ่งปวดโว้ย"
เขาใช้ต้นขาแข็งแรงแทรกต้นขาของคนข้างล่าง ทำให้การินจำยอมแยกขาตัวเองออก เสื้อคลุมอาบน้ำเปิดกว้าง เดวิสกระชากเชือกรัดเสื้อคลุมออกทันที
วินาทีต่อมาร่างไร้อาภรณ์ขาวซีดบอบบางก็เปิดเผยทุกส่วนสัดต่อหน้าของเขา
"อึก ฮึ่ม อา อูย มันน่า..."
มือใหญ่แข็งแรงข้างหนึ่งกดลงไปที่ลำคอบอบบางของการินทันที
ร่างใหญ่กว่าตามมากดตัวการินลงไป สักพักกางเกงนอนตัวนั้นก็หลุดจากร่างของเดวิส สองมือของเขาเปลี่ยนมาจับข้อเท้าของคนตัวเล็กกว่า ดึงให้ต้นขาถ่างออกจากกันอีก
"อย่า อย่าทำผม..อื้อ อือ"
เสียงร้องขาดหายไปทันทีเพราะเดวิสใช้มือใหญ่กดทับริมฝีปาก ก่อนจะดันริมฝีปากของตัวเองเข้ามาอย่างรุนแรง บดเบียดจนแทบไร้อากาศช่องว่าง
การินตกใจจนตาเบิกกว้างทีเดียว แต่คนข้างบนบดทับร่างกายเขาจนแทบหายใจไม่ออก ตอนแรกเขาว่าจะลองกัดอีกฝ่ายเผื่อจะทำให้รู้ตัว แต่พอนึกได้ว่าคนนี้คือหนูเดวี่ที่เขาเอ็นดูนักหนา การินก็ทำไม่ลง เลยได้แต่ปล่อยไป
พอคนข้างบนรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ขัดขืน เขาก็เริ่มจูบหนักหน่วงขึ้น ใช้ทั้งปากและลิ้นรุกรานเขาเลยทีนี้ ตอนนี้มีแต่เสียงเนื้อสัมผัสกัน เสียงดูด เสียงกลืนน้ำลาย คนข้างบนเริ่มจับได้แล้วว่าคนข้างล่างไม่คิดขัดขืนอีก
พอการินเริ่มเผลอไผล สองแขนของเขาก็เคลื่อนไหวไปเอง ตอนนี้มือของการินกลับเลื้อยไปลูบคลำเส้นผมหนากับโอบตรงแผ่นหลังนูนสวยของเดวิสไว้แทน
ลิ้นอุ่น ๆ ของเดวิสลากตั้งแต่ข้างลำตัวไปจนถึงใต้วงแขน จมูกโด่งซุกซบอยู่ตรงนั้นอย่างพึงพอใจ
"ฮึก โอ๊ย อย่าทำแบบนั้น มัน…" การินเสียวใจจะขาดตอนถูกทำแบบนั้น
"กลิ่น กลิ่นดีเหลือเกิน หอมมาก…น่ากิน"
สองมือของเดวิสคลุกเคล้าตะโบมไปทั่วทั้งกราม คาง หน้าอก หน้าท้อง รวมถึงท่อนเนื้อของคนข้างล่าง การินเจ็บใจที่ของตัวเองก็แข็งตัวสู้มืออีกฝ่ายด้วย
อวัยวะส่วนนั้นของเดวิสแข็งมาก แม้จะอยู่ในแสงสลัวแต่ยังเห็นว่ามันเต้นตุบราวกับมีหัวใจเป็นของตัวเอง ส่วนหัวเปลี่ยนเป็นเข้ม มันเลื่อมเปียกแฉะไปด้วยน้ำหล่อลื่น แน่นอนว่ามันไหลลงมาเป็นสายยาวเปียกผ้าปูเตียงในปริมาณที่มากผิดปกติ
จากนั้นคนข้างบนก็โน้มตัวลงมาที่ซอกคออีกรอบ "ไม่ไหวแล้วขอกินหน่อยเถอะ"
คราวนี้เขาฝังฟันลงที่หัวไหล่ เดวิสกัดลงมาที่ผิวอ่อนสีซีดของคนข้างล่าง หยดของเหลวสีแดงราวกับเม็ดทับทิมซึมออกมาตามรอยแผลทันที
"โอ๊ยยยยย" การินร้องเสียงร้องโหยหวน เพราะเดวิสไม่ใช่แค่กัด เหมือนเขาจะดูดตรงแผลนิดหน่อยด้วย
อาจเพราะเสียงร้องทำให้คนข้างบนถอนปากออก เขาใช้มือหลังมือปาดที่ริมฝีปากที่เปรอะเลือดนิดหน่อย ในแสงสีส้มเลือดบนปากเขาเห็นเป็นสีดำ
แต่เดวิสก็ได้สติเพียงครู่เดียว จากนั้นเขาก็ก้มหน้าลงมาจัดการกับริมฝีปากของการินอีก เขาจูบดูดดึงเฟ้นฟอนต่อไป โดยไม่ได้ใส่ใจกับเสียงสั่นร้องขอความเห็นใจ อีกฝ่ายน้ำตาไหลแล้วเพราะความเจ็บ การินพูดว่า "นี่อาเอง เดวี่" แต่เดวิสคงไม่ได้ยิน