webnovel

ฺBangkok in a sense 2 ( Eleventh and the kingdom twins)

เมื่อนานมาแล้วที่ เขาว่ากันว่า ! “ เราทุกคนสามารถใช้สมองได้มากกว่าสิบเปอร์เซ็นต์ได้จริง ๆ หรือไม่ ! “ อิเลฟเวนท์กำลังเป็นคนที่ท้าทายบทพิสูจน์นั้นอยู่ และการเดินทางพิสูจน์ที่แสนจะลึกลับและยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ นอกเหนือ....จากการค้นพบด้วยตัวเธอเอง !!! The Kingdom twins เป็นเพียงเสี้ยวเดียวที่อิเลฟเวนท์อยากให้คนรอบๆ กายได้ตระหนักว่า เพียงคุณเป็นมนุษย์ธรรมแม้ว่าร่างกายข้างนอกที่จะดูสมบูรณ์พร้อม แต่พวกเราทุกคนต่างเกิดมาพร้อมปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และการพจญภัยของอิเลฟเวนท์ที่เพิ่งจะเริ่มต้นเป็นรูปเป็นร่าง ในระหว่างที่เธอกำลังเฝ้ารอใครคนหนึ่งอย่างนานแสนนานเพื่อจะปลดพันธะนาการของบ่วงที่ไล่ล่าเธอไปตลอดกาล.......

Faii_hathai · Sci-fi
Not enough ratings
20 Chs

รถไฟ หรือ หลุมพลาง

ก๊อกๆๆ

เสียงเคาะประตูห้องทำงานของเอ็ดเวิร์ดกำลังดังขึ้นมาอีกครั้ง แต่ว่าเอ็ดเวิร์ดยังต้องหันมาพยักหน้าและให้รัฐมนตรีกลาโหมอนุญาตให้รอนสัน แมควอย รัฐมนตรีกลาโหมของประเทศอังกฤษ ตามป้ายชื่อที่ติดตรงหน้าอกบนชุดข้าราชการทหาร

แต่ทว่าแมควอยที่ยอมกลับไปยืนที่ข้างๆ โต๊ะทำงานของท่านผู้นำของประเทศ และยืนห่างอยู่พอสมควร และอิเลฟเวนท์ที่กำลังรีบเดินเข้ามาหยุดและโค้งคำนับ

" อีเลฟเวนท์ !! "

" มาขอรายงานตัวคะ ! ท่านนายกรัฐมนตรีเอ็ดเวิร์ด !! " เธอคาราวะท่านผู้นำอังกฤษอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนให้ได้มากที่สุด

" เชิญตามสบาย " และเอ็ดเวิร์ดที่ยิ้มให้

" เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ !! " แต่ว่าเธอก็ยังพยายามแสดงเจตนาว่าอยากจะรับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้น

" เฮนดริกส์.... !! "

"เพียงต้องการที่จะช่วยให้เรา "

" หาตัวคนร้ายที่แอบลักลอบขนอาวุธนิวเคลียร์ของรัฐบาลเกาหลีใต้ให้เท่านั้นค่ะ "

" ท่านนายกรัฐมนตรี !! " เธอที่ยังต้องคอยแสดงความรับผิดชอบต่อหน้าท่านนายกรัฐมนตรีของอังกฤษอยู่ซ้ำ ๆ นายกรัฐมนตรีของประเทศอังกฤษ คนที่ 55 ที่ดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2022

แต่เอ็ดเวิร์ดก็ไม่ได้พยายามที่จะปฏิเสธอะไรไป

" ก็ยังดีที่เธอยอมรับออกมาตรงๆ "

" เพราะว่าเมื่อกี้ "

" หัวหน้าหน่วยงานข่าวกรองฉัน "

"เขาเพิ่งที่จะมาสอบสวนฉัน "

" กับท่านรัฐมนตีกลาโหมกันไปหมาด ๆ " เอ็ดเวิร์ดพยายามเหลือเกินที่จะอธิบายว่า คนในหน่วยงานข่าวกรองของตัวท่านเองกำลังแต่จะตั้งข้อสงสัยในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับของคดีนี้เป็นอย่างมาก

อิเลฟเวนท์แสดงเจตนาของเธอต่อไป

" ดิฉันต้องขอประทานโทษด้วยกับเรื่องนี้จริง ๆ คะท่าน " และเธอรู้สึกเสียใจ แต่ว่ารัฐมนตรีกลาโหมของที่นี้ก็เหมือนมีเรื่องอะไรที่จะต้องพูดกับเธอให้ได้

แมควอยที่ขยับออกมาข้างหน้าเล็กน้อย

" การประชุมครั้งนี้ที่กรุงมอสโก !! "

"เธอเองก็รู้แล้วใช่ไหมว่า... ทางอิหร่านจะส่งตัวแทนเข้ามาร่วมการประชุมด้วย " และแมควอยที่พยายามอธิบาย และช่วยกันอ่านอากัปกริยาของพวกเธอ

" อีเลฟเวนท์ ! " เอ็ดเวิร์ดที่อยากจะรู้ไปพร้อมๆ กันด้วย

" แล้วตอนนี้...เธอกำลังคิดว่า ! "

" การประชุมของสหประชาชาติในครั้งนี้ ! "

" พวกเขายังจะหาข้อยุติไม่ได้อยู่อีกหรือเปล่า " และพวกเขาก็ยังไม่คลี่คลายกับปัญหานี้ เพราะฉะนั้นถึงต้องหันไปมองที่รัฐมนตรีกลาโหม

" เวลานี้. " แมควอยที่เริ่มทยอยออกความเห็น

" ดูก็รู้ว่า... การจัดให้มีการประชุมในครั้งนี้ขึ้นมา "

" ก็เพื่อ...ประเทศภาคีทั้ง 5 ของทางสหประชาชาติ รวมทั้ง เยอรมัน ! "

" พวกเขาที่กำลังพยายามที่จะช่วยกันยื่นข้อเสนอที่ซ้ำ ๆ ในที่ประชุม"แมควอยอธิบายเหตุผลต่อไปอยู่เรื่อยๆ

และเอ็ดเวิร์ดที่เห็นด้วย

" การที่...ทางท่านผู้นำสูงสุดของบางประเทศพยายามที่จะปฏิเสธ! "

" เงื่อนไข !! หลายต่อหลายครั้งกับทางรัฐบาลของสหรัฐ "

" อาจที่จะพอเป็นไปได้ไหมว่า. "

" รัฐบาลของสหรัฐกำลังแอบไปสนับสนุนโครงการพลังงานนิวเคลียร์อยู่อย่างลับๆ ที่ไหนสักทีหนึ่ง " เอ็ดเวิร์ดหันไปตั้งข้อสมมติฐานกับรัฐมนตรีกลาโหม แต่ว่าก็ยังต้องการข้อสมมุติฐานจากเธอด้วย

" แล้วเธอละ ! "

" อีเลฟเวนท์ !! "

" เธอเองกำลังคิดว่า...การเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ "

" พวกเขากำลังต้องการที่อยากจะบอกอะไรกับพวกเราทุกคน " เอ็ดเวิร์ดที่ไม่อยากจะตั้งข้อสมมติฐานอะไรมากไปกว่านี้ในตอนนี้

อิเลฟเวทน์ที่ๆ ยังคงยืนอย่างสงบเสงี่ยม และในขณะเดียวกันนั้นความคิดที่ต้องไตร่ตรองก่อนพูดเสนอต่อท่านผู้นำ และเธอที่ยังมีความจำเป็นที่จะต้องๆ วิเคราะห์อย่างละเอียดและถี่ถ้วนยิ่งๆ ขึ้นไปด้วย

" เวลานี้.... "

" บางที !"

" พวกเราทุกคนอาจจะต้องรอฟังข้อสรุปในที่ประชุมกันก่อน " และเธอที่ต้องการทำไปตามกระบวนการ

" และโครงการพัฒนายูเรเนียมทั้งหมดนั่นด้วย " เธอตอบตามสถานการณ์ให้ฟัง

เอ็ดเวิร์ดที่ตั้งใจฟังและยังหันมาออกคำสั่งให้กับรัฐมนตรีกลาโหมกลับไปทำงานต่อ แต่พอคล้อยหลังแมควอยจนเหลือเพียงลำพังสองต่อสอง

" อีเลฟเวนท์ !! " เอ็ดเวิร์ดที่อยู่ๆ ก็ลุกจากเก้าอี้และก็เดินตรงเข้าหา

"เธอเองก็รู้ใช่ไหมว่า .. "

" คาตอร์ !! "

" ตอนนี้... เขายังไม่ไว้ใจเธอ " เอ็ดเวิร์ดมีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด

" ดิฉันทราบดีว่า.... " และเธอเองที่เข้าใจ

" ดิฉัน "

" มีข้อบกพร่องตรงไหนอะไรบ้าง ! แล้วเอาไว้... "

"ดิฉันจะรีบหาวิธีแก้ไข ! " และที่เธอต้องพยายามแสดงตัวตนของเธอออกมาให้ชัดเจนให้มากที่สุด

เอ็ดเวิร์ดที่ยังคงแสดงความไม่มั่นใจสำหรับเธอออกมาอยู่เรื่อยๆ

" อีเลฟเวนท์. "

" เธอคงรู้ดีอยู่อยู่แล้วใช่ไหมว่า "

" การตัดสินใจของเธอเองในครั้งนี้ "

"..มันอาจที่จะทำให้เกิดข้อถกเถียงกันขึ้นมาในเรื่องของความสัมพันธ์ "

" ระหว่าง....รัฐบาลของอังกฤษ และ ทางท่านผู้นำของรัฐบาลของพวกเธอ !" เพราะว่าเขาตระหนักเรื่องนี้ดี

" เรื่องของ...ความมั่นคงภายใน กับ เรื่องของความสัมพันธ์ของประเทศ !! "

" มันยังคงเป็นอะไรที่... !!"

" เปราะบาง !!!! และลึกลับซับซ้อน !!! "

" เธอว่าไหม !! " เอ็ดเวิร์ดที่อยากจะหันมาพูดถึงเธอแต่ก็ไม่ใช่ในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศ

อิเลฟเวนท์ยังคงหันไปสบตากันกับเอ็ดเวิร์ด และพยายามแสดงความจริงใจของเธอให้เอ็ดเวิร์ดได้เห็นและต้องมากที่สุดด้วย

" ก่อนหน้านี้ ... !! "

"ดิฉันได้พยายามที่จะปฏิเสธความร่วมมือต่าง ๆ กับทุกรัฐบาลที่รู้ว่า... "

" ความสามารถพิเศษเฉพาะบุคคลของฉัน ! "

" สามารถที่จะทำอะไรให้พวกเขาได้บ้าง "

" แต่ว่า ..." เพราะฉะนั้นเธอถึงจำเป็นที่จะต้องคอยคิดแล้วและคิดอีกและยังต้องคิดอย่างรอบคอบ และคิดอย่างรัดกุมให้จนถึงที่สุดว่า.

" ทุก ๆ สิ่ง "

" มันเป็นเพียง... สิ่งที่ ! "

" พวกเราช่วยสมมติกันขึ้นมา " เธออธิบาย

เอ็ดเวิร์ดที่คอยหันกลับมาเป็นฝ่ายค่อยๆ คิด ๆ กันไปอีกหลายตลบ

" เธอกำลังบอกว่า...ไม่อยากที่จะสมมติอะไรอีก "

" อย่างนั้น ! ใช่ไหม " เอ็ดเวิร์ที่ก็แค่ต้องพยายามที่จะต้องคิดให้ออก

และเธอทำได้แต่เพียงพยักหน้า

" ค่ะ !! " และก็ยอมรับ

" เพราะไม่ว่า....จะเป็นเรื่องของความมั่นคงภายในของที่ไหน ๆ หรือไม่ก็.."

" .เรื่องของความสัมพันธ์ของประเทศอะไรพวกนั้น "

" แต่ว่า..."

" ท้ายที่สุด.... ประชาชนทุกคนสมควรที่จะได้รับอะไรบ้าง"

" เพราะว่าตอนนี้...มนุษย์อย่างเราๆ "

" มัวแต่ที่จะถกเถียงกันว่า...ที่นี้ !! คืออังกฤษ ที่นี้ !! คือประเทศไทย "

" แต่ผลสุดท้าย...คนที่จะต้องเจ็บปวดที่สุด !! "

" ก็คือ... ประชาชนของพวกเราทุกคนอยู่ดี !! " จนกระทั่งเธอเงยหน้าขึ้นมาและมองไปที่เอ็ดเวิร์ด

" แต่ความจริงตามกฎของธรรมชาติ... !! "

" แผ่นดินนี้...ไม่เคยแตกแยกออกจากกันเลยด้วยซ้ำ " เธอต้องการเหลือเกินที่จะให้พวกเขาเข้าใจ

และเอ็ดเวิร์ดที่กำลังหันหลังและเดินกลับไปที่โต๊ะทำงาน แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ยังพยายามเหลือเกินและคอยคิดทบทวนคำพูดของเธอเมื่อกี้

" เธอกำลังจะอธิบายให้ฉันฟังแบบนี้ใช้ไหมว่า... "

" อย่ายึดติดกับตัวตนของเรา !!

" แบบนั้นใช่หรือเปล่า ! "

" อีเลฟเวนท์ !! " และอีกทั้งจนในที่สุดพวกเขาที่ก็เพิ่งจะเข้าใจ แต่ก็ยังจะหันมาและเห็นอิเลฟเวนท์ที่ยิ้มออกมาทีละนิด

" มีใครคนหนึ่งเคยสอนพวกเราเอาไว้ " เธอคอยสบตากับเอ็ดเวิร์ด

" จงใช้สมมติกันให้เป็น !! " และบอกกับเขาไปอย่างนั้น

เอ็ดเวิร์ดผงกหัวขึ้นๆ ลง ๆ

" ก็ยังดี.. !! "

" ที่เธอยอมรับว่า...การตัดสินใจครั้งนี้ !! "

" ไม่มีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง !! " เอ็ดเวริ์ดที่ยังไงก็ต้องขอบคุณเธอ แต่ในระหว่างที่เธอกำลังจะหันหลังกลับและเดินออกจากห้องทำงานของเขาไป

" อีเลฟเวนท์ !! " เอ็ดเวิร์ดที่อยู่ๆ ก็เรียกตามเธอไป

" ฉันมีเรื่อง...! "

" ที่อยากจะขอรบกวนเธอต่ออีกสักหน่อย !! " แต่ว่าท่าทางคราวนี้ของเขาที่เริ่มประหม่าก่อนจะพูดมันออกมา

อิเลฟเวนท์ก็เลยต้องหยุดและหันกลับมาหาด้วยความเต็มใจ

" ตอนนี้...เด็กคนนั้น "

" เพิ่งจะสอบชิงทุนไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเบิร์กลีย์ได้ !! " เธอเล่า

"อ้อ !! " แต่เอ็ดเวิร์ดก็ไม่ได้แสดงความดีใจจนออกนอกหน้านัก

" อย่างนี้เองซินะ.. !! "

" อันที่จริง.. ! "

" ฉันก็อยากให้เขา ! ได้มาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษ !! "

" แต่ว่า... "

" ...เรียนที่สหรัฐก็ดีเหมือนกัน "

" เพราะว่าอย่างน้อย ๆ เขาก็จะได้มีเวลาแวะกลับไปหาพ่อแม่ของเขาได้บ้าง.. " แต่จนแล้วจนรอดเอ็ดเวิร์ดก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกก่อนที่จะขอบคุณเธอ

" ขอบใจเธอมากจริงๆ อิเลฟเวนท์ " เอ็ดเวิร์ดขอบคุณอีกครั้ง

อิเลฟเวนท์ที่ยังคงเข้าใจ

" ดิฉัน....!! "

" ยังคงจะดูแลเขาต่อไปให้ดีที่สุด ! "

" แต่ว่า..... "

" ฉันจะไม่ ! คอยตีกรอบให้เขา !! " เธอรับปาก

" ถ้ายังไง ดิฉันขอตัวก่อนนะคะท่าน " อิเลฟเวนท์ยิ้มให้และหันหลังเดินกลับออกมาจากห้องทำงานของนายกรัฐมนตรีอังกฤษอย่างเงียบๆ

แต่ว่าเอ็ดเวิร์ดกลับนั่งลงและเปิดลิ้นชักที่โต๊ะทำงานตรงฝั่งทางด้านซ้ายมือ และเขาเองก็ยังหยิบเอาสมุดบันทึกเล่มเก่าๆ หน้าปกสีน้ำตาลเข้มออกมาจากลิ้นชัก เอ็ดเวิร์ดเพิ่งจะหยิบเอารูปถ่ายขาวดำที่ซ่อนเก็บเอาไว้ข้างในอย่างดีกลับออกมาจากสมุดบันทึก

รูปถ่ายขาวดำรูปเก่าๆ ที่มีครอบครัวของผู้ชายชาวอังกฤษ กับ ผู้หญิงชาวสหรัฐคู่หนึ่ง และยังเป็นภาพถ่ายของวัยรุ่นยุค 90 ที่พวกเขาอุ้มเด็กทารกผู้ชายตัวน้อย ๆ ที่เพิ่งจะลืมตาดูโลกมาได้ไม่นาน ภายในห้องทำงานทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐ

อีเลฟเวนท์เดินอยู่บนรถไฟสายสีน้ำเงินของสถานี Saint Pancras ของประเทศอังกฤษ และวันนี้เธอสวมใส่สูทยี่ห้อ Si…^am และสวมเสื้อกั๊กสีกรมท่าสวมเสื้อโอเวอร์โค้ตสีเทาๆ ตัวยาวคลุมเลยหัวเข่าบวกกับรองเท้า Oxford หนังสีน้ำตาลไหม้ และเธอก็ยังเดินไปจนถึงที่โบกี้ชั้นเฟิร์สคลาสระดับ Leisure Select เธอนั่งลงที่เก้าอี้บุผ้าลินินชั้นดี สีน้ำเงินจางๆ ตัวหนึ่ง ซึ่งตรงกลางระหว่างผู้โดยสารอีกฝั่งก็ยังจะมีโต๊ะอาหารวางคั่นกลางเอาไว้ด้วย

และเธอที่กำลังนั่งหลังตรงๆ และคอยนั่งให้ปลายเท้าข้างขวาวางเยื่องตรงไปที่ด้านข้าง และมือทั้งสองข้างของพวกเธอก็วางอยู่บนตัก

"เคยได้ยินมาว่า... "

" ผู้ชาย...ชาวสหรัฐ !! "

" มักชอบที่จะอยู่อย่างสันโดษ ! "

" ฟังแล้วมันก็คงจะไม่ใช่เรื่องจริงไปซะทั้งหมด ! " อิเลฟเวนท์ที่อยู่ๆ ก็ทักทายผู้ชายคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม

ซึ่งเป็นผู้ชายคนที่สวมสูทสีดำสนิท สวมถุงมือหนัง สวมทับด้วยเสื้อโอเวอร์โค้ทสีดำ และเผลอ ๆ ผู้ชายคนที่เธอกำลังพูดด้วย คน ๆ นั้นก็ดูเหมือนมีรูปร่างค่อนข้างที่จะสันทัดเอามากๆ

ผู้ชายคนนี้มีนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้ม ผิวขาวซีด จมูกโด่งล่ำสัน รูปปากเป็นนกกระจับหนาๆ มีลักยิ้มที่แก้มข้างซ้าย และศีรษะโล้นเป็นเงามัน

" อันที่จริง " แต่ว่าผู้ชายคนนั้นก็ยังยินดีที่จะตอบรับคำทักทาย

" อยู่อย่างโดดเดี่ยวมานานๆ บางที่.... "

" มันก็รู้สึกมีอารมณ์เหงา เปล่าเปลี่ยวหัวใจกันบ้าง " ผู้ชายหันมามองกันอย่างตรงไปตรงมา

อิเลฟเวนท์ที่มัวแต่สนใจมองหากล่องผ้าสี่เหลี่ยมผืนผ้ากำมะหยีสีดำสนิท และมันก็เพิ่งจะถูกเอาออกมาวางไว้ตรงหน้า

"นั่นซินะ " เธอยิ้มกลับ

" อันที่จริง "

"ฉันเอง "

" ก็คิดไม่ถึงจริง ๆ เลยนะว่า "

"คนอย่างเธอ ! จะเสียสละเวลามารับค่าจ้างอันน้อยนิด "

" เพียงเพราะอยากจะได้สร้อยไข่มุกที่อยู่ในกล่องใบนี้ " และเธอก็ยังอยากนั่งสอบสวนเขา

"อืม... !!" ผู้ชายคนที่เธอกำลังพูดด้วยส่ายหัวเบาๆ

" มันก็จริง "

" แต่ว่า...ที่จริงแล้วฉัน. !! "

" ..ก็ไม่ได้คิดที่จะอยากยอมเสี่ยงชีวิตของตัวเอง ! มาเพื่อ.... "

" อยากที่จะเห็นสมบัติที่ล้ำค่าของพวกซามูไรญี่ปุ่นกันสักเท่าไหร่นักหรอกนะ "

" แต่ว่าในที่สุด "

" เรื่องนี้มันก็ทำให้ฉันรู้ว่า "

" เธอเองก็ไม่ใช่ "

" ผู้...หยั่งรู้ ! ไปซะทุกเรื่อง !! "

" ถูกต้องใช่หรือเปล่า "

" อีเลฟเวนท์ !! " ผู้ชายคนนั้นยื่นหน้าเข้าหาใกล้ๆ และก็จ้องจะสอบสวนเธอกลับคืนไปบ้าง

และเธอก็พยักหน้าเบาๆ ด้วยเหมือนกัน

" ราคาของสร้อยเส้นนี้ "

" มันเทียบอะไรไม่ได้เลยกับสิ่งที่เธออย่างรู้ "

" เฮนดริกส์ !! " และจนแล้วจนรอดเธอถึงกับต้องยอมเอ่ยชื่อ

เฮนดริกส์ที่กำลังนั่งทำตัวสบายๆ แต่ว่าเขาก็ยังต้องคอยส่งรอยยิ้มหวานๆ แทนคำกล่าวหาที่แสนจะซื่อบื้อตลอดกาลของพวกเธอกลับไปให้กันดูอยู่ดี

" ก็อย่างว่า....เรื่องที่บาฮามาส !! "

" เรื่องนั้นนะ !! "

" มันทำให้ฉันอยากรู้เรื่อง "

"ความสามารถพิเศษเฉพาะบุคคล "

" ของเธอขึ้นมาอย่างจริง ๆ จัง ๆ ซะแล้ว " เฮนดริกส์ที่ดูผ่อนคลายมากขึ้นเวลาที่อิเวฟเวนท์เรียกชื่อเขาแบบนี้

" ฉันขอบอกเธอตามตรงเลยนะ "

" อีเลฟเวนท์ "

" ฉัน ! "

" ไม่เคยสนใจเงินค่าจ้างของคนพวกนั้นตั้งแต่แรก " เฮนดริกส์บอกและก็สบตาของเธอเป็นระยะ

" เพราะว่า...พวกเขา "

" ไม่ได้สนหรอกนะว่า...เธอจะเป็นใคร "

" หรือว่าอะไร ! " และเฮนดริกส์ที่ๆ ก็กำลังพยายามหันมาทำความเข้าใจ แต่ก็แค่มองเห็นเธอไม่อยากจะพูดอะไรต่อ

" พวกเขาสนแต่เพียงว่า....โลกใบนี้ !! " และจนกระทั้งเฮนดริกส์เป็นฝ่ายเริ่มตั้งคำถาม

" พวกมันจะต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล ..."

แต่ว่าอิเลฟเวนท์ที่ทำเพียงนั่งอมยิ้มและส่ายหัวเบาๆ ก็เท่านั้น

" ไม่เอาน่า... "

" เฮนดริกส์ !! "

" เธอคงไม่อยากที่จะเห็นฉัน....!! "

" แอบย่องเข้าไปที่สวนหลังบ้านของเธอบ่อยๆ หรอกนะ ! จริงไหม !! " เธอไม่ได้แค่จะพูดให้กลัว

" เพราะไม่ว่าจะยังไงๆ ท้ายที่สุด.... "

" ทั้งคุณและคนพวกนั้นก็ไม่มีวันที่จะได้รู้ความจริง... ... "

" แต่ว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนกันได้ !! " เฮนดริกส์ตัดบททันที และยังรีบหันไปมองกลุ่มผู้ชายสวมสูทสีดำที่เพิ่งจะเข้ามานั่งลงที่เบาะด้านหลังของเธอ

" อีเลฟเวนท์ !! " เฮนดริกส์ที่พยายามเอียงหน้าเข้าไปกระซิบ

" แล้วไหน...เรื่องที่ใครๆ เคยพูดกันเอาไว้ว่า.... "

" The Nero !! "

" ....ไม่เคยมีใครที่สามารถจะสะกดรอยตามเขาได้ !! " เฮนดริกส์กระซิบบอกเธอ และรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเสน่อันแพรวพราว

และในขณะเดียวกันสายตาของเฮนดริกก็ยังต้องต้องแอบหันไปมองผู้ชายอังกฤษคนที่มีหน้าตาหล่อเหลา นัยน์ตาสีฟ้าเข้มอันเย้ายวนไว้ทรงผมสกินเฮดท์ ส่วนสูงก็น่าจะสักประมาณ 6 ฟุต รูปร่างสันทัดทะมัดทะแมง และเผลอ ๆ ผู้ชายคนนี้ก็ชอบสวมใส่สูทสีดำที่ราคาแพง และสวมรองเท้าสไตล์อ๊อกฟอร์ดที่ราคาแพงลิ่วกำลังเดินอ้อมเข้ามานั่งที่เบาะด้านหลังของเขา

ฟรึบ !!!

ผู้ชายชาวอังกฤษคนนั้นลุกขึ้นมาและก็ยังเอาปืนมาจ่อที่หัวเฮนดริกส์ทันที ! แต่อิเลฟเวนท์ก็แค่ยืนสังเกตปืนวอลเธอร์ พีพีเค เอส ขนาด 9 มิลลิเมตรที่ผู้ชายคนนั้นถือ

" หมอบตัวซะ เฮนดริกส์ มอร์แกน !! " สำเนียงอังกฤษชัดแป๊ะๆ ของผู้ชายที่กำลังเอาปืนขู่บังคับเฮนดริกส์อยู่ที่หัว

"หึ หึ !! " เฮนดริกส์แสร้างหัวเราะและชะเง้อคอมองหาแต่เธอ

" เป็นไงบ้างละ ! อีเลฟเวนท์ !! "

" อยู่ๆ ก็มีผู้ชายชาวอังกฤษมาคอยตามตื้อเธอแบบนี้. "

" ฉันอยากจะรู้จริงๆ นะว่า "

" เจ้าหน้าที่หน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีใต้คนนั้นรู้เรื่องนี้ขึ้นมา "

" พวกเขาจะจัดการเธอ ! ด้วยอีท่าไหน !! " เฮนดริกส์ยังมีกะจิตกะใจหยอกล้อเธออยู่ได้

หมับ !!

อิเลฟวนท์ที่รีบพุ่งเข้าไปตะปบและแย่งปืนในมือผู้ชายคนนั้นจนแย่งกลับมาถือไว้จนได้แค่ชั่วพริบตาเดียวเหมือนกัน

แต่ว่าผู้ชายคนนั้นพอรู้ว่าตัวเองพลาดก็เลยต้องรีบหันกลับไปตะครุบตัวจับเฮนดริกส์ด้วยมือเปล่า

ตุบๆๆๆ !!!

ผู้ชายชาวอังกฤษนัยน์ตาสีฟ้า กับผู้ชายชาวอเมริกันกำลังชกต่อยกันอุตลุตอยู่บนรถกี้รถไฟจนพลอยทำให้ผู้โดยสารเริ่มแตกตื่น

" อีเลฟเวนท์ !! " เฮนดริกส์ยังพยายามตะโกน ในขณะที่มือของตัวเองกฌยังต้องคอยวุ่นวายคอยจัดการพวกเจ้าหน้าที่อังกฤษที่ก็พยายามจะจัดการเขาให้ได้ด้วยเหมือนกัน

"ฉันว่า ! "

" เธอ !! กำลังคิดผิดกับเรื่องนี้.... !! " และแค่อยากจะบอกให้อิเลฟเวนท์ให้เธอรับผิดชอบให้ได้ แม้ว่าเขาอาจจะต้องเร่งมือคว่ำเจ้าหน้าที่อังกฤษคนนี้ให้ได้ก่อน

อิเลฟเวนท์ที่ยังคอยยืนมองพวกเขาสองคนกอดรัดฟัดหวี่ยงตรงกลางบริเวณโบกี้รถไฟ และก็เธอยังเผลอยิ้มๆ และยังคอยเอามือล้วงกระเป๋าเอาไว้ข้างหนึ่ง และส่วนมืออีกข้างก็ยังอุตส่าห์ช่วยถือปืนกระบอกนั้นเอาไว้ให้ด้วย แต่ก็คงจะเป็นเพราะเธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังมีผู้โดยสารบนโบกี้รถไฟกำลังส่งเสียงเอะอะโวยวายและเห็นข้าวของบนตู้โดยสารกำลังได้รับความเสียหาย

เพล้ง เพล้ง !!

เสียงของถ้วยกาแฟ แก้ววิสกี้ จานชาม ช้อนส้อม และแก้วไวน์ ที่เพิ่งจะถูกเหวี่ยง ! ถูกเขวี้ยงถูกโยนไปๆ มาๆ อยู่จนเต็มพื้นที่ของตู้โดยสารขบวนที่ 18 ในขณะที่ก็มีผู้โดยสารบางกลุ่มเข้ามามุงดูและบ้างก็วิ่งหนี เพราะฉะนั้นอิเลฟเวนท์เลยต้องรีบหาวิธีจัดการแก้ปัญหา

" เอาละ ๆ ทุก ๆคน "

" ทุกคนไม่ต้องตกใจ "

" ถ้าไม่อยากจะโดนลูกหลง ! ก็กรุณา"

" ไปหลบอยู่ข้างหลัง !!! " อิเลฟเวนท์ป่าวประกาศเพื่อไม่ให้ทุกคนได้รับอันตราย

" เร็วเข้า !! " เธอส่งเสียงดังช่วยเร่งรีบให้ผู้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่รีบวิ่งหนีไปได้แล้ว และทันทีที่พวกผู้โดยสารทั้งหมดรีบทยอยออกไปจากโบกี้รถไฟเกือบจะทั้งหมด

แต่ว่าอิเลฟเวนท์กับเฮนดริกส์ก็ยังต้องหันไปเจอกลุ่มผู้ชายที่สวมชุดสูทสีดำเกือบอีกนับสิบคน และมิหนำซ้ำพวกนั้นยังถือปืนเดินกรูกันเข้ามา !

" เฮนดริกส์ !! " อิเลฟเวนท์ทตะโกนและรีบโยนปืนไปให้ !

ปัง ! ปัง !! ปัง !! ปัง !!! ปัง !!!!

เฮนดริกส์รับปืนได้อย่างแม่นยำและจัดการกับคนพวกนั้นได้ไม่พลาดเป้าเลยสักนัด และอิเลฟเวนท์กับผู้ชายอังกฤษนัยน์ตาสีฟ้าที่ก็ต่างพากันรีบเข้าไปหลบอยู่หลังเบาะผู้โดยสาร

ปังๆๆๆๆๆ

กลุ่มผู้ชายชุดดับนับสิบๆ กรูกันเข้ามาพร้อมสาดกระสุนรัวๆ ใส่เฮนดริกส์ อิเลฟเวนท์ และผู้ชายอังกฤษคนนั้นจนพวกเธอต่างคนต้องกระโจนหาที่หลบกันให้จ้าละหวั่น

ปัง ! ปัง !!!

เฮนดริกส์พยายามที่จะยิงสวนไปที่ผู้ชายกลุ่มนั้น แต่ว่าพอเขาหันกลับไปมองผู้ชายชาวอังกฤษที่กลับรีบลุกกลับขึ้นมาและต่อสู้กับคนพวกนั้นด้วยมือเปล่า

ตุบ !!!

ผู้ชายอังกฤษนัยน์ตาสีฟ้าพยายามเข้าไปงัดและต่อสู้กับกลุ่มคนแปลกหน้าที่คอยถือปืนเข้ามายิงกราดพวกเขาถึงในโบกี้รถไฟ แต่ผู้ชายอังกฤษดูท่าทางจะมีฝีมือจนสามารถแย่งปืนของกลุ่มคนแปลกหน้ากลับมาได้ง่ายๆ

ปังๆๆๆๆๆๆ !!!

เฮนดริกส์กับผู้ชายชาวอังกฤษต่างคนก็ต่างหันมาสาดกระสุนไปที่คนกลุ่มนั้นรัวๆ แต่ว่าในระหว่างที่ต่อสู้อยู่กับคนแปลก

" คิดจะมาจับฉันเหรอ ! " เฮนดริกส์ที่ยังรู้สึกโกรธไม่หาย !

" ก็หัดแหกตาดูคิวบ้างนะ !! " และยังพยายามจะยั่วโมโหผู้ชายอังกฤษคนนั้นแทบจะตลอดเวลา

" นายไม่มีวันหนีฉันพ้นหรอกน่า ! เฮนดริกส์ " แต่ผู้ชายอังกฤษก็ไม่ได้คิดที่จะรามือ

ปัง ปัง !

ตุบ ๆ

ปืนสองกระบอกของมือปืนที่เพิ่งถูกยิงร่วงลงบนพื้น แต่ว่าเฮนดริกส์ที่ยังสังเกตเห็นว่าตอนนี้อิเลฟเวนท์กำลังมัวหลบลูกหลงอยู่ที่หลังเก้าอี้ผู้โดยสาร

" อิเลฟเวนท์ !!! " เฮนดริกส์รีบตะโกน

ปัง !

แต่ว่าเฮนดริกส์ก็ยังพยายามยิงขวางไม่ให้คนพวกนั้นเข้ามาทำร้ายเธอ จนกระทั่งเฮนดริกส์พุ่งเข้าไปคว้าเก็บปืนที่พื้นสองกระบอกและโยนขึ้นไปกลางอากาศ

และอีเลฟเวนท์ก็ออกมารับปืน !!!

ปัง ! ปัง !! ปัง !!! ปัง !!!!

อิเลฟเวนท์ที่ใช้มือทั้งสองข้างถือปืนข้างละกระบอกและยิงสวนออกไปทีละนัด !!!

ปัง ปัง ปัง !!!!

" เฮนดริกส์ !! " แต่ในขณะที่เธอช่วยพวกเขา

" นี่ยังไง !! "

" ค่าจ้างของคุณ !! " เธอก็ยังประชดพวกเขากลับ !!

และเฮนดริกส์ที่พยักหน้าให้กันรัวๆ

"งั้นเหรอ ! "

ปัง ! ปัง !

" ฉันถึงได้บอกเธออยู่นี่ ! ยังไงว่า.... "

" ทุก ๆ อย่างมันเปลี่ยนกันได้ !! " เฮนดริกส์ก็เลยต้องพยายามจะแก้ตัว

ปังๆๆๆๆๆ

ผู้ชายอังกฤษคนนั้นยังคงหาทางช่วยยิงไปที่พวกมือปืนรับจ้าง แต่ว่าเขาก็ยังคงต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวของอิเลฟเวนท์กับเฮนดริกส์ทุกฝีก้าว

" พวกเราจะต้อง ! "

" ....รีบจับตัวของเฮนดริกส์กลับไปเดี๋ยวนี้ ! "

" อิเลฟเวนท์ ! เธอต้องทำตามคำสั่ง " ผู้ชายอังกฤษกำลังขอให้เธอช่วย !

ปัง ! ปัง !! ปัง !

อิเลฟเวนท์ที่ยังสาดกระสุดไม่หยุด

" แล้วนี่..!! "

" พวกคุณกำลังเห็นฉัน !! "

" ว่างมากหรือยังไงกันห๊ะ !!! " และเธอยังต้องมาคอยตะโกนตอบคำถามพวกเขาด้วย

" อย่างนี้เองใช่ไหม !! " แต่ว่าผู้ชายคนนั้นก็ยังตะโกนต่อล้อต่อเถียงกันไปมา

" เพราะแบบนี้ !! "

" เธอถึงได้จงใจปล่อยเขาไปตั้งแต่ทีแรก.. !! " และผู้ชายอังกฤษที่ไม่สนคำขู่

แกร็ก !! แกร็ก !!!

กระสุนปืนอยู่ๆ ก็หมดคามือของผู้ชายอังกฤษจนเขาต้องรีบโยนปืนทิ้ง และทันทีที่เขาต้องรีบหันกลับไปจัดการคนพวกนั้นด้วยมือเปล่า

"เหอะ ! " เฮนดริกส์ที่ถึงกับกรอกตามองบนให้กับผู้ชายอังกฤษ

เพราะอยู่ๆ ทั้งเขาและก็อิเลฟเวนท์ต้องมาเห็นภาพเจ้าหน้าที่อังกฤษกำลังต่อสู้กับผู้ร้ายด้วยมือเปล่าอย่างทุลักทุเลเป็นที่สุด

แต่ว่าอิเลฟเวนท์ที่กำลังได้ยินเสียง !

" ระวัง !!! " เธอตะโกนและหันปืนเข้าใส่ผู้ชายคนนั้นทันที

ปัง ปัง ปัง !!!

ฉึก ! ฉึก !! ฉึก !!!!

มีดสั้น 3 อัน ! เพิ่งถูกยิงจนปลิวว่อนไปเสียบคาอยู่ที่พนังและเบาะ !!

อิเลฟเวนท์กับเฮนดริกส์ต่างพากันเหลียวหันไปมองที่ประตูทางเชื่อมขบวนตู้โดยสารทันที เพราะว่าตอนนี้ผู้ชายอังกฤษคนนั้นอยู่ๆ ก็กำลังถูกจับเป็นตัวประกันด้วยฝีมือของคนสองคนที่สวมใส่ชุดสีขาวคล้ายๆ กับพวกนินจาจากญี่ปุ่นและใช้ผ้าโผกศีรษะปิดบังหน้าตาเอาไว้

อิเลฟเวนท์ที่เริ่มขยับตัวยืนบังเฮนดริกส์เอาไว้ ในขณะที่พวกคนสวมชุดคล้ายนินจากำลังคิดที่จะโยนมีดสั้นกลับมาเล่นงานพวกเธออีกแน่ !!

ปัง ปัง ปัง !

ฉึก ฉึก ฉึก !!

มีดสั้นสามเล่มร่วงหล่นกองที่พื้นเพราะฝีมือยิงปืนที่แม่นยำของเธอ !!!!

และหนึ่งในคนที่สวมชุดคล้ายกับนินจาที่กำลังขยับ เพราะลำพังเพียงดาบสั้นที่พวกเขา เขวี้ยงออกไป แต่กลับถูกอิเลฟเวนท์ยิงจนแตกกระเด็นเป็นเสี่ยงๆ

แต่ว่าอิเลฟเวนท์กับเฮนดริกส์ที่ต่างพากันสนใจก็แต่เจ้าหน้าที่อังกฤษที่กำลังถูกจับเป็นตัวประกันเท่านั้น

เพราะว่าตอนนี้ตัวประกันที่กำลังถูกดาบซามูไรที่แสนจะคมกริบวางทาบเอาไว้ที่กลางลำคอของตัวประกัน

และมิหนำซ้ำพวกเขายังจะลากผู้ชายอังกฤษถอยหลังเข้าไปใกล้ๆ หว่างประตูทางเชื่อมโบกี้รถไฟอยู่เรื่อยๆ

แต่ว่าหนึ่งในสองคนที่กำลังลักพาตัวผู้ชายอังกฤษไป และเขาก็ยังจะถือดาบซามูไรชูขึ้นมาเหนือศีรษะและตวัดดาบทันที !!

ฉับ !!!!

สลักยึดระหว่างตู้รถไฟสองขบวนเพิ่งจะถูกตัดด้วยคมดาบ จนกระทั่งตู้รถไฟของอิเลฟเวนท์ที่ค่อยๆ เคลื่อนห่างตู้รถไฟขบวนหน้าห่างออกมาเรื่อย ๆ แต่เป็นเพราะขบวนรถไฟที่แล่นด้วยความเร็วสูงประมาณ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เพราะฉะนั้นอิเลฟเวนท์กับเฮนดริกส์ที่ต่างคนก็คงได้แต่ยืนมองเหนือสะพานเหล็กอันใหญ่กับพื้นท้องทะเลเบื้องล่างด้วยกันเท่านั้น

" เธอก็รู้ทั้งรู้ว่า...." เฮนดริกส์หมดหวังจนต้องยืนพิงที่ประตู

"มันเป็นแผน....ลวง !! " และส่ายหัวอยู่อย่างนั้น

อิเลฟเวนท์ที่ก็ไม่ได้คิดที่จะปฏิเสธอะไรเฮนดริกส์เลยสักนิด

" เพราะฉะนั้น .. "

"....เราถึงต้องยอมรับและคอยเผชิญหน้ากับมันซะ ! "

" อย่าง...มีสติ !! " เธอบอกกับเฮนดริกส์ และก็หันหลังเดินกลับไปนั่งหมือนอย่างราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่ว่าเฮนดริกส์ก็คงจะทำอะไรไปไม่ได้มากว่าเดินตามและส่ายหัวให้เธอไป ๆ มา ๆ และคอยแต่จะบ่นพล่ามเลื่อนๆ ลอยๆ อยู่ข้างหลัง

" เหมือนจะโชคดีกันรอบที่เท่าไหร่ "

" ที่ !! "

" เขาไม่ถูกคนพวกนั้นโยนลงไปตาย....ที่ก้นทะเล !!! "