ในวงแขนใหญ่ปรากฎร่างของหญิงสาว ผมสีเปลือกไม้ บัดนี้ผมเผ้าดูยุ่งเหยิงแม้คราก่อนจะถูกบรรจงหวีเป็นอย่างดี เสื้อผ้าแพรพรรณแม้ยังไม่หลุดลุ่ยออกมาแต่ก็เกือบเต็มแก่ เสียงลมหายใจที่ติดขัดดูเหมือนเธอฝันไม่ดีเป็นแน่ อาทิตย์มองดูหญิงสาวตรงหน้า เขาไม่ได้ตั้งใจจะมีปฏิสัมพันธ์ใดกับผู้ใด เขาแค่ออกมาดูโลกภายนอกในระยะเวลานานเท่านั้นเอง เหตุการณ์แบบนี้เขาเลยจะตั้งใจ แต่จะให้หญิงสาวที่ล้มลงตรงหน้าก็ไม่ใช่วิสัย จำใจต้องขว้าเธอไว้ก่อนกระแทกกับพื้น เขาไม่ได้รับอนุญาตที่จะเข้าไปในเคหะสถานของผู้อื่น จะทิ้งเธอไว้หน้าประตูก็ไม่อยากคิดถึงอันตรายที่อาจเกิดได้ หนทางเดียวที่ผุดขึ้นมาชั่วขณะนั้นคือพาเธอกลับมาก่อน
ชั่วครู่ที่ความรู้สึกผิดและความฟุ้งซ่านก่อตัว เปลือกตาก็พลันเปิด ทั้งสองสบตากันอีกครา
แย่ละสิ
อาทิตย์เผลอไผลจนไม่ระวังตัว เขามัวแต่ใช้เวลาคิดจนลืมเวลาไป
ศิรินาถเอ่ยถาม
ท่านเป็นผู้ใด ใช่เจ้าของดวงตาในเงามืดหรือไม่
อาทิตย์ไม่ตอบ หรือจะบอกว่าเขาไม่กล้า ไม่อยาก ที่จะตอบเสียมากกว่า
ศิรินาถ ค่อยๆ ลุกขึ้นมา มองดูทิวทัศน์รอบตัว
ที่นี่ไม่ใช่ชานของข้า ที่นี่คือที่ใด ที่พำนักของท่านใช่หรือไม่
อาทิตย์ค่อยๆ พยักหน้า
สถานที่ที่ไม่คุ้นเคย บรรยากาศแปลกตา อากาศที่เย็นเกินกว่าที่เธอเคยสัมผัสมากนัก ศิรินาถมองไปรอบๆ พยายามจะกวาดสายตาเพื่อหาสิ่งที่เธอคุ้นเคย แต่จนใจ
ที่นี่ใช่อาณาจักรอาธิตยาหรือไม่ ท่านช่วยบอกที
ศิรินาถเอ่ยถามอีกครา และก็เป็นอีกคราที่อาทิตย์ได้แต่พยักหน้า แต่หาได้ตอบเธอไป
อาทิตย์จ้องมองเจ้าของดวงตาคู่นั้นเนิ่นนาน ก่อนที่จะตัดสินใจอธิบายสถานการณ์และตอบคำถามของเธอ เขากำลังจะเอ่ยปาก เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นและทิศทางนั้นคือกำลังเดินเข้ามาใกล้เร็วกว่าปกติ เขารีบขว้าผ้ามาคลุมตัวเธอไว้ แล้วลุกขึ้นยืนเดินไปทิศทางเดียวกับเจ้าของฝีเท้าที่ใกล้เข้ามา แต่เร็วกว่า ฝีเท้าหยุดลงพร้อมกับเสียงตะโกนก้อง
เจ้าพาใครเข้ามาที่นี่!!!
ข้า เอ่อ ข้า … ไม่ได้พาใครเข้ามา ท่านแม่
อาทิตย์ตะกุกตะกัก สาวน้อยใต้ผ้าแทบจะหยุดหายใจ ทำไมต้องปิดเรื่องเธอนะ หรือเขามีแผนการไม่ดี นี่เธอถูกคนไม่ดีพาตัวมาเป็นแน่ จะทำยังไงต่อดี
ข้าออกไปโดยพลการ ท่านแม่โปรดอภัย ตอนนี้ข้ากลับมาแล้ว ไม่มีผู้ใดพบเห็น และไม่เคยคิดจะพาผู้ใดมาที่แห่งนี้ มีกฎห้ามอยู่ข้ารู้และไม่เคยฝืนกฎนั้น
ลูกเอ๋ย แม่ขอโทษที่เกรี้ยวกราดใส่เจ้า กฎมีเพื่อปกป้องพวกเรา และปกป้องพวกเขา เจ้าเข้าใจเรื่องนี้ดีกว่าใคร แม่จะไปลงโทษคนที่มาให้ร้ายเจ้าเอง เจ้าอย่าได้ขุ่นเคืองใจ ฐานะอย่างเจ้าไม่ควรที่จะได้รับคำครหา ไม่ว่าจากใคร แม่บุกเข้ามาอย่างนี้เจ้าจงตกใจ
อย่าได้ใส่ใจท่านแม่ ท่านเป็นผู้ครองนคร จะเข้าออกแห่งหนใด ย่อมได้เสมอ ห้องข้าก็ไม่ควรเป็นที่ยกเว้น ท่านแม่ได้โปรดใจเย็นเถิด คนที่กล่าวทูลคงไม่ได้มีประสงค์ร้าย อาจแค่ตาฝาดไปเสียมากกว่า ใกล้ถึงพิธีการใหญ่ ท่านอย่าใส่ใจเก็บเรื่องนี้เป็นอารมณ์ เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ปล่อยข้าจัดการ ท่านแม่มีกิจมากมายเป็นหน้าที่ ขอให้ลูกได้แบ่งเบา
งั้นแม่ฝากเจ้า ลูกผู้เป็นแก้วตาดวงใจ พิธีการนี้แม่แค่จัดการ แต่ทั้งหมดก็เพื่อเจ้าเท่านั้น
นี่ก็ดึกมากแล้ว ท่านแม่รีบพักเถิด ข้าเดินไปส่ง
เสียงฝีเท้าเดินห่างออกไปจนสิ้นเสียง ผ้าที่คลุมอยู่ก็ค่อยๆ เปิดออก พร้อมกับเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่
เอ๊ะ ตอนนี้ดึกมากแล้ว ข้าต้องรีบกลับ แม้ข้าไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน แต่ได้กลายเป็นเรื่องใหญ่แน่ ยามวิกาลเช่นนี้ข้าไม่ควรอยู่ที่อื่น ชื่อเสียงจะเสียไปถึงท่านพ่อ
ศิรินาถค่อยๆ ย่องออกจากห้องนั้น แต่ก็ไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวเท้าออกไป เสียงฝีเท้าก็วิ่งเข้ามาหา เธอลนลานเป็นการใหญ่ แอบในที่ที่ดูยังไงก็เห็น สุดท้ายเลยกลับไปอยู่ใต้ผ้าที่เก่า
ข้ามีเรื่องต้องอธิบาย
อาทิตย์กลับเข้ามา เขาค่อยๆ เปิดผ้าที่คลุมเธอออก
เจ้าอยู่ที่อาธิตยา แต่ก็ไม่ใช่อาธิตยา ข้าอยู่ที่อาธิตยา แต่ก็ไม่ใช่อาธิตยา มันอาจเหลือเชื่อสำหรับเจ้า แต่ประสงค์ของข้าไม่ใช่การพาเจ้ามาที่นี่
ศิรินาถลุกขึ้นนั่งฟังเขาด้วยความงุนงง อะไรกันนะ อยู่ที่อาธิตยา แต่ก็ไม่ใช่อาธิตยา แต่การที่ไม่ได้ตั้งใจพาเธอมาก็ดูน่าเชื่ออยู่
ท่านหมายความว่าอย่างไร อยู่ที่อาธิตยา แต่ก็ไม่ใช่อาธิตยา
ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเริ่มอธิบาย อาทิตย์อ้ำอึ้งอยู่สักพัก
เจ้าเคยได้ยินเรื่องเทพป่าเขา ผู้พิทักษ์ต้นไม้และพืชพรรณ นามว่าจินตนาบ้างหรือไม่
เทพธิดาผู้เสกสรรและให้ชีวิตชีวาแก่ป่าและเรือกสวนไร่นา ทุกคนในอาธิตยาต่างก็เคยได้ยินทั้งนั้น พิธีบวงสรวงและกราบไหว้ก็มีจัดทุกปีไม่เคยขาด ผลผลิตและความอุดมสมบูรณ์จึงทำให้ประชาชนอิ่มท้องทุกหย่อมหญ้า ทำไมหรือท่าน
เมื่อกี้เจ้าได้ยินเสียงนางแล้วสินะ นั่นแหละแม่ของข้า
เกรงว่าท่านจะล้อข้าเล่นแล้ว
ศิรินาถแม้จะเอ่ยเช่นนั้น แต่แววตาก็เบิกกว้าง เธอเอ่ยออกไปเพราะคิดว่าเขาจะล้อเธอเล่น แต่ปฏิกิริยาของเธอก็ฟ้อง ว่าเธอเชื่อที่เขาพูดอยู่บ้าง อาทิตย์ถอนหายใจอีกครั้ง
เจ้ากับข้าไม่ควรจะต้องเจอกัน ยิ่งพาเจ้ามาที่แห่งนี้ยิ่งที่ไม่ควร ข้าออกไปเพียงเพื่อเฝ้ามองในมุมมืด ไม่ได้หวังว่าใครจะต้องเห็นข้า หากข้าไม่ได้คิดไปเอง แต่ยามที่เจ้าจ้องมองมาที่ข้า ข้ากับเจ้าสบตากัน แม้ข้าจะหวังว่ามันคือเรื่องบังเอิญ แต่เจ้าก็เดิน…ไม่สิ วิ่งมาหาข้าทั้งอย่างนั้น ข้าไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเจ้าเห็นข้าหรือไม่ เจ้าวิ่งมาหาข้าหรือไม่ อาจมีเรื่องหรือสิ่งใดที่เจ้าตั้งใจไปพบเจอ แทนที่ข้าหรอกหรือ
อาทิตย์จ้องมองเข้าไปในดวงตาของเธอ หวังว่าเธอจะตอบเป็นอื่น ไม่ใช่สิ่งที่เขาคิด
จริงอย่างที่ท่านคิด ข้าเห็นดวงตาดวงหนึ่งในมุมมืดนั้น ข้าไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่านั่นคือแววตาของมนุษย์ อาจเป็นสัตว์อื่น แต่มันเหมือนว่าข้าถูกอะไรบ้างอย่างดึงดูดเข้าไปหา แม้ข้าไม่แน่ใจ แม้ข้าจะยั้งขาของข้า แต่เป็นดังที่ท่านเห็น เท้าที่ก้าวออกมานั้น ก้าวมาเพื่อพบเจอกับท่าน ไม่ใช่สิ่งอื่นใด
อาทิตย์ถอนหายใจอีกครั้ง แล้วเว้นระยะเวลานิ่งเงียบให้เนิ่นนานออกไป จนบรรยากาศระหว่างสองคนเหมือนจะอึดอัดขึ้นมา จนในที่สุดเขาก็ยอมพูด
เช่นนั้น…ไม่แปลกที่เจ้าจะสิ้นสติ ระหว่างมนุษย์อย่างเจ้าและเผ่าพันธุ์ของข้า เป็นสองสิ่งที่ไม่ควรจะพบเจอ หรือแม้แต่เข้าใกล้ และข้าก็มิอาจดูดายหญิงที่สิ้นสติลงไปต่อหน้าข้าได้ หลังจากไคร่ครวญสักพัก จึงตัดสินใจพาเจ้ามาที่แห่งนี้ เพราะกฎของเราทำให้ข้าไม่อาจอุ้มเจ้ากลับสู่ที่ๆ เจ้าละมาได้ ตราบใดที่เจ้าไม่อนุญาตให้ข้าไปยังที่ที่เจ้าอยู่ และข้าก็ไม่ใจแข็งพอที่จะปล่อยเจ้าอยู่ข้างนอกนั้น อันตรายเกินไปแม้บริเวณนั้นจะอยู่ในอาณาเขตของเจ้าก็ตาม
ข้าซึ้งใจในการกระทำของท่าน ที่ช่วยเหลือข้าไว้ ในใจอยากถามท่านอีกมากมายนัก แม้กระทั่งเรื่องที่เกี่ยวกับที่นี่ แต่เวลานี้ข้าคงต้องรบกวนท่านอีกครา หาก ณ เวลานี้เป็นเวลาดึกดื่นแล้ว ข้าเกรงว่าท่านพ่อและคนอื่นวุ่นวายใจเพราะหาข้าไม่เจอ หากท่านจะกรุณาชี้ทางกลับไปยังที่ที่ข้าจากมาได้หรือไม่ ข้าอนุญาตให้ท่านก้าวเข้ามายังบ้านของข้า
สิ้นเสียง เขาก็เดินเข้ามาแนบกาย รับรู้ถึงลมหายใจของทั้งสอง เขาเริ่มวาดมือผ่านหน้าเธอเชื่องช้าเป็นวงกลม เธอยังจ้องมองเขาไม่กระพริบตา รูปหน้าคมคาย ตากลมโตคู่นั้นยังคงมืดมิดราวกับครั้งแรกที่เธอสบตา ผมสีดอกดาวเรืองสว่างไสวแบบที่เธอไม่เคยพบเจอมาก่อน กำลังพริ้วไหวเบาๆ ชั่วครู่ที่เธอค่อยๆ กะพริบตา ทุกสิ่งรอบกายพลันมืดลงอีกครั้ง
จะได้พบท่านอีกคราใด นามของท่าน ข้ายังไม่ทันได้ถาม