webnovel

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม

เธอคือหมอ(รักษาสัตว์)เทวดาคนแรกของอาณาจักร เริ่มจากข้ามมิติมาอยู่ในร่างของเด็กสาวชาวบ้านผู้แสนยากจน ทางซ้ายมีท่านแม่ที่ป่วยกระเสาะกระแสะ ทางขวาก็มีน้องชายตัวน้อยคอยให้ป้อนข้าว ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เธอถูกผู้ชายเฮงซวยยกเลิกการแต่งงาน… ให้ตายเถอะ! เสือไม่โอ้อวดพลังก็จริง แต่เห็นเธอเป็น HelloKitty หรืออย่างไร ถึงมารังแกกันแบบนี้?! สั่งสอนผู้ชายเฮงซวย รักษาอาการป่วยของท่านแม่ เลี้ยงดูน้องชายที่ผอมแห้งแรงน้อย บุกเบิกที่นารกร้าง ปลููกพืชบนที่ดินว่างเปล่า นั่งดูความอุดมสมบูรณ์ แล้วก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข วันเวลาอันแสนสุขค่อยๆ ผ่านไป... วันหนึ่งก็ได้ยินว่าเทพแห่งความตายผู้น่าสะพรึงกลัวจะมาเยือนถึงหน้าบ้าน บังคับขู่เข็ญให้เธอแต่งงานด้วย? ถึงเธอจะชอบผู้ชายหน้าตาดีก็เถอะ แต่ได้ยินว่าท่านอ๋องผู้นี้… “ท่านอ๋อง พวกเราไม่ได้สนิทกันเสียหน่อย!” หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เหอะๆ” ท่านอ๋องยกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย แล้วคว้าเด็กน้อยตัวอ้วนจ้ำม่ำสามคนออกมาจากด้านหลัง “เรียกแม่สิ” เธอล่ะอยากจะเป็นลม...

เพียนฟางฟาง · History
Not enough ratings
946 Chs

032 แรกพบคุณชาย

บทที่ 32 แรกพบคุณชาย

เมื่อเยี่ยนจิ่วเฉาเข้ามาในห้องพักบนรถม้า ก็พบว่ามีคนอยู่บนรถม้าเสียแล้ว

ดรุณีน้อยนางหนึ่ง

ไม่น่าแปลกใจที่ไม่มีใครเห็น ลุงวั่นไปจองห้องพัก บ่าวในรถม้าไปเติมถ่าน องครักษ์ก็ไปกับเขาด้วย

กระนั้น แม้ว่าจะไม่มีใครอยู่ แต่ก็ไม่มีใครกล้าขึ้นรถม้าของคุณชายแห่งเมืองเยี่ยน

ด้านในเต็มไปด้วยตราประทับเจ้าเมืองแห่งเมืองเยี่ยน หากเป็นผู้อื่น เพียงแค่แง้มม่าน ก็คงจะกลัวหัวหดจนวิ่งหนีไปแล้วกระมัง

ทว่าน่าเสียดาย...อวี๋หวั่นมองไม่ออก

อวี๋หวั่นกอดไหและหลับไปอย่างสบายอุรา มิได้รู้ว่ามีคนขึ้นมาบนรถ

เธอหันด้านข้าง แพขนตางอนยาวดุจผีเสื้อโบยบิน เงาจางๆ พาดผ่านใบผิวสีเลือดฝาด แก้มของเธอแดงระเรื่อน่าหลงใหล ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความหนาวเหน็บ หรือเป็นเพราะความอบอุ่นจากถ่านไฟ

เยี่ยนจิ่วเฉามองดวงหน้าสีแดงระเรื่อนั้น บนร่างก็พลันปรากฏรังสีอำมหิตขึ้นมา

ทันใดนั้นเอง ร่างสีขาวก้อนหนึ่งก็ปราดเข้ามา!

หากมิใช่เจ้าลูกสุนัขจิ้งจอกหิมะที่อวี๋หวั่นช่วยมาเองกับมือ จะเป็นผู้ใดไปได้

สุนัขจิ้งจอกหิมะยืนผงาดอยู่ที่พื้นด้านหน้าอวี๋หวั่น และจ้องมองเยี่ยนจิ่วเฉาด้วยสายตาเกรี้ยวกราด

หลังจากวันที่เยี่ยนจิ่วเฉาแย่งซาลาเปาทั้งสองลูกไป มันก็มีปัญหากับเขาวันละสามสี่ครั้งเห็นจะได้

ทว่าวันนี้ทะเลาะกันมาสี่ครั้งแล้ว ครั้งนี้ก็ต้องนับเป็นครั้งที่ห้ามิใช่หรือ?

เยี่ยนจิ่วเฉาขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “หลบไป”

จิ้งจอกหิมะน้อยโมโหจนกระทืบเท้า!

ไม่หลบ!

จะไม่หลบ!

คุณชายผู้ห้าวหาญก้าวเท้าหมายเดินข้ามเจ้าจิ้งจอกตัวน้อย!

ผลัวะ

เยี่ยนจิ่วเฉาเดินข้ามตัวมันไปแล้ว

ลูกสุนัขจิ้งจอกหิมะซึ่งถูกเดินข้าม “...”

เมื่อถูกขัดคอ รังสีอำมหิตอันแรงกล้าของเยี่ยนจิ่วเฉาก็ลดลงทันที เขาเดินไปหยุดด้านหน้าเบาะ และนั่งลงด้านข้างอวี๋หวั่นซึ่งกำลังนอนตะแคงข้างอยู่

อวี๋หวั่นไม่เพียงขึ้นมาบนรถม้าของคุณชายเยี่ยน ยังนอนลงบนเบาะนอนของคุณชายเยี่ยน ใช้ผ้าห่มปักดิ้น

ของคุณชายเยี่ยนอีกด้วย

คุณชายเยี่ยนร่างกายไม่แข็งแรง ทนความหนาวเย็นไม่ค่อยได้ ผ้าห่มของเขาล้วนเป็นผ้าไหมจากหนอนไหมไฟ ปักดิ้นของทางตะวันตก ในวังมีผ้าไหมจากหนอนไหมไฟซึ่งบางแต่ให้ความอบอุ่น ทว่าคนนั้นเลี้ยงหนอนไหมไฟไม่ได้ ทำได้เพียงไปหามาเท่านั้น หนอนไหมไฟสามพันตัวจึงจะสามารถถักทอมาเป็นผ้าห่มเช่นนี้ได้

เล่ากันว่า ครั้นทิเบตส่งบรรณาการเป็นผ้าไหมจากหนอนไหมไฟมา ผืนหนึ่งส่งไปยังคฤหาสน์ของคุณชายเยี่ยน แม้แต่โอรสของฝ่าบาท ก็ยังมิได้รับของขวัญล้ำค่าชิ้นนี้

ทว่า ผ้าห่มหายากไร้ผู้ใดเปรียบผืนนี้ กลับไปห่มอยู่บนร่างของดรุณีน้อยนางหนึ่ง

เยี่ยนจิ่วเฉามองนางด้วยสายตาข่มขู่ “กล้ามาก ซั่งกวนเยี่ยนส่งเจ้ามารึ?”

อวี๋หวั่นหลับสนิท แน่นอนว่าไม่มีทางเอ่ยปากตอบเขา

เยี่ยนจิ่วเฉาแค่นเสียง ‘หึ’ แล้วยื่นมือเรียวยาวสีหยกขาวออกไป หมายคว้าคอของนาง

คอเล็กๆ เช่นนี้ หมุนครั้งเดียวก็หักแล้ว

หักไม่ได้ หักไม่ได้!

ลูกสุนัขจิ้งจอกหิมะกระโดดขึ้นจากพื้น ทะยานเข้าไปกัดเข้าที่มือของเยี่ยนจิ่วเฉา

เยี่ยนจิ่วเฉามิได้เหลือบมองแม้แต่น้อย เขายื่นนิ้วชี้ออกมา แล้วกดบั้นท้ายเจ้าจิ้งจอกน้อยลงไปที่พื้น

ลูกจิ้งจอกหิมะซึ่งนอนมึนงงอยู่บนพื้น “…”

เยี่ยนจิ่วเฉาจับเข้าไปที่คอของอวี๋หวั่น

อวี๋หวั่นแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยใช้ผ้าห่มที่อบอุ่นเช่นนี้ ไม่ทันไรก็รู้สึกร้อนเสียแล้ว เธอขยับตัว และเตะผ้าห่มผ้าไหมหลุดออก เผยให้เห็นเสื้อผ้าซึ่งทั้งเก่าทั้งขาด มองดูยากจนยิ่งนัก

เยี่ยนจิ่วเฉาที่คิดจะบีบคอนางให้ตาย ก็หยุดชะงัก

อวี๋หวั่นแต่งตัวเช่นนี้ เรียกว่ามอซอก็ยังฟังดูดีไปสักหน่อย รอบกายของเยี่ยนจิ่วเฉาไม่มีผู้ใดที่สภาพน่าเวทนาเช่นนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าสตรีผู้นี้คือคนที่ซั่งกวนเยี่ยนส่งมาขึ้นเตียงกับเขา

ไม่กลัวว่าเราจะรังเกียจรึ?

ซั่งกวนเยี่ยนย่อมรู้ดี สตรีที่คุณลักษณะไม่งามพร้อมเช่นนี้

หรือว่าเสนอตัวมาเอง

เยี่ยนจิ่วเฉาอยากจะฆ่านางเข้าไปใหญ่!

จิ้งจอกหิมะน้อยกระโดดเข้ามาเป็นครั้งที่สาม ใจที่ต้องการปกป้องอวี๋หวั่นของมัน ตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นประจักษ์แก่ฟ้าแล้ว!

มันกระโดดเข้าไปในอ้อมอกของอี๋หวั่น ยืนอยู่บนไหซึ่งถูกอวี๋หวั่นกอดจนอุ่น จ้องไปทางเยี่ยนจิ่วเฉาอย่างดุร้าย มันใช้แรงเหยียบหนึ่งครั้ง!

ตุบ!

ฝาปิดไหถูกมันเหยียบจนตกลงไป

จิ้งจอกหิมะซึ่งเดิมทีควรจะพุ่งปราดเข้าอย่างรวดเร็วดังศรธนู กลับลื่นพรืด หน้าดิ่งลงและคะมำไปกับพื้น!

ม...มึนหัวอีกแล้ว...

เมื่อฝาเปิดออก กลิ่นหอมของเนื้อก็โชยออกมาจากไห

เยี่ยนจิ่วเฉาผู้ซึ่งอยู่โดยปราศจากความอยากอาหารมาเป็นเวลาหลายวัน อยู่ๆ ก็รู้สึกว่าท้องร้องจ๊อกๆ

ลูกชิ้นลูกหนึ่งกลิ้งออกมาอยู่ที่ปากไห ดูราวกับจะตกลงพื้นแต่ก็ไม่ตกเสียที แม้สีสันจะดูไม่สวยงามเท่าไรนัก ไม่ประณีตเรียบร้อย ทว่ามันช่างหอมยิ่งนัก

เยี่ยนจิ่วเฉาใช้ปลายนิ้วเย็นเฉียบของเขาหยิบลูกชิ้นขึ้นมา ใส่ปากเคี้ยวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

เพียงชั่วพริบตาเดียวก็เคี้ยวหมด เยี่ยนจิ่วเฉากินต่ออีกลูก

ยิ่งกินก็ยิ่งเร็วขึ้น

ผ่านไปเพียงเค่อ เดียว เยี่ยนจิ่วเฉาก็แย่งไหมาเสียแล้ว มือซ้ายอุ้มไห มือขวาหยิบลูกชิ้นกิน เขากินเข้าปากไปทีละชิ้นๆ จนแก้มพองออกมาเป็นก้อน

ไม่น่าเชื่อว่าลูกชิ้นครึ่งไหเพียงครู่เดียวก็พร่องลงจนมองเห็นก้นไหเสียแล้ว

คุณชายเยี่ยนที่แม้แต่ข้าวครึ่งถ้วยก็ยังกินไม่ลง แต่ไหนแต่ไรมิเคยกินข้าวอิ่ม

เขามองไปยังด้านข้างของอวี๋หวั่น

ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ เขาจับปลายนิ้วขาวผ่องของอวี๋หวั่นขึ้นมางับ

……

อีกด้านหนึ่ง ลุงวั่นจองห้องเรียบร้อยแล้ว เดิมทีคิดว่าเมื่อใกล้ถึงสิ้นปี ลูกค้าก็จะมากขึ้น ยากที่จะจองห้องใหญ่ ใครจะรู้ว่าเมื่อไปถึงก็จองได้ห้องใหญ่เสียอย่างนั้น

จองห้องได้นับว่าเป็นเรื่องดี จะได้มิต้องมีปากเสียงกับใคร ผู้อื่นเกิดโทสะก็ไม่เท่าไรนัก แต่หากนายน้อยโมโหขึ้นมา นั่นเป็นเรื่องใหญ่

หลังจากที่ลุงวั่นจองห้องใหญ่แล้ว ก็สั่งให้ทางสถานีส่งสารทำอาหารเบาท้องมาสองสามอย่าง ไม่กี่วันมานี้ นายน้อยไม่ค่อยได้กินอะไร เขาครุ่นคิด อาจเป็นเพราะกินเนื้อสัตว์มากเกินไป อาจต้องเปลี่ยนเป็นอาหารรสอ่อนสักหน่อย

อาหารจำพวกลูกชิ้นหรือเนื้อแผ่นเทือกนี้ ห้ามจัดวางขึ้นโต๊ะเป็นอันขาด!

เมื่ออาหารพร้อมแล้ว เขาจึงไปเรียกนายน้อยบนรถม้า

ไหนเลยจะรู้ว่าเมื่อเปิดม่านออก กลับเห็นฉากที่เยี่ยนจิ่วเฉากำลังงับปลายนิ้วอวี๋หวั่นอยู่พอดี

เขายืนตะลึงงันอยู่เช่นนั้น

............................................