webnovel

ตอนที่ 055

ตอนที่ 55 อันตรายที่แฝงตัวอยู่

เฝิงเยี่ยนฮวายเงียบลง

หยางปินจึงยิ้มเยาะออกมา “เป็นอะไรไป พูดไม่ออกเลยหรือไง”

เฝิงเยี่ยนฮวายเงยหน้าขึ้นมองทุกคนที่อยู่ตรงหน้าเขา ทันใดนั้นก็พูดขึ้นว่า “ผมอยากจะคุยกับคุณหมอเย่ตามลำพัง”

“ไม่ได้ !” หยางปินตัดสินใจแทนเย่หนิงทันที

น้ำเสียงของเฝิงเยี่ยนฮวายนั้นฟังดูแล้วแย่ลงอย่างมาก “คุณตำรวจครับ ผมขอพูดอะไรกับคุณสักหน่อยนะครับ การที่พวกคุณเอาเวลามาคุยกับผมเนี่ย มันเป็นความคิดที่ไร้สาระมากเลยนะครับ สิ่งที่พวกคุณได้ก็แค่เสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ก็เท่านั้น ไม่ได้อะไรกลับมาเลย”

“ปล่อยเขาเถอะครับหัวหน้าหยาง” เสิ่นอี้ส่งสายตาไปที่หยางปิน “พวกเราออกไปก่อนดีกว่าครับ”

หยางปินมีท่าทางลังเล “ศาสตราจารย์เสิ่น......”

เสิ่นอี้พูดขึ้นอย่างไม่สนใจอะไร “ผมก็แค่อยากจะรู้ว่าเขาจะพูดอะไรออกมาอีก”

หลังจากที่เสิ่นอี้และคนอื่น ๆ ออกไปจากห้องสืบสวนแล้ว เย่หนิงก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา แล้วถามเฝิงเยี่ยนฮวายขึ้นว่า “เฝิงเยี่ยนฮวาย นายอยากจะพูดอะไรกับฉันก็พูดมาเถอะ”

เฝิงเยี่ยนฮวายยื่นคางไปเป็นเชิงบอกให้เธอนั่งลง “อาหนิง นั่งลงก่อนสิ”

เย่หนิงได้แต่ดึงเก้าอี้ออกมาอย่างอดกลั้น แล้วนั่งลงตรงหน้าของเฝิงเยี่ยนฮวายพลางพูดขึ้นว่า “เฝิงเยี่ยนฮวาย นายจะพูดอะไรก็รีบพูดมาเถอะ ถ้าหากนายไม่ได้ทำผิดอะไรจริง ๆ พวกฉันก็คงไม่มีทางที่จะไม่โทษว่าเป็นความผิดนายหรอก”

เฝิงเยี่ยนฮวายจ้องเย่หนิงอย่างไม่ละสายตา แล้วอยู่ ๆ ก็พูดขึ้นว่า “อาหนิง เธอเชื่อที่ฉันพูดหรือเปล่า ?”

เย่หนิงกลับไม่ตอบอะไรออกไป

ถึงแม้ว่าเธออยากจะเชื่อคำพูดของเฝิงเยี่ยนฮวายมากเพียงใด แต่เธอก็ไม่ได้ลืมสถานะหมอนิติเวชของตนเอง สิ่งที่เธอจะเชื่อก็คือพยานหลักฐาน ไม่ใช้ความรู้สึกของตนเองที่คล้อยตามคำพูดอีกฝ่ายอย่างไม่ลืมหูลืมตา

เฝิงเยี่ยนฮวายหัวเราะขึ้นอย่างเยาะ ๆ “เธอไม่เชื่อใช่ไหมล่ะ ?”

เช่นนั้นเย่หนิงได้แต่พูดว่า “เฝิงเยี่ยนฮวาย ถึงแม้ฉันพร้อมจะเชื่อทุกอย่างที่นายพูดมา แต่...นายเคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าสิ่งที่นายพูดมานั่นมันออกจะลวงโลกเกินไปหน่อย ?”

“ลวงโลกเหรอ ? ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะ” เฝิงเยี่ยนฮวายพูดขึ้นอย่างไม่รีบร้อน “สิ่งที่ฉันพูดมามันเป็นความจริง ! อาหนิง ถ้าพวกเธอไม่เชื่อก็ไม่จำเป็นต้องมาถามฉันอีก ไม่ว่าฉันจะพูดอะไรไออกไปพวกเธอก็คงไม่เชื่ออยู่ดี ใช่ไหมล่ะ ? ถ้าอย่างนั้นมันจำเป็นด้วยเหรอที่จะต้องถามฉัน ? ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้นที่เมืองตงไห่ แต่ฉันขอบอกเธอตามตรงเลยนะ ตัวฉันไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เหล่านั้นเลยจริง ๆ”

ปกติแล้วเย่หนิงก็ไม่ได้เชื่อคำพูดที่เฝิงเยี่ยนฮวายพูดออกมาอย่างง่าย ๆ อยู่แล้ว เธอหยุดคิดสักพัก แล้วถามขึ้นมาว่า “ถ้าอย่างนั้นทำไมนายถึงมาปรากฏตัวที่หมู่บ้านว่างยาชุนได้ล่ะ”

“ฉันก็บอกเธอไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าเพราะว่าฉันเห็นข้อความในอินเตอร์เน็ต จึงสงสัยว่าในหมู่บ้านว่างยาชุนจะมีผีดิบอยู่ ก็เลยไปที่นั่น”

“แล้วคน ๆ นั้นเป็นผีดิบแน่ใช่ไหม” เย่หนิงต้องถามข้อสงสัยที่อยู่ในใจเธอออกมา

“แล้วเธอคิดว่ายังไงล่ะ เธอคิดว่าคน ๆ นั้นเป็นคนปกติเหรอ ขนาดกระสุนยังยิงไม่เข้า อย่างนั้นมันใช่คนปกติหรือเปล่าล่ะ”

“แล้วถ้ามีคนใช้ยาบางอย่างเปลี่ยนมันให้กลายเป็นแบบนั้นล่ะ”

“ไม่มีทางหรอก !” เฝิงเยี่ยนฮวายปฏิเสธขึ้นทันที “ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง แล้วทำไมแผ่นยันต์ของฉันถึงได้ผลล่ะ ? ฉันใช้วิธีที่สามารถจัดการกับผีดิบโดยเฉพาะ”

“แต่หลังจากนั้นมันก็ไม่ได้ผลแล้วไม่ใช่หรือไง ? พวกฉันเอาแผ่นยันต์กับเชือกชุบหมึกออก ผีดิบตัวนั้นก็ไม่ขยับเขยื้อนอะไร เรื่องนี้นายจะอธิบายอย่างไรล่ะ ?”

“ไม่ใช่ว่ามันจะอธิบายไม่ได้นะ !” เฝิงเยี่ยนฮวายมองเย่หนิง แล้วลดเสียงพูดลง “รู้หรือเปล่าว่าทำไมฉันถึงให้พวกเขาออกไปก่อน ก็เพราะว่าเรื่องนี้ ฉันสามารถพูดกับเธอได้เพียงคนเดียว ฉันเชื่อใจเพียงแค่เธอคนเดียว”

เย่หนิงรู้สึกอึ้งไปอย่างมาก “เฝิงเยี่ยนฮวาย นายพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงกัน ?”

ท่าทีของเฝิงเยี่ยนฮวายดูจะจริงจังขึ้นมา “อาหนิง เธอบอกฉันมาตามตรงนะ ในกลุ่มตำรวจของพวกเธอ มีใครเคยสื่อสารกับศพนั่นหรือเปล่า นอกจากคนในกลุ่มตำรวจแล้ว ยังมีคนอื่น ๆ ที่เคยสื่อสารกับศพนั่นด้วยหรือเปล่า”

“นาย......” ทั้งร่างของเย่หนิงสะดุ้งขึ้นมาทันที “เฝิงเยี่ยนฮวาย นายคงไม่ได้สงสัยคนในกลุ่มตำรวจของพวกฉันหรอกใช่ไหม ?”

เฝิงเยี่ยนฮวายเงียบไปสักพัก สุดท้ายก็พยักหน้ายอมรับ “ใช่แล้ว เธอพูดไม่ผิดหรอก ฉันสงสัยคนในกลุ่มตำรวจของเธอจริง ๆ”

“เป็นไปไม่ได้ !” เย่หนิงปฏิเสธขึ้นทันที “นายอย่าพูดเหลวไหลนะ !”

“ฉันไม่ได้พูดเหลวไหลนะ นอกจากนี้แล้วมันก็ไม่มีความเป็นไปได้อื่น ๆ แล้ว ต้องมีใครในกลุ่มพวกเธอทำอะไรบางอย่างกับศพแน่”

“ทำอะไรบางอย่าง ?” เย่หนิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ ฝืนเก็บความโกรธของตัวเองไว้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เฝิงเยี่ยนฮวาย นายลองบอกฉันมาสิว่าพวกฉันจะทำอะไรกับผีดิบนั่นได้ ?”

เฝิงเยี่ยนฮวายไม่สนใจท่าทีเย็นชาของเย่หนิง เขามองเธอแล้วลดเสียงต่ำ “หลังจากที่พวกเธอดึงแผ่นยันต์กับเชือกชุบหมึกออกไปแล้ว ศพนั่นเป็นอย่างไรบ้างล่ะ นอกจากว่ามันไม่ขยับแล้ว ยังมีความเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ อีกบ้างไหม”

“นายหมายความว่ายังไง ?”

“มันยังอยู่หรือเปล่า ?”

เย่หนิงตะลึงไปในทันที

“อาหนิง” เฝิงเยี่ยนฮวายเร่งถามขึ้นอีกครั้ง “ร่างของศพยังอยู่หรือเปล่า ? ถ้าฉันเดาไม่ผิด ตอนนี้ศพนั่นคงไม่เหลืออยู่แล้วใช่ไหม ? มันเน่าจนหลอมรวมกันไปแล้วใช่ไหม ?”

“นายรู้ ?” ในใจของเย่หนิงยิ่งสงสัยในตัวเฝิงเยี่ยนฮวายมากขึ้น เขากลับรู้แม้กระทั่งเรื่องนี้ เขาคงคาดการณ์เรื่องนี้ไว้ล่วงหน้าแล้วสินะ

เธออดไม่ได้ที่จะกำมือแน่นขึ้น

พอนึกถึงนักศึกษาเหล่านั้นที่ต้องตายลงเพราะเรื่องนี้ เธอจึงไม่สามารถระงับไฟโกรธในใจไว้ได้อยู่

“อาหนิง เธอใจเย็นลงก่อนนะ ฟังฉันพูดให้ชัดเจนก่อน” เฝิงเยี่ยนฮวายผ่อนคลายน้ำเสียงลง แล้วพูดขึ้นอย่างช้า ๆ “ความเป็นไปได้ในเรื่องนี้มันน้อยมาก ดังนั้นก่อนหน้านี้ฉันก็เลยไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน แต่ถ้าเป็นอย่างที่ฉันคิดจริง ๆ เรื่องนี้มันก็ค่อนข้างที่จะร้ายแรงมาก ร้ายแรงมากกว่าที่เธอจะคิดถึงไปมากเลยล่ะ เพราะข้างตัวเธอนั้นมีศัตรูที่น่ากลัวกำลังแฝงตัวอยู่ ถ้าไม่ระวัง ทั้งเธอและคนรอบข้างเธอคงได้รับอันตรายถึงชีวิตแน่ !”

“นายหมายความว่าไง ?”

“อาหนิง ก่อนหน้านี้ฉันก็เคยพูดกับเธอแล้ว มันค่อนข้างยากที่เราจะฆ่าผีดิบได้ และฉันก็เคยบอกเธอไปแล้วว่ามีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่เราจะฆ่าผีดิบได้ แต่นั่นไม่ใช่ทางเดียวหรอก ที่บอกว่าเป็นหนทางเดียวนั้นเพราะว่ามันเป็นวิธีสำหรับพวกมนุษย์เราต่างหาก สำหรับมนุษย์อย่างเราแล้ว มันเป็นวิธีเดียวที่จะฆ่าผีดิบลงได้อย่างเด็ดขาด แต่ในความเป็นจริงแล้วมันยังมีวิธีอื่นที่จะกำจัดมันได้ เพียงแต่มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเราสามารถทำได้เท่านั้นเอง”

คำพูดที่เฝิงเยี่ยนฮวายพูดออกมายิ่งฟังแล้วยิ่งดูเหมือนอันตราย เย่หนิงที่ได้ฟังก็รู้สึกขนลุกขึ้นมา “เฝิงเยี่ยนฮวาย นายกำลังจะพูดอะไรกันแน่ ?”

เฝิงเยี่ยนฮวายพยักหน้าออกมาอย่างจนใจ “ฉันรู้ว่าคำพูดพวกนี้ ยากเกินกว่าที่คนจะรับได้ แต่มันคือความจริง ! บนโลกใบนี้มันมีผีดิบอยู่จริง ๆ ผีดิบไม่ได้อยู่แต่ในตำนานเรื่องเล่าเท่านั้น แต่หลังจากผ่านเหตุการณ์บางอย่างมา ผีดิบที่ยังอยู่บนโลกนี้ก็มีเหลืออยู่ไม่เท่าไหร่แล้ว อีกทั้งสภาพและความคุ้นเคยในการดำรงชีวิตของคนยุคปัจจุบันก็ต่างไปจากอดีตอย่างมาก จำนวนผีดิบเลยลดลงอย่างรวดเร็ว”

“สิ่งที่ฉันอยากฟังไม่ใช่เรื่องนี้” เย่หนิงขัดเฝิงเยี่ยนฮวายขึ้น “ฉันแค่อยากได้คำอธิบายที่มันชัดเจนว่าที่ศพมันกลายเป็นน้ำหนองมันเป็นเพราะอะไรกันแน่ ?”

“นั่นมันเป็นผีดิบเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ถ้ามันจะเน่าเปื่อยมันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกไม่ใช่เหรอ ?”

เฝิงเยี่ยนฮวายยังไม่ทันพูดจบ ก็เห็นเย่หนิงคล้ายจะอาละวาดขึ้นมา เขาจึงเร่งพูดขึ้นอย่างรีบร้อน “จริง ๆ นะอาหนิง และสิ่งที่ฉันพูดกับเธอไปเมื่อกี้ มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องเหลวไหลนะ แล้วฉันก็ไม่ได้พูดชุ่ย ๆ ตามใจชอบด้วย เรื่องที่ว่าทำไมจำนวนผีดิบถึงได้ลดลงขนาดนี้ มันมีสาเหตุของมันอยู่ ของบางสิ่งถึงแม้ว่าจะมีน้อย แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีอยู่เลย !”