บทที่ 482 ตกใจ
หลังจากที่ฝึกซ้อมในสนามรบจริงแล้ว เผยอี้ก็ได้รับภารกิจมาหนึ่งภารกิจ
ภารกิจนี้เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดชนิดใหม่ข้ามประเทศ ซึ่งมีผลต่อความปลอดภัยของหัวเซี่ย หลังจากที่ตามสืบก็รู้ว่ายาเสพติดนั้นมาจากต่างประเทศ โดยใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการขนส่งยา
เหตุผลแรกก็เพื่อไม่ให้ตกเป็นที่สงสัยของทางตำรวจ เจ้าหน้าที่มักคิดไม่ถึงว่าเด็กเหล่านี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ส่วนเหตุผลที่สองก็เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ผู้ร่วมทีมจะถูกจับได้
เผยอี้ตามเบาะแสนี้มา จนถึงต่างประเทศ เข้าไปอยู่ในเขตที่อยู่อาศัยของผู้ยากไร้บริเวณชานเมืองของลอนดอน และแฝงตัวเข้าไปอยู่ในแก๊งค์ค้ายา คลุกคลีอยู่กับสิ่งชั่วร้ายไม่เว้นแต่ละวัน
ผู้คนที่อยู่รอบๆ ได้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของแก๊งค์ค้ายากลุ่มนี้แล้ว ความขัดแย้งของทั้งสองฝ่ายรุนแรงมาก มักจะมีพวกกลุ่มมาเฟียเข้ามาก่อความวุ่นวาย มีทั้งเสียงปืนและการฆาตกรรมที่บางทีแม้แต่ตำรวจยังไม่ยอมยื่นมือเข้ามา
เด็กน้อยผู้ยากไร้ที่อาศัยอยู่ที่นี่ ส่วนมากถูกควบคุมโดยแก๊งค์ค้ายา เพื่อผลตอบแทนอันน้อยนิด ต้องฟังคำสั่งของแก๊งค์ ซ่อนยาเสพติดเอาไว้กับตัวแล้วเดินทางไปยังประเทศต่างๆ หนึ่งในนั้น หัวเซี่ยคือประเทศที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด
เขาอยู่ที่นี่มาได้สักระยะแล้ว ได้เบาะแสมามากพอสมควร ช่วยหาที่ซ่อนของกลุ่มค้ายาหลายกลุ่มส่งให้กับทางตำรวจ เลยถูกกลุ่มค้ายาในพื้นที่จับตามอง ช่วงนี้การตรวจค้นในละแวกนี้เข้มงวดมาก คิดว่าอีกไม่นานคงต้องเปลี่ยนที่
แก๊งค์ค้ายาในพื้นที่ก็คงจะรับรู้ถึงความผิดปกติแล้ว ช่วงนี้เลยเกิดบ้าขึ้นมา จับเด็กจำนวนไม่น้อยไปอย่างต่อเนื่อง คงจะกำลังพยายามหลอกล่อให้สายตำรวจออกมา
เสียงปืนหยุดลง ผู้คนหลายคนที่อยู่ในบ้านต่างลุกขึ้น
เผยอี้เดินไปอยู่ข้างหน้าต่าง เปิดผ้าม่านและมองทอดยาวออกไป ท่ามกลางแสงไฟข้างทาง ยังไม่ได้ยินเสียงฝีเท้า เขามองไปตามเงาบนพื้น เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้าเข้ามาทางนี้
ท่ามกลางเสียง ‘ติ๋งๆๆ’ กลิ่นเหม็นคาวเลือดกระจายออกมาหลังจากที่ควันกลุ่มหนึ่งลอยออกจากปากกระบอกปืน เพื่อนร่วมขบวนการที่อยู่ในบ้านต่างกำลังเตรียมแผนเพื่อหนีออกจากที่นี่ และเฉินหมิ่นซูเองก็อยู่ท่ามกลางคนเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
“ช่วงนี้ ‘อีกา’ เริ่มสงสัยแล้ว ข่าวเรื่องการขนยาออกจากประเทศเมื่อครั้งที่แล้วได้ถูกกระจายออกไป หลังจากที่เบื้องบนจับตัวเด็กพวกนั้นได้ ‘อีกา’ ก็เริ่มรู้ตัว และตรวจค้นอย่างเคร่งครัดมากขึ้น” เผยอี้เดินออกห่างจากหน้าต่าง ก่อนจะนั่งลงและพูดว่า “ตอนนี้ในแก๊งค์กำลังสืบหาคนทรยศ เริ่มมีคนสงสัยว่าเป็นฉันแล้ว”
เขามีใบหน้าของชาวเอเชียและเพิ่งเข้ามาอยู่ในแก๊งค์ค้ายาได้ไม่นานนัก หากไม่ใช่เพราะไม่สามารถสืบข้อมูล ‘ฐานะที่แท้จริงของเขาได้’ รวมทั้งหลังจากที่เข้ามาอยู่ในแก๊งค์ เขาทั้งโหดเหี้ยมและกล้าลงมืออย่างเลือดเย็น จนได้รับคำชื่นชมจาก ‘เบื้องบน’ ในเวลาอันสั้นแล้วล่ะก็ บางทีอาจจะถูกจับได้ตั้งแต่ตอนที่แก๊งค์ค้ายาตามหาพวกทรยศเมื่อครั้งก่อนไปแล้ว
แม้ว่าเขาจะอยู่อย่างสงบเสงี่ยมมาสักระยะแล้ว แต่การขนยาเข้าสู่หัวเซี่ยก็ยังพลาดอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยของเบื้องบน
การลงโทษคนทรยศเกิดขึ้นต่อหน้าพวกเขาหลายต่อหลายครั้ง การลงโทษของกลุ่มค้ายานั้นชวนขนลุก นอกจากเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูแล้ว ในขณะเดียวกันก็อยากลองใจพวกเขาด้วย
ไม่ใช่ว่าเผยอี้ไม่รู้ถึงอันตรายที่นี่ แต่ตอนนี้เขายังไปไหนไม่ได้ ในมือของเขายังมีข้อมูลบางอย่างที่ยังไม่ได้ส่ง ช่วงนี้ก็ตกเป็นที่จับตามองอย่างเข้มงวด ทันทีที่ทหารหัวเซี่ยและลอนดอนร่วมมือกัน จัดการเอเย่นค้ายาเสพติดจนหมดสิ้น เขาจึงจะสามารถออกจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัย
“ไม่งั้น นายเอาเอกสารมาให้ฉันมั้ย” ท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน เฉินหมิ่นซูยังไม่รู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้นั้นร้ายแรงเพียงใด
“แค่ฉันเอาเอกสารพวกนี้กลับไป ก็จะทลายรังเจ้าพวกนี้ได้แล้วไม่ใช่หรือ” เธอปรบมือทีหนึ่งและพูดด้วยท่าทีผ่อนคลาย
“ถึงตอนนั้น พอไอ้พวกสวะพวกนี้ถูกกำจัด หลังจากที่กลับไปที่หัวเซี่ย เราก็จะมีผลงาน คุณปู่เผยจะต้องให้รางวัลเราแน่ แล้วก็จะได้คุยเรื่องงานแต่งของเราสักที”
ทันทีที่ได้ยินคำพูดเช่นนี้จากหล่อน เพื่อนร่วมขบวนการหลายคนในห้องต่างก็ยิ้มตามอย่างผ่อนคลาย
ถูกส่งมาปฏิบัติภารกิจอันตรายในครั้งนี้ ทุกคนล้วนอกสั่นขวัญแขวน บางครั้งถึงขั้นที่ต้องมองดูการสำเร็จโทษพวก ‘คนทรยศ’ ต่อหน้าธารกำนัล อีกทั้งหลายคนที่ถูกลงโทษก็เป็นชาวหัวเซี่ยเหมือนกัน อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ อาจจะสูญเสียชีวิตได้ตลอดเวลา บางทีจะต้องแย่งชิงพื้นที่และต้องสู้สุดชีวิตเพื่อเส้นทางการค้ายาเสพติด สำหรับทุกคนแล้วเป็นเรื่องที่กดดันมาก ยากที่จะผ่อนคลายลงได้
เฉินหมิ่นซูเพิ่งจะมาไม่กี่วันก่อนหน้านี้ หล่อนเป็นผู้หญิงและที่บ้านก็รักและตามใจเป็นอย่างมาก บิดาก็มีอำนาจทางการทหาร ภารกิจที่มีความเสี่ยงแบบนี้ ความจริงแล้วหล่อนไม่ควรมาเข้าร่วมด้วยเลย
แต่เพราะเดิมพันกับเผยอี้เอาไว้ ทำให้หล่อนคิดถึงเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา คิดหาวิธีมาร่วมการฝึกภาคสนามจริง อาศัยแค่ความสามารถของหล่อน แน่นอนว่าคะแนนการฝึกภาคสนามของหล่อนไม่ได้ถือว่าดีนัก
บวกกับการที่พ่อของหล่อนก็รู้เรื่องนี้อยู่บ้าง จึงได้ห้ามหล่อนเอาไว้ตั้งแต่ตอนแรก
นอกจากจะเป็นห่วงว่าลูกสาวจะไปก่อเรื่องอย่างไม่รู้จักกลัวเกรงแล้ว ก็ยังกลัวว่าหล่อนจะเป็นอะไรไปเพราะภารกิจนี้
แต่ใครจะรู้ว่าเฉินหมิ่นซูกลับจะมาให้ได้ ไม่รู้ว่าใช้วิธีอะไรและปลอมตัวอย่างไร จึงได้เบาะแสว่าพวกของเผยอี้อยู่ในลอนดอนและบุกเข้ามาอย่างบ้าบิ่น
แม้หล่อนจะมีนิสัยเลิ่นเล่อ แต่ก็ทำให้คนอื่นนอกจากเผยอี้ชื่นชอบได้
จากที่ได้อยู่ด้วยกันในหลายวันนี้ หล่อนแสดงออกทุกทางว่าสนิทสนมกับเผยอี้ ในขณะเดียวกันก็ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าทั้งสองสนิทสนมกันจนถึงขั้นคุยเรื่องแต่งงานกันแล้ว เพื่อนร่วมขบวนการมีคนที่ให้กำลังใจหล่อน ทำให้เฉินหมิ่นซูได้ใจมาก ช่วงนี้จึงพูดถึงเรื่องแต่งงานกับเผยอี้บ่อยมาก
ที่อดทนกับเฉินหมิ่นซูมาหลายวันขนาดนี้ นอกจากเพราะอยากให้หล่อนรนหาที่ จนทำให้ ‘อีกา’ เบี่ยงเบนความสนใจส่วนหนึ่งไปที่เฉินหมิ่นซูแล้ว เผยอี้ก็ไม่มีเป้าหมายอื่นใดอีก
แต่ว่า พอตอนนี้มาได้ยินคำพูดมั่วซั่วของหล่อน เขาก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
ท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน ใบหน้าของเขาไม่เก็บงำสีหน้ารังเกียจเลยแม้แต่น้อย “ให้เธอหรือ” เขาถอนหายใจ แล้วหันหน้าหนี ก่อนจะเปิดผ้าม่าน กลัวว่าหากตนเองจ้องเฉินหมิ่นซูนานกว่านี้ ความรังเกียจในใจจะปะทุขึ้นมา
“หลังจากวินาทีที่เธอก้าวเข้ามาในนี้ การจะออกไปก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไปแล้ว”
หลังจากที่เฉินหมิ่นซูเข้ามาอยู่ในเขตภารกิจก็ถูกปกป้องเป็นอย่างดี ไม่ได้รู้แผนการของกลุ่มเลยแม้แต่น้อย ความคิดหลายอย่างไร้เดียงสาจนเข้าขั้นโง่ จนทำให้เขาแทบจะทนไม่ไหว
กลิ่นคาวเลือดจากข้างนอกเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ อันธพาลกลุ่มหนึ่งลากร่างหลายร่างที่ราวกับกำลังจะขาดใจมุ่งหน้าเข้ามา
“บอกมาตามความจริง ไม่งั้นแกอาจจะอยู่ไม่ถึงวันที่ถูกโยนลงไปเป็นอาหารให้กับฉลามในทะเล”
เสียงจากชายคนหนึ่งดังขึ้น ในขณะเดียวกันเสียงร้องไห้และร้องขอชีวิตของเด็กๆ ก็ดังขึ้นด้วยเช่นกัน
เพื่อนร่วมขบวนการที่เห็นใจเพราะเผยอี้ทำไม่ดีกับเฉินหมิ่นซู ในขณะที่กำลังจะเกลี้ยกล่อมให้เผยอี้ดีกับเฉินหมิ่นซูบ้างก็ล้วนพูดอะไรไม่ออก เมื่อได้ยินเสียงต่างก็ลุกขึ้นมา
เฉินหมิ่นซูกระตุกคิ้วและลุกขึ้นตาม เธอขยับเข้าไปใกล้หน้าต่าง เห็นชาวต่างชาติหลายคนลากเด็กที่ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดเดินมุ่งหน้ามาท่ามกลางแสงไฟข้างทางได้ทันที
เนื้อตัวของเด็กหลายคนเต็มไปด้วยบาดแผล มีหลายคนที่เลือดกลบเต็มปาก จนไม่สามารถพูดได้แล้ว หนึ่งในนั้นขาหักไปข้างหนึ่ง ตอนที่ลากเข้ามาบนพื้นกลายเป็นคราบเลือดยาวตามมาเป็นแนว
เมื่อเห็นภาพนี้ เพื่อนร่วมขบวนการทั้งสองก็ไม่กล้ามองด้วยตาเปล่าแล้ว แต่เพราะช่วงนี้เผยอี้พบเจอการลงโทษมามากแล้ว สีหน้าจึงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
แต่สำหรับเฉิงหมิ่นซู หล่อนรู้อยู่แล้วว่าภารกิจที่ตนเองเข้าร่วมในครั้งนี้อันตรายมาก แต่หล่อนไม่รู้จักนิยามของคำว่าอันตรายเลยสักนิด พอได้เห็นฉากนองเลือดแบบนี้เป็นครั้งแรก ลูกตาทั้งสองข้างก็แทบจะถลนออกมา
คนพวกนั้นเดินผ่านชั้นล่างไปแล้ว หล่อนราวกับเพิ่งรู้สึกตัว แล้วอยู่ ๆ ก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมา!