webnovel

ยุ้งฉาง

ความเคยชินปลุกป๊าให้ตื่นตั้งแต่ตีห้าตามปกติ ตรงเผงชนิดอายุลดลงเกือบสี่สิบปีก็เอาชนะไม่ได้ สังหรณ์ของผู้เป็นพ่อจับความเคลื่อนไหวตรงข้างเตียงฉับไวแม้ยังงัวเงีย เห็นทารกน้อยกำลังพยายามหาทางปีนออกจากที่คุมขังอย่างไม่ลดละ เขาต้องเท้าเอวดุเสียงเหนื่อยใจถึงหยุด

"ป๊าเห็นนะหม่อน"

"แอ้?"

"เดี๋ยวก็ตกลงไปแข้งขาหักหรอก เฮ้อ เด็กคนนี้นี่ เมื่อคืนยังไม่เข็ดรึ"

ถึงถูกจับได้คาหนังคาเขาหม่อนก็ยังตีหน้าซื่อ นั่งตาใสให้ความเท็จอยู่ในเตียงไม้อย่างเรียบร้อย ไร้เดียงสา ไร้ความผิด ที่ฉี่ราดกับพยายามปีนหนีก่อนหน้านี้ไม่ใช่ความจริง

ผู้ปกครองเอ็นดูเกินกว่าจะดุลง เขาอุ้มเด็กน้อยเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาสักห้านาทีก่อนกลับไปที่เตียง มือกระชากผ้าห่มขึ้นเพื่อปลุกสามีด้วยวิธีป่าเถื่อนกว่าปกติ

"แด๊ด! ตื่นเดี๋ยวนี้! เราต้องไปจัดแจงทำกับข้าวให้ลูกนะ เอาเตียงตามมาเร็ว"

"อือออ"

"ใอ้ เอว ดาดา" หม่อนช่วยเรียกพ่อด้วยอีกแรง ทารกน้อยตื่นตาใสตั้งแต่ยังไม่หกโมงดีต่างจากพวกพี่ ๆ ที่ยังนอนอุตุ ร้องเล่นระหว่างป๊าอุ้มลงบันไดไปตลอดทาง ดีใจที่ในที่สุดก็เป็นไทจากที่คุมขังสักที

ทารกจะออกไปแตะขอบฟ้า

แด๊ดแบกเตียงไม้ไปตั้งคอกกลางห้องครัว ป๊าวางลูกน้อยไว้ข้างในอย่างระมัดระวัง

"แอะ—"

เด็กไม่ถึงขวบผิดหวังเหมือนพึ่งโดนฟ้องล้มละลาย

"ป๊าต้องทำกับข้าวเดี๋ยวเดียว" คำอธิบายไม่ทำให้สีหน้าทารกดีขึ้นเลย จนสามียื่นขวดนมเต็มเปี่ยมมาให้เขาใช้เป็นอาวุธ "กินนมกล้วยรองท้องรอไปก่อนไหมลูก"

มืออวบอ้วนฉวยขวดไปทันที เป็นอันว่ารับสินบน

ประโยชน์ของการตั้งเตียงไว้กลางครัวคือสามารถเฝ้าได้ตลอดเวลา ทำอาหารไปก็ผลัดกันมองลูกไป ทารกจอมปีนยืนขาแข็งเกาะขอบเตียง จ้องผู้ใหญ่สองคนที่วิ่งวุ่นไปมาด้วยดวงตาอยากรู้อยากเห็นผสมใช้ความคิด รอหาจังหวะปีนออกไปท่องโลกกว้าง

"เนื้ออยู่ในตู้เย็น เอามาทอดสักจานสองจาน" ป๊าเร่งรุดไปเช็กของในตู้กับข้าว เตรียมทำมื้อเช้าแรกหลังลูกมาอยู่บ้าน ที่สำคัญอย่าลืมว่ามีแขกอีกหนึ่ง โรมเป็นเด็กวัยกำลังโตไม่รู้ทานเยอะแค่ไหน กะปริมาณไม่ถูกเลย เจ้าบ้านพร่ำบ่นไม่หยุดปากตอนสองมือทำงานวุ่นวาย ขัดกับความสุขลิงโลดในใจ

"ตาย ๆ แป้งจะพอไหมเนี่ย แด๊ดไปจดใส่ตู้เย็นที เดี๋ยวต้องซื้อมายองเนสเพิ่มด้วย ตวันชอบ"

"อืมฮึมม"

ชายหนุ่มสะลึมสะลือไปจดใส่รายการของที่ต้องซื้อ ลายมือคนง่วงเพิ่มลงแผ่นกระดาษที่แปะไว้ตรงหน้าตู้เย็น เขายังเปลี่ยนผ่านระหว่างขั้นงัวเงียกับตื่นเต็มตา นอกจากทำตามคำสั่งแล้วสมองส่วนพูดยังไม่พร้อมใช้งาน

"ดาดะ—ด้าา" ทารกผู้อยากมีส่วนร่วมถึงกับเขย่าขอบเตียงไม้ ดวงตาสุกใสมองกดดันผู้ใหญ่ทั้งสอง ขวดนมที่ว่างเปล่าวางอยู่ข้างเท้า

"จ้า ๆ เร่งใหญ่เลยนะ"

ป๊าเข้ากิจวัตรด้วยการต้มกาแฟ ให้อาหารแมวเด็ก ฉีกซองให้ก้อนขนเงี้ยว ๆ อย่างรวดเร็ว น้องทำสายตาออดอ้อนดีใจที่มนุษย์เล่นด้วย งับนิ้วเล่น ปีนป่ายกางเกง สิ่งแรกเกิดนี่น่ารักไปหมด ส่วนแมวโตวันนี้คงไม่มีเวลาแล้วแหละ เขาเทอาหารสำเร็จรูปให้ทั้งหมาแมวเป็ดไก่ห่าน เดี๋ยวต้องไปเตรียมอาหารมนุษย์ต่ออีก

แขกของบ้านเป็นคนแรกที่เข้าครัวมา

โรมนอนอยู่ห้องข้าง ๆ นี่เอง ได้ยินเสียงทำกับข้าวก๊อกแก๊กนานแล้วแต่ตื่นซะสายโด่ง ป๊าไม่อยากบ่นเพราะลูกเขายังไม่ลงมาเลยสักคน ตื่นสายกว่าชายหนุ่มผู้มาถึงในสภาพตาคล้ำลึกโหล พึ่งตื่นแต่สภาพเหมือนไม่ได้นอน

"ว่าไง หลับสบายไหมหนุ่ม" แด๊ดยิ้มเยาะ การอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนบวกมือจับตะหลิวทำให้ภาพลักษณ์อ่อนโยนเกินกว่าจะไปล้อใครได้ เตรียมอาหารเช้าไปรวมกับในสำรับที่มีทั้งข้าวต้ม ผักดอง หมูทอด ปลาทอด ไข่เยี่ยวม้า เครื่องเคียงเพียบ เสร็จแล้วก็ต้องเตรียมวัตถุดิบสำหรับข้าวกลางวันไปด้วยอีก

"…ผมนอนหลอนทั้งคืน"

ได้ยินคำตอบแล้วแด๊ดหัวเราะเสียงดังสนั่น ภาคภูมิใจที่ในที่สุดเรื่องเล่าของเขาก็เขย่าขวัญคนสำเร็จ ป๊าดุให้ได้ยินแล้วตบด้วยสายตาสักหนึ่งฉาด "ไปแกล้งเพื่อนลูก"

"มีอะไรให้ช่วยไหมครับ" โรมถามเสียงสุภาพ

"ไปเฝ้าเตาให้หน่อยแล้วกัน พอน้ำเดือดแล้วก็ปิดแก๊สเลยนะ"

"ครับ"

ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา หลินจูงมือตวันลงบันไดเรือนมาสู่ห้องครัว ภาพพี่น้องดูแลกันน่ารักชวนให้อมยิ้ม แม้คนพี่จะมีรอยยิ้มเลศนัยระบายอยู่ทั่วริมฝีปาก

"นอนสบายไหมโรม" หลินมาถึงก็แซวคนกลัวผีเลย

"ฮ่า ฮ่า สนุกไหมครับ เพราะพี่เลยผมถึงนอนไม่หลับ" เสียงหัวเราะเสียดสีจากชายหนุ่มผู้ไม่ได้นอน มือกำลังคดข้าวใส่จานแจกทีละใบ "ทุกคนดูเป็นห่วงผมจัง"

"ก็นะ พี่ว่าจะพาแกไปดูยุ้งหลังบ้านไง จะได้มีเวลาเตรียมใจก่อน ได้ไหมป๊า?"

"งูเงี้ยวเขี้ยวขอเยอะแยะเดี๋ยวก็โดนฉกหรอก"

"แต่ป๊าไม่คิดว่ากลิ่นมันตุ ๆ บ้างเหรอ"

"แด๊ดอาบน้ำแล้ว—"

"โอ๊ย หมายถึงเบาะแสค่า"

"—ส่วนป๊านี่ต้องหอมเช็ก"

"ไปจีบกันตรงโน้นไป!" หลินชี้ไปทางหลังบ้านอย่างหมดความอดทน เสียงแหวจริงจังทำเอาผู้เป็นพ่อยกชายผ้ากันเปื้อนขึ้นมาซับน้ำตา

"แด๊ดเขาเป็นห่วงหนูหรอก" ป๊าออกตัวแก้ต่างให้สามี "ตรงนั้นมันงูบ้างแมงป่องบ้าง มีไอ้เข้มาอยู่บ้างรึเปล่าก็ไม่รู้"

"ก็เราอยู่บ้านหลังนี้พอดี มันต้องมีความเกี่ยวข้องอะไรบ้างสิ ที่สำคัญหนูค้นกูเกิลไปก็ไม่ได้ไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยอะ มีแต่พวกชวนบริจาคไม่ก็สัมมนาขายตรง ไปเช็กดูก็ไม่เสียหายนี่"

ในเมื่อความอัศจรรย์ได้เกิดขึ้นมาแล้ว เรื่องการตายปริศนาของเจ้าบ้านคนก่อนก็ดูเป็นไปได้ขึ้นมาทันที ข้าวของต่าง ๆ ของลุงจรัญที่เหลือจากอันที่ญาติเอาไปหมดแล้วต่างถูกเก็บไว้ในยุ้ง

"เอ่อ พี่ครับ ผมไม่เก็ท"

"เอ็งเคยเห็นตรงฝั่งคลองที่เป็นป่านั่นไหม"

"อ้อ ครับ เห็นผ่าน ๆ"

"มันมียุ้งเก่าตั้งอยู่ตั้งแต่สมัยโน้นนแล้ว ตอนซื้อบ้านมาไม่รู้จะเอาไว้ทำอะไรเลยปล่อยไว้งั้น"

"แล้วเราก็จะเข้าไปกันเหรอ…ครับ"

"ใช่"

"ผม-ผมเลือกได้ไหม"

"ที่เก็บของคนตายจะเข้าไปทำไม" ป๊าช่วยโรมแสดงความไม่เห็นด้วย

"อาจมีเบาะแสสำคัญซ่อนอยู่ก็ได้นี่" หลินผลักประเด็นนี้เต็มที่ พอโน้มน้าวผู้ใหญ่ไม่ได้ก็เริ่มหันเกณฑ์น้อง ๆ มาเป็นพวก "ช่วยแบ็คอัพพี่ที"

"ไอ! ปาปาาาา"

ตวันไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่ใช้พลานุภาพของดวงตากลมโตที่เริ่มรื้นแดงก็พอแล้ว โรมเกิดฮึดขึ้นมาถึงขั้นลืมกลัวผีไปชั่วขณะ

"เดี๋ยวผมเข้าไปสำรวจให้เองครับ"

"ไม่ได้ ตรงป่าอันตรายเกินไป" ป๊าปฏิเสธเสียงเฉียบขาด ขัดขวางการเสนอตัวเสียสละของโรม

ดวงตาสามคู่ของเด็ก ๆ ที่เขารักยิ่งชีวิตมองมาในทิศทางเดียว ไม่ว่าจะใจแข็งแค่ไหน ป๊ารับรู้ว่าสงครามนี้ยังไงเขาก็ต้องสละเรือยอมแพ้

"ป๊าแด๊ดจะเข้าไปกันเองแล้วพวกลูกรออยู่ข้างนอก" ผู้ใหญ่สรุปเสียงห้วน ตัดสินใจแทนสามีเสร็จสรรพ ทั้งยังตัดบทโรมที่ทำท่าจะออกเสียงค้านไปด้วย "เธออยู่ช่วยหลินดูแลน้องที่นี่เถอะ"

___

หลังมื้อเช้าอันวุ่นวาย ช่วงสายเป็นกิจกรรมสำรวจยุ้งฉาง

อาคารเก่า ๆ ชั้นเดียวตั้งอยู่ส่วนท้ายของเขตที่ดิน ลึกเข้าไปในป่าละเมาะ ผนังทั้งหลังสร้างจากดินเหนียว ด้านบนปูหลังคาสังกะสี ด้านหน้าถูกบดบังโดยต้นยางใหญ่และพงหญ้าสูง เนื่องจากไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไรดี ตั้งแต่มาดูตอนซื้อบ้านใหม่ ๆ ก็ไม่ได้ถูกสนใจอีกเลย

แด๊ดถืออีโต้ถากหญ้า ป๊าถือไม้ตะพดตีงู ต่างใส่เสื้อแขนยาวรองเท้าบูตหนากันอันตรายทั้งคู่ สายตาสอดส่องหาตัวสีเข้ม ๆ หรือตัวที่มันเลื้อยได้จากในกอวัชพืช จะตะขาบ แมงป่อง งูเขียว มองเห็นยากกันทั้งนั้น หมาแมวตามเจ้านายด้วยความอยากรู้อยากเห็นได้ประมาณสามก้าว พอเห็นตัวเงินตัวทองวิ่งในดงไกล ๆ ก็หนีแตกกระเจิง

ด้านหน้ายุ้งมีเกวียนโบราณตั้งอยู่ ไม่รู้ว่าอยู่มาตั้งแต่สมัยกี่สิบชาติที่แล้ว เก่าพอกันกับฝาเฟี้ยมฉลุลายไทยที่เอียงพิงผนังดินเหนียว หรือพื้นไม้ผุ ๆ ที่มีตุ๊กแกวิ่งตัดหน้าตั้งแต่ยังก้าวไม่พ้นธรณีประตู

ลางดีเหลือเกิน…

ลึกเข้าไปด้านในของยุ้งฉาง ป๊าเห็นปริมาณข้าวของ (ขยะในสายตานักเก็บกวาด) แล้วอยากจะล้มเลิกการค้นหาแล้วราดน้ำมันเผาให้จบ ๆ เสียเดี๋ยวนั้น ทั้งตำรายาผีบอก หนังสือฝึกจิต บทสวดบูชานางไม้ จดหมายปริมาณมาก ม้วนด้ายสำหรับทำสายสิญจน์ โอ่งทำน้ำมนต์ แท่งเทียน กระทงที่ถูกทับจนบี้แบน ซากของเซ่นไหว้เจ้าที่

"เดี๋ยวเอาพวกจดหมายใส่กระสอบไปละกัน เผื่อจะมีอะไร" แด๊ดเสนอเอง และน่าจะเป็นคนหากระสอบมาเก็บของเองในอนาคต เพราะป๊าไม่รู้สึกสนใจอยากย้อนกลับมาที่นี่อีกเป็นครั้งที่สอง ยิ่งเห็นของแต่ละอย่างก็ยิ่งรู้สึกใจคอไม่ดี อยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

"ไม่เหลืออะไรหรอก ปลวกแทะหมดแล้วละมั้งเนี่ย กลับกันเถอะก่อนจะโดนยุงหามไปกินเอา"

"อันนี้มั้งยาผีบอกที่ยายเมี้ยบมันเล่า" แด๊ดฉวยขึ้นมาจากพื้นแล้วเปิดดมก่อนจะมีใครห้ามทัน "แหวะ" เขาย่นจมูก แลบลิ้นรังเกียจ ป๊ารีบฉวยทั้งขวดทั้งฝาในมือแด๊ดมือมาปิดพร้อมบ่นเสียงแหว

"อย่าไปดมอะไรแปลก ๆ สิ!"

"เจ็บหน้าอกเลย"

"ตาย ๆๆ เป็นยาพิษขึ้นมาจะทำยังไง"

แด๊ดเอามือทาบอกทั้งแสดงสีหน้าเจ็บปวดเกินจริง "รักป๊ามากเกินไป"

ไม้ตะพดในมือป๊าสั่นไปหมด

"เล่นไม่ดูเวล่ำเวลา! เดี๋ยวได้โดนเขกกบาลเข้าสักวัน" ป๊าเมินเขาเพื่อไปสำรวจอีกฝั่งหนึ่งของยุ้งฉาง อยากให้ภารกิจจบเร็วที่สุดจะได้หลุดพ้นจากตรงนี้สักที

ผ้าสีขาวออกเหลืองซีดแขวนไว้กับขื่อตรงผนัง ชวนให้นึกถึงผ้าที่ขึงเป็นพื้นหลังตอนพระสวด พอกระตุกออกด้านในคล้ายเป็นโต๊ะบูชาอะไรบางอย่าง แต่สิ่งที่อยู่แทนที่ตำแหน่งของพระพุทธรูปคือท่อนไม้ผูกผ้าสามสี เลขหวยราง ๆ กับรอยขูด ทองคำเปลวติด กับแป้งปริมาณมาก

ของเหลวสีแดงเข้มจนเกือบดำเกาะอยู่ตามเสา ไม่ว่าหยดกลมหรือยาวต่างแห้งเหือดไปนานแล้ว เหลือแต่รอยคราบน้ำยางเป็นทาง

"เกิดมาพึ่งจะเคยเห็นเสาตกน้ำมันใกล้ ๆ เลยเว้ย ของจริงรึเปล่าวะเนี่ย" แด๊ดมองตาเป็นประกาย

"ถ้าคืนนี้มาหาแด๊ดก็ของจริงแหละ"

"ไม่กลัวหรอก"

"ทำมาเป็นพูดดี"

"ป๊าน่ากลัวที่สุดแล้ว ถ้าอยู่ด้วยได้อย่างอื่นก็—โอ๊ย ป๊า! ทำอะไรผิด!?"

คนพึ่งมือลั่นแค่นเสียงหายใจออกห้วน ๆ โดยไม่ให้คำตอบ

ใต้โต๊ะบูชามีจดหมายและแผ่นกระดาษซุกไว้อีกปึก สิ่งที่ดึงดูดความสนใจป๊ากว่าสิ่งใดคือประคำไม้ตะเคียนอันเก่า ๆ ผิวผุลอกคล้ายถูกกาลเวลากัดกร่อน พอดูออกว่าครั้งหนึ่งเคยเป็นสีน้ำตาลเข้มเคลือบเงามันวาว เอ็นที่ใช้ร้อยก็ผุรุ่ยจับเบา ๆ ขาดติดมือ ประคำเม็ดลูกคิดร่วงกราวเต็มพื้น พังจนใช้ประโยชน์ไม่ได้แล้ว

ป๊าไปสนใจเสาตกน้ำมันเป็นเพื่อนแด๊ดแทน หรี่ตามองไม่ชอบใจทุกครั้งที่สามีพิจารณาของอาถรรพ์ดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นอย่างกับเด็ก ร่องรอยของการขูดหวยมีอยู่ชัดเจน เส้นไม้บางอันคล้ายถูกแกะสลักฝังไว้ เลขข้างหน้าเบลอจนดูไม่รู้เรื่อง เลขสองตัวหลังพอมองออกว่าเป็นหกเก้า

รอยยิ้มกรุ้มกริ่มของแด๊ดทำให้เขาใจคอไม่ดี ป๊าถลึงตามองสามีทั้งชี้นิ้วสั่งเด็ดขาด "ไม่ ห้ามเล่นนะ หยุดเลย"

"ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย"

"เห็นหน้าก็รู้แล้ว ห้ามเด็ดขาด"

"ป๊าคิดลึกน่า"

"คืนนี้ได้โดนถีบส่งไปนอนนอกบ้านแน่"

แด๊ดนิ่งให้กับคำขู่ มุมปากกระตุกอย่างไม่อาจห้าม ทั้งสองคนจ้องตากันนิ่ง หนึ่งอยากให้หุบปาก อีกหนึ่งเม้มแน่นเพื่อห้ามตัวเองไม่ให้หลุด

"…"

"…"

"คือเอาท์ดอร์ได้?"

ฝ่ามือป๊าสับกะโหลกคนโดยไม่ต้องรอให้นรกมากินกบาล

_____

เจอสาเหตุแล้วค่ะ...ถ้าจำนวนคำยาวเกินไปสระจะแยกร่าง ต่อไปคงต้องย่อยตอนออกให้คำน้อยๆหน่อย ขออภัยในความไม่สะดวกด้วยนะคะ

saseecreators' thoughts