webnovel

ตายแล้วไปไหน

เสียงร่ำไห้ของคนในครอบครัวดังมาไม่ขาดสาย เมื่อคุณปู่ที่น่ารักและแสนใจดีของหลาน คุณพ่อที่แสนจะเข้มงวดของลูกๆ และ CEOวิสัยทัศน์กว้างไกลของบริษัทผลิตแป้งเย็นชื่อดังวัย 80 จากไปอย่างไม่มีวันกลับ สมถวิลยืนมองร่างเหี่ยวแห้งของตัวเองที่นอนอยู่บนเตียงพยาบาล กะอีกแค่สะดุดไม้เท้าตัวเองล้มดันมาตายเสียได้ อนาถจิตแท้พอได้มายืนดูแบบนี้ก็พึ่งจะรู้ว่าตัวเองอยู่ในร่างนั้นมานานมากจนสำควรแก่เวลาที่จะต้องจากลาเสียที ตอนมีชีวิตอยู่เคยอ่านหนังสือธรรมะ เรื่องราวของสวรรค์กับนรกเคยคิดว่าไม่มีจริงหรอกเพราะยังไม่มีใครเคยบอกสักคนว่าเคยไปมาแล้ว มาตอนนี้จะได้พิสูจน์เสียทีว่ามีหรือไม่มี ว่าแต่มันไปทางไหนกันไอ้นรกหรือสวรรค์เนี่ย ยืนลังเลจะไปซ้ายหรือขวาดีก็มีแสงสว่างจ้าราวสปอร์ตไลท์ส่องมาจากข้างบน ค่อยๆ ลอยลงมาเรื่อยๆ จนหยุดที่พื้นดิน

"เจ้า สมถวิลใช่หรือไม่" เสียงดังก้องกังวานฟังแล้วสบายหู

"ไม่ใช่ ทองธาวิน ตะหาก" สวนกลับทันใด ใครจะไปใช้ชื่อนั้นอีกกัน

"สมถวิล ชื่อมันบอกอยู่บนหัวเจ้า" ตัวอักษรที่โผล่มาบนหัวบ่งบอกชื่อเจ้าของร่าง

"เรียกเราว่า ทองธาวิน" ย้ำอีกครั้ง

"ก็ได้ๆ ลุงทอง ลุงตอนเป็นมนุษย์ทำความดีเอาไว้มาก ดังนั้นจึงได้สิทธิ์ขึ้นสวรรค์อยู่ลำดับเทวดาชั้นฉกามาพจร (ผู้ที่ยังเกี่ยวข้องกับกาม) อยู่บนสวรรค์ชั้นฉกามาพจร เราเป็นเทวดาผู้ดูเจ้า ไปกันได้แล้ว" เทวดาหนุ่มกล้าใหญ่หน้าตาหล่อเหลามาอยู่ตรงหน้า ใช่สิหน้าตาหล่อๆ แบบนี้เทวดาแน่นอนแถมยังนุ่งโจงกระเบนใส่หมวกสูงอย่างกับชฎาอีก

"เดี๋ยวผมยังไม่ได้เก็บเสื้อผ้า เงินอีก ของใช้อีก"

"เจ้าไม่เคยได้ยินหรือไง ตายแล้วไปแต่ตัว เอาอะไรไปไม่ได้" พูดจบก็ฉุดแขนลอยละลิ่วขึ้นฟ้าไป

ไปได้แต่ตัวจริงๆ ตอนนี้ไม่ได้ใส่อะไรสักอย่าง แถมยังมายืนอยู่ต่อหน้าเทวดา (หล่อๆ แบบนี้เทวดาแน่นอนความมั่นใจไม่เคยพลาด) อีกหลายคน แต่ละคนอย่างกับนายแบบปารีสแฟชั่นวีค ตอนเป็นมนุษย์โดนปลูกฝังว่าเรื่องข้ามเพศเป็นเรื่องน่ารังเกียจสุดท้ายโดนมัดจับแต่งโยนเข้าหอมอมเหล้าจนได้ลูกแฝดมาคู่หนึ่ง เลี้ยงดูภรรยาและลูกอย่างดีด้วยเงินก้อนใหญ่ไม่ขาดตกบกพร่องสักบาทแล้วเริ่มถือศิลกินเจสะสมบารมีจนตาย คราวนี้จะได้เปิดตัวเสียที

"ลุงทอง"

"ทองธาวิน" สวนกลับทันใด

"เออนั่นแหละ ต่อไปเราจะบอกถึงกฎเทวดาให้ฟัง" เอาหนังสือเล่มใหญ่มาวางตรงหน้า แม่เจ้าต้องฟังจนหมดนี่เชียวหรือ

"ไม่ได้ชื่อสมถวิลหรือ" เทวดาหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ชี้ตรงชื่อบนหัว

"ชื่อนั่นแหละ แต่เจ้าตัวบอกชื่อนี้คงเบื่อมั้งใช้มาตั้งแปดสิบปี" เทวดาก็ขี้นินทาแฮะ ที่สำคัญได้ยินเต็มสองรูหูเฟ้ย

เทวดาก็นินทาเหมือนกันแฮะ

"วัชเรนทร์ เจ้าไม่รู้สึกอุจาดตาบ้างหรือ ปล่อยให้เทวดาใหม่ยืนแก้ผ้าอยู่แบบนั้น" ตอนแรกไม่มีคนสนใจพอมีคนเอ่ยสายตาทุกคู่มองมาที่ลุงทองหมด

"ชิบแล้ว" ยกมือขึ้นมาปิดส่วนหว่างขาแทบไม่ทัน

"โอ๊ะ ลืมไป" ยกมือขึ้นชี้ๆ ก็มีควันสีเทาๆ มาล้อมรอบเหมือนสวมอะไรอยู่ มันเย็นสบายมากเลยขอบอก

"ลุงทอง" เอ่ยเรียกชื่อ

"ทองธาวิน จำใส่หัวเอาไว้" ชักฉุนลุงทอง ลุงทองอยู่ได้

"ตามใจเขาหน่อย พึ่งมาใหม่" เทวดาอีกองค์สะกิด

"ธาวิน" เรียกเสียงราบเรียบ เอาวะก็ยังดีกว่าลุงทอง

"มาฟังกฎเทวดากัน" เปิดตำรา เทวดาที่อยู่ใกล้ๆ ต่างพากันลุกหายไปหมดเหลือแค่เขากับเทวดาหนุ่มที่พาเขามา ท่าทางจะอีกยาวขอนอนฟังก็แล้วกัน

"ที่นี้ก็ได้ฟังจน...จบ" ปิดหนังสืออย่างแรงจนเทวดาใหม่ที่นอนน้ำลายยืดอยู่นั่นสะดุ้งเฮือก

"ให้มานั่งฟังกฎ ยังจะหลับอีก ตาแก่นี่" เส้นเลือดผุดบนหน้าผาก

"จบแล้วเหรอ" บิดขี้เกียจอยู่สองสามที

"ว่าแต่เจ้าหนุ่มเอ้ยคุณเทวดา คุณอายุเท่าไหร่ ลุงเอย ตาแก่เอย ปากเสียชะมัด" ยืนเท้าสะเอวมองหน้าเคืองๆ

"ก็ลุงอายุขัยแปดสิบ ถึงตอนนี้จะกลายเป็นหนุ่มก็เหอะ อายุยังแปดสิบอยู่ดี" ยิ้มเยาะ

"แล้วคุณอายุเท่าไหร่" ย้อนถามเสียงดัง

"เราอายุห้าร้อยปีทิพย์" ยิ้มอย่างภูมิใจ

"ไอ้ห้าร้อยปีทิพย์นี่มันกี่ปี" เกิดมาพึ่งเคยได้ยิน

"ประมาณเก้าล้านปีมนุษย์เห็นจะได้"

"โธ่ ไอ้คุณทวดเทวดา" ทองทาวินแว๊ดให้

"ตัวเองอายุกมากกว่าตั้งกี่ล้านเท่า ไม่แก่เหรอไง" ตอนแรกก็เห็นว่าหล่อเหลาเอาการเลยไม่อยากทำตัวมีปัญหาตอนนี้ทนไม่ไหวจัดเสียหน่อย

"ถ้าเทียบกับมนุษย์ก็ประมาณ ยี่สิบเอ็ด" บอกในตอนท้าย

"ห๋า" ตกใจอีกเป็นครั้งที่สอง

"บอกว่าถ้าเป็นอายุขัยของมนุษย์ก็ประมาณยี่สิบเอ็ด" ทองธาวินอยากหายาดมมาดมให้หายมึน มันคำนวณอายุยังไงกันเนี่ย

"เรียกลุงก็ไม่แปลก" ยังยืนยันคำเดิม

"พ่อเทวดารูปหล่อ พ่อใจดี พ่อเป็นเหมือนเทวดาไม่สิเป็นเทวดาอยู่แล้ว พ่อดีเลิศ ขอร้องล่ะไหนๆ ตายมาเป็นเทวดาแล้วอย่าเรียกให้แสดงใจเลยไหว้ล่ะ" จนปัญญาเลยมาไม้นี้

"ก็ได้ๆ ต่อไปเราเรียกว่าธาวินก็แล้วกัน" ตัดปัญหา ก่อนจะโยนหนังสือเล่มโตเอาไว้ตรงหน้า พลางว่า

"อ่านให้ฟังไม่ฟัง เอาไปอ่านเองก็แล้วกัน แบกหนังสือตามมา จะพาไปดูที่พัก" ลอยนำไปแล้ว ธาวินต้องแบกหนังสือเล่มใหญ่วิ่งตามไปให้ทัน จนกระทั่งมาหยุดยืนอยู่ที่อาคารหลังหนึ่ง

"วัชเรนทร์ เทวดาพี่เลี้ยงพาเทวดาใหม่มารับชุดขอรับ" ประตูไม้ค่อยๆ เปิดออก หันมากวักเรียกให้เขาไปด้านใน หออาภรณ์มีเสื้อผ้าอาภรณ์ของเทวดาทุกระดับชั้นมากมาย อย่างกับโกดังขายเสื้อผ้าเมืองจีน

"เทวดาใหม่นามว่าอะไร" เอ่ยถามธาวินที่ยืนยิ้มกับชุดหลากสีที่แขวนอยู่เต็มไปหมด

"ทองทาวินครับ" รีบบอกทันที

"โอ๊ะ "พลิกหาอยู่หลายหน้าแต่ไม่ยักเจอจนวัชเรนทร์ ชี้ไปที่ชื่อ

"แน่ใจเหรอ" ย้อนถามอีกครั้ง

"ชื่อนี้แหละ" เทวดาห้องอาภรณ์จึงเดินไปหยิบชุดมาให้ พร้อมกับให้ลงชื่อกำกับว่ารับชุดไปแล้ว

"ทำไมเป็นสีขาว ไม่ใช่สีๆ เหรอ"

"เทวดาใหม่ก็สีขาวทั้งนั้นแหละ ไปได้แล้วเกะกะการทำงาน" ยื่นชุดให้โบกมือไล่ วัชเรนทร์เลยลากออกมาก่อนที่จะไปทำเรื่องวุ่นวาย พาไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าจะได้เลิกอุจาดตาเสียที

ธาวินในชุดเทวดาสีขาวเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนชุด หมุนตัวให้วัชเรนทร์ดูโจงกระเบนทำด้วยผ้าไหมนุ่มใส่แล้วสบายตัวมาก เสื้อคลุมแพรโปร่งนี่ก็โออยู่แต่ไอ้หมวกแหลมๆ ที่มันเกะกะพิกลเลยไม่ใส่ดีกว่า

"อันนี้ไม่เอา ใส่ยาก" ยื่นคืนให้

"ต้องใส่" ดันกลับมา

"ไม่" ทำเสียงแข็ง

"โอ้ยอะไรกัน ป่านนี้ยังไม่ไปอีก" เทวดาห้องอาภรณ์เดินมาจะเปิดประตูทำการ เพราะเย็นมากแล้ว

"หมวกนี่ไม่อยากได้" หันมาบอกพร้อมส่งหมวกให้

"ไม่ใส่ก็ไม่ใส่ เอาไอ้นี่ไปใส่แทน ถ้าไม่ใส่อีกเขาก็ไม่รู้พอดีว่าเป็นเทวดา" หยิบรัดเกล้าอันเล็กให้

"แบบนี้ใส่ได้" รีบเอามาสวมหัว รู้สึกเหมือนใส่มงเลยแฮะ

"ไปได้แล้ว "ดันทั้งสองออกมาจากอาคารพร้อมปิดประตูไม้ดังปัง วัชเรนทร์พาธาวินไปยังวิมานที่ตัวเองพัก เป็นที่พักโล่งๆ มีหลังคา ไม่มิดชิดเอาเสียเลยแบบนี้ทำอะไรก็ลำบากน่ะสิ

"ไม่มีกำแพงเหรอ"

"เจ้านี่เรื่องมากสุดๆ เทวดาเขาก็พักกันแบบนี้ทั้งนั้น เรือนนี้ของเรา ของเจ้าหลังโน้น" ชี้ไปที่หลังเล็กกว่าที่อยู่ใกล้ๆ เหมือนศาลาท่าน้ำไม่มีผิด

"ทำไมเล็กขนาดนั้น"

"ก็เจ้าเพิ่งเป็นเทวดา งานการยังไม่ได้ทำ ตำแหน่งก็ยังไม่มี ได้แค่นั้นก็บุญแล้ว" ทำเสียงจิ๊ปากไม่สบอารมณ์ ไม่ชอบพวกที่เป็นเทวดาใหม่ก็เพราะอย่างนี้ ตัวเองเกิดมาเป็นเทวดาเลยจึงคุ้นเคยกับเทวดาตั้งแต่กำเนิดมากกว่าเทวดาที่มาจากโลกมนุษย์ อุตส่าห์หลบเลี่ยงมาหลายครั้งจนครั้งนี้เลี่ยงไม่ได้ต้องมารับเทวดาใหม่มาเทรนให้เป็นเทวดาที่ดี ถึงจะได้เลื่อนตำแหน่งหน้าที่

"อ้าวต้องทำงานด้วยเหรอ นึกว่าอยู่เฉยๆ" ตอนอ่านหนังสือไม่เห็นจะบอกเลยว่าเทวดาต้องทำงาน

"ไม่ทำงานแล้วจะเอาอะไรกิน ไม่สิจะเลื่อนตำแหน่งได้ยังไง ว่าแต่เจ้าทำอะไรเป็นบ้าง" เอ่ยถามจะได้จัดหน้าที่หรือพาไปฝากฝึกงานได้ถูก

"ทำแป้งเย็นไง เราเป็นเจ้าของบริษัทแป้งเย็นชื่อดังเชียวนะ คิดสูตรเองจนเป็นที่ยอมรับ นอกจากเย็นแล้วยังแก้ผดผื่นได้ดีอีกด้วย "ยิ้มอย่างภูมิใจ

"แล้วเทวดาต้องใช้แป้งเย็นไหม" ย้อนถามหน่าย ๆ

"ไม่แน่นะ" ยิ้มหวานจ๋อย

"อย่าแม้แต่จะคิด" รีบบอกอย่างไว

"ก็ดูท่าจะร้อน ต้นไม้ไม่เห็นมีสักต้นแม้แต่ไอ้ปุยเมฆขาวๆ นี่แสงอาทิตย์จ้าอยู่ทั้งวันแบบนี้ร้อนตายชัก" ความคิดดีๆ ผุดขึ้นในสมอง เมื่อเขาบอกว่าต้องทำงานเพื่อนได้เลื่อนตำแหน่ง ก็เปิดโรงงานผลิตแป้งเย็นบนสวรรค์ซะเลยน่าจะดี แดดเปรี้ยงแบบนี้มีลูกค้าแน่นอน

"คิดอะไรไม่เข้าท่า เอาตำราไปท่องกฎให้ขึ้นใจ แล้วก็กลับวิมานของเจ้าไปได้แล้ว เราจะนอน" ชี้ไปที่ศาลาท่าน้ำนั่น จะเรียกว่าวิมานก็ไม่เต็มปากมันเหมือนจริงๆ เดินถือตำรากฎเล่มใหญ่เดินไปตามที่บอก เอาน่ามันต้องมีสักวิธีที่จะทำมาหากินได้สิน่า