webnovel

Chapter 2.3

เพื่อนรัก?

เจ้านาย?

เลยใส่ใจเป็นพิเศษ?

ทำไมฟังแล้วหงุดหงิดชะมัด

ผมกระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย "ปกติเพื่อนเขาคงไม่ได้ใส่ใจกันมากขนาดนี้หรอกมั้ง"

"อื้อ ปกติเพื่อนกันธรรมดาเขาไม่ได้ใส่ใจขนาดนี้หรอก" ควินซ์ช้อนตามองผม

...ถ้าใส่ใจขนาดนี้หรือจะเป็นเพื่อนแอบชอบเพื่อน

แววตาของผมเปล่งประกายขึ้นมาเล็กน้อยแต่แล้วต้องดับวูบ

"แต่เราเป็นเพื่อนสนิทโคตรจะสนิทไม่ต้องใส่ใจ แค่มองตาก็รู้แล้วว่าคิดอะไร" ว่าไปแล้วก็ส่ายหัว

"ฮึ" แค่นหัวเราะในลำคอไปทีหนึ่งแล้วสะบัดหนีซึ่งปฏิกิริยาของผมก็ทำเอาคนข้างกายมึนงงไปเหมือนกันว่าพูดอะไรผิด ผิดทั้งหมดนั้นแหละ!

คำก็เพื่อน สองคำก็เพื่อน

เริ่มโมโหแล้วนะ

แต่เดี๋ยวสิ... ผมจะโมโหทำไม ก็ผมกับควินซ์เราเป็นเพื่อนกันอยู่แล้วไม่ใช่รึไง ผมควรดีใจไม่ใช่เหรอที่ควินซ์มันยกให้ผมเป็นเพื่อนโคตรสนิทเป็นเพื่อนเบอร์หนึ่ง

ขนาดนี้แล้วผมยังไม่พอใจอีกเหรอวะ

หรือผมยังต้องการสถานะที่มากกว่านี้?

พอคิดถึงตรงนี้แล้วก็รู้สึกตกใจไม่น้อย ก่อนจะส่ายหัวไปมาเมื่อคิดว่าตัวเองกำลังชอบควินซ์อยู่ บ้าบอเถอะ เราเป็นเพื่อนกัน ผมเนี่ยนะจะชอบเพื่อนตัวเอง ไม่มีทางอ่ะ

ผมก็แค่หวงเพื่อน ใช่ ผมแค่หวงเพื่อน

ใช่ๆ มันต้องแค่นี้จริงๆ

พูดซ้ำย้ำตัวเองหลายๆ ครั้งในหัวว่าแค่หวงเพื่อน สักพักผมก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง... เฮ้อ อย่าไปคิดมากสินับหนึ่ง

ผมกลับคืนสู่สภาพเคร่งขรึมอีกครั้งหลังจากสติไม่อยู่กับร่องกับรอยมาทั้งวัน นั่งนิ่งมองเสาไฟด้านนอกรถตลอดทางจนมาถึงโรงแรมหรูห้าดาวใจกลางเมือง ช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงเทศกาลเลยไม่มีนักท่องเที่ยวนักแต่ก็ยังมีให้เห็นอยู่บ้าง

บาร์ชิลบาร่าอยู่ชั้นบนดาดฟ้าและดาดฟ้าของโรงแรมนี้ก็มีถึงแปดสิบแปดชั้น นับว่าสูงไม่น้อย

ใช้เวลาขึ้นลิฟต์นานพอดู และเมื่อก้าวมาถึงดาดฟ้าก็ได้ยินเสียงดนตรีเบาๆ เข้ามาในหู ตอนนี้ยังไม่ดึกเท่าไรจึงมีคนอยู่ไม่กี่โต๊ะ ควินซ์เดินหน้ายิ้มๆ ไปแจ้งชื่อกับพนักงานของบาร์ก่อนที่เขาจะพาพวกเราไปยังโต๊ะที่ดีที่สุดของบาร์

โต๊ะที่ดีที่สุดนั้นแยกเป็นเอกเทศค่อนข้างมีความส่วนตัว ห่างไกลจากโต๊ะอื่นๆ ซึ่งผมชอบมาก นั่งลงบนโซฟานุ่มแล้วมองวิวยามค่ำคืน หลับตาพริ้มสูดอากาศบริสุทธิ์

"จะสั่งอะไรมั้ย" ควินซ์ถามผม

"รู้ใจไม่ใช่รึไง สั่งให้ฉันสิ" ผมลืมตาขึ้นแล้วหันไปยักคิ้วกวนประสาท "ถ้าสั่งผิด ฉันจะหักเงินเดือน"

"บางทีผมทายถูกแต่คุณให้ผิดก็ได้นี่" แม่ง เสือกรู้ทันอีก

"ล้อเล่นน้า" ผมยักไหล่ "อยากสั่งอะไรก็สั่งมา"

"ป๋าจริงๆ" แขวะผมมาคำหนึ่งแล้วก็หันไปรับเมนูรายการเครื่องดื่มและอาหารทานเล่นจากพนักงานสาวท่าทางสุภาพ

ผมปล่อยให้ควินซ์สั่งไปตามใจแล้วตัวเองก็พักผ่อนซึมซับบรรยากาศดีๆ ฟังเพลงเบาๆ ดนตรีเพราะๆ สมองที่ตึงเครียดมาทั้งวันได้รับการปรนนิบัติพัดวีสักที

คนตรงข้ามก็ไม่ได้รบกวนผม เขาหยิบไอแพดขึ้นมาเปิดโปรแกรมวาดภาพจากนั้นก็เริ่มหยิบปากกาขึ้นขีดเขียนวาดภาพ เหล่ตามองก็เห็นเลขาคนสนิทกำลังนั่งไขว้ห้างเอนหลังพิงโซฟา ใบหน้าฉายแววผ่อนคลาย มุมปากมีรอยยิ้มน้อยๆ สายตาจับจ้องเพียงสิ่งที่กำลังวาดในไอแพด

เขาว่าเวลาที่คนเราทำอะไรอย่างตั้งใจจะดูดีมากๆ

ผมว่ามันคงจะเป็นอย่างนั้น

เวลาผ่านไปอีกสักพัก พนักงานเสิร์ฟของร้านก็นำอาหารเครื่องดื่มมาวางบนโต๊ะของพวกเรา กวาดตามองดูคร่าวๆ พบว่าแปดสิบเปอร์เซ็นเป็นเครื่องดื่มที่ผมสั่งประจำ อีกยี่สิบก็เป็นอาหารทานเล่นของควินซ์

ควินซ์ไม่ค่อยชอบดื่มเหล้าขมๆ แต่ถ้าเป็นพวกค็อกเทลก็พอได้อยู่

ปล่อยให้ควินซ์อยู่ในโลกของเขาไป ส่วนผมก็ดื่มด่ำไปกับรสชาติของแอลกอฮอล์... บรรยากาศเบาสบายดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง...

"ฉันขอเลี้ยงเครื่องดื่มคุณสักแก้วได้มั้ยคะ"

เสียงใสกังวานแลอ่อนหวานดังขึ้นทำลายบรรยากาศเงียบสงบของผม ความหงุดหงิดพุ่งขึ้นมาและต้องหงุดหงิดมากขึ้นเมื่อเห็นว่าสายตาของสาวน้อยกำลังจดจ้องไปที่ใคร

"ครับ?" ควินซ์ตกใจนิดหน่อยแล้วก็ทำหน้างงๆ ใส่หญิงสาวแปลกหน้า "คุณว่ายังไงนะ"

"ฉันอยากเลี้ยงเครื่องดื่มคุณ" เธอว่ายิ้มๆ

"ไม่เป็นไรครับ" ควินซ์ส่ายหัวแล้วยิ้มสุภาพ "ผมมีเครื่องดื่มแล้ว"

เมื่อเห็นว่าควินซ์ไม่สนใจก็เบนเข็มมาทางผม "แล้วไม่ทราบว่าฉันพอจะเลี้ยงคุณ..."

"ไม่ต้อง มีเงินซื้อกินเองได้ ไม่ต้องลำบากคุณหรอก" ควินซ์น่ะสุภาพแต่ผมน่ะสถุน

"นี่คุณ!" เธอตาโตอย่างตกใจ

ผมหงุดหงิดอะไร ก็หงุดหงิดที่ผู้หญิงคนนี้มีตาหามีแววไม่ เธอควรที่จะถามผมก่อนสิ! ผมทั้งหล่อทั้งดูดีกว่าควินซ์ คนชมชอบผมเยอะแยะแต่นี่เป็นครังแรกเลยนะที่มีคนมองข้ามผม

ไม่โอเคอย่างแรง! ต้องถามผมก่อนแล้วค่อยถามควินซ์สิ!

"บอส" ควินซ์ถลึงตาใส่ "พูดดีๆ"

"เหอะ" ผมตวัดตามองผู้หญิงตรงหน้าอย่างหงุดหงิด เธอทำให้ฉันโดนควินซ์ดุ!

ผมลุกขึ้นจากโซฟาแล้วหมุนตัวเดินไปอีกด้าน ควินซ์รีบถาม "คุณจะไปไหน"

"สูบบุหรี่" ตอบสั้นๆ แล้วเดินไปยังโซนสำหรับสูบบุหรี่ ถามว่าทำไมถึงไม่สูบที่โต๊ะ... คุณเลขาของผมแพ้กลิ่นบุหรี่น่ะสิ ทุกครั้งที่ผมจะสูบต้องไปให้ไกลๆ ตัวควินซ์เลย

พอผมออกมาแทนที่ยัยผู้หญิงอวดรวยจะจากไป เธอกลับนั่งแทนที่ผมและคุยกับควินซ์ต่ออย่างร่าเริง แต่ควินซ์ดูอึดอัดมากกว่าอยากจะสนทนา

ไม่มีตารึไง คนเขาไม่อยากคุยน่ะ ยัยบ้า

ผมจุดบุหรี่แล้วสูบอัดนิโคตินเข้าเต็มปอดหวังระบายความหงุดหงิดที่ก่อตัวขึ้นอีกแล้ว... วันนี้ผมหงุดหงิดเยอะมาก แถมเหตุผลหลักๆ ก็มาจากคนข้างกายทั้งนั้น

ปกติใครจะเข้าหาควินซ์ ผมไม่เคยรู้สึกอะไร

แต่ทำไมวันนี้กลับรู้สึก

หรือเพราะได้ยินว่าอีกฝ่ายกำลังจะหาเจ้าสาวมาแต่งงานกันนะ

สุดท้ายก็ทนไม่ไหวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกไปหาใครบางคน ไม่นานก็มีคนรับสาย

(ฮัลโหล ว่าไง~)

ริมฝีปากขบเม้มเข้าหากันเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจ...

"ป๋าชอบควินซ์จริงๆ เหรอ นับสอง"