บทที่ 26
ร้อยรักปักใจ
"ท่านอี้หลันเจ้าคะ วันนี้จะไปที่สวนโม่ลี่ฮวาหรือไม่เจ้าคะ"เสียงจิ้งหลันที่เอ่ยเรียกสติเขาที่กำลังตั้งใจวาดรูปอยู่
"เช่นนั้นพวกเจ้าสองคนก็ไปเตรียมของไว้รอข้าเถอะ อีกเดียวข้าจะออกไป"เขาหันไปบอกจิ้งหลันที่ตอนนี้ยืนคอยดูแลเขาอยู่ข้างประตูห้อง ให้ไปเตรียมของไว้หลังจากที่เขาบอกว่ายามเซิน (เวลา 15.00-16.59.) จะออกไปนั่งเล่นที่ศาลากลางสวนดอกมะลิ ปกติเขาจะไปที่สวนดอกกุ้ยฮวาหรือดอกหอมหมื่นลี่เพราะเวลานั่งจิบชาแล้วได้กลิ่นหอมของดอกไม้ไปด้วย มันทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายมาก เหมือนได้อยู่สวนมวลบุปผาในอาณาเขตวิมานดาวของเขาเหลือเกิน เขตวิมานดาวที่เขาเพิ่งเข้าไปเจอในแหวนมิติไม่นานมานี้ เพราะปกติเขาจะมีคนคอยอยู่ด้วยตลอดเวลา กลางวันก็สองสาวจิ้งหลัน จิ้งหลิว กลางคืนก็พี่หลงที่มานอนกับเขาทุกคืน แรกๆเขาก็ไม่ชินที่อีกฝ่ายมานอนด้วย แต่พี่หลงก็ให้เกียรติและใจเย็นกับเขามากบอกว่าต่อให้เราจะเป็นคนรักกัน แต่เขายังจำอะไรมากไม่ได้รวมทั้งอาจจะยังไม่รักไม่ชอบพี่หลง ฉะนั้นพี่หลงจะรอจนกว่าเขาจะรักพี่หลงอีกครั้ง ขอเพียงแค่ตอนกลางคืนได้นอนกอดเขาเพิ่มพลังใจก็พอ นั้นจึงทำให้เขาใจอ่อนยอมให้พี่หลงรั้งตัวเขาไปกอดแล้วหลับไปทุกค่ำคืน แต่เมื่อเดือนก่อนพี่หลงทำงานหนักทุกวันจนดึกดื่น เขาเลยมีเวลาอยู่คนเดียวแล้วได้สำรวจตัวเองว่าทำอะไรได้บ้าง พอเขานึกเขาอยากได้อะไรทุกอย่างก็เกิดขึ้นราวกับเสกได้ เขาจึงได้หนังสือเวทย์มาอ่านหลายเล่มแล้วจึงรู้ว่าตัวเขาเองที่ทำได้แบบนี้เพราะเขาเป็นปรมาจารย์เวทย์แล้ว เลยไม่จำเป็นต้องร่ายเวทย์มาก เวทย์บทง่ายๆเขาแค่นึกก็เท่ากับร่ายแล้ว แต่ถ้าเวทย์บทยากๆเขายังต้องร่ายเวทย์อยู่ เขาจึงอ่านใหม่ตั้งแต่เริ่มต้นเลย ทีแรกเขาก็กลัวว่าจำอะไรไม่ได้จะอ่านไม่ออก แต่พอเห็นหน้าปกและตัวอักษรก็รู้ว่ามันคืออะไร แสดงว่าเขาอ่านออก เขาจึงได้อ่านหมดทุกเล่มที่มีเพราะตื่นเต้นอยากได้รู้อยากเห็นว่าจะมีอะไรสนุกๆในหนังสือมั้ย จนเจอเล่มเกี่ยวกับอาวุธเวทย์ที่มีรายละเอียดและรูปแหวนวงที่เขาห้อยคออยู่ จึงรู้ว่านี้คือแหวนมิติที่โดนสร้างมาแบบพิเศษ ไม่มีพื้นที่จำกัด เขาจึงอ่านวิธีเข้าไปในแหวน แล้วตัวเองก็เข้ามาในแหวนสำรวจดูทุกอย่าง ในนี้มีทุกอย่างครบทั้งอาหาร ที่พัก และอาวุธ แล้วยังมีอาณาเขตสองอาณาเขตในแหวนอีก เขาเข้าไปอาณาเขตแรกก็เห็นป้ายจวนว่าเขตวิมานดาว เข้าไปในเรือนที่สวยงามหรูหรากว่าตำหนักบุปผาที่เขาอยู่ตอนนี้ซะอีก ทุกก้าวที่เขาเดินสำรวจในเขตวิมานดาว เขามีสุขมาก และเหมือนจะมีภาพในหัวว่าเขาเคยอยู่ที่นี่กับใครสักคน กินข้าวด้วยกัน ดูดาวด้วยกัน เล่นดนตรีด้วยกัน จะเขายังได้รับดอกไม้ทุกวันอีกต่างหาก คนที่อยู่ในหัวเขามีรูปร่างสูงใหญ่กำยำ เหมือนกับพี่หลงเลย เพราะพี่หลงก็ชอบให้ดอกไม้กับเขาเหมือนกัน ตื่นมาทุกเช้าจะมีดอกไม้จากพี่หลงวางไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียงเสมอ แล้วเขาก็เห็นว่าพี่หลงก็มีแหวนเหมือนกับเขา นั้นจึงทำให้เขารู้สึกอุ่นวาบในอกเสมอว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่คือเขากับพี่หลงจริงๆ และเราคงมีความสุขกันมาก นั้นจึงทำให้เขาเริ่มสังเกตการกระทำพี่หลงที่จะนึกถึงเขาก่อนเสมอ ไม่ว่าจะไปไหนหรือทำอะไรจะบอกเขาก่อน สังเกตสิ่งที่พี่หลงทำให้เขาเพราะสิ่งที่พี่หลงทำมักจะเป็นเรื่องที่เขาหัวเราะและยิ้มได้เสมอ ทุกการกระทำของพี่หลงถูกเขาจำได้หมด มันค่อยๆสลักลงในใจเขาจนตอนนี้เขาว่าเขาเริ่มรักพี่หลงแล้วละ เมื่อเขาออกมาจากเขตวิมานดาวจึงไปอีกอาณาเขตที่ส่งกลิ่นเหม็นออกมาตั้งแต่เดินเข้าไปก้าวแรก พอเขาเดินเข้าไปดูจึงเห็นกรงเหล็กสี่ห้ากรงที่มีแต่โครงกระดูกแห้งกรังอยู่ในนั้น ซึ่งเขาไม่รู้โครงกระดูกพวกนี้เป็นใคร เป็นมายังไงถึงมาอยู่ที่นี่แล้วตายอย่างทรมานอย่างนี้ โครงกระดูกพวกนี้ยังมีบางร่างที่ยังเหลือเนื้อเน่าอยู่จึงส่งกลิ่นเหม็น เขาสงสารจึงเผาไฟโครงกระดูกพวกนี้จนเหลือแต่ธุลีจากนั้นเขาจึงทำลายอาณาเขตนี้ทิ้งไปซะ แล้วเวลาที่อยู่คนเดียวเขาจะเข้าไปในเขตวิมานดาวอ่านหนังสือและฝึกใช้ผีผาอยู่ในนั้นเสมอ จนตอนนี้เวลาก็ผ่านมาเกือบสามเดือนแล้ว รวมๆแล้วเขาก็อยู่ที่นี่มาสี่จะห้าเดือนแล้ว จนนี้ก็ใกล้งานเฉลิมฉลองตำแหน่งเจ้าสำนักคนใหม่ของพี่หลงเข้าไปทุกที และที่จัดงานช้าแบบนี้เพราะว่าช่วงก่อนหน้านี้ที่พรรคมังกรนิลเพลิงมีแต่เรื่องสูญเสียทำลายขวัญและกำลังใจของสมาชิกในพรรค พี่หลงจึงให้สมาชิกในพรรคไว้อาลัยให้เจ้าสำนักคนเก่าหรือพ่อพี่หลงเป็นเวลาหนึ่งร้อยวัน ช่วงนั้นที่นี่จึงไม่จัดงานอะไรทั้งสิ้น แล้วพี่หลงก็ทำงานอย่างหนักเพื่อฟื้นฟูพรรคและเป็นเสาหลักให้คนในพรรคจนสมาชิกพรรคกลับมามีขวัญและกำลังใจเหมือนเดิม ทุกคนทำหน้าที่กันอย่างขยันขันแข็ง พอผ่านช่วงไว้อาลัยผู้อาวุโสในพรรคจึงช่วยกันหาฤกษ์หายามที่เหมาะสมเพื่อแต่งตั้งตำแหน่งให้พี่หลงอย่างยิ่งใหญ่และสมเกียรติ และนี่ก็เหลือเวลาอีกแค่สามวันเท่านั้นก็จะถึงงานฉลอง เขาที่ไม่มีอะไรทำหรือไม่ได้ช่วยงานอะไรจึงใช้ชีวิตเหมือนเดิม เพราะเขาถามพี่หลงแล้วว่ามีงานอะไรให้ช่วยมั้ย บอกเขาได้เสมอเขาเต็มใจจะช่วยทุกอย่าง แต่พี่หลงก็ทำเพียงยิ้มกรุ้มกริ้มแล้วบอกให้เขาอยู่เฉยๆสบายๆไม่ต้องช่วยอะไร เรื่องงานให้พี่เขาจัดการก็พอ เขาเลยว่าง จึงได้แต่นั่งวาดรูป เล่นดนตรี แต่งกลอนไปวันๆ และก็ไปจิบชากินขนมแค่นั้น
"วันนี้ดอกโม่ลี่ฮวางามนะ บานสะพรั่งไปทั้งสวนแถมส่งกลิ่นงามอีกต่างหาก หอโอสถไม่เก็บไปปรุงยาบ้างเหรอจิ้งหลัน"อี้หลันที่เดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนเข้าเขตสวนดอกโม่ลี่ฮวา(ดอกมะลิ) เห็นดอกสีขาวซ้อนกลีบกันบานแข่งกันทั้งสวนจึงถามสาวใช้สารพัดประโยชน์ที่ทำได้ทุกอย่าง ตอบได้ทุกเรื่องที่เขาสงสัยไป
"ตามจริงหอโอสถจะเข้ามาเก็บดอกโม่ลี่ฮวาในสวนวันนี้ แต่เจอข้าน้อยที่มาจัดเตรียมสถานที่รอท่านอี้หลัน ข้าน้อยจึงขอให้ทางนั้นมาเก็บใหม่วันพรุ่ง เพราะวันนี้นายหญิงอี้หลันจะมาชมสวน ทางหอโอสถจึงกลับไปเจ้าค่ะ ข้าน้อยขออภัยที่ไม่แจ้งนายท่านก่อนเจ้าค่ะ"จิ้งหลันอธิบายพร้อมทั้งคุกเข่าขออภัย
"เจ้าลุกขึ้นเถอะจิ้งหลัน ข้าแค่สงสัยนะ ไม่ได้โกรธอะไรหรอก ข้าเคยบอกเจ้าแล้วนี่ หากเห็นสมควรอะไรควรทำก็ทำเถอะไม่ต้องถามข้า เจ้าทำถูกแล้วละ"เขาพยุงแขนให้จิ้งหลันลุกขึ้น ถึงแม้ว่าที่จิ้งหลันทำจะดูไม่ดีและเอาแต่ใจไปสักหน่อย แต่นั้นก็เพื่อเขาทั้งนั้น เพราะพี่หลงเคยบอกให้จิ้งหลันและจิ้งหลิวดูแลเขาให้ดี หากจะไปที่ไหนต้องมีองครักษ์มากมายรายรอบ จะกินอะไรต้องพิถีพิถัน เสื้อผ้าต้องสง่างาม เหมือนวางเขาไว้บนหิ้ง ทำให้คนในพรรคต่างได้ยินชื่อเขาต้องหลีกหนีไปให้ไกลเพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากภายหลัง เขาจึงอยู่แต่ในที่ของตัวเองไม่ค่อยออกไปไหนเพราะกลัวมีปัญหา ครั้งนี้ก็เหมือนกันสินะ
"เช่นนั้นท่านอี้หลันเชิญที่ศาลาเถอะเจ้าค่ะ ตอนนี้แดดยังแรงอยู่เดินเล่นตอนนี้อาจจะไม่สบาย จิบชากินขนมสักหน่อย แดดคล้อยค่อยเดินเล่นดีหรือไม่เจ้าคะ"
"อืม เอาตามที่เจ้าว่าแล้วกัน"อี้หลันจึงเดินชมดอกโม่ลี่ฮวาไปเรื่อยๆจนถึงศาลาที่อยู่ท่ามกลางต้นดอกโม่ลี่ฮวา ทันทีที่นั่งลงอี้หลันก็ได้กลิ่นหอมของดอกโม่ลี่ฮวาทันที จิ้งหลันรินชายอดน้ำค้างชั้นดีให้เขาจิบ กลิ่นหอมของชาที่อวลในปากกับกลิ่นหอมดอกโม่ลี่ฮวาที่อวลในจมูกช่างเข้ากันเหลือเกิน กินกับขนมกุยฮวาทุกอย่างช่างลงตัวเข้ากัน
"จิ้งหลัน จิ้งหลิว นั่งทานเป็นเพื่อนขาหน่อยสิ"
"เอ่อ…เจ้าค่ะ"
"เจ้าค่ะ"เขาจึงเป็นฝ่ายรินชาให้ทั้งคู่ เพราะกลัวทั้งคู่จะแค่นั่งลงเฉยๆเหมือนทุกครั้งที่เขาเรียก ถ้าเขาไม่รินให้ทั้งคู่จะไม่กล้ารินเอง กลัวเบียนบังของของเจ้านาย แต่ถ้าเจ้านายให้ก็อีกเรื่องนึง นั้นจึงทำให้เขารินให้ทั้งคู่เสมอ ไม่อยากให้ทั้งคู่นั่งมองเขากินเฉยๆ
"วันนี้พี่หลงได้แจ้งมั้ยว่าจะกลับมาตอนไหน"เขาถามเหมือนทุกวัน
"เอ่อ…นายท่านแจ้งว่าช่วงนี้มีงานเร่งด่วน จะทำให้เสร็จก่อนวันฉลอง สามวันนี้นายท่านจะอยู่ที่ห้องทรงอักษรเจ้าค่ะ หากท่านอี้หลันมีเรื่องเร่งด่วนให้พวกข้าน้อยไปแจ้งได้ทุกเมื่อเจ้าค่ะ"จิ้งหลันบอกอ้อมแอ้มพรางหน้าแดงไปด้วย ซึ่งตอนนี้ทุกคนในพรรคเรียกพี่หลงว่านายท่านแทนนายน้อยแล้ว เพราะพี่หลงถือเป็นนายใหญ่ เป็นเจ้าสำนักพรรคแล้ว ทุกคนจึงเปลี่ยนคำเรียก
"แล้วเจ้าหน้าแดงทำไม ไม่สบายรึเปล่า"เขาถามอย่างเป็นห่วงที่เห็นหน้าแดงๆของจิ้งหลัน
"อะ..เอ่อ..ข้าน้อยเพียงโดนแดดมากไปนะเจ้าค่ะ ไม่ได้ป่วย ข้าน้อยสบายมากเจ้าค่ะ"
"อ่อ…แล้วทำไมเจ้าต้องทำตัวหลุกหลิกด้วยละ มีเรื่องอะไรรึเปล่า"เขาถามเพราะจิ้งหลันหน้าแดงแล้วก็บิดตัวไปมาเหมือนเขินอาย น่าจะไม่สบายหนักเลยอาการอย่างนี้
"ปะ..เปล่าเจ้าค่ะ ข้าน้อยรู้สึกเหมือนจะเป็นลมแดดนะเจ้าค่ะ"จิ้งหลันกลับมาท่าทางสุขุมเหมือนเดิม
"แล้วไป แล้วงานเร่งด่วนที่ว่า เจ้ารู้มั้ยว่าคืองานอะไร เร่งด่วนขนาดไม่กลับมานอนหลับพักผ่อนเลยงั้นรึ อย่างน้อยๆงานเร่งด่วนก็ไม่ควรอดหลับอดนอนขนาดนั้นนะ ไม่งั้นงานจะออกมาดีได้อย่างไร ปกติพี่หลงทำงานดึกดื่นขนาดไหนก็จะกลับมานอนกับข้านะ"เขาถามระรัวทันที เพราะเป็นห่วงพี่หลงส่วนนึง
"ข้าน้อยไม่ทราบเจ้าค่ะ รู้แต่ว่าเกี่ยวกับงานฉลองครั้งนี้ มีเรื่องมากมายที่นายท่านต้องจัดการ แต่นายท่านกำชับว่าให้พวกข้าน้อยดูแลท่านอี้หลันให้ดีกว่าเดิมเจ้าค่ะ และยังให้พวกข้าน้อยมานอนเฝ้าท่านอี้หลันด้วยเจ้าค่ะ"
"ห๊ะ…ให้พวกเจ้ามานอนเฝ้าข้างั้นเหรอ ไม่เอาด้วยหรอก พวกเจ้าไม่ต้องมานอนเฝ้าข้า ข้านอนคนเดียวได้"
"นายท่านบอกว่าหากท่านอี้หลันไม่ยอม ให้ข้าน้อยสองคนมานอนเฝ้าหน้าประตูแทนเจ้าค่ะ"จิ้งหลิวเป็นตอบพร้อมทั้งใช้น้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้ให้เขาสงสาร
"แต่ข้าเป็นบุรุษ พวกเจ้าเป็นสตรี ทำแบบนี้มันไม่งามนะ ใครรู้เข้าพวกเจ้าก็เสียหายนะสิ"
"ไม่เสียหายหรอกเจ้าค่ะ และก็ไม่มีใครคิดแบบนั้นหรอกนะเจ้าค่ะ"จิ้งหลันตอบพร้อมกับทำหน้าเอือมๆ คนมองเข้ามาจะเห็นแต่สามสาวงามอยู่ด้วยกันละสิไม่ว่า
"เจ้ารู้ได้ยังไง"อี้หลันถามกลับอย่างรวดเร็ว
"รู้ก็แล้วกันน่าเจ้าค่ะ"
"ฮึ…"อี้หลันรับคำในคอพร้อมกับคว่ำมุมปากลงทั้งสองข้างอย่างแงงอน ช่างเป็นภาพที่น่าเอ็นดูนัก
วันนั้นอี้หลันจึงไม่ได้เดินเล่นเหมือนทุกวัน เพราะมัวแต่แกล้งงอนให้สองสาวง้อ แล้วยังแกล้งล้อจิ้งหลิวเล่น เพราะเขาดันไปเห็นจิ้งหลิวได้ขนมจากองครักษ์ประจำตัวพี่หลงนะสิ ท่าทางทั้งคู่เหมาะสมกันมาก สวยหล่อทั้งคู่ แถมท่าทางมีใจให้กันอย่างลึกซึ้งอีกด้วย เขากับจิ้งหลันจึงแกล้งล้อเลียนจิ้งหลิว ท่าทางเขินอายหน้าตาแดงกล่ำลามไปหูและลำคอนั้นช่างน่าแกล้งนัก จนถึงยามโหย่ว (17.00-18.59น.) เขาจึงกลับตำหนักตัวเอง คืนนั้นเองที่เกิดปัญหา ปัญหาแรกคือสองสาวยืนยันจะเข้ามานอนเฝ้าเขาให้ได้ พอเขาไม่ให้นอนด้วย ทั้งคู่จึงเก็บที่นอนไปนอนเฝ้าหน้าประตูอย่างที่พูดจริงๆ ถ้านอนเฝ้าประตูข้างในห้องก็ไม่น่าห่วงจนเป็นปัญหาได้หรอก แต่ทั้งคู่ไปนอนข้างนอกที่อากาศหนาวมากจนเขากลัวว่าทั้งคู่จะแข็งตายก่อนเช้านะสิ นี้ต่างหากที่เป็นปัญหา เขาจึงได้แต่ยอมให้ทั้งคู่เข้ามานอนเฝ้าหน้าเตียงเขา ส่วนปัญหาที่สองคือเขานอนไม่หลับนะสิ ทำยังไงก็นอนไม่หลับ เหมือนร่างกายจะชินที่มีร่างใหญ่ของพี่หลงกอด ความอุ่นของอ้อมกอด กลิ่นหอมอ่อนๆเฉพาะตัวที่กล่อมเขานอน พอไม่มีพี่หลงมานอนกอด เขารู้สึกว่าเตียงมันกว้างไป แถมผ้าห่มก็ไม่อุ่นเท่าที่ควร กลิ่นกำยานที่จุดก็ไม่หอมเลยสักนิด เขาพยายามข่มตาให้นอนหลับจนในที่สุดก็หลับไปตอนเกือบเช้าอะนะ ตื่นอีกทีก็ยามอู่ (11.00-12.59 น.) รับอาหารกลางวันพอดี พร้อมกับใต้ตาที่มีสีช้ำนิดๆเหมือนคนพักผ่อนไม่พอ บ่ายเขาจึงหากิจกรรมเรียกเหงื่อทำนั้นคือซ่อนแอบและวิ่งไล่จับ แต่นั้นก็ไม่ได้เหนื่อยเท่าไหร่ เขาจึงมาช่วยหอโอสถเก็บดอกโม่ลี่ฮวา จริงๆเขาจะร่ายเวทย์เก็บจะได้ไม่เหนื่อย แต่เขาให้เก็บมือเอามันจะได้เหนื่อย ซึ่งมันก็เหนื่อยจริงๆเพราะต้องก้มๆเงยๆเก็บทีละดอกหลายรอบ พอเขาเหนื่อยแล้วจึงร่ายเวทย์เก็บดอกโม่ลี่ฮวาแทน ซึ่งทุกคนทำหน้าสงสัยว่าเขาจะอยากเหนื่อยทำไม แต่ก็ไม่มีใครกล้าถาม จากนั้นเขาจึงให้จิ้งหลันไปบอกแม่ครัวทำขนมมาให้ทุกคนทานแก้เหนื่อย พอกลับมาตำหนักด้วยท่าทางที่เหนื่อยล้าจิ้งหลันจึงจะไปเตรียมยาฟื้นฟูร่างกายให้ ซึ่งเขาก็ห้ามแทบไม่ทัน ถ้ากินยาฟื้นฟูไปทุกอย่างที่ทำก็สูญเปล่านะสิ จนเขาต้องบอกว่าทำไมต้องเหนื่อยขนาดนี้ เพราะแค่จะได้นอนหลับสนิทอย่างเต็มอิ่มสักทีอย่างไรเล่า จิ้งหลันที่ได้ฟังก็ยิ้มกรุ้มกริ้มใส่เขาซะงั้น แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร สรุปคืนนั้นผ่านไปได้ด้วยดี เขานอนหลับสนิทพักผ่อนอย่างเพียงพอ ไม่รู้ว่าพี่หลงจะได้นอนบ้างมั้ย หรือพักผ่อนเพียงพอหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าจะเร่งทำต้องงานจนร่างกายรับไม่ไหวหรอกนะ แถมข้าวปากได้กินตรงเวลาบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้ ถามจิ้งหลันก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน นี้ก็ถึงวันงานฉลองแล้วเขาโดนปลุกมาขัดตัวแต่เช้าเลย แล้วยังให้เขาใส่ชุดฮั่นฝูสีแดงลายหงษ์อีกต่างหาก ยังไม่หมด ยังแต่หน้าทาชาดให้เขา เกล้าผมสวยงามปักปิ่นหงษ์เงินและทอง ห้องนอนเขาโดนเปลี่ยนผ้าม่านผ้าปูตอนไหนไม่รู้ ทุกอย่างเป็นสีแดงมงคลหมดเลย เขาที่ยังงงๆอึนๆสับสนไปหมด ทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าจะทำอะไร เลยได้แต่ทำตัวนิ่งๆให้จิ้งหลันและจิ้งหลิวแต่งเนื้อแต่งตัว หยิบไปนั้นลากมานี่อย่างง่ายดาย และความเรียบร้อยของเขาทุกอย่างก็จบลงตรงที่เขาได้มานั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่กลางเตียงหลังใหญ่ที่เขาใช้นอนหลับทุกคืนแถมยังถืออะไรบางอย่างอยู่ พอก้มดูที่มือก็เห็นพัดกลมที่ปักลายหงษ์คู่มังกรอยู่ พิธีฉลองนี้แปลกๆนะว่ามั้ย เหมือนงานแต่งงานยังไงชอบกลแฮะ แต่อาจจะไม่ใช่ก็ได้เพราะเขายังไม่เคยแต่งงานจะรู้ได้ไงว่างานแต่งงานหรือแม้แต่งานฉลองจะเป็นยังไง เขาที่นั่งคิดไปเรื่อยเปื่อยสักพักก็ได้ยินเสียงจุดประทัดหน้าตำหนักและเสียงคนมากมายแซ่เซ็งพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งประตูห้องนอนเข้าเปิดออก แสงแดดอ่อนๆที่ส่องเข้ามาด้านหลังของร่างใหญ่ที่วันนี้หล่อเหลาเป็นพิเศษ ผมดำยาวถูกเกล้าครึ่งหัวปักด้วยปิ่นมังกรอย่างเรียบร้อย เข้ากับหน้าตาเหล่อเหลาเกลี้ยงเกลา ดวงตารัตติกาลที่วันนี้มีแววแจ่มใสกว่าทุกวัน นั้นตรึงสายตาของอี้หลันตั้งแต่สบตา มุมปากที่แย้มยิ้มตลอดเวลานั้นอีก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ใจดวงน้อยเต้นระรัวในอก เต้นแรงจนอี้หลันกลัวว่ามันจะกระเด็นมานอกอกอยู่แล้ว แต่เขาก็ละสายตาจากดวงหน้าหล่อเหลานั้นไม่ได้อยู่ดี จนร่างใหญ่ที่มีแสงสว่างส่องออกมาทั้งตัวเดินเข้ามาในห้อง เขาจึงเห็นว่าร่างตรงหน้าใส่ชุดฮั่นฝูสีแดงลายมังกรทั้งตัว ลวดลายมังกรสีทองช่างโดดเด่นเหมาะกับร่างตรงหน้ามาก จนเดินเข้ามาใกล้เตียงที่เขานั่งตะลึงอยู่
"พี่มารับน้องแล้ว หลันเอ๋อร์"ร่างสูงพูดออกมาเสียงทุ้มนุ่มหู เขาที่ยังตะลึงอยู่จึงยิ้มออกมาอย่างโง่งม มือใหญ่ยื่นมาตรงหน้าเขา เขาที่ยังตะลึงอยู่จึงวางมือเล็กลงไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว มือใหญ่จึงดึงมือเล็กให้ลุกขึ้นเดินเข่ามาขอบเตียง พออี้หลันจะก้าวขาลงพื้นก็โดนกดไหล่ให้นั่งห้อยขาลงจากบนเตียงพร้อมทั้งร่างใหญ่ก็คุกเข่าลงแล้วสวมรองเท้าแดงให้เขาอย่างอ่อนโยนทั้งสองข้าง จากนั้นจึงกุมมือเขาทั้งสองข้างพยุงให้ยืนขึ้นอย่างมั่นคง
"เราจะไปไหนกันรึขอรับพี่หลง"อี้หลันถามอย่างโง่งม เพราะไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง ไม่รู้ว่าที่พี่หลงทำอยู่คืออะไร แล้วเขาต้องวางตัวยังไง
"หึหึหึ…เด็กดี เดี่ยวเจ้าก็รู้ แค่เจ้าทำตามพี่ ทุกอย่างจะดีเอง"ชิงหลงพูดปลอบอย่างขบขัน เมื่อเห็นท่าทางตื่นตูมของร่างเล็กที่วันนี้สวยสง่างาม ราวกับเทพธิดาที่ตกจากสรวงสวรรค์เข้ากับชุดพญาหงษ์ที่ชิงหลงสั่งตัดจากไหมพิเศษเข้าชุดกับปิ่นหงษ์เหลือเกิน ภาพตรงหน้างดงามจนชิงหลงละสายตาไปไหนไม่ได้
"พี่หลง..พี่หลงงขอรับ"อี้หลันเรียกร่างใหญ่ที่มองเขาแล้วยิ้มเหมือนคนเพ้อ ไม่ได้สติเขาจึงเรียกแล้วโบกมือผ่านหน้าไปมา จนอีกฝ่ายได้สติกลับคืนมา แล้วจึงยิ้มมุมปากจับข้อมือพาเขาก้าวข้ามออกมาธรณีประตูพร้อมกัน หลังจากก้าวออกห่างหน้าประตุไม่กี่ก้าวก็เห็นจิ้งหลันสาดน้ำหน้าห้องนอนนั้นทันที
ของขวัญจากผู้อ่านคือกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ช่วยส่งกำลังใจให้ไรต์หน่อยนะ!