ดวงใจปักษา27
ตอน สัจจะนาคา1
...ณ ดินแดนแคว้นเมืองแสนเพตรานคร องค์ท้าวพญาผู้เป็นใหญ่ในปกครอง ได้เรียกระดมเหล่าเสนาอำมาตย์ทุกฝ่ายให้เข้าร่วมประชุมปรึกษางานบ้านการเมือง
ณ ที่ท้องพระโรงเหล่าเสนาอำมาตย์ ทั้งฝ่ายนอกฝ่ายในต่างมาพร้อมพลัก ทุกคนต่างนั่งรอการมาของเจ้าพญาผู้ครองเมือง ด้วยท่าทีสงบจนกระทั่งได้ยินเสียงป่าวประกาศ ของเสนามหาดเล็ก ได้ร้องประกาศก้องท้องพระโรง
" ท่านพ่อเมืองเสด็จแล้วว!! " ไม่ทันสิ้นเสียงที่ร้องประกาศ ร่างสมส่วนในเครื่องทรง ฉลองกษัตริย์ก็เดินออกมาจากม่านด้านหลัง ตรงมาประทับนั่งบนตั่ง บัลลังก์ทองเหนือชั้น บรรดาเหล่าเสนาต่างร้องถวาย ทำความเคารพกันพร้อมเพรียง
" ถวายบังคม พระเจ้าค่ะ " หลังจากสิ้นเสียงการทำความเคารพ เจ้าผู้ปกครองนคร ก็เอ่ยเสียงอันก้องกังวาน เป็นการทักทายตอบกลับ ต่อเหล่าเสนาบดีที่มาเข้าเฝ้า...
" สวัสดีทุกท่าน!..เราดีใจที่ทุกท่าน ต่างมาในวันนี้ กิจการงานบ้านเมืองของเราเป็นเยี่ยงไร ทุกท่านคงพอจักทราบกันดีนะ!! " เสียงเอ่ยก้องสะท้านไปทั่วท้องพระโรง...
" ขอเดชะพระอาญามิพ้นเกล้า ณ ห้วงเพลานี้ ราชการบ้านเมืองยังคงสงบดี พระเจ้าค่ะ! " เสียงกราบทูลขอมหาเสนาอุปราชวังหน้า ได้เอ่ยทูลต่อเจ้ากษัตริย์ผู้ปกครอง...
" เราเองก็ดีใจนะ กับราชการบ้านเมืองที่เป็นอยู่ในเวลานี้ แต่จากครั้งนั้น ที่ทางอนันตะศิลาลัยได้ส่งสาส์น มายังบ้านเมืองของเรา นี่ก็ใกล้จักได้เวลา ที่จะต้องตอบสาส์นนั้นกลับไปยัง อนันตะศิลาลัยแล้ว"
"พวกท่านทั้งหลาย มีความคิดเห็นเยี่ยงไรกันบ้างรึ? " เจ้าพญาได้เอ่ยถามความเห็น ของเหล่าเสนาบดีทั้งหลาย แต่ก็มิทรงได้รับความกระจ่างอันใดตอบกลับมา
ภายในท้องพระโรงเงียบกริบ อย่างกลับว่าไม่มีผู้ใดอยู่ในนั้นเลย ทุกคนต่างพากันนั่งนึกคิด หาทางที่จะได้เสนอต่างๆ นานา เหล่าเสนาต่างจับกลุ่มคุยปรึกษากันเบาๆ แต่ยังมิทันได้ข้อสรุป...
" ขอเดชะพระอาญามิพ้นเกล้า ท่านพี่..หม่อมฉันควรใคร่อยากเสนอ แต่ก็มิรู้ว่าพระองค์จักเห็นด้วยหรือไม่ พระเจ้าค่ะ! " มหาอุปราชวังหน้าเอ่ยกล่าวเสียงกังวาน
" เจ้ารองกล่าวมาดูทีซิน้องข้า " ท้าวพญาเอ่ยบอกต่อมหาอุปราช...
" การนี้ หากว่าทางเราขัดต่อความประสงค์ ของฝ่ายอนันท์ตลัย หม่อมฉันก็กลัวว่า จักเกิดเป็นมหาสงครามใหญ่หลวง แต่หากจักกระทำตามที่ฝ่ายนั้นขอ แล้วเจ้าตัวเขาจักว่าเยี่ยงไรหรือ พระเจ้าค่ะ! "
" อืมมม...นี่ล่ะเป็นเหตุให้พี่ ต้องเกณฑ์ทุกคนทุกฝ่ายเข้ามาร่วมปรึกษาหารือ ครั้นจะปฏิเสธฝ่ายอนันตะศิลาลัย ก็เป็นเมืองใหญ่มีกองกำลังรี้พลมากมาย คงยากที่จักพ้นบ้านเมืองเราคงแตกเป็นแน่แท้ หากปล่อยให้เกิดสงคราม"
"ครั้นจักยอมยกลูกตัว ไปให้ฝ่ายนั้นก็กระไรอยู่ เห้อ..คิดแล้วก็มืดมนหนทาง "
ท้าวพญาผู้เป็นใหญ่ถอนหายใจยาว ด้วยหมดหนทางและกังวลกับความเสียหายที่จะเกิด หากว่าปฏิเสธ สงครามคงจักเลี่ยงไม่พ้น แต่หากว่าจะทำตาม ก็กลัวว่าลูกจักน้อยใจ ภาวะกลืนไม่เข้า คายไม่ออกมันเป็นแบบนี้เอง...
" ขอเดชะพระอาญามิพ้นเกล้า เพลานี้ องค์จ้าวแสนธนบดินทรามาขอเข้าเฝ้า พระเจ้าค่ะ " เสียงเอ่ยกล่าวกราบทูลถวาย ของทหารหน้าท้องพระโรง..
พอสิ้นเสียงบังคมทูล ร่างสูงสมส่วนสง่าก็เดินพ้นธรณีประตูท้องพระโรง ตรงมายังหน้าบัลลังก์พร้อมทำความเคารพ ต่อเจ้าผู้ครองนคร
" ถวายบังคมพระเจ้าค่ะ เสด็จพ่อ " ครั้นทำความเคารพเสร็จร่างสูงสง่าก็นั่งลงที่ตั่งด้านข้างตรงหน้าบัลลังก์ทอง..
" อืม...นั่งลงเสียก่อนเถิดลูกพ่อ เจ้ามาได้ทันการณ์พอดี พ่อกำลังปรึกษาหารือ กับเหล่าเสนาในเรื่องตอบสาส์นไปยัง อนันตะศิลาลัยอยู่เทียว " ท้าวพญากล่าวบอกต่อบุตรชาย...
" พระเจ้าค่ะท่านพ่อ..ลูกเองก็มาด้วยการณ์นี้เช่นเดียวกัน พะย่ะค่ะ " แสนธนบดินทร์กล่าวต่อผู้เป็นพ่อ..
ครั้นทุกฝ่ายเงียบสงบ แสนธนบดีก็ได้เอ่ยประกาศก้องไปทั่วท้องพระโรง เพื่อให้ทุกผู้คนได้รับทราบถึงการตัดสินใจของตน และต่อหน้าท้าวพญากษัตริย์เจ้าผู้ครองนคร...
" ขอเดชะพระอาญามิพ้นเกล้า ลูกอยากจะประกาศให้เหล่าเสนาทุกฝ่าย ได้รับรู้ท่านพ่อคงจะมิขัดใช่หรือไม่ พระเจ้าค่ะ "
" เชิญเถิด หากว่าลูกคิดดีแล้ว พ่อก็มิขัดเจ้า "
" ขอบพระทัยท่านพ่อ พะย่ะค่ะ "
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้น เดินมายืนตรงหน้าแท่นบัลลังก์ พร้อมคำนับต่อผู้เป็นบิดา เสร็จแล้วจึงหันหน้ามาทางเหล่าเสนาบดีทุกฝ่าย ที่นั่งประจำในท้องพระโรง และกล่าวเสียงก้องกังวานขึ้นว่า....
" ข้าแด่องค์พระมหากษัตริย์ และเหล่าเสนาบดี อันตัวเรา ' องค์จ้าวแสนธนบดินทรานาคา ' ผู้เป็นราชบุตรนาคาแห่งท้าวพญากษัตราธิราชเจ้า"
"เราจักขอประกาศให้ทุกๆ ท่านได้รับรู้ ณ เพลานี้ ราชการงานบ้านเมือง อยู่ในวิกฤตแห่งมหาสงคราม เรา!! ในฐานะผู้ที่จะสามารถหยุดยั้ง มิให้มันเกิดมหาสงครามนี้ได้..!!"
"เราได้คิดและตัดสินใจดีแล้วว่า เราจะเดินทางไปที่อนันตะศิลาลัยนคร ตามพระประสงค์แห่งองค์อนันตะเศษนาคราช.."
"แม้นหนึ่งชีพของเรา หากสามารถปกป้องเหล่าพี่น้องแลประชาราษฎร์ได้ เราพร้อมยินดี!! "
สิ้นเสียงกล่าวขานนั้นจบลง ทุกฝ่ายทั่วท้องพระโรงต่างพากันอึ้ง อื้ออึง บ้างน้ำตาคลอออกมา พร้อมเปล่งเสียงสรรเสริญออกมาพร้อมกัน
"องค์จ้าวแสนจงเจริญญญญ...!!และเสียงไชยโยโห่ร้องก้องไปทั่วท้องพระโรง....