webnovel

0786

บทที่ 786 : คำสั่งย้ายงานมาแล้ว!

________________________________

ออฟฟิศเงียบกริบด้วยความหวาดผวา!

คนทั้งหมดถูกฝ่ามือเดียวนี้ของจางเย่ทำตื่นตระหนก!

ฮาฉีฉี “......”

เสี่ยวหวัง “......”

จางจั่ว “......”

อู่อี้ “......”

อันที่จริงหลังจากตบเสร็จ จางเย่ก็ตะลึงกับตนเองไปครู่หนึ่งเช่นกัน ขณะมองดูมือของตนอย่างงุนงง ทักษะมวยไทเก๊กของเขาตอนนี้ไปถึงขั้นสุดยอดแล้ว หลังจากกิน ‘หนังสือสกิลมวยไทเก๊ก’ เข้าไปมากมายขนาดนั้น ก็ยังไม่มีโอกาสได้ทดลองอย่างเต็มที่สักที เพราะไม่ได้มีเรื่องอะไร จนมาตอนนี้ที่วันนี้ตบโต๊ะทีเดียว ดันสำแดงทักษะมวยไทเก๊กโดยบังเอิญซะงั้น เขาตกใจจนสะดุ้งโหยงไปหมดแล้ว!

ฉิ*หาย!

ที่แท้ลูกพี่ร้ายกาจขนาดนี้เลยเรอะ!?

จางเย่แอบลิงโลด

สวีอีเผิงเพิ่งจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบขึ้น ก็ชี้นิ้วไปที่จางเย่อย่างโกรธเคือง "กะ กะ แก......"

"แกกล้าดียังไงจางเย่!" เฉินเหยี่ยเองก็ระเบิดโมโห “แกจะกบฏใช่ไหมหา! นี่มันกบฏ ชัดๆ!”

จางเย่ร้องโหออกมาคำหนึ่ง “พวกนายทุบโต๊ะตั้งหลายทีไม่เป็นไร ฉันตบไปแค่ทีเดียวแท้ ๆ ก็กลายเป็นกบฏไปแล้ว? พวกนายจะพูดอะไรก็ได้สินะ!”

ลูกทีมใหม่คนหนึ่งตะโกน “นายทุบข้าวของ! ทำลายทรัพย์สินส่วนรวม! กระทำการอุกอาจ!”

จางเย่อันธพาลสุดขีดแล้ว จ้องมองคน ๆ นั้น “ถ้าฉันทำลายทรัพย์สินส่วนรวม แล้วนายจะทำไม?”

จางจั่วโมโห ชี้ไปที่คน ๆ นั้นแล้วว่า “นายอย่าบังอาจมาใส่ความผู้กำกับจางของเรา! อะไรของนายเนี่ย!”

เป็นฮาฉีฉีที่ตอบโต้อย่างรวดเร็ว รู้ดีว่าเรื่องราวชักจะบานปลาย เรื่องตบโต๊ะจะว่าเรื่องใหญ่ก็ไม่ใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กล่ะ โดยเฉพาะตำแหน่งของผู้กำกับจางที่ CCTV1 ตอนนี้ค่อนข้างย่ำแย่ทีเดียว ผลกระทบย่อมหนักกว่าเดิม ดังนั้นฮาฉีฉีจึงเบนสายตา ชี้ไปที่สวีอีเผิงทันที “ฉันเห็นหมดแล้ว เมื่อกี้ตอนที่ผู้กำกับสวีของพวกนายทุบโต๊ะ โต๊ะก็ร้าวแล้ว ดังนั้นพอหัวหน้าจางตบลงไปทีเดียวก็เลยแตก!”

สวีอีเผิงปากอ้าตาถลน!

ห๊ะ?

พูดอะไรของเธอ?

ฉันทุบแตก? ทุบแตกกับปู่เธอสิ! กระจกหนาขนาดนี้ ต่อให้ทุบจนมือหัก แม่*ก็ไม่เป็นรอยร้าวสักนิดหรอกว้อย!

ฮาฉีฉีเปิดประเด็นนำ!

เสี่ยวหวังอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วขานรับทันที “ฉันก็เห็นเหมือนกัน!”

คนในทีมของจางเย่พากันแก้ต่าง!

“ใช่ ฉันเองก็เห็น!”

“เขานั่นแหละ!”

“ผู้กำกับสวีเป็นคนทุบ!”

สีหน้าของสวีอีเผิงกับเฉินเหยี่ยและคนอื่น ๆ ซีดเผือด โมโหจนแทบร้องโหยหวน ที่นี่แม่*ยังพูดจามีเหตุผลอยู่บ้างไหมฟะ!

คนทั้งสองทีมเริ่มโต้เถียงกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ฝ่ามือของจางเย่ทำคนตกใจหนักแล้ว ก็ได้ทิ้งเงามืดเอาไว้ในใจของคนจำนวนไม่น้อย จึงทำให้ฝีปากไม่ค่อยหนักแน่น ในใจก็เริ่มจะขยาดขึ้นมาบ้าง กระจกหนาปานนั้นยังตบแตก ถ้าไอ้คนแซ่จางเกิดหุนหันพลันแล่นตบพวกเขาขึ้นมา ใครแม่*จะรับไหวฟะ!?

วรยุทธ์ของไอ้คนแซ่จางแข็งแกร่งเกินไป!

ไม่เพียงแค่ปากถึง มือก็ยังถึงด้วย!

ดังนั้น ภายใต้การนำของเฉินเหยี่ยและสวีอีเผิง ทุกคนก็พากันไป ‘ฟ้องเบื้องบน’ ต่อ!

เมื่อพวกเขาผละไป ฮาฉีฉีกับคนอื่นต่างร้อนใจ

“หัวหน้าจาง!”

“ทำไงดี?”

“พวกเราก็ไปกันบ้างเถอะ!”

“ใช่ ปล่อยให้ผู้บริหารฟังความพวกเขาฝ่ายเดียวไม่ได้นะ!”

แต่จางเย่กลับบอก “ไม่เป็นไร ปล่อยพวกนั้นเถอะ”

จางจั่ว “แต่ว่า……”

จางเย่หัวเราะอยู่ครู่ แล้วกล่าว “เรื่องร้ายอาจกลายเป็นดีก็ได้นะ”

“หา?” ฮาฉีฉีถามอย่างงุนงง “แบบนี้ยังจะกลายเป็นเรื่องดีได้อีกเหรอคะ?”

……

ห้องประชุมเล็ก CCTV1

บรรดาผู้บริหาร CCTV1 กำลังประชุมกัน หารือเรื่องปัญหาในการทำงานต่าง ๆ เพิ่งพูดคุยไปได้เพียงครึ่ง เลขาของเจียงหน่ายสยงก็รีบเข้ามารายงาน

เจียงหน่ายสยงขมวดคิ้ว “ให้พวกเขาเข้ามาเถอะ”

ประตูเปิดออก สวีอีเผิงกับเฉินเหยี่ยเดินเข้ามา

เจียงหน่ายสยงถาม “มีเรื่องอะไรกัน?”

เฉินเหยี่ยฟ้องอย่างหัวเสีย “จางเย่กบฏแล้ว! ทุบโต๊ะในออฟฟิศจนเละเลย! กระจกหนาสองเซนติเมตรเชียวนะ โดนฝ่ามือเขาฟาดทีเดียวแตกละเอียดยิบ!”

ผู้บริหาร CCTV1 คนหนึ่งได้ยินดังนั้นก็ถาม “ก็เลยบอกว่าเขาแปรพักตร์งั้นเหรอ?”

เจียงหน่ายสยงรู้สึกว่าเฉินเหยี่ยใช้คำพูดโอเวอร์ไป “กระจกหนาขนาดนั้น ฟาดไปฝ่ามือเดียวแตกเนี่ยนะ? นายอย่าแต่งเรื่องเสริมสิ เรื่องจริง ๆ เป็นยังไงกันแน่?”

เฉินเหยี่ยไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ฝ่ามือเดียวจริง ๆ นะครับ!”

สวีอีเผิงก็ยืนยัน “เป็นเรื่องจริงนะครับ หลายคนก็เห็นกันหมด!”

เจียงหยวน “......”

สวีอีเผิงกล่าว “หัวหน้าครับ จางเย่คนนี้เลวทรามเกินไปแล้ว ความขี้โมโหของเขานั่น ผมเองก็รับไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ยังมีไอ้พวกลูกน้องเขานั่นอีก แต่ละคนตามแต่เขา ไม่มีใครฟังคำสั่งผมกับเหล่าเฉินเลยสักคน สองวันมานี้ก็ทะเลาะเบาะแว้งกันกับคนทีมใหม่ไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเราจะทำรายการอะไรได้ล่ะครับ? วัน ๆ เอาแต่ทะเลาะกัน ทำงานไม่เสร็จเลยสักคน!”

เฉินเหยี่ยก็บอก “ผอ.เจียงครับ พวกเรากับจางเย่รวมถึงทีมของเขาอยู่ร่วมกันไม่ได้แล้ว ให้พวกเขาย้ายออกไปได้ไหมครับ? หรือไม่ก็หาออฟฟิศใหม่ให้พวกเราแทนก็ได้!”

เจียงหยวน “ทีม ‘เดอะวอยซ์’ ยังไงก็เคยมีประสบการณ์ได้เรตติ้งวาไรตี้อันดับหนึ่งของประเทศ คนเหล่านี้ยังมีความสามารถด้วย ถ้าไม่รู้จักใช้พวกเขาให้เป็นประโยชน์ พวกนาย……”

สวีอีเผิงย้ำหนักแน่น “ไม่มีพวกนั้น รายการเรายังจะทำได้ดีซะกว่า!”

เฉินเหยี่ยเองก็ว่า “พูดถึงประสบการณ์ พูดถึงความสามารถ ตอนนี้ในทีมใหม่พวกเรามีใครเทียบพวกนั้นไม่ได้บ้าง? คนเหล่านี้ล้วนเป็นหัวกะทิของ CCTV1 เราทั้งนั้น! หัวหน้าครับ ผมกับผู้กำกับสวีเห็นตรงกัน ไม่มีพวกเขา พวกเราก็หมดตัวถ่วงแล้ว ถ้าหากแรงงานคนไม่พอจริง ๆ ล่ะก็ ไปย้ายคนมาจากแผนกอื่นก็ได้ครับ หรือถ้าไม่ได้จริง ๆ แค่ยืมมาชั่วคราวก็ยังได้! ยังไงก็ดีกว่าคนในทีม ‘เดอะวอยซ์’ ที่แตะไม่ได้!”

เจียงหน่ายสยงนิ่งคิด แล้วมองไปยังผู้บริหารคนอื่น “ทุกท่านคิดเห็นว่ายังไงบ้าง?”

ผู้บริหารคนหนึ่ง “ผมว่าก็มีเหตุผล จางเย่กับลูกน้องเขาแต่ละคนหัวรุนแรงไม่น้อยไปกว่ากัน คนทั่วไปจัดการพวกเขาไม่อยู่หรอก ถ้าเป็นแบบนี้ ไม่ต้องใช้งานเลยดีกว่า”

ผู้บริหารอีกคนกล่าว “ผมว่านะ นอกจากจางเย่ ทีเหลือก็ไล่ออกให้หมดสิ!”

ผู้บริหารที่อยู่ข้าง ๆ คนหนึ่งท้วง “ไล่ออกไม่ได้ เหล่าฮาก็ดี จางจั่วก็ดี ทุกคนล้วนเป็นคนเก่าคนแก่ของ CCTV1 ไปแล้ว ต่างทุ่มเทแรงกายแรงใจมาตลอด แถมยังทำรายการระดับโลกอย่าง ‘เดอะวอยซ์’ ออกมาได้ ถ้าไล่ออกไปหมด ข้อแรกคือผลที่ตามมาไม่ดีแน่ ยากที่จะหลีกเลี่ยงคำครหาจากพนักงานคนอื่น ๆ อาจรู้สึกว่า CCTV1 เราไร้ความยุติธรรมเกินไป ข้อสอง ชื่อทีมงาน ‘เดอะวอยซ์’ ก็ดังก้องในวงการนะ ถ้าปล่อยให้พวกเขาไปจริง ๆ ฉันเชื่อว่าแค่วันที่ไล่พวกเขาออก ก็จะมีสถานีอื่นมาเชื้อเชิญพวกเขาในวันเดียวกันทันทีแน่ หากปล่อยให้พวกเขาไปอยู่สถานีอื่นจริง ๆ ไม่เท่ากับปล่อยเสือเข้าป่าหรอกหรือ? มิหนำซ้ำยังเป็นการทำให้คนอื่นได้เปรียบอีกเนี่ยนะ?”

เจียงหยวนพยักหน้าเห็นด้วย “พูดได้ถูก”

เจียงหน่ายสยงเองก็ปวดหัวหนัก “งั้นจะจัดการคนพวกนี้ยังไงดี? แค่ปล่อยจางเย่กับคนของเขาไว้ตรงนั้น เลี้ยงพวกเขาไว้เฉย ๆ หรือ? ให้พวกเขาหาเรื่อง CCTV1 ไปวัน ๆ?”

เจียงหยวนกล่าวอย่างเจ็บแค้น “ไอ้หมอนี่ชักจะได้ใจเกินไปแล้วจริง ๆ!”

ทันใดนั้น ที่ประตูก็มีเสียงเอะอะ

“ผอ.เหยียน!”

“เข้าไปไม่ได้นะครับ!”

“ข้างในกำลังประชุมกันอยู่!”

“ฉันก็มาหาพวกเขานั่นแหละ!”

“คุณยังเข้าไปไม่ได้นะครับ ไอ้หยา! ผอ.เหยียน!”

เลขาไม่อาจขัดขวางเอาไว้ได้ ประตูถูกคนผลักเปิดออกจากข้างนอก เหยียนเทียนเฟยแห่ง CCTV ช่อง 14 ก้าวฉับ ๆ เข้ามา “เหล่าเจียง อยากเจอนายนี่ยากเย็นจริงนะ!”

คนที่อยู่ในห้องประชุมล้วนมีสีหน้าแตกต่างกัน

เจียงหน่ายสยงหลบหน้าเขามาได้สองวันแล้ว ไม่นึกเลยว่าจะซ่อนไม่อยู่ จึงแสร้งโง่กล่าว “เหล่าเหยียน มาหาฉันมีธุระงั้นหรือ?”

เหยียนเทียนเฟยกล่าวอย่างไม่เป็นมิตรนัก “ต้องมีธุระแน่ล่ะสิ ตามหานายมาสองวันแล้ว! ฉันถามหน่อย คนใหม่สองคนของช่องเรา นายย้ายไปจากฉันใช่ไหม! นายคิดจะรังแกช่องสิบสี่เราอย่างนั้นใช่ไหม? อย่าลืมนะ ว่าเมียนายฉันก็เป็นคนแนะนำให้รู้จัก แล้วตอนนี้นายสอดมือเข้ามายุ่งกับฉันแบบนี้ นายหมายความว่ายังไง?”

ทุกคนต่างมองไปทางเจียงหน่ายสยง

เจียงหน่ายสยงพลันมีสีหน้ามืดทะมึน

เกี่ยวอะไรกับเรื่องเมียฉันวะ!

เจียงหน่ายสยงแต่งงานช้า อายุสามสิบเก้าเพิ่งจะได้แต่ง ในตอนแรกที่เขาไปเดทนั้น ความจริงแล้วก็เกี่ยวข้องกับเหยียนเทียนเฟยอยู่ ในตอนนั้นเหยียนเทียนเฟยยังไม่ได้ประจำอยู่ช่องสิบสี่ ภรรยาของเจียงหน่ายสยงในปัจจุบันตอนนั้นรับตำแหน่งผู้ช่วยคนหนึ่งของเหยียนเทียนเฟยอยู่ เพราะตอนนั้นแผนกของเหยียนเทียนเฟยกับเจียงหน่ายสยงมีโปรเจกต์หนึ่งที่ทำร่วมกัน หนึ่งในบรรดาฝั่งของเหยียนเทียนเฟยที่ได้ไปที่นั่นก็คือภรรยาของเจียงหน่ายสยงในปัจจุบัน คู่รักเจียงหน่ายสยงเลยได้ติดต่อกันบ่อย ๆ จนในที่สุดก็ได้แต่งงานกัน ดังนั้นถ้าจะบอกว่าเรื่องดี ๆ แบบนี้ย่อมเป็นเพราะเหยียนเทียนเฟยมีเอี่ยวด้วยนิดหน่อยแน่นอน แต่ถ้าจะบอกว่าเหยียนเทียนเฟยเป็นคนแนะนำภรรยาให้เจียงหน่ายสยงนั่นก็พูดเกินไปหน่อย

แต่ก็นั่นแหละ เหยียนเทียนเฟยอยากจะพูดแบบนี้ เจียงหน่ายสยงก็ไปเถียงด้วยไม่ได้อยู่ดี “เหล่าเหยียนก็ นายใจเย็น ๆ ใจเย็น ๆ นั่งลงก่อน”

เหยียนเทียนเฟยไม่ไว้หน้าเขาเลย “เรื่องนี้ นายจะเอาไงก็บอกมา!”

เจียงหน่ายสยงรู้ดี เรื่องย้ายคนของเหล่าเหยียนไม่ง่ายดายอย่างนั้นจริง ๆ ถ้าไม่ชดเชยให้เขาสักอย่างแล้วล่ะก็ เหล่าเหยียนผู้นี้ก็ไม่เกี่ยงที่จะโวยวายใส่ช่องหนึ่งของพวกเขาไปสามเดือนห้าเดือนติดจริง ๆ นั่นแหละ! คิดมาถึงตรงนี้ แล้วคิดถึงช่องไก่กาของเหล่าเหยียนนั้น เจียงหน่ายสยงมองไปทางสวีอีเผิงกับเฉินเหยี่ย แล้วก็เกิดความคิดขึ้นมาทันที “เรื่องนี้ถึงแม้ว่าหัวหน้าสถานีจะเป็นคนจัดการ ฉันก็ต้องชดเชยให้นายแน่นอน ไหน ๆ ก็พูดขึ้นมาแล้ว ฉันก็ว่ากำลังจะไปหานายอยู่พอดี รู้ว่าช่องของพวกนายเพิ่งจะก่อตั้งได้ไม่นาน คนงานยังไม่คุ้น เรตติ้งก็เลยไม่ค่อยโอเค ดังนั้นเพื่อช่องพี่ช่องน้อง ช่องหนึ่งเราต้องให้การสนับสนุนแน่นอน!”

เหยียนเทียนเฟยมองเขา “อ้อ? งั้นนายจะสนับสนุนยังไงล่ะ?”

……

ช่วงบ่าย

CCTV มีข่าวซุบซิบไม่หยุด

“ได้ยินข่าวรึเปล่า?”

“ได้ยินแล้ว จางเย่ทุบโต๊ะเละล่ะ!”

“ที่เธอได้ยินมาธรรมดาไปหน่อยนะ จางเย่ซัดฝ่ามือเดียวโต๊ะกระจกหนาห้าเซนติเมตรแหลกไปเลยต่างหากย่ะ!”

“จริงเหรอเนี่ย?”

“ฉิ* ป่าเถื่อนขนาดนี้เลยเหรอ?”

“บ้าสิ เธอเอามาจากไหนเนี่ย? กระจกหนาห้าเซนติเมตรอะไรกัน? ตบโต๊ะทำงานไม้ทีเดียวหักต่างหากล่ะ!”

“หา?”

“ตะ โต๊ะไม้?”

“ทำไมฉันได้ยินมาว่าตบโต๊ะหินอ่อนยักษ์ทีเดียวพังอ่ะ?”

“......”

“หน่วยเรามีโต๊ะหินอ่อนยักษ์ด้วยเหรอ?”

“เชี่* ทำไมยิ่งเล่ายิ่งแฟนตาซีล่ะฟะ!”

ข่าวลือแพร่ไม่หยุด ยิ่งนานยิ่งเวอร์วัง

แต่มีอยู่ข่าวหนึ่งที่จริงแท้แน่นอน!

วันเดียวกันเวลาบ่ายสามโมงตรง CCTV1 ส่งเมล์ภายในฉบับหนึ่ง : จางเย่รวมถึงพนักงานในอดีตทีม ‘เดอะวอยซ์’ ทั้งหมดทุกคน ย้ายตำแหน่งไป CCTV14 !

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*