บทที่ 744 : คนแรกของโลกใบนี้!
______________________________
ขณะเดียวกัน
จางเย่ที่เพิ่งออกมาจากศาลก็ตรงกลับไปบ้านพ่อแม่
พอควักกุญแจเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นเฉินเฉินที่กำลังคุ้ยตู้เย็นหาโคล่าดื่ม เฉินเฉินจ้องเขา แล้วอ้าปาก “จางเย่ คุณหาเรื่องถูกด่าแล้ว”
จางเย่เหลือกตาใส่ “ฉันจะถูกด่าอะไร?”
จากนั้นพ่อกับแม่เดินออกมาจากห้องนอน
แม่โกรธแทบตาย “แกไปก่อเรื่องอะไรมาอีกหา!”
“ทำไมข่าวไวจัง? รู้เรื่องหมดแล้วเหรอ?” จางเย่ถาม
“ข่าวออกเต็มไปหมด! จะไม่รู้ได้เรอะ!” แม่กล่าวอย่างฉุนเฉียว
“แม่ ผมไม่ได้เป็นคนก่อเรื่องนะ” จางเย่กล่าวยิ้ม ๆ “ผมก็แค่ปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันพึงได้ของผมก็เท่านั้นเอง”
แม่กล่าวอย่างกังวล “แต่นั่นมัน CCTV นะ!”
จางเย่ยักไหล่ “CCTV แล้วยังไง? คนที่เป็นกรรมกรบ้านนอกโดนโกงค่าแรง ก็ล้วนต้องใช้วิธีทางกฎหมายมาปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของตนเองกันทั้งนั้น ทำไมผมจะทำมั่งไม่ได้ล่ะ? ผมก็แค่ฟ้องพวกนั้นเอง!”
แม่กล่าว สายตาขุ่นตาเขียว “แกทำฉันโมโหแทบตายแล้ว! บอกมาซิว่าทำไมชอบทำให้คนอื่นกังวลอยู่เรื่อย เงินก็แค่แปดพันกว่าเองไม่ใช่รึ แค่แกผายลมก็หาได้แล้ว ทำไมแกจะต้องไปท้าทาย CCTV1 ด้วยล่ะ! แกบอกมาซิว่าแกเพิ่งเข้าทำงานที่ CCTV ได้แค่กี่วัน แค่นี้ก็ทะเลาะกันอีกแล้ว! เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ไม่ว่าจะแก้ไขยังไง ไม่ว่ากฎหมายจะตัดสินยังไง ก็ไม่เป็นผลดีกับแกอยู่ดี แล้วแบบนี้แกจะยังอยู่ที่ CCTV1 ต่อไปได้ยังไง? ถึงตอนนั้นระบบโทรทัศน์แบนแกหมดเลย แกจะทำยังไงหา?”
พ่อกล่าวเตือน “แกใจร้อนเกินไป หากมีเรื่องอย่างน้อยก็มาควรปรึกษาพ่อกับแม่ก่อนสิ”
จางเย่อธิบาย “แต่ตอนนี้ปัญหาไม่ใช่แค่เรื่องค่าแรงแปดพันกว่าน่ะสิ มันไม่ใช่เหตุผลหลัก”
แม่เอ็ดตะโร “เหตุผลหลักอะไรก็ฟ้องร้อง CCTV ไม่ได้!”
จางเย่จึงขยายความ “ก็ CCTV1 อยากแย่งลิขสิทธิ์ ‘เดอะวอยซ์’ ระหว่างประเทศของผมนี่นา พอผมไม่ให้ พวกนั้นเลยระงับค่าจ้างเป็นการตอบโต้ผม ลูกพี่อยากจะบอกพวกนั้นสักหน่อยว่าลูกพี่เป็นใคร พวกนั้นคิดว่าลูกพี่เป็นไอ้งั่งรึ?”
แม่ยังคงเดือดจัด “กะอีแค่ลิขสิทธิ์ข้ามชาติตัวเดียวจะทำเงินได้สักเท่าไรกันเชียว! มันสำคัญกว่างานแกเรอะ!”
จางเย่กระพริบตาปริบ ๆ กล่าว “อย่างน้อยก็ร้อยล้านน่ะ นี่แค่คร่าว ๆ นะ”
พอได้ฟังเช่นนี้ แม่พลันอึ้งไป ก่อนกล่าวอย่างแตกตื่น “อะไรนะ? ร้อยล้าน? ขายได้ร้อยล้านเลยเหรอ? ไอ้…...ไอ้ CCTV ยายคนที่สองแม่*! ฟ้องไอ้สารเลวนี่ซะ! ฟ้องมัน!” แม่ตบโต๊ะแล้วลุกยืนพรวด!
จางเย่ “......”
พ่อ “......”
เฉินเฉิน “......”
ท่านแม่จะเปลี่ยนท่าทีไวไปไหมครับ!
จากนั้นก็ได้ฟังแม่สาปแช่ง CCTV1 กับตัวเองไปอีกห้านาทีเต็ม จนในที่สุด แม่ค่อยกล่าวปนหอบเหนื่อย “ลูกชาย เรื่องนี้ลูกอย่าไปยอมเชียว! ฟ้องร้องเลย! ไม่ต้องไปสนใจใครจะว่ายังไง! แม่สนับสนุนลูกเต็มที่! ฮึ่ม! กรรมกรบ้านนอกโดนโกงค่าแรงยังใช้กฎหมายมาเป็นอาวุธปกป้องสิทธิผลประโยชน์ตนเองเลย ทำไมลูกชายฉันจะทำมั่งไม่ได้? CCTV เรอะ? CCTV แล้วยังไง! CCTV แล้วยังมาแย่งเงินบ้านเราได้เรอะ!”
จางเย่กล่าวอย่างอึ้ง ๆ “แม่ อันนี้เหมือนผมจะพูดไปแล้วนะ”
“งั้นหรือ? จริงสิลูก หิวแล้วใช่ไหม? กินข้าวหรือยัง?” แม่ถาม
“ยังเลย ตอนบ่ายมัวแต่วุ่นที่ศาลตลอด” จางเย่ตอบ
แม่ตรงไปที่ครัว “รอเดี๋ยวนะ แม่จะทำกับข้าวให้ กินให้อิ่ม ตุนแรงไว้ พรุ่งนี้จะได้ไปจัดการพวกมัน!”
“ขอบคุณครับแม่ งั้นผมขอกลับห้องไปงีบสักเดี๋ยว เหนื่อยจังเลย” จางเย่ดื่มน้ำไปอึกหนึ่ง จากนั้นก็เข้าห้องของตนเองไป ถลาไปนอนบนเตียงทั้งชุดอย่างนั้น ในที่สุดก็ได้สุขสบายสักที
จากนั้น เขาควักโทรศัพท์มือถือของตนเองออกมาดู
สายที่ไม่ได้รับ นับรวมได้สิบกว่าสาย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเพื่อนสนิทโทรมา
จางเย่ค่อย ๆ โทรกลับทีละสาย “ฮัลโหล เหล่าเหยา โทรมาเหรอ?”
เหยาเจี้ยนไฉ “ฉันโทรหานายตั้งสองรอบไม่รับสาย”
จางเย่ “โอย เมื่อกี้อยู่ที่ศาลน่ะ เลยไม่ได้ดู”
เหยาเจี้ยนไฉ “ฉันว่านะไอ้น้องชาย คราวนี้นายหัวร้อนเกินไปนะ! นายทำฉันตกใจฉี่แทบราดแน่ะ! ฉันโทรมาเตือนนายแล้วแท้ ๆ นายยังบอกว่านายรู้ขอบเขตของตัวเองดีอยู่เลย ฉันก็นึกว่านายเข้าใจแล้วเสียอีก ที่ไหนได้ นายไม่ได้ฟังฉันแต่แรกเลยนี่หว่า เล่นไปฟ้องร้อง CCTV ซะงั้น แล้วตอนนี้จะยุติเรื่องยังไงล่ะ?”
จางเย่หัวเราะ “ผมไม่อยากจะยุตินี่นา”
เหยาเจี้ยนไฉ “นายเชื่อพี่ชายคนนี้สักครั้งน่า รีบถอนคดีเถอะ ตอนนี้ยังทัน คราวนี้สถานการณ์ของนายไม่เหมือนเก่าแล้วนะ!”
จางเย่กล่าว “หึหึ ผมรู้น่าว่าคราวนี้ไม่เหมือนเก่า แต่น้ำกระเซ็นไปแล้ว เอากลับคืนไม่ได้หรอก เหล่าเหยาผมรู้ว่านายหวังดี แต่การถอยไม่ใช่หลักการของผม ถ้าถอยก้าวหนึ่ง มันก็ต้องมีก้าวที่สอง ก้าวที่สาม ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่รู้จบ”
เหยาเจี้ยนไฉถอนหายใจ “แล้วถ้านายโดนดองล่ะ?”
จางเย่ “ไม่เป็นไรหรอก”
เหยาเจี้ยนไฉ “ชาตินี้นายจะไม่ขึ้นเวทีคืนส่งปีของ CCTV1 แล้ว?”
จางเย่ “ก็ไม่เป็นไร”
เหยาเจี้ยนไฉได้ฟังดังนั้น ก็กล่าวอย่างจนใจ “โอเค งั้นฉันไม่พยายามเกลี้ยกล่อมแล้ว”
จางเย่ “ตอนนี้ผมอยู่ในโหมดนักรบ ใครกล่อมก็ไม่มีประโยชน์หรอก”
ทางนี้เพิ่งวางสาย
ศิลปินอาวุโสแห่งชาติจางเสียก็โทรเข้ามา
จางเย่ “คุณย่าจาง โทรหาผมเหรอครับ?”
จางเสียกล่าวอย่างอึดอัด “มีเพื่อนเก่าใน CCTV คนหนึ่งมาขอร้อง ให้ฉันคุยกับเธอ เผื่อว่าพวกเธอจะแก้ไขภายในกันเองได้”
“งั้นคุณ……” จางเย่กำลังจะพูด
แต่จางเสียขัดก่อน “แต่ว่าฉันก็ไม่อยากไปสอดเรื่องของพวกเธอหรอกนะ ฉันรู้จักนิสัยใจคอเธอดี ที่โทรมานี่ก็เพียงจะถามไถ่สถานการณ์ของเธอเท่านั้น”
จางเย่หัวเราะ “ผมเหรอ? ผมกำลังดีเลยครับ”
จางเสียถาม “เตรียมการณ์ไว้พร้อมแล้วหรือ?”
จางเย่ตอบ “ใช่ครับ”
จางเสีย “ดี งั้นฉันไม่พูดให้มากความแล้ว ถ้าเพื่อนเก่าคนนั้นมาถาม ฉันก็จะตอบว่าฉันติดต่อเธอไม่ได้”
จากนั้น ก็มีเพื่อนไม่น้อยโทรมาอีกติด ๆ กัน
เสียวหลวี่
หวังเสียวเหม่ย
เถียนปิน
หูเฟย
ต่างโทรมาเกลี้ยกล่อมจางเย่อย่างร้อนใจ
หูเฟยซึ่งฝังตัวอยู่ที่สถานี BTV เข้าใจเรื่องราวในวงการบันเทิงนี้และรู้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ดีที่สุด เขาถึงกับเกรี้ยวกราดใส่จางเย่อย่างที่ไม่ค่อยได้พบเห็นนัก เพื่อให้ชายหนุ่มถอนฟ้อง จะว่าไปแล้ว จางเย่เข้าสู่วงการบันเทิงเป็นครั้งแรกได้ก็เพราะหูเฟยพาเข้ามา หูเฟยเป็นผู้นำทางให้และเป็นสหายต่างวัยของจางเย่ กล่าวได้ว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่ห่วงใยจางเย่จากก้นบึ้งของหัวใจจริง ๆ
แต่จางเย่ไม่ก็ไม่ฟังคำทัดทานแม้แต่น้อย เขายืนกรานในทางของตนเอง
ความจริงแล้วคนที่เข้าใจจางเย่ต่างรู้ดีว่า ครั้งนี้ จางเย่โกรธจัดแล้วจริง ๆ เห็นได้ชัดว่าจำนวนเงินหนึ่งร้อนล้านหยวนที่เรียกเป็นค่าชดเชยนั้น เป็นจำนวนเงินที่มากมายมหาศาล แต่ก็ยังเรียกร้องอย่างไม่ไยดี อย่าว่าแต่จ่ายค่าแรงช้าไปหนึ่งวันเลย ต่อให้จ่ายช้าไปห้าสิบปี ก็ไม่อาจถึงร้อยล้านได้ เห็นได้ชัดว่าศาลก็คงไม่อาจตัดสินให้ชดเชยจำนวนหนึ่งร้อยล้านเช่นกัน ทว่าตัวเลขจำนวนนี้ คือสัญลักษณ์แสดงความโกรธเกรี้ยวและอารมณ์อันคุกรุ่นของจางเย่!
หนึ่งร้อยล้าน?
ฉันจะเอาร้อยล้านของพวกแม่*มาเป็นค่าชดเชย!
พวกแก CCTV1 ไร้เหตุผล? งั้นฉันจะไร้เหตุผลกว่าพวกแก! ต่อให้ฉันเรียกร้องพันล้านพวกแกจะทำอะไรฉันได้? กัดฉันเรอะ?
……
โทรศัพท์เสร็จ ข้าวก็เสร็จพอดี
จางเย่กินไปตาดูข่าวและเวยป๋อบนโทรศัพท์มือถือไปด้วย พบว่าเวลานี้ในอินเทอร์เน็ตมีแต่กระทู้เกี่ยวกับเขาและ CCTV1 เต็มไปหมด!
พาดหัวอยู่ในกระดานสนทนาที่ใหญ่ที่สุด!
กระทู้บนเวยป๋อมีการแสดงความคิดเห็นกว่าสองแสนครั้ง!
จางเย่เองก็ไม่ได้คาดว่าเรื่องนี้จะได้รับความสนใจมากมายขนาดนี้ แทบทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่ม ดูท่าข่าวบันเทิงค่ำนี้ก็คงจะมีแต่ข่าวนี้เช่นกัน ตัวจางเย่ก็ไม่รู้ว่าถูกยกขึ้นมาใจกลางวงสนทนาครั้งแล้วครั้งเล่ากี่สิบครั้ง! ชาวเน็ตนับไม่ถ้วนตะโกนเชิดชูให้จางเย่เป็น ‘วีรบุรุษ’!
“ครึ่งเทพจางเย่สำแดงเดชอีกแล้ว!”
“ฉันว่าแล้ว วันใดที่จางเย่มาอยู่ในวงการบันเทิง วันนั้นวงการบันเทิงจะไม่มีทางสงบสุขเลยตลอดกาล!”
“ขออวยพรอาจารย์จางโชคดีในคราวนี้!”
“โคตรตื่นเต้นเลย! นี่แหละที่ต้องการ!”
“น่าสนุกจริง ๆ! ฉันรู้แล้วว่าทำไมถึงมีคนชื่นชอบอาจารย์จางมากมายขนาดนี้ เพราะคำพูดที่ต่อให้ทั้งชีวิตพวกเราก็ไม่กล้าพูด เขาพูด! เพราะเรื่องที่ต่อให้ทั้งชีวิตพวกเราไม่กล้าลงมือ เขาทำ!”
“ฉันชอบดูคนทะเลาะกับจางเย่ชะมัด เพราะในเวลาแบบนี้ทั่วร่างของอาจารย์จางจะเปล่งประกายรัศมีแห่งความเหี้ยมหาญ! ฉันว่าสิ่งที่ฉันชอบที่สุดเกี่ยวกับอาจารย์จางไม่ใช่แต่งกลอน ไม่ใช่เขียนหนังสือและไม่ใช่ทำรายการ สิ่งที่ฉันชอบที่สุดเกี่ยวกับเขาก็คือการต่อสู้กับผู้คนอย่างดุร้าย! นี่สิถึงจะเป็นทักษะที่อาจารย์จางช่ำชองที่สุด!”
“คนแรกที่ประกาศสงครามกับ CCTV !”
การที่เรื่องราวอึกทึกอย่างนี้ มีเหตุสองประการ
ประการแรก แม้ว่าก่อนหน้านี้จางเย่จะเคยขัดแย้งกับองค์กรต่าง ๆ มามากมาย แต่ขนาดขององค์กรเหล่านั้นไม่อาจเทียบเท่า CCTV ได้เลย ถึงแม้ว่าจางเย่จะเคยถูกแบน หรือกระทั่งถูก SARFT แบนมาก่อน แต่จะว่าไป นั่นคือการเป็นฝ่ายถูกกระทำทั้งสิ้น เขาถูกโยนไปอยู่ในรายชื่อศิลปินต้องห้ามก่อนจึงค่อยหาทางตอบโต้ แต่ความขัดแย้งกับ CCTV ในครั้งนี้ไม่เหมือนกัน คราวนี้ จางเย่มีวิธีการแก้ปัญหาภายใต้สถานการณ์ที่สมบูรณ์พร้อมกว่าเดิม เลือกเคลื่อนไหวโดยการประกาศสงครามก่อน อย่างไรก็ตาม CCTV1 ก็ยังคงเป็นพี่ใหญ่อันดับหนึ่งแห่งวงการ! จึงทำให้คนตกตะลึงสะเทือนเลื่อนลั่นแตกต่างกัน!
ประการที่สอง เป็นเพราะเรื่องนี้คือสาเหตุที่สามารถสั่นคลอนวงการบันเทิงได้! เพราะฉะนั้น บนโลกใบนี้ สำหรับวงการบันเทิงแล้ว ตั้งแต่มีการก่อตั้งสถานีโทรทัศน์เป็นต้นมา ในประวัติศาสตร์ไม่เคยมีเหตุการณ์ที่ศิลปินฟ้องร้องสถานีโทรทัศน์มาก่อนเลยสักคน!
ใช่แล้ว!
ไม่เคยมีแม้แต่ครั้งเดียว!
ในโลกแห่งนี้ จางเย่เป็นคนแรก!
ดังนั้น จึงสั่นสะเทือนทั่วทั้งประเทศ!
ดังนั้น ในวงการจึงโกลาหล!
ไม่ว่าจะชนะหรือพ่ายแพ้ ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ประวัติศาสตร์ต่างต้องจารึกช่วงเวลาวันนี้ไว้!
ครั้งหนึ่ง มีบุรุษผู้หนึ่งนามจางเย่ ได้บอกกับ CCTV1 ว่า “ไม่!”
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*