บทที่ 18 กลับไปเรียน (2)
เช้าวันต่อมา เมื่อตื่นแล้วซีหลินก็ค้นความทรงจำ พบว่าเจ้าของร่างบันทึกตารางเรียนไว้ในโทรศัพท์มือถือ เธอกดเปิดดูก็พบว่าตารางที่เธอลงทะเบียนเรียนเทอมนี้ค่อนข้างว่าง มีเรียนแค่สิบเจ็ดหน่วยกิตเท่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นวิชาสามหน่วยกิตและมีหนึ่งวิชาน่าจะเป็นวิชาภาคปฏิบัติมีทั้งหมดหกหน่วย หนึ่งสัปดาห์มีเรียนที่มหาวิทยาลัยแค่สามวันเท่านั้นเอง
"ตารางแบบนี้ดีอะ" พึมพำกับตัวเองด้วยความดีใจ ทบทวนความทรงจำในนิยาย เลยคิดว่าเพราะแบบนี้นี่เอง นางเอกเหลียงเยว่ซินถึงได้มีเวลาไปทำนั่นทำโน่น ทั้งรับงานในวงการบันเทิงและยังสามารถกลับมาเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยเป็นนักเรียนดีเด่นได้ ตารางเรียนของเธอกับหลี่ซีหลินน่าจะเหมือนกัน
วันนี้ซีหลินมีวิชาที่ต้องเรียนตอนเช้าและบ่ายรวมสองวิชา ตารางเรียนเริ่มที่เก้าโมงเช้า มองนาฬิกาก็หกโมงกว่าแล้ว เธอไม่แน่ใจว่าการเดินทางจากโรงพยาบาลไปมหาวิทยาลัยต้องใช้เวลาเท่าไหร่ เลยคิดว่าควรรีบแต่งตัวออกเดินทางแต่เนิ่นๆดีกว่า อีกอย่างเช้านี้เธอมีหลายเรื่องที่ต้องทำ
"พี่คะ อาการของหนูดีขึ้นมากแล้ว แผลที่หน้าก็จางลงเยอะจนมองแทบไม่เห็น หนูว่าจะขอคุณหมอเขาออกจากโรงพยาบาล แล้วแวะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยหน่อย วันนี้พี่อยู่คนเดียวไปก่อนนะคะ"
"น้องจะกลับไปเรียนมหาวิทยาลัยแล้วเหรอ" หลี่อี้เทียนเอ่ยถามด้วยความดีใจ
"ใช่ค่ะ หยุดมาหลายอาทิตย์แล้ว ถ้าไม่กลับไปก็กลัวจะมีปัญหา"
"แล้วสภาพจิตใจน้องโอเคอยู่ใช่ไหม ถ้ากลับไปเรียนแล้วถูกคนหัวเราะเยาะเรื่องที่ครอบครัวเราล้มละลาย…"
"สภาพจิตใจหนูเข้มแข็งขึ้นมากแล้วค่ะพี่ใหญ่ ถ้าใครมาพูดไม่ดีใส่หนู หนูก็จะด่ามันกลับเลย"
"น้องสาวของพี่ด่าคนเป็นแล้ว" หลี่อี้เทียนยิ้มด้วยความเอ็นดู
"คนเราก็ต้องรู้จักการพัฒนาสิคะ แต่ก่อนนี้หนูอ่อนแอเกินไป เลยมีแต่คนคิดว่าอยากพูดแย่ๆ หรือรังแกหนูยังไงก็ได้ แต่ต่อจากนี้ไปหนูไม่ยอมแล้วค่ะ หนูจะสู้มันกลับ"
หลี่อี้เทียนที่กำลังนั่งมองดูน้องสาวแต่งหน้าปกปิดรอยฟกช้ำ พอได้ยินคำตอบนั้นก็มีสายตาหม่นหมองลง ถ้าเป็นเมื่อก่อนน้องก็คงไม่ต้องมาต่อสู้ดิ้นรนแบบนี้ แต่เพราะเขาไม่แข็งแกร่งพอ ถูกคนวางแผนร้ายลับหลังจนบริษัทล้มละลาย สูญสิ้นเงินและอำนาจ ทำให้ครอบครัวของเราต้องกลายเป็นคนอ่อนแอที่ใครๆก็สามารถข่มเหงรังแกได้แบบนี้
"ว่าแต่ว่าเช้านี้อาการของพี่ใหญ่เป็นยังไงบ้างคะยังเจ็บตรงไหนอยู่ไหม วันนี้หนูมีเรียนทั้งวันอาจกลับมาเย็นๆหน่อย พี่อยู่คนเดียวได้ไหมคะ"
"พี่ไม่เป็นไร พี่อยู่ได้ น้องไปเรียนเลยไม่ต้องเป็นห่วงพี่ อืม…ว่าไปแล้ว" หลี่อี้เทียนขยับแขนข้างที่อยู่ในเฝือก
"แปลกจัง ทำไมตั้งแต่ตื่นมาพี่ก็ไม่รู้สึกเจ็บแขนเลย ทั้งๆที่เมื่อวานตอนฤทธิ์ยาแก้ปวดจะหมด ตื่นเช้ามาพี่ก็จะปวดแขนมาก แต่วันนี้มีแค่รู้สึกขัดๆนิดหน่อยเท่านั้น ไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรแล้ว"
"อาการของพี่ ดีขึ้นแล้วจริงๆเหรอคะ" ซีหลินรีบวิ่งเข้าไปดูบาดแผลต่างๆของพี่ใกล้ๆ ดูเหมือนรอยฟกช้ำที่ถูกชกยังบวมช้ำอยู่ อาการดีขึ้นกว่าวันก่อน แต่ก็ไม่ได้มากมายจนผิดปกติ ยาสมานกระดูกน่าจะรักษาที่กระดูกเท่านั้นหรือเปล่า แต่อาการกระดูกร้าวของพี่น่าจะดีขึ้นมากแล้ว เลยไม่รู้สึกเจ็บอะไรอีก
"ให้หนูเรียกหมอมาตรวจอาการให้พี่ดีไหมคะ"
"เดี๋ยวสายๆหมอเขามาแล้วพี่ค่อยเล่าอาการให้เขาฟัง น้องรีบแต่งตัวไปเรียนเถอะ โรงพยาบาลนี้อยู่ไกลกับมหาวิทยาลัยของน้องค่อนข้างมาก ถ้าเดินทางก็อาจจะใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลย"
"ค่ะๆ" ซีหลินพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟัง "ถ้าอย่างนั้นวันนี้พี่ก็พักผ่อนมากๆนะคะ ไม่สบายหรือปวดตรงไหนก็บอกหมอกับพยาบาล ถ้ามีเรื่องอะไรก็โทรหาหนูได้นะคะ เดี๋ยวหนูไปเรียนก่อน หนูคงจะกลับมาตอนเย็นๆ"
"พี่ว่าตอนเย็นน้องไม่ต้องมาที่โรงพยาบาลแล้วก็ได้นะ กลับไปพักที่บ้านของเรา หรือจะนอนที่หอพักมหาวิทยาลัยก็ได้ น่าจะสะดวกกับการเดินทางมากกว่า"
"หนูไม่กล้ากลับไปอยู่บ้านคนเดียวค่ะพี่ใหญ่"
ตอนนี้ที่บ้านของเธอไม่มีใครอยู่ พ่อกับพี่ชายอยู่โรงพยาบาล ส่วนแม่ก็เดินทางไปต่างจังหวัด "ถ้าหนูกลับบ้านแล้วพวกแก๊งเงินกู้มันตามมาทวงเงิน หนูไม่รู้จะทำยังไง ละแวกชุมชนที่บ้านเรา การรักษาความปลอดภัยก็ไม่ดี ส่วนกลับไปนอนที่หอพักมหาวิทยาลัยหนูก็ไม่อยากกลับ พี่ลืมไปแล้วเหรอคะว่ารูมเมทของหนูคือยัยเหลียงเยว่ซิน คนที่แย่งแฟนหนูน่ะ"
"พี่ขอโทษพี่ลืมไปจริงๆ"
"งั้นตอนเย็นหนูจะกลับมาโรงพยาบาลนะคะ พี่อยากได้อะไรพิเศษหรือเปล่าเดี๋ยวหนูซื้อมาให้"
"ไม่อยากได้อะไร น้องไปเรียนเถอะ ว่าแต่ว่าน้องมีเงินใช้พอหรือเปล่า เมื่อวันก่อนน้องโอนเงินทั้งสิบสองล้านให้พี่ ในบัญชีจะมีเงินเหลือสักเท่าไหร่ ให้พี่โอนเงินคืนให้มั้ย"
"ไม่เป็นไรค่ะหนูมีเงินอยู่ เมื่อวานมันดึกแล้วหนูเลยไม่ได้เล่าให้พี่ฟัง คือหนูทวงเงินจากถังซูหนี่ย์ที่เคยฝากให้เธอเอาเครื่องประดับไปขายให้ ได้เงินมาสามหมื่นเก้าพันเหรียญ เดี๋ยวหนูจะโอนให้พี่สองหมื่นเหรียญและโอนให้แม่หนึ่งหมื่นเหรียญนะคะ" พูดแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจัดการกรอกตัวเลขแล้วทำการโอนเงินทันที
"น้องจะโอนให้พี่ทำไม วันก่อนน้องก็ให้มาแล้วสิบสองล้าน"
"สิบสองล้านต้องเอาไปจ่ายหนี้ให้แก๊งเงินกู้นอกระบบนี่คะ พอจ่ายหนี้แล้วพี่ก็คงเหลือเงินไม่เท่าไหร่ ทั้งรถที่พี่ใช้ทำงานก็ถูกยึดไปสถานีตำรวจ แถมบาดเจ็บแบบนี้ จะหารายได้จากไหน มีเงินติดกระเป๋าไว้ก่อนก็จะได้สบายใจ ส่วนหนูพี่ไม่ต้องห่วง เก้าพันเหรียญนี่ก็พอให้ใช้จ่ายแล้ว หนูไม่ได้ใช้อะไรมาก แค่ไปเรียนหนังสือ มีจ่ายค่าอาหารกับค่าเดินทางนิดหน่อยเท่านั้น เงินเก้าพันนี่น่าจะพออยู่ได้เป็นเดือนเลย"
หลี่อี้เทียนพูดไม่ออกได้แต่นิ่งเงียบไปด้วยความเศร้าสร้อย เขาดีใจที่น้องสาวคิดถึงพี่ชายอย่างเขาและคนในครอบครัว แต่อีกใจก็อดจะหดหู่ไม่ได้ แต่ก่อนนี้เงินแค่ไม่กี่หมื่นเคยเป็นประเด็นในสายตาพวกเราที่ไหน แต่ตอนนี้พวกเรากลับมองมันเป็นเรื่องใหญ่ น้องสาวที่เคยมีชีวิตประดุจเจ้าหญิงของเขาต้องอยู่อย่างกระเบียดกระเสียรด้วยเงินแค่เก้าพัน
และถ้าเงินก้อนนี้หมดลง พวกเราก็ไม่รู้จะหาเพิ่มจากที่ไหนด้วย ถ้าเขาไม่รีบหายป่วยรีบออกไปทำงานสถานการณ์ทางการเงินของครอบครัวคงย่ำแย่มากแน่ ยังไม่รวมเรื่องค่าผ่าตัดของพ่อที่เขาต้องหามาจ่ายอีกห้าแสนเหรียญ
ซีหลินไม่รู้ว่าพี่ชายมีความคิดกังวลใจเกิดขึ้นมากมาย เธอย้ำให้พี่พักผ่อนมากๆดูแลตัวเองดีๆ แล้วจากนั้นก็เดินออกจากห้องไป