webnovel

บทที่ 1 เข้าสู่โลกนิยาย

เหมือนจู่ๆภาพก็ตัดฉาก นาทีก่อนเธอกำลังนอนหายใจรวยรินมองภาพคนในครอบครัวถูกฆ่าตายไปทีละคน เสียงปืนดังปังทีละนัดพร้อมเลือดของคนที่เธอรักไหลเจิ่งนอง บาดแผลของเธอเองก็สาหัส เธอถูกยิงเป็นคนแรกและถูกยิงเข้าจุดสำคัญหลายนัด บาดแผลมากมายเสียจนเธอไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไป ในหัวใจมีแต่ความโกรธ ความกลัวและความเป็นห่วงคนในครอบครัว แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยดวงตาเบิกกว้าง

เธอน่าจะตายลงทั้งๆที่ตายังเปิดอยู่อยู่อย่างนั้น

ด้วยความรู้สึกติดค้างมากมาย ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดถึงโลกหลังความตาย หรือเข้าใจว่าเมื่อตายไปแล้วจะเป็นอย่างไร เมื่อเธอตายวินาทีต่อมาความหนาวเย็นก็จู่โจมเข้าสู่ร่าง เธอถูกผลักล้มลงบนพื้นและเหมือนถูกน้ำเย็นๆสาดรดตัว

หญิงสาวลืมตาขึ้นอีกครั้ง หยดน้ำไหลจากศีรษะ ผ่านหน้าผากที่ก้มอยู่ของเธอร่วงลงบนพื้นหญ้าที่เธอนั่งกองอยู่

เมื่อครู่เธอถูกปืนยิงจนตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงถูกสาดน้ำใส่อีกล่ะ แล้วเธอมาอยู่ที่สนามหญ้าได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าเธอตายที่หน้าประตูบ้านเหรอ พื้นบ้านของเธอเป็นพื้นกระเบื้อง ไม่ใช่หญ้าสีเขียวแบบนี้

หญิงสาวพยายามปรับสายตาให้มองภาพต่างๆให้ชัด ค่อยๆเงยหน้าหันมองสิ่งรอบตัว

สิ่งที่เธอเห็นต่อมานอกจากพื้นหญ้า ก็คือพื้นหินปูทางเดินในสนาม รอบๆข้างนี้มีพุ่มไม้และต้นไม้ดอกไม้ประดับเริ่มผลิดอกงดงาม อากาศค่อนข้างหนาวเย็น แต่เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ดูจะมีน้อยชิ้นเกินไปไม่เหมาะกับสภาพอากาศนัก ทั้งยังถูกน้ำจากไหนไม่รู้สาดใส่อีกทำให้ทั้งเปียกและโป๊

เธอดึงเสื้อเกาะอกที่ถูกน้ำสาดใส่จนชุ่มเริ่มไถลลงจนร่องอกโผล่ ขึ้นมาปกปิดร่างกายเอาไว้ พยายามทำให้ความโป๊ลดน้อยลงเท่าที่พอจะทำได้

ระหว่างนั้น เสียงด่าทอของผู้คนหลายเพศหลายวัยก็ดังขึ้นไม่หยุด เหมือนคนที่พวกเขากำลังช่วยกันก่นด่าก็คือเธอ

หญิงสาวเงยหน้ามองตรงไปตามจุดกำเนิดเสียงที่ใกล้ที่สุด

ถัดไปไม่ไกลจากเธอนัก รองเท้าหนังสีดำของผู้ชาย และรองเท้าส้นสูงสีขาวของผู้หญิงคู่หนึ่งหันไปปลายเท้ามาทางเธอ เมื่อไล่สายตามองขึ้นไป ก็พบชายหญิงหน้าตาดีในชุดราตรีสองคนยืนอยู่ตรงนั้น ผู้ชายตัวสูงใส่สูทสีเทา หญิงสาวอายุน้อยน่าจะราวๆยี่สิบปี ใบหน้าอ่อนหวานดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสาในชุดราตรีสีขาวพร้อมมงกุฎและสร้อยเพชร ดูราคาแพงไปทั้งตัว ฝ่ายชายกอดประคองหญิงสาวเอาไว้อย่างหวงแหน พร้อมกับส่งสายตาจงเกลียดจงชังมาทางเธอ

เธอ ที่ถูกเขาส่งสายตาเกลียดชังมาให้มึนงงสับสนกับสิ่งที่พบเห็นเป็นอย่างมาก

รอบๆตัวเธอนอกจากหญิงชายหน้าตาดีสองคนนี้แล้วก็ มีหญิงวัยกลางคนสองคน และชายในชุดสูทสีดำเหมือนเป็นบอดีการ์ดมืออาชีพอีกราวๆหกเจ็ดคน

กวาดสายตามองไปรอบตัว พบว่าที่นี่คือสนามหญ้าในสวนที่กว้างขวาง มีการตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้พร้อมเปิดไฟประดับอย่างสวยงาม เธอตายเวลาบ่ายโมง แต่ที่นี่กลับเป็นเวลากลางคืนที่ท้องฟ้ามืดแล้ว ไม่ใช่สถานที่ที่เธอเคยเห็นหรือเคยไปมาก่อน

ที่นี่ ไม่ใช่บ้านของเธอที่ไอ้ฆาตกรนั้นบุกเข้ามา และคนที่อยู่รอบตัวเธอพวกนี้ก็ไม่มีใครที่เธอรู้จักเลยสักคน!!

ตอนที่หญิงสาวกำลังสับสนกับสิ่งที่พบเจออย่างปุบปับ ภาพเหตุการณ์และความทรงจำต่างๆก็เหมือนถูกสาดเทเข้ามาอย่างอัตโนมัติ!

เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่วินาที แต่กลับเหมือนนานหลายปีราวกับเธอได้พบเจอประสบการณ์ในความทรงจำเหล่านั้นด้วยตัวเอง

แล้วเธอก็เข้าใจในที่สุดว่าเกิดอะไรขึ้น

หลี่ซีหลิน เธอชื่อ….ไม่ใช่สิ เจ้าของร่างนี้ชื่อ หลี่ซีหลิน เป็นหญิงสาวอายุสิบเก้าปี ประชาชนประเทศZ ส่วนตัวเธอที่มาอาศัยร่างนี้ชื่อซี เธอเป็นหญิงสาวอายุสิบเก้าปีจากประเทศT ที่พึ่งถูกฆ่าตาย

ไม่ทราบด้วยเหตุอะไร แต่จู่ๆเธอก็มาอยู่ในร่างนี้

ซีหรือซีหลิน พยายามปรับสติที่ทั้งตกใจทั้งสับสนให้เข้าที่ ระหว่างนั้นเธอก็พบว่าตัวเองฟังคำพูดของผู้ชายและหญิงวัยกลางคนที่ด่าทอเธอออกแล้ว มันไม่ใช่ภาษาประเทศT แต่เป็นภาษาของประเทศZ ความทรงจำที่เปิดเข้ามาอัตโนมัติเมื่อครู่คงให้ความทรงจำด้านภาษามาด้วย

"ผมเคยบอกคุณไปแล้วว่า คนที่ผมรัก คือเยว่ซินคนเดียวเท่านั้น เรื่องระหว่างคุณกับผมมันจบไปแล้ว เลิกมาวุ่นวายกับพวกเราสักที!!"

"ไม่มองดูสภาพตัวเองบ้าง แต่งตัวไม่ต่างจากอีตัว ฐานะทางบ้านก็ล่มจมล้มละลายไปแล้ว ยังคิดกล้าอาจเอื้อมตระกูลเหอของเราอีกงั้นเหรอ"

"เรื่องที่ตระกูลหลี่ล้มละลาย หรือที่คุณชายเหอเลิกกับคุณหนู ไม่เกี่ยวอะไรกับเยว่ซินลูกของน้าเลยนะคะ น้าขอร้องคุณหนูซีหลิน ได้โปรดหยุดรังแกเยว่ซินของเราสักที"

"ผู้หญิงจิตใจเลวทราม ทำเรื่องชั่วร้ายเอาไว้สารพัด ยังคิดว่าคนฉลาดอย่างยี่หานลูกชายของฉันจะตาต่ำกลับไปคบกับเธองั้นเหรอ!!"

พวกเขาพูดจาว่าร้ายเธอไปอีกมากมายหลายประโยค คำพูดแต่ละคำทำให้หญิงสาวขมวดคิ้วสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ ประโยคพวกนี้ทำไมรู้สึกคุ้นเคย เป็นความทรงจำของหลี่ซีหลินงั้นเหรอ? หลี่ซีหลินเคยเจอเรื่องพวกนี้มาก่อนหรือเปล่า?

ไม่นะ นี่เป็นความทรงจำของเธอนี่นา คำพูดพวกนี้เธอพึ่งเห็นมันเมื่อคืน!!

ใช่แล้ว เมื่อคืนเธออ่านนิยายออนไลน์ที่วางขายในรูปแบบebook ชื่อเรื่องจักรพรรดินีภาพยนตร์ภรรยาสุดที่รักของสามีแห่งชาติ เป็นเรื่องที่นางเอกกลับชาติมาเกิดใหม่ และใช้ความทรงจำในชาติก่อนมาชิงความได้เปรียบ ฉกชิงความรัก ความสุข ผลประโยชน์ และความสำเร็จไปจากคนรอบตัว

หลี่ซีหลิน เจ้าของร่างที่เธอมาอาศัยอยู่นี้ คือนางร้ายลำดับที่สองหรือสามในนิยาย เป็นอดีตเพื่อนสนิทของ เหลียงเยว่ซิน นางเอกของเรื่อง ส่วนผู้ชายที่ยืนด่าว่าเธออยู่นี้คือเหอยี่หาน พระเอกของนิยาย อดีตคู่หมั้นของหลี่ซีหลินที่ชื่นชอบในความอ่อนโยนแสนดีของนางเอกเหลียงเยว่ซิน จนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอในสถานการณ์ต่างๆ ระหว่างที่สานความสัมพันธ์กันก็พบว่าคู่หมั้นของตัวเอง หลี่ซีหลินไม่เข้าตา อยากเลิกราแต่เพราะธุรกิจของตระกูลมีความเกี่ยวพันกัน เขาจึงวางแผนลับหลังจนทำให้ตระกูลหลี่ล้มละลาย จากนั้นก็เลิกรากับหลี่ซีหลินได้เป็นผลสำเร็จ ท่ามกลางการสนับสนุนของ หวางจื่อเชี่ยน มารดาของนางเอกเยว่ซิน ซึ่งเคยทำงานเป็นพนักงานในบริษัทตระกูลหลี่ และมารดาของเขาคุณนายเซี่ยหลิว เจ้าของประโยคที่ด่าซีหลินว่าแต่งตัวเหมือนอีตัว

ซีหลินก้มลงมองเสื้อผ้าตัวเอง ตอนนี้เธอใส่ชุดเดรสเกาะอกสีม่วงโชว์สะดือ กระโปรงสั้นลายกราฟิกสีดำม่วงความยาวประมาณหนึ่งคืบ เนื้อตัวเปียกชุ่ม มีอ่างน้ำที่ใช้เลี้ยงปลาประดับสวนตกแตกอยู่ข้างตัว จากความทรงจำของร่างนี้เหมือนกับว่านาทีก่อน คุณนายเซี่ยหลิว พึ่งสั่งให้บอดีการ์ดยกอ่างนี้มาสาดน้ำใส่เธอ

ขณะนี้เธอน่าจะอยู่ในฉากงานวันเกิดของนางเอกเหลียงเยว่ซิน ที่ซีหลินมาตามทวงคนรักคืน เธอได้รับการยุยงจากนางร้ายคนหนึ่งในนิยายเรื่องนี้ ที่เธอคิดว่าเป็นเพื่อนที่หวังดีให้มาก่อเรื่องในงานวันเกิดของเยว่ซิน ส่วนการแต่งตัวก็เชื่อคำยั่วยุว่าควรแต่งตัวให้สวยเซ็กซี่ตรงข้ามกับเยว่ซินให้มากที่สุด เพื่อทำให้เหอยี่หานเสียดาย

ปรากฏว่าเมื่อมาถึงสถานที่จัดงานซึ่งเป็นโรงแรมบนเขาแห่งหนึ่ง ยังไม่ทันได้เข้าไปในสถานที่จัดงานเลี้ยงวันเกิดด้วยซ้ำ เธอก็เจอกับเหลียงเยว่ซินเข้าเสียก่อน

เมื่อไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย เหลียงเยว่ซิน ซึ่งเป็นนางเอกสายร้าย ย่อมเผยธาตุแท้ใช้คำพูดถากถางนางร้ายขี้แพ้อย่างหลี่ซีหลินอย่างเจ็บแสบ หลี่ซีหลินทนไม่ไหวจึงโต้ตอบเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกัน

เหอยี่หาน คุณนายเซี่ยหลิวและหวางจื่อเชี่ยน มารดาของเหลียงเยว่ซิน ก็มาเห็นเหตุการณ์และเข้ามาช่วยนางเอกเอาไว้ หลี่ซีหลินถูกผลักล้มลงบนพื้นหญ้าและถูกสาดน้ำใส่

เมื่อทบทวนเนื้อหาว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ซีก็นิ่งอึ้งไปด้วยความหวาดกลัว

ในนิยายที่เธออ่านเมื่อคืน หลังจากถูกสาดน้ำใส่และด่าทอ พระเอกก็สั่งให้บอดีการ์ดลากตัวเธอออกไป หลี่ซีหลินถูกทิ้งไว้นอกโรงแรมซึ่งอยู่บนเขา ห่างไกลความเจริญ โทรศัพท์และกระเป๋าของเธอตกอยู่ในสนามที่มีเรื่องเมื่อครู่ พวกบอดีการ์ดไม่ได้นำมันออกมาด้วย เธอพยายามกลับเข้าไปเอาของก็โดน พนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรมกันเอาไว้ ยืนรออยู่นานไม่รู้จะทำอย่างไรจึงตัดสินใจเดินกลับ แต่เพราะหนทางที่เปลี่ยวร้าง สุดท้ายมีแก๊งวัยรุ่นขับรถผ่านทางมาเห็นเธอแต่งตัวเซ็กซี่ยั่วยวน พวกมันจึงลากเธอไปข่มขืน

หลี่ซีหลินพาร่างกายบอบช้ำกลับบ้านก็พบว่าพี่ชายถูกแก๊งทวงหนี้นอกระบบ มาทวงเงินถูกหักขาทุบกระดูกสันหลังจนพิการ มารดาของเธอเสียใจจนหัวใจวาย เสียชีวิต ส่วนบิดาที่เส้นเลือดในสมองแตกกลายเป็นอัมพาตครึ่งซีกตั้งแต่ตอนที่บริษัทล้มละลาย ทราบข่าวก็อาการทรุดหนักกลายเป็นอัมพาตทั้งตัวเคลื่อนไหวได้แค่ศีรษะเท่านั้น ทั้งถูกข่มขืนจนสภาพจิตใจย่ำแย่ เธอต้องมาแบกรับค่างานศพมารดา ค่าดูแลพี่ชายและบิดาที่เป็นอัมพาตสองคน ทุกสิ่งรุมเร้าเข้ามาหาหลี่ซีหลินเพียงคนเดียว

หลี่ซีหลินหมดสิ้นหนทาง สุดท้ายต้องไปประกอบอาชีพขายบริการเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว คำบรรยายบอกว่าเธอกลายเป็นโสเภณีทำงานบาร์ ถูกลูกค้าจิตวิปริตทรมานทุบตีจนตาย เป็นการปิดฉากตัวร้ายในนิยายเรื่องนี้ของเธอ

แม้จะยังสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ซีก็พยายามรวบรวมสติ ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอได้พลัดหลงเข้ามาอยู่ในนิยายจริงหรือไม่ เธอในโลกก่อนตายไปแล้ว หรือว่ายังไง จะสามารถกลับไปได้ไหม เรื่องทั้งหมดก็ละเอาไว้ก่อน ตอนนี้เธอต้องจัดการสถานการณ์เร่งด่วนที่กำลังจะเกิดขึ้น เธอไม่อยากถูกข่มขืนและไม่อยากให้คนในครอบครัวเจ้าของร่างต้องพบเจอโศกนาฏกรรมพวกนั้น

แม้ซีจะเป็นแค่คนที่มาอาศัยร่างคนอื่น แต่เธอก็ไม่ได้เป็นวิญญาณร้ายอกตัญญูที่จะมองเห็นครอบครัวเจ้าของร่างต้องล่มสลายโดยที่ไม่ทำอะไรเลย และตอนนี้เธอมีความทรงจำเจ้าของร่างปะปนอยู่ ในความรู้สึกที่ยังสับสนตอนนี้เธอก็รู้สึกเหมือนว่าครอบครัวตระกูลหลี่ก็เป็นครอบครัวของตัวเองเหมือนกัน ประสบการที่เจ้าของร่างพบเจอมาก็เหมือนเธอได้ประสบมันมาด้วยพร้อมกัน หญิงสาวไม่แน่ใจอะไรนัก แต่เธอตัดสินใจแล้วว่าจะช่วยทั้งตัวเองและครอบครัวตระกูลหลี่ให้พ้นจากหายนะที่กำหนดไว้ในหนังสือ!

ยังดีที่เหตุการณ์เหล่านี้ยังไม่เกิดขึ้น เธอยังพอมีโอกาสแก้ไขมัน!!

หญิงสาวสูดหายใจเข้าปอด รวบรวมพลังใจ ใช้มือปาดน้ำที่หยดติ๋งๆบนใบหน้าออกพอให้ไม่รบกวนสายตา

ลุกขึ้นยืนตัวตรงและพยายามจัดเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มและค่อนข้างโป๊ให้เข้าที่ให้มากที่สุด อากาศหนาวจนขาสั่นแต่เธอก็ต้องพยายามทำหน้ามั่นใจเข้าไว้ แม้จะแอบบ่นเจ้าของร่างในใจ อยากแต่งตัวเซ็กซี่ก็แต่งไป แต่ทำไมไม่เลือกชุดที่มันกันหนาวได้ด้วย!

"ผมขอบอกคุณเป็นครั้งสุดท้าย เลิกยุ่งกับพวกเรา แล้วไสหัวไปซะ!!"

ซีหลินไม่ได้ตั้งใจฟังคำพูดของเหอยี่หานมากนัก เธอกวาดสายตาไปรอบๆสนามอยู่สักพัก จึงพบว่ากระเป๋าสะพายสีม่วงของตนตกอยู่ใต้พุ่มไม้พุ่มหนึ่ง เธอรีบไปหยิบมันขึ้น เช็กดูข้างใน พบว่ามีโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์อยู่ครบก็เบาใจ มีโทรศัพท์แล้วก็สามารถใช้มันโทรสั่งให้รถมารับได้ อาจจะช่วยหลีกเลี่ยงแก๊งวัยรุ่นนั่นไปได้

แต่ก็ยังไม่แน่นอน

"หน้าด้านไร้ยางอาย คนเค้าไล่ขนาดนี้ยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้ เธอไม่สะอิดสะเอียนตัวเองบ้างเหรอ" คุณนายเซี่ยหลิว เห็นซีหลินทำสีหน้าเหมือนไม่รู้สึกรู้สาก็รู้สึกโกรธมาก

"คุณป้าคะ อย่าว่าไซซีอย่างนั้นเลย ทุกอย่างมันเป็นความผิดของหนูคนเดียว" เสียงไพเราะอ่อนหวานของนางเอกเหลียงเยว่ซินดังขึ้น ดวงตาของเธอแดงก่ำ บีบคั้นน้ำตาออกมาได้สองหยด อย่างน่าสงสาร

"เป็นความผิดของหนูที่ห้ามใจตัวเองไม่ไหว หลงรักยี่หานไป ทำให้ไซซีต้องเจ็บปวด"

"คุณรักผมจะเป็นความผิดได้ยังไง ในเมื่อผมรักคุณ พวกเรารักกัน คนที่ควรรู้สึกผิดรู้สึกละอายใจก็คือหลี่ซีหลินต่างหาก ที่ตามรังควานเราไม่หยุด!!"

"ถึงฉันจะเป็นคนที่เจอคุณและรักคุณก่อน ถึงไซซีจะเข้ามาทีหลัง แต่คุณกับเธอก็เป็นคู่หมั้นกันอย่างชอบธรรม จากสายตาของคนนอกอย่างไรก็คือฉันที่เป็นมือที่สาม ฮือๆๆ"

"คุณไม่ใช่มือที่สาม คุณจะเป็นมือที่สามได้ยังไง คุณกับผมเราเจอกันก่อนที่ผมกับหลี่ซีหลินจะเจอกันด้วยซ้ำ ที่ผมหมั้นกับเธอนั่นก็เป็นเพราะเหตุผลทางธุรกิจ พ่อแม่ของเธอใช้อำนาจเส้นสายมาบังคับให้ผมหมั้นกับลูกสาวของพวกเขา ถ้าผมรู้ว่าคุณแอบรักผมมาตั้งแต่สองปีก่อน ผมคงไม่มีทางไปหมั้นกับหลี่ซีหลินแน่ ตำแหน่งคู่หมั้นของผม ตำแหน่งหญิงสาวที่ควรยืนเคียงข้างผมก็คือคุณ คนเดียวเท่านั้น"

"หลี่ซีหลิน ผมไม่รักคุณ ไม่เคยรัก!! ผู้หญิงที่ผมรักมีแค่เหลียงเยว่ซินคนเดียวเท่านั้น จำเอาไว้แล้วเลิกยุ่งกับพวกเราสักที ไสหัวออกไปจากชีวิตของพวกเราซะ ลากเธอออกไป!!"

"เดี๋ยวก่อน!!" ก่อนที่พอดีการ์ดจะเข้ามาถึงตัว ซีหลินรีบหลบเลี่ยงแล้วร้องเรียกเหอยี่หานเอาไว้

"ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะยอมเลิกรากับคุณแต่โดยดี"

เหอยี่หานมองเธออย่างเหยียดหยาม ไม่คิดจะเชื่อคำพูดของเธอแม้แต่นิดเดียว ผู้หญิงคนนี้หลงรักเขาหัวปักหัวปำ ยอมทำเรื่องบ้าบอมากมายเพื่อให้เขาสนใจ เธอไม่มีทางยอมเลิกราง่ายๆแค่เพราะถูกเขาออกปากไล่ครั้งสองครั้ง

"แต่ก่อนที่พวกเราจะจบสิ้นกัน ฉันหวังว่าคุณจะคืนสิ่งต่างๆที่ฉันเคยมอบให้มาหลายปีกลับมา" หญิงสาวพยายามรวบรวมความทรงจำของเจ้าของร่าง

"ตั้งแต่ที่คบกับคุณมา ฉันเคยให้สร้อยข้อมือ นาฬิกาโรเล็ก นาฬิกาโอเมก้า เข็มกลัด กระดุมข้อมือเพชร เข็มขัด รองเท้าสั่งทำพิเศษ… ราคารวมแล้วไม่ต่ำกว่าหกล้านเหรียญ!!

ฉันต้องการสิ่งของพวกนั้นคืนทันที ถ้าหากเอาของมาให้ไม่ได้ก็จ่ายเป็นเงินสดมา " ซีหลินเชิดหน้าแล้วบรรยายรายการสิ่งของเป็นฉากๆ

"ส่วนคุณ คุณนายเหอ เพราะคิดว่าคุณเป็นว่าที่แม่สามีในอนาคต ฉันจึงให้ความเคารพและมอบของขวัญราคาแพงให้คุณตลอด ชุดเครื่องประดับหยกราคาสามถึงห้าแสนสามชุด ของโบราณ เครื่องลายครามยุคสมัยต่างๆห้าชิ้นราคารวมไม่ต่ำกว่าสองล้าน อ๋อ มีภาพวาดโบราณที่ฉันให้สามีของคุณอีกสี่รูปรวมสามล้านกว่า สรุปราคาส่วนของคุณคิดเป็นตัวเลขกลมๆคือ ห้าล้านเหรียญ!! จ่ายคืนมาให้ฉันพร้อมกันด้วยเลย"

ทีแรกเธอจะจบแค่ทวงเงินคืนจากคนตระกูลหลี่ แต่ไม่รู้ยังไงเหมือนได้ยินเสียงความคิดว่าเงินเท่านี้อาจจะไม่พอ เธอจึงตัดสินใจชี้ปลายนิ้วเรียวยาวที่เคลือบสีทาเล็บอย่างดีไปทางเหลียงเยว่ซิน

"และเธอ เยว่ซินนังงูพิษ!!"

"นี่!! เธอกล้าดียังไงเรียกเหยว่ซินแบบนี้" เหอยี่หานรีบออกตัวปกป้องคนรักของตัวเองทันที

แต่ซีหลินไม่สนใจ เธอพูดสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้ต่อไปทันที "ฉันคิดว่าเธอเป็นเพื่อนสนิท ไปเที่ยวที่ไหนจะในประเทศหรือต่างประเทศ กินอาหาร ไปช๊อปปิ้งซื้อเสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้า ฉันก็พาเธอไปด้วย ทั้งยังเป็นคนจ่ายเงินให้เธอตลอด แม้แต่พ่อแม่ของเธอฉันก็ซื้อสมุนไพรอาหารเสริมราคาแพงไปให้ทุกครั้งที่ไปเยี่ยม พ่อเธอป่วยเข้าโรงพยาบาลเมื่อปีก่อนค่ารักษาก็เป็นฉันที่จ่ายให้ แม้แต่แพ็กเกจท่องเที่ยวยุโรปเมื่อปลายปีที่ครอบครัวเธอไปเที่ยวกัน แล้วไปแอบเจอยี่หานลับหลังฉันก็เป็นฉันที่ซื้อให้เธอ

ฉันจ่ายเงินให้เธอไปเยอะจนจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเท่าไหร่กันแน่ เธอจะเอาเสื้อผ้าข้าวของพวกนั้นมาคืนฉันตอนนี้ หรือจะจ่ายเงินให้มันจบๆไปก็ได้ ฉันคิดแค่หนึ่งล้านเหรียญแล้วพวกเราไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีก"

"เธอพูดเรื่องบ้าอะไรของเธอ!!" คุณนายเหอหวีดเสียงด้วยความไม่พอใจ

"เลิกกันก็ต้องคืนของที่อีกฝ่ายมอบให้มันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอคะ…" ซีหลินหันไปเชิดหน้าตอบ "ฉันพูดตรงๆเลยนะ ของที่ฉันเคยมอบให้พวกคุณมันมากกว่านี้อีก ฉันคิดเท่านี้ก็ถือว่าฉันใจดีมากแล้ว ทั้งหมดรวม สิบสองล้าน!! จะจ่ายหรือไม่จ่าย!!"

คุณนายเหอโกรธจัดยกมือชี้หน้าจะด่าเธอแต่ก็นึกคำด่าไม่ออก เพราะอย่างไรที่ซีหลินพูดมาก็เป็นความจริง เธอ สามี และลูกชายได้รับของขวัญมีค่าเหล่านั้นจากหลี่ซีหลินมาตลอดหลายปีที่เธอกับเหอยี่หานหมั้นหมายกันจริงๆ

ซีหลินหันไปจ้องหน้าเหอยี่หานอย่างท้าทาย จากนิยายที่เธออ่านมา เหอยี่หานเป็นคนเย่อหยิ่งมาก เขายอมเสียเงินเป็นสิบเป็นร้อยล้านดีกว่าจะให้คนปรามาสดูถูก ถ้าเธออยากได้เงินคืน ต้องพยายามจี้ในจุดนี้ของเขา

"อย่าบอกฉันนะคะว่าเงินแค่สิบสองล้าน ตระกูลเหอก็ไม่มีปัญญาเอามาคืนฉันนะ น่าสมเพช ยาจกขนาดนี้แล้วมาทำท่าเย่อหยิ่งจองหองไปทำไม หรือว่ามีเงินแต่ไม่ยอมคืนให้ เพราะอยากยักยอกสินสมรสของฉันเหรอ ไม่คิดเลยนะคะว่าคุณชายเหอที่สูงส่งจะตกต่ำขนาดนี้

ถ้าคนในสังคมรู้เรื่องนี้เข้า ไม่ทราบว่าชื่อเสียงสามีแห่งชาติของคุณชายจะมัวหมองแค่ไหน อยากให้ฉันเอาไปคุยกับพวกนักข่าวด้วยมั้ยคะ เรื่องคงได้กระจายไปไวยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคนรักของคุณ ได้ข่าวว่ากำลังมีชื่อเสียงในวงการบันเทิงนี่นา ถ้าคนรู้ว่าแฟนที่แย่งชาวบ้านเค้ามานอกจากมีความสามารถเรื่องการนอกใจแล้วยังยักยอกเงินแฟนเก่ามาเปย์ให้เธอ ไม่รู้ว่าคนอื่นเขาจะพูดถึงเรื่องนี้กันยังไงนะคะ"

"หุบปาก! คิดว่าคำพูดของคนอย่างเธอจะมีคนเชื่องั้นเหรอ"

"คุณชายเหอ คุณลืมอะไรไปหรือเปล่า" ซีหลินเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน "ถึงฉันจะไม่ได้เป็นดาราในวงการบันเทิง แต่ฉันก็มีคนติดตามในเว่ยต้าล้านกว่าคนนะคะ" ถึงจะเป็นแอนตี้แฟนซะส่วนใหญ่ก็ตาม ซีหลินคิดประโยคท้ายในใจ

"รูปหรือคลิปที่เราเคยไปเที่ยวด้วยกัน ที่ฉันเคยให้ของขวัญคุณกับครอบครัวก็ยังอยู่ในโพสต์เก่าๆของฉันเป็นสิบๆโพสต์ ฉันแค่โควทโพสต์นั้น แท๊กชื่อคุณกับเหลียงเยว่ซินสักหน่อย แล้วทวงของคืนเพราะเราเลิกกันแล้วเนื่องจากคุณมีแฟนใหม่เป็นเพื่อนสนิทของฉัน คุณคิดว่าคนเขาจะสนใจไหมล่ะ" ซีหลินยิ้มอย่างร้ายกาจ

"แค่คิดว่าแฮชแท๊กอะไรขึ้นเทรนด์บ้างก็ตื่นเต้นน่าดูแล้ว

สามีแห่งชาติเหนียวหนี้โกงเงินอดีตคู่หมั้น ,เหอยี่หานมีดีแต่เปลือกโกงสมบัติผู้หญิงหน้าด้านๆ,เหอยี่หานไม่มีปัญญาจ่ายเงินคืนแฟนเก่า,ตระกูลเหอตกอับยักยอกเงินแฟนเก่าลูกชาย… "

"พอแล้ว!!" เหอยี่หานโกรธจนมือสั่น "แค่จ่ายเงินก็จบใช่มั้ย เงินแค่สิบสองล้านเธอคิดว่าฉันไม่มีปัญญาจ่ายคืนหรือไง"

"ถ้ามีปัญญาก็จ่ายมาสิคะ อย่าดีแต่พูด!!" เธอโต้ตอบอย่างท้าทาย

เหอยี่หานดึงโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดไปไม่กี่ครั้ง โทรศัพท์ในกระเป๋าของซีหลินก็ส่งเสียงดังติ๊งแจ้งว่ามีข้อความใหม่ ซีหลินก้มหน้าลงไปดูหน้าจอ เห็นว่ามียอดเงินเข้ามาสิบสองล้านจริงก็ ร้องเย้ในใจด้วยความดีใจ แต่ภายนอกยังทำหน้าร้ายกาจเชิดหยิ่งต่อไป

"เอาล่ะในเมื่อคุณจ่ายเป็นเงินสดมาให้แล้ว ส่วนที่เป็นสิ่งของพวกนั้นพวกคุณก็เก็บเอาไว้ก็แล้วกัน จากนี้ก็ถือว่าพวกเราหมดสิ้นความเกี่ยวพัน ฉันจะไม่ไปยุ่งกับพวกคุณ พวกคุณเองก็อย่ามายุ่งกับฉันหรือครอบครัวด้วยเหมือนกัน"

"คิดว่าพวกเราจะอยากเกี่ยวข้องกับผู้หญิงชั้นต่ำอย่างเธออีกงั้นเหรอ ตัวเสนียดสกปรก" คุณนายเซี่ยหลิวบริภาษออกมาอย่างหยาบคาย

ซีหลินหันไปยิ้มให้อย่างอ่อนหวาน "ดีแล้วค่ะ เชิญคุณอยู่บนที่สูงต่อไปตามสะดวกนะคะ แต่อยู่สูงมากๆออกซิเจนน้อย จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้สมองได้นะคะ ร้ายแรงถึงขั้นสมองบวมตายได้เลยละ" ยิ้มให้คุณนายเหออย่างหวานหยดแล้วเอ่ยต่อ "ลองเช็กๆดูอาการของตัวเองบ้างนะคะ จุ๊ จุ๊ จุ๊ ดูท่าทางคุณนายก็เหมือนเริ่มมีอาการเบื้องต้นแล้ว" ยกยิ้มที่มุมปากให้แล้ว กำลังจะหันหลังเดินจากไป เห็นบอดีการ์ดตัวสูงเกือบสองเมตรคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลจากเธอนัก ก็นึกอะไรขึ้นได้

"นายไห่ เอาเสื้อสูทของนายมาให้ฉัน!"

"หา อะไรนะครับ"

"ไหนๆก็ทวงหนี้แล้ว ฉันก็จะทวงให้หมด ฉันจำได้นายเคยขับรถของเหอยี่หานไปเฉี่ยวขอบทาง ต้องจ่ายค่าซ่อมเองไม่งั้นจะถูกไล่ออก ฉันเห็นใจเลยออกเงินค่าซ่อมให้นายสามหมื่นเหรียญ ฉันไม่เอาเงินนั่นแต่จะเอาเสื้อสูทนายหนึ่งตัว ถือว่าเราหมดหนี้กัน เอามา!"

บอดีการ์ดที่ชื่อนายไห่ หันมองรอบตัวเลิกลัก

"เจ้านายของนายเค้ายังยอมจ่ายเงินคืนฉัน นายจะมาทำอิดออดไปเพื่ออะไร จะแสดงตัวว่าแข็งแกร่งกว่าเจ้านายงั้นเหรอ จะดูถูกเจ้านายที่ยอมจ่ายหนี้ว่าโง่ ไม่เก่งกล้าเท่านายงั้นสิ"

"ไม่ใช่ครับ!! ไม่ไม่ เชิญครับ นี่ครับคุณหนูซีหลิน " นายไห่กลัวซีหลินจะพูดจนกลายเป็นว่าเขาท้าทายอำนาจเจ้านาย แล้วสุดท้ายจะกระทบกับการงาน เขารีบถอดเสื้อสูทสีดำส่งให้เธอทันที

"อืม…" ซีหลินรับเสื้อมา หันมองรอบตัวเล็กน้อย ยิ้มบางๆแล้วก็เดินบนรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วจากไป ด้วยท่วงท่าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++