webnovel

ข้ามมิติรักแท้ทะลุออนไลน์

เรื่่องราวของสาวโสดมนุษย์แม่ลูกสามอายุห้าสิบสองปีที่เธอได้รับพรจากพระโพธิสัตว์กวนอิมเมื่อเพียรบำเพ็ญศีลและธรรมจนบรรลุตอนอายุสามสิบห้าปี พรคือยิ่งแก่เธอจะยิ่งสาวขึ้น กับพระเอกละครไทยชื่อดังอายุสี่สิบสี่ปีที่ยังโสดเพราะรอคอยรักแท้ หลังจากแม่ของเธอตายเมื่อสองปีก่อนทั้งสองมักฝันว่าอยู่ด้วยกันแบบคู่รักเสมอๆทั้งที่ไม่เคยพบกันพวกเขาจึงไม่สามารถติดตามหากันได้ จนกระทั่งเขาประกาศผ่านสื่อออนไลน์ให้หญิงสาวที่ชอบเขาจีบเขาก่อนได้เขาอยากสร้างครอบครัวแล้ว เธอถูกดวงวิญญาณของแม่ชักนำให้พิมพ์ใบสมัครส่งไปถึงDMส่วนตัวของเขาในคืนฮาโลวีนซึ่งสะดุดตาเขาให้กดอ่านจนจบแล้วตามหาเธอเจอเพจของเธอ โดยเขาคิดว่าเธอเป็นหญิงสาวอายุน้อยกว่าเขามีเสน่ห์น่าสนใจมากเขาจึงเฝ้าติดตามดูเธอเงียบๆ ส่วนเธอก็สนทนากับเขาทุกวันโดยการเล่าและบ่นเรื่องต่างๆให้เขาฟังทำให้เขามีความสุขและชอบเธอมากจึงสร้างเพจปลอมเป็นผู้หญิงเพื่อขอเป็นเพื่อนและสนทนาเรื่องเป็นแฟนคลับของเขากับเธอเสมอ เรื่องราวของคนทั้งคู่ที่อยู่คนละมิติสังคมแต่เชื่อมโยงกันได้จริงในเวลานอนหลับลึก แต่กว่าจะได้พบกันผ่านการพิสูจน์รักแท้ที่เชื่อมต่อมาจากอดีตชาติเรื่องชุลมุนวุ่นวายสุดที่จะคาดเดาได้จึงเกิดขึ้นมากมาย พวกเขาใช่คู่แท้ทางจิตวิญญาณที่เฝ้ารอคอยกันจริงหรือไม่โปรดติดตาม,,,,,,

DaoistD7FIet · Fantasy
Not enough ratings
53 Chs

ข้ามมิติรักแท้ทะลุออนไลน์ : ตอนที่ 24 เทวะจำแลง

นิมนิม ตั้งอกตั้งใจรับฟังแม่พูดทุกคำพูด ด้วยความสงบ....

เธอรู้ดีแก่ใจตนเพียงผู้เดียวว่า : ตำรวจทั้ง 4 นาย ที่มาพบคุณแม่ของเธอนั้น

แท้จริงแล้ว คือท่านเทวฑูตทั้ง 4 ท่านแปลงกายเข้ามาในบ้านของเธอ

เพื่อเตือนสติแก่มารดาของเธอให้ทำความเพียรเจริญสติ ด้วยการสวดมนตร์

บท "พุทธคุณ : คือบทสวดสรรเสริญพระคุณอันบริสุทธิ์ผุดผ่องแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า"

ทุกวันมิให้ขาด นั่นเอง ซึ่งที่ผ่านมานับตั้งแต่มารดาของนิมนิม ได้ล้มป่วยลงเรื่อย ๆ

จนในที่สุดเส้นเลือดในสมองจึงแตก!! แล้วทำให้ร่างกายซีกขวาตลอดทั้งร่าง

ไร้ความรู้สึกไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกเลย!!!! จากนั้นเป็นต้นมานางสวาท

ผู้มีอายุทางโลกได้ 70 ปีเต็ม ก็อาศัยการตรึกถึงภัยแห่ง "มรณานุสสติ"

อันต้องมาเยือนสัตว์โลกทุกตัวตน ไม่มียกเว้น ในวันใดวันหนึ่งแน่นอน

ด้วยการให้ลูกสาวคนกลาง ผู้ซึ่งคร่ำเคร่งต่อการฝึกฝน การสวดมนตร์ไหว้พระ

สมาทานรักษาศีลห้าและศีลแปด(ศีลอุโบสถ) เจริญภาวนาในทุกรูปแบบ

มาตั้งแต่อายุ 16 ปีจนถึงบัดนี้ สอนบทสวดมนตร์ : บทพระพุทธคุณ

ให้แก่เธอด้วยการสวดให้เธอฟังแล้วสวดตาม จนกระทั่งเธอสามารถ

จดจำได้ทั้งหมด นางสวาทผู้รู้ว่าเวลาของชีวิตอันทุกข์ทรมานของตนเองนี้

ลดลงเหลือน้อยนิดขึ้นทุกวันแล้ว ก็สู้พากเพียรเจริญสติภาวนา

"ในท่านอนสวดมนตร์ แบบผู้ป่วยหนัก" ด้วย : บทพระพุทธคุณ อันศักดิ์สิทธิ์

นี้ วันละ 108 จบ ทุกวันตลอดมาไม่เคยขาดเลย แม้แต่วันเดียว

" บ้านใด สวดมนตร์ ไหว้พระ สมาทาน รักษาศ๊ล

และเจริญสติภาวนา แผ่เมตตาจิต อยู่เป็นนิจ

บ้านนั้น ย่อมมีเทพเทวา มาห้อมล้อม ปกปักษ์รักษา

ผู้คนในบ้านนั้น อย่างมากมาย " คำกล่าวนี้ เป็นสิ่งที่นิมนิมได้พิสูจน์

ด้วยตัวเองแล้วอย่างมิต้องสงสัย ดังนั้น เมื่อมารดาผู้ให้กำเนิดของเธอ

ได้ล้มเจ็บลงเรื่อย ๆ ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2554 เป็นต้นมาจนบัดนี้เป็นปี 2563 แล้ว

สิ่งที่สำคัญมากที่สุด! สิ่งเดียว ที่เธอตั้งใจทำเพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตาคุณ

อย่างสูงสุดต่อบุพพการี ผู้ซึ่งเปรียบดั่งพระอรหันต์และพระพรหมของลูก

(ทั้งบิดาแลมารดา) สิ่งนั้นคือ : การสอน หรือนำพาจิตของบิดามารดา

ให้เข้าถึงพระคุณอันบริสุทธิ์ผ่องแผ้วสุดประมาณ ของ "พระรัตนตรัย"

อันเป็นที่พึ่ง ที่ระลึก สูงสุด! เพียงหนึ่งเดียวของสัตว์โลกทั้งหลาย

ที่ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฎฏะสังสารอันมืดมนและยาวไกล นี้

เมื่อรับฟังมารดาเล่าเรื่องราวที่พบเจอด้วยตาเปล่าๆ จบลงแล้ว

นิมนิม จึงเอ่ยกับสตรีที่เธอรักเคารพบูชามากที่สุดในโลกว่า

" แม่เห็น บ่ จ้า ว่าตำรวจเพิ่นให้ความเคารพต่อผู้ได๋กะตามที่สวดมนตร์ ไหว้พระ

แผ่เมตตาจิต อยู่เสมอ บ่ ได้ขาด นี้กะแสดงว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเฮาพากันเฮ็ด

ด้วยความเคารพนบนอบต่อพระพุทธเจ้ามาตลอดชีวิตนั้น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย

เพิ่นมองเห็นและรับรู้อยู่ตลอดเวลา แม่น บ่ จ้าแม่ "

(แปลจากอีสาน : " แม่เห็นหรือยังคะ ว่าตำรวจท่านให้ความเคารพต่อใครก็ตาม

ที่สวดมนตร์ ไหว้พระ แผ่เมตตาจิต อยู่เสมอ มิได้ขาด เช่นนี้ก็แสดงว่าทุกสิ่งทุกอย่าง

ที่พวกเราพากันทำ ด้วยความเคารพนบนอบต่อพระพุทธเจ้ามาตลอดชีวิตนั้น

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ท่านมองเห็นและรับรู้อยู่ตลอดเวลา จริงไม๊คะแม่ ?")

นิมนิม ตั้งใจพูดทุกถ้อยคำ ที่ซึ่งจะเป็นการให้กำลังใจแก่มารดาของเธอ

ให้หายจากความหวาดกลัว หวั่นวิตกต่อการมาของบุคคลพิเศษ

ซึ่งมีอำนาจ ที่ซึ่งแม่ของเธอเรียกพวกเขาว่า "เจ้านาย"

" แม่นแล้วลูกหล่า แม่จั๊งแม่นเห็นคักเห็นแนฮ้าย เทือนี้

แม่ บ่ สงสัยอีหยังอีกต่อไปแล้ว ถ้าจั่งซั่นแม่ขอสวดมนตร์ อิติปิโสฯ

108 รอบ สำหรับมื้อนี้ก่อน ซั่นหนะ "

(แปลจากอีสาน : " ใช่แล้วลูกรัก แม่ได้เห็นชัดเจนแน่แท้แล้วจริงๆ ครั้งนี้

แม่ไม่สงสัยใดๆ อีกต่อไปแล้ว ถ้าเช่นนั้นแม่ขอสวดมนตร์ อิติปิโสฯ

108 รอบ สำหรับวันนี้ก่อน ดีกว่า " )

พูดจบ นางสวาทก็เริ่มออกเสียงสวดมนตร์ด้วยการกล่าว

: " นะโม ตัสสะ ภะคะวะโค อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (3 รอบ) "

" บรรพบุรุษ คือพ่อแม่ เป็นอรหันต์ของลูก

ไม่ต้องไปตามพระอรหันต์ที่ไหนหรอก เหลียวดูพ่อแม่ในบ้านบ้าง

แล้วท่านจะรู้สึกว่า ได้ทำดีตั้งแต่วันนี้แล้ว "

คำสอนสำคัญจากหนังสือ : กฎแห่งกรรม หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม

เป็นสิ่งสำคัญที่นิมนิมได้น้อมนำมาปฏิบัติจริงในครอบครัวเสมอมา

ถึงแม้ว่าในช่วง 9 ปีมานี้ หลังจากที่เธอตัดสินใจลาออกจากงานบริหาร

ที่กรุงเทพฯ เพื่อกลับมาอยู่เลี้ยงดูเอาใจใส่ต่อลูกชายทั้งสามคนที่ยังเล็ก

อีกทั้งทำหน้าที่ดูแลปรนนิบัติรับใช้คุณพ่อคุณแม่ของเธอภายในบ้านของครอบครัว

จะทำให้นิมนิมต้องตัดขาดจากสังคมภายนอก แตกต่างไปจากสมัยที่เธอยังทำงาน

มีตำแหน่ง หน้าที่ มีเงินเดือนและรายได้จากหลายๆทาง

แต่ความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในชีวิตครั้งนี้ กลับทำให้นิมนิมได้ค้นพบ

ชีวิตอีกด้านหนึ่ง นั่นคือความสงบสุขของกายและใจ ความสมถะ และ

สันโดษในการใช้จ่ายเงิน เฉพาะสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีพจริง ๆ

ซึ่งเมื่อก่อนเธอมักใช้จ่ายเงินที่คิดว่าหามาได้ง่าย ๆ ไปอย่างใจเร็วและมือเติบ

จนติดหนี้บัตรเครดิต ถึงแม้ว่าจะเป็นจำนวนเงินไม่มากอะไร ทว่า! เมื่อวันหนึ่ง

เธอต้องกลายมาเป็นผู้ไร้งานไร้เงินเดือนประจำ อาศัยเงินที่น้องชายหยิบยื่นให้

พอประทังชีวิตเท่าที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น คำว่า "หนี้"

จึงเป็นเสมือนครูผู้คอยเตือนสติแก่เธอว่า: ทุกสิ่่งในชีวิตล้วนไม่เที่ยงแท้ ถาวร

อีกทั้งไม่มีใครรู้ว่า เมื่อไหร่? ตอนไหน ? ที่ชีวิตจะหักเหรุนแรง!!!

อย่างไม่คาดคิดมาก่อน ดังนั้น "สติกับความไม่ประมาท"

จึงเป็นเรื่องที่นิมนิมให้ความสำคัญมากที่สุด นับแต่นั้นมา

" ทำดี ได้ดี ไม่ได้แปลว่า ทำดีแล้วรวย

แต่แปลว่า ทำดี แล้วมีความสุข

มีชีวิตร่มเย็น.....ไม่เดือดร้อนตนเอง และผู้อื่น "

นี่คืออีกหนึ่งธรรมะคำสอนสำคัญ ของ พระธรรมสิงหบุราจารย์

หรือ หลวงพ่อจรัญฯ วัดอัมพวัน ที่นิมนิมเลือกเขียนด้วยลายมือของเธอเอง

บนแผ่นกระดาษแล้วนำไปติดเอาไว้บนผนัง เหนือโต๊ะทำงานในห้องนอน