อวี้หลันเริ่มแรกแย้มผลิกลีบ...
วสันตฤดู หวนวนมาอีกครา...
บุปผางามสง่า ชูช่อตระการตา...
ทว่า ครานั้นวาโยแสนเกรี้ยวกราดไร้ปรานี
และหากแม้นบุปผาน้อยต้องสิ้นชีวี อัปราชัย
อวี้หลัน หนึ่งดอกนี้ยังคงแทนกายและใจ
และมอบให้แด่..ดวงวิญญาณอันบริสุทธิ์ที่ดับสูญ
คนนิรนาม ผู้หนึ่งได้กล่าวไว้
ในช่วงรัชศก ของราชวงศ์กษัตริย์ยุคที่ยังมีการแบ่งแยกดินแดนกันหลายเผ่าพันธุ์
ณ พระตำหนักของหรูเหริน [1] องค์หญิงอวี้หลันทรงนอนทอดพระวรกายแน่นิ่งไม่ไหวติง ราบไปกับพื้นซึ่งปูด้วยหินอ่อนสีเรียบหรูอยู่ตรงริมขอบสระน้ำส่วนพระองค์
[1] 孺人 Rú Rén {หรูเหริน} ธิดาขององค์รัชทายาท, สัมพันธ์ทางสายเลือด, ความผูกพัน,คน,องค์หญิง
หยาดพระเนตรยังคงร่วงเผาะดุจดังไข่มุกอยู่บนดวงพระพักตร์อันงดงามขององค์หญิงน้อย
พระองค์ทรงตื่นตะลึงต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น และเพลานี้พระทัยดวงน้อยได้แหลกสลายเป็นหมื่นชิ้นด้วยความสิ้นหวัง
ความโทมนัสเสียพระทัยหลั่งไหลออกมาจากสีพระพักตร์อันดื้อรั้น ความผิดหวังและความน้อยเนื้อต่ำพระทัย ต่างพุ่งเข้ามาฉีกกระชากวิญญาณอย่างเหี้ยมโหด
แม้นพระอัสสาสะ[1]เข้าออกนั้นช่างแผ่วเบารวยระรินยิ่งนัก ทว่า แม้องค์หญิงน้อยจะกำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันเลวร้าย ท่ามกลางความเป็นความตาย สายพระเนตรกลับทรงดูนิ่ง สุขุม ความหยิ่งทระนงในศักดิ์ศรีของสายโลหิตกษัตริยายังคงพลุ่งพล่านไหลวนอยู่ในพระวรกาย และทรงมิมีท่าทีหวาดกลัวต่อภัยร้ายตรงเบื้องหน้าพระพักตร์เลยสักนิด
[1] พระอัสสาสะ หมายถึง ลมหายใจ
"...หากตัวเราจะต้องสิ้นชีพม้วยมลายดับดิ้นลงเสียตรงนี้ ข้า.. อวี้หลัน-หลั่นก็จะมิขอเอ่ยวาจาร้องขอชีวา..."
องค์หญิงน้อยตรัสได้ไม่ทันไรก็ทรงกระอักพระโลหิตออกมา แต่หรูเหรินน้อยผู้นี้ก็มิถอดใจ พยายามฝืนแรงเฮือกสุดท้ายที่เหลืออยู่อันน้อยนิดตรัสกลับเหล่าข้าราชบริพารต่อให้จบ
"...แต่หากแม้นชาติหน้าฉันใดได้เกิดใหม่ เราก็ไม่ปรารถนาหวนกลับคืนสู่สายเลือดกษัตริย์ตรา ขอเป็นเพียงไพร่ฟ้าสามัญในแว่นแคว้น มีชีวิตอิสระเฉกเช่นวิหคล่องนภา ไร้ซึ่งวังวนความอิจฉาริษยา ไร้การแก่งแย่งอำนาจใด...ใด"
เมื่อพระสุรเสียงอันแผ่วเบาถ้อยคำสุดท้ายสิ้นสุดลง หรูเหรินน้อยก็ได้ทรงกระอักพระโลหิตออกมาจากพระโอษฐ์สีเขียวคล้ำบางอีกครั้ง
ทำให้พระเกศาอันยาวพลิ้วสลวยสีดำน้ำหมึกและฉลองพระองค์ซึ่งทอจากภูษาแพรไหม และปักดิ้นทองขลิบสีชมพูอมม่วงแสนละมุนตา บางจุดกลายเป็นสีโลหิตแทน
เหล่าข้าราชบริพารผู้ที่เคยให้สัตย์วาจา ว่าจะจงรักภักดีจนชีพม้วยมลาย ทว่าเพลานี้พวกเขากลับยืนนิ่ง ตัวแข็งทื่อและจ้องมองโดยที่ไม่มีผู้ใดกล้ายื่นมือเข้าไปโอบอุ้ม หรือช่วยเหลือองค์หญิงน้อยเลยแม้แต่คนเดียว
ในที่สุดหรูเหรินน้อยก็ได้ทรงเข้าพระทัยอย่างถ่องแท้ลึกซึ้งว่าตลอดช่วงพระชนม์ชีพที่มีมาของตนนั้น ไม่เคยมีผู้ใดสักคนที่รักและจงรักภักดีต่อพระนางอย่างจริงใจ
ไม่มีเลย แม้แต่คนเดียว
ณ บัดนี้ เห็นชัดแจ้งแล้วว่าองค์หญิงอวี้หลัน ธิดาคนเล็กขององค์ชายรัชทายาทแห่งแคว้นโหย่ว ได้ทรงถูกเหล่าทรราชวางแผนลอบปลงพระชนม์ด้วยการวางยาพิษ
โดยในแผนร้ายนั้น พวกเขาได้แอบผสมผงพิษซึ่งไร้สีไร้กลิ่นลงไปในสระน้ำ ที่องค์หญิงน้อยทรงสรงอยู่เป็นประจำทุกวัน
เพลาผ่านไปเพียงไม่กี่อึดใจ พระอัสสาสะขององค์หญิงน้อยก็ได้ค่อย ๆ หมดลง ดั่งเปลวเทียนที่มอดไหม้มาจนถึงวาระสุดท้าย
อวี้หลัน บุปผางามดอกนี้ ชูช่อสง่างามได้เพียงแปดชันษา น่าเศร้าที่มิอาจจะหลีกหนีหรือหลบพ้นเคราะห์นี้อันโหดร้ายทารุณ ไร้ซึ่งความปรานีเห็นใจอย่างสิ้นเชิงนี้ไปได้
พระพักตร์งามร่วงตกแนบฟุบบนพื้นเรียบหินอ่อนตรงนั้นพระอัสสาสะสุดท้ายได้หยุดลง ต่อหน้าธารกำนัลและเหล่าข้าราชบริพารมากมาย
...
เซียงไค 盛開
การสร้างสรรค์งานเป็นเรื่องยาก ส่งกําลังใจให้กันด้วยนะ!
ของขวัญจากผู้อ่านคือกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ช่วยส่งกำลังใจให้ไรต์หน่อยนะ!
อ่านแล้วชอบไหม เพิ่มในคลังหนังสือเลยสิ!
มีความเห็นเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ใช่รึเปล่า คอมเมนต์มาได้เลยไรต์อยากฟัง
Thank you so much ^^ Xoxoxo