Descendant of the Fallen เป็นเรื่องราวที่ติดตามการเดินทางของแอตลัส เด็กหนุ่มอายุ 17? ปี นักเรียนในโรงเรียนแรงค์เกอร์อันดับ1ของอีรูเซีย เขาผู้ซึ่งถูกเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งในเกมของโชคชะตาโดยที่แม้แต่เขาก็ไม่รู้ตัว การเดินทางที่เต็มไปด้วยปริศนา ความสนุก ตื่นเต้น กำลังจะเริ่มต้นขึ้น!
ตึก ๆ ตึก ๆ ตึก ๆ - - -
เสียงฝีเท้าของชายหนุ่มดังก้องกังวานทั่วทั้งโลกอันขาวบริสุทธิ์ กว้างขวางจนมิอาจหยั่งรู้ถึงจุดสิ้นสุดกระนั้นกลับให้ความรู้สึกคับแคบจนแทบหายไม่ออก
ท่ามกลางโลกอันขาวบริสุทธิ์มิอาจมองเห็นสิ่งใดนอกเสียจากชายหนุ่มเดินโซซัดโซเซไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย เนื้อตัวสะบักสะบอม มีบาดแผลทั่วร่างกายสังเกตได้จากช่องว่างบริเวณที่เกิดรอยฉีกขาดทั่วพื้นผิวผ้าของเสื้อสีขาวที่ถูกย้อมจนกลายเป็นสีแดงเลือดหมูอันเป็นผลจากเลือดที่หลั่งไหลออกจากบาดแผลของเขา
ชายหนุ่มมีเส้นผมสีดำทมิฬหยักเล็กน้อยยาวไปจนบ่า แต่มิอาจบดบังเชิงกรามอันเด่นชัดของเขาได้ สันจมูกโด่ง ขนตายาว ดวงตาสีดำกระนั้นกลับมีสีแดงผสมอยู่อย่างเบาบาง หากสังเกตดูดีๆจะเห็นไฝบริเวณหางตาด้านซ้ายและรอยคล้ำใต้ตาปรากฏอยู่ เขามีผิวซีดขาว ร่างกายสูงใหญ่สมส่วน
ตึก ๆ ตึก ๆ ตึก ๆ - - -
ชายหนุ่มเดินต่อไปเรื่อยๆ... ดวงตาปราศซึ่งแววตาหยั่งกับวิญญาณของเขานั้นได้ออกจากร่ายไปแล้ว ขัดกับร่างกายของเขาที่สั่นอย่างไม่หยุดยั้ง ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่หยุดที่จะเดินต่อไป…
ตึก ๆ ตึก ๆ ตึก ๆ - - -
ไม่ว่าชายหนุ่มจะเดินไปข้างหน้า หักเลี้ยวไปทางซ้าย, ทางขวา หรือหยุดอยู่กับที่ก็ไม่อาจมองเห็นทางออกจากโลกสีขาวแห่งนี้ไปได้
'เขาเดินอย่างไร้จุดหมายอย่างนี้มานานแค่ไหน?','เขามาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร?','เขาทำสิ่งใดผิดพลาดถึงได้มาพบจุดจบอันแสนโดดเดี่ยวเช่นนี้?', 'ทำไม…ทุกๆอย่างถึงได้พังถลายลง…?' คำถามมากมายพรั่งพรูอยู่ภายในความคิดของชายหนุ่ม ถึงแม้เขาจะอยากได้รับคำตอบ แต่เขาก็รู้ดีว่าคำตอบของคำถามมิอาจหาได้จากตัวเขาเอง ท้ายที่สุดแล้วคำถามเดียวที่อยู่ที่หัวของเขาก็คือ 'เขาต้องอยู่ที่นี้ไปอีกนานแค่ไหน วัน สองวัน สัปดาห์ เดือน ปี สิบปี ร้อยปี พันปี …หรือ…ตลอดไป?'
เหมือนกับว่าโลกใบนี้รับรู้ได้ถึงคำถามอันไร้ซึ่งคำตอบของชายหนุ่ม
เปาะ-!
ราวกับเสียงที่เกิดจากดีดนิ้ว ทันใดนั้นเอง
บึมมมมมมม-!
เสียงระเบิดดังก้องกังวานทั่วทั้งบริเวณ ตามมาด้วยสัมผัสของลมที่พัดผ่านตัวของชายหนุ่มจากทางด้านหลัง ทำให้ชายหนุ่มหันหลังกลับและชักดาบตั้งท่าเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้อย่างรวดเร็ว
"....."
เงียบสงัดราวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ เป็นเพียงแค่จินตนาการของชายหนุ่ม แต่เขารู้ดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงแค่ความสงบก่อนที่พายุลูกใหญ่จะก่อตัวขึ้น
สิ่งที่อยู่ต่อหน้าของชายหนุ่มคือประตูทองคำรูปร่างหน้าตาประหลาดขนาดใหญ่รอบวงกบมีตัวหนังสือสีดำทมิฬสลักอยู่ ประดับประดากรอบบานด้วยอัญมณีหลากสี แสดงถึงพลังและอำนาจของเจ้าของประตูบานนี้ ออร่าที่แผ่ออกมาจากอีกฝากฝั้งของประตู เต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่ เด็ดเดี่ยว ทรงพลัง ราวกลับทั้งโลกไม่มีสิ่งใดอยู่เหนื่อไปกว่าตัวตนที่อยู่อีกฝากฝั้งของประตูอีกแล้ว ทำให้แม้แต่ชายหนุ่มยังต้องคุกเข่าและยอมจำนนต่อออร่าที่แผ่ออกมาจากประตูบานนี้โดยไม่รู้ตัว
-
-
-
"ข้ารอมานานมากแล้ว เจ้ามัวทำอะไรอยู่ละเดินเข้ามาได้แล้ว"
เสียงที่ผ่านออกมาจากอีกฝากฝั่งดังชัดเจน ลื่นหู แฝงไปด้วยความมั่นใจและทะนงตัว เหนื่อสิ่งอื่นใดชายหนุ่มกลับมีความรู้สึกว่าเสียงที่เขานั้นพึ่งได้ยินให้ความรู้สึกคุ้นเคยถึงอย่างนั้นเขาก็จำไม่ได้ว่าเป็นเสียงของใคร…
ชายหนุ่มไม่รอช้าลุกขึ้น และเดินตรงไปยังประตูรูปร่างประหลาด ทุกก้าวที่เขาก้าวเดินแฝงไปด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น สิ้นหวัง ความโกรธ และสุดท้ายความว่างเปล่าสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในตัวเขาคือปณิธานที่แน่วแน่ที่จะหาคำตอบของเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ตึก ๆ ตึก ๆ ตึก —-
ชายหนุ่มเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูรูปร่างประหลาด สูดหายใจเข้าและออกเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะก้าวไปเปิดประตูที่อยู่ข้างหน้าเขา
แอ๊ดดดดดดด—!
สิ่งที่อยู่อีกฝากฝั่งของประตูคือความมืดมิดอันไร้จุดสิ้นสุด ไม่มีแม้แต่แสงสะท้อนเล็ดลอดออกมาจากภายในประตู ถึงกระนั้นกลับไม่มีแม้แต่เศษเสียวของความลังเลปรากฏบนใบหน้าของชายหนุ่ม เขาก้าวไปข้างหน้าพลางนึกถึงสิ่งที่ผ่านมาในอดีตจนถึง ณ ปัจจุบัน
***
"หืมม… นายมาหลบอยู่ที่นี้เองหรอแอตลัส"
หญิงสาวในชุดคลุมสีดำยาวพร้อมลวดลายและตราสัญลักษณ์สีทองบ่งบอกว่าเธอเป็นนักเรียนของโรงเรียนโรสด์ หนึ่งในโรงเรียนสอนแรงค์เกอร์ที่ดีที่สุดในอีรูเซีย
หญิงสาวผมสั้นสีน้ำเงินเข้ม ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเล กลมโต ใบหน้ารูปไข่ รูปร่างผอมบาง ส่วนสูงก็เป็นไปตามมาตราฐานของผู้หญิง เต็มไปด้วยเสน่ห์และความน่ารักของสาววัยรุ่น อีกทั้งยังเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยยังเด็กคนเดียวของฉันเธอมีชื่อว่าไอรีน
"ไอรีนเธอมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง.. ฉันไม่คิดว่าจะมีใครหาฉันเจอทั้งบ่ายนี้แล้วแท้ๆ"
"นายซ่อนไปจากฉันไม่ได้หรอกแอตลัส"ไอรีนยืดอกทำท่าเหมือนกับกำลังภูมิใจอยู่ หลังจากนั้นก็กลับมาทำหน้าจริงจังอีกครั้งและบอกกับแอตลัสว่า
"จะยังไงก็ตามนายต้องเข้าเรียนภาคปฏิบัติในคาบบ่ายนี้!"
"ไม่เอาหรอก ฉันจะไม่ไปทนปวดสมองกับเจ้าพวกบ้านั่นเด็ดขาด!"การเรียนภาคปฏิบัติในคาบบ่ายครั้งนี้จะเป็นการสุ่มทีม6คนเพื่อเข้าทำการทดสอบเคลียร์ดันเจี้ยนระดับ D
"ไม่เอาหน่าแอตลัส นี่นายจะปล่อยให้ทีมของเราเหลือกันอยู่5คนจริงๆหรอ"ไอรีนพูดพร้อมกับทำหน้าตาอ้อนวอน เหมือนกับเด็กน้อยที่อ้อนคุณแม่เมื่ออยากได้ลูกอมในซูปเปอร์มาร์เก็ต
"ทีมของเรา งั้นหรอ…"ฉันพูดออกมาพร้อมกับครุ่นคิดอยู่สักพัก 'ฉันไม่สนหรอกว่าคนอื่นในกลุ่มจะเป็นยังไง แต่จะปล่อยให้ไอรีนเสี่ยงเข้าดันเจี้ยนไปพร้อมกับทีม5คนไม่ได้เด็ดขาด'
"โอเคงั้นก็ได้ฉันจะเข้าคาบบ่ายด้วยแล้วกัน จะว่าไปเธอกินข้าวเที่ยง…"
ทันใดนั้นเองก่อนที่ฉันจะพูดจบ มือของไอรีนก็พุ่งเข้ามาจับที่คอเสื้อของฉัน ก่อนที่จะแสยะยิ้มอย่างน่าขนลุก พร้อมกับยกฉันขึ้น และพุ่งตัวกระโดดลงจากด่านฟ้าของตึก 15 ชั้นที่เราคุยกันอยู่เมื่อสักครู่
"อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาากกกกกกกกกกก" ฉันตะโกนอย่างสุดชีวิต
ไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองจะมีอายุขัยอยู่ได้เพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น…