ฮิคารุตกตะลึงเมื่ออ่านข้อความจากหน้าจอโปร่งแสงที่อยู่ตรงหน้า หน้าจอนี้ดูแปลกตาและไม่เหมือนสิ่งใดที่เขาเคยพบเห็นมาก่อน โดยเฉพาะคำอธิบายเกี่ยวกับ [การเชื่อมโยง] และ [การเข้าถึง] พลังจากตัวละครอนิเมะ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่คุ้นเคยเลยจากโลกก่อนหน้านี้
ในขณะนั้นเอง ระบบได้แสดงข้อความเพิ่มเติมขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งสรุปเนื้อหาได้ว่า
[การเชื่อมโยง] จะช่วยให้เขาสามารถยืมพลังจากตัวละครอนิเมะได้ แต่ต้องใช้พลังงานไสยเวทย์ที่เขามีอยู่ในตอนนั้นเพื่อดึงพลังจากโลกอื่นมาใช้งาน
ข้อความที่ปรากฏทำให้เขารู้สึกทั้งประหลาดใจและงุนงง ความคิดเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในหัว
ขณะที่เขาพยายามทำความเข้าใจกับข้อมูลที่เพิ่งได้รับ
ระยะเวลาของพลังที่ยืมมาจะถูกจำกัด หากเขาต้องการให้มันยาวนานขึ้น เขาจำเป็นต้องสะสม "แต้มพลัง" และใช้แต้มเหล่านั้นในการขยายระยะเวลาหรือเพิ่มความแข็งแกร่งของพลังที่ยืมมา จนกระทั่งถึงจุดที่เขาสามารถใช้งานพลังนั้นได้อย่างสมบูรณ์
ในขณะเดียวกัน [การเข้าถึง] จะเปิดโอกาสให้เขาดึงตัวละครหรืออาวุธจากโลกอนิเมะมาสู่โลกของเขา
แต่การเข้าถึงจำเป็นต้องใช้พลังงานไสยเวทย์ในตัวเขามากกว่าการเชื่อมโยง และหากเขาต้องการเรียกสิ่งที่แข็งแกร่งหรืออันตรายมา ก็ยิ่งต้องใช้พลังงานไสยเวทย์จำนวนมากขึ้นตามไปด้วย
ผลที่ตามมาคือ หากพลังไสยเวทย์หมดก่อนที่การอัญเชิญจะสำเร็จ เขาจะต้องจ่ายค่าตอบแทนด้วยพลังชีวิตของตัวเอง หรือก็คือสูญเสียอายุขัยบางส่วน
ข้อความสุดท้ายที่ปรากฏบนหน้าจอทำให้เขาสะดุ้งเล็กน้อย
[การเข้าถึง: ความทรงจำบางส่วนจะถูกสูญเสียไปอย่างถาวร]
ฮิคารุจ้องมองหน้าจอโปร่งแสงนั้นด้วยความตกตะลึงและสับสน ราวกับเขากำลังถูกดึงเข้าสู่โลกแห่งเกมผสมกับความเป็นจริงที่แปลกประหลาด
ความคิดของเขาเริ่มสับสน วนเวียนอย่างบ้าคลั่งในหัวราวกับพยายามหาทางเข้าใจสถานการณ์นี้
"พลังไสยเวทย์?"
เขาทวนคำในใจ ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย "นี่มัน...เหมือนอะไรบางอย่างที่ชั้นเคยได้ยินมาก่อน..."
ทันใดนั้น ความทรงจำเก่า ๆ จากโลกก่อนหน้าเริ่มผุดขึ้นมา ภาพของร้านขายมังงะเล่มที่เขาเคยเดินผ่านในญี่ปุ่น ภาพปกที่มีตัวละครแต่งกายด้วยเครื่องแบบนักเรียนและเปลวไฟสีฟ้าบนมือทั้งสองข้างเริ่มค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นในความทรงจำ
"Jujutsu Kaisen...?"
เขากระซิบกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่ผสมความไม่เชื่อและตื่นเต้น
"ใช่แล้ว...นี่มันคล้ายกับเรื่องนั้น พลังงานไสยเวทย์ นี่มันโลกของ JJK จริงๆเหรอ?"
ความคิดของเขาเริ่มสับสนปนเปกันระหว่างความอยากรู้อยากลองกับความกลัว
"ระบบนี้...น่าสนใจและอันตรายในเวลาเดียวกันจริง ๆ" เขาคิดในใจ
"ยืมพลังตัวละครอนิเมะ? อัญเชิญพวกเขามาในโลกนี้? ถ้าชั้นใช้มันได้จริง ชั้นจะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ถ้าชั้นพลาด...ความทรงจำจะหายไป ชั้นอาจสูญเสียอายุขัย และที่สำคัญ ชั้นอาจตายได้ถ้าพลังไสยเวทย์ไม่พอ"
เขาเริ่มตั้งคำถามถึงสถานการณ์ของตัวเอง
'แต่ทำไมต้องเป็นชั้น? และทำไมต้องพลังจากตัวละครอนิเมะ? หรือว่ามันเกี่ยวข้องกับชีวิตก่อนหน้าของชั้น? ระบบนี้เกิดจากอะไร? ใครกันที่สร้างมัน?'
ในขณะที่ฮิคารุครุ่นคิด หน้าจอโปร่งแสงก็เปล่งแสงอ่อนๆ เหมือนกำลังตอบสนองต่อความคิดของเขา
"ชั้นไม่มีทางเลือกนอกจากต้องใช้มันอย่างระมัดระวัง"
ฮิคารุคิดในใจ ก่อนจะกำหมัดแน่น
"ถ้าชั้นต้องอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยพลังไสยเวทย์แบบ JJK ชั้นก็ต้องเอาชีวิตรอดให้ได้ ไม่ว่าต้องแลกกับอะไร"
ฮิคารุสูดหายใจลึกก่อนจะหลับตาลง พยายามสงบจิตใจให้แน่วแน่ ราวกับสัญชาตญาณบางอย่างบอกให้เขาลองสำรวจภายในตัวเอง
เขาค่อยๆ กำหนดจิตไปที่กึ่งกลางร่างกาย เสมือนกำลังค้นหาแหล่งพลังงานที่หน้าจอโปร่งแสงกล่าวถึง
"พลังไสยเวทย์..." เขาพึมพำเบาๆ ราวกับปลุกความรู้สึกนั้นในใจ
ในช่วงแรก ทุกสิ่งรอบตัวเงียบสนิท มีเพียงเสียงลมหายใจของตัวเองที่ดังชัดในหัว
แต่ไม่นานนัก ฮิคารุเริ่มรู้สึกถึงบางสิ่ง
มันเหมือนกับประกายไฟเล็กๆ ที่สั่นไหวในความมืดภายในจิตใจของเขา
ประกายไฟนั้นเริ่มเติบโตขึ้นช้าๆ แผ่ความอบอุ่นออกมาในร่างกาย เขารู้สึกถึงพลังที่คล้ายคลึงกับพลังงานไฟฟ้าไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือด
ความรู้สึกนี้แตกต่างจากสิ่งที่เขาเคยสัมผัสมาก่อน ราวกับว่าพลังนั้นมีชีวิตและมันกำลังตอบสนองต่อการเรียกของเขา
"นี่เหรอ...พลังไสยเวทย์?" ฮิคารุคิดในใจ ขณะที่หัวใจเต้นแรงขึ้นด้วยความตื่นเต้น
ทันใดนั้น เขารู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยในร่างกาย เหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังจะระเบิดออกมาจากภายใน
เขาได้ยินเสียงเหมือนกระแสน้ำเชี่ยวกรากในความคิด เสียงนั้นดังขึ้นเรื่อยๆ และประกายไฟในจิตใจของเขาก็เริ่มลุกโชน
"ยังไม่พอ...ยังต้องควบคุมมัน..." ฮิคารุพยายามรวบรวมสมาธิอีกครั้ง
เขาหายใจเข้าและออกอย่างช้าๆ ควบคุมจังหวะของพลังงานที่ไหลเวียนในตัวเอง สัมผัสถึงกระแสพลังนั้นเหมือนเชือกเส้นบางที่เชื่อมต่อกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเอง เขารู้สึกได้ว่าพลังนั้นกำลังรอให้เขาเปิดประตูเข้าสู่ศักยภาพที่แท้จริง
"ใช่แล้ว...นี่แหละ...พลังของชั้น"
ฮิคารุลืมตาขึ้นในที่สุด ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่นและความรู้ใหม่ที่เพิ่งค้นพบ
เขารู้สึกถึงพลังที่หลั่งไหลอยู่ในตัว ราวกับว่าเขาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกนี้อย่างแท้จริง
ฮิคารุสูดหายใจอีกครั้ง คราวนี้เขาไม่ได้แค่สัมผัสพลังไสยเวทย์ในร่าง แต่ตั้งใจจะดึงมันออกมาใช้จริงเป็นครั้งแรก
เขาหลับตา กำหมัดแน่น พร้อมทั้งนึกถึงภาพเปลวไฟสีฟ้าดำที่เคยเห็นในหน้าปกมังงะ Jujutsu Kaisen ความทรงจำเหล่านั้นค่อยๆ ปะติดปะต่อกับพลังที่หลั่งไหลอยู่ในร่างกาย
"ได้โปรด...จงออกมา!" ฮิคารุเปล่งเสียงออกมาอย่างหนักแน่น
ทันใดนั้น ร่างของเขาเริ่มสั่นไหวเบาๆ เหมือนแรงดันบางอย่างในร่างกายกำลังถูกปลดปล่อย ความอบอุ่นที่เคยสัมผัสกลายเป็นความร้อนราวกับเปลวเพลิงที่แผดเผา
เสียง "ฟู่มมม!" ดังขึ้น เปลวไฟสีฟ้าดำปรากฏขึ้นรอบตัวเขา พลังงานนั้นลุกโชนขึ้นอย่างงดงามแต่แฝงไปด้วยความน่ากลัว
"สำเร็จแล้ว!" ฮิคารุตะโกนด้วยความดีใจ ขณะจ้องมองเปลวไฟที่แผดเผาอย่างสง่างามรอบตัว
แต่ไม่ทันไร เปลวไฟนั้นก็เริ่มสั่นไหวผิดปกติ ราวกับมันกำลังสะท้อนถึงบางสิ่งในตัวเขา ฮิคารุรู้สึกถึงอารมณ์ที่ปั่นป่วน...ความกลัว ความโกรธ และความไม่มั่นใจในตัวเอง พลังที่ควรจะสงบนิ่งกลับเริ่มเติบโตขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้
พื้นใต้เท้าของเขาสั่นสะเทือน เปลวไฟลุกโชนสูงขึ้นจนแทบจะกลืนกินทุกสิ่งรอบตัว
"ไม่ใช่...ใจเย็นไว้!" ฮิคารุพยายามพูดกับตัวเอง แต่เปลวไฟกลับยิ่งรุนแรงขึ้น
ความทรงจำในอดีตผุดขึ้นในหัวเขา ภาพของวันที่เขาถูกดูหมิ่น ถูกทอดทิ้ง และความเจ็บปวดจากความล้มเหลว
ทุกสิ่งเหมือนถูกปลุกขึ้นพร้อมกับพลังไสยเวทย์ เปลวไฟสีฟ้าดำเริ่มขยายตัวราวกับจะแสดงออกถึงความโกรธเกรี้ยว
"นี่มัน..." ฮิคารุอ้าปากค้างเมื่อรู้ตัวว่าเปลวไฟนี้ตอบสนองต่ออารมณ์ด้านลบของเขา
พลังมหาศาลทำให้เขารู้สึกถึงความเหนือชั้น แต่ในขณะเดียวกันมันก็เหมือนกับดาบสองคม ฮิคารุพยายามรวบรวมสมาธิเพื่อควบคุมเปลวไฟนี้
"ใจเย็นไว้...นี่คือพลังของชั้น! ชั้นจะไม่ยอมให้มันควบคุมชั้น!"
เขาหลับตาลงอีกครั้ง พยายามปล่อยวางอารมณ์ด้านลบทั้งหมด สูดหายใจลึกและช้า
เสียง "ซู่ววว..." ดังขึ้น พลังงานในร่างเริ่มสงบลง เปลวไฟที่เคยลุกโชนลดลงอย่างช้าๆ จนกลับมาอยู่ในรูปแบบของเปลวเพลิงเล็กๆรอบมือของเขา
ฮิคารุลืมตาขึ้นอีกครั้ง พร้อมทั้งจ้องมองเปลวไฟสีฟ้าดำในมือด้วยสายตาที่แน่วแน่
"พลังนี้...มันเชื่อมโยงกับอารมณ์ด้านลบของชั้น" เขาพึมพำ
"ถ้าชั้นต้องการใช้มันอย่างเต็มที่ ชั้นต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมตัวเอง ไม่งั้นมันจะกลายเป็นอาวุธที่ย้อนมาทำลายชั้นเอง"
เขากำหมัดแน่นและเปลวไฟก็ดับลงในที่สุด
ฮิคารุถอนหายใจออกมายาวๆ รู้สึกทั้งเหนื่อยล้าและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน
"ดูเหมือนชั้นจะต้องฝึกอีกเยอะ...แต่ชั้นจะไม่ยอมแพ้แน่"
.
.
.
.
หนึ่งปีผ่านไป ปี ค.ศ. 1900
ณ ชายป่าอันเงียบสงบในชนบทของญี่ปุ่น ฮิคารุในวัย 5 ขวบกำลังฝึกฝนอยู่ใต้การดูแลของ ไดเซ็น ชายชราอายุ 68 ปี ผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์คุณไสยและเป็นผู้ดูแลฮิคารุมาตั้งแต่แบเบาะ
เสียงไม้ไผ่กระทบกันดัง "ปั่ก!" เมื่อฮิคารุใช้ไม้สั้นในมือปัดป้องการโจมตีจากไดเซ็น ร่างเล็กของเด็กชายขยับตัวอย่างคล่องแคล่ว แม้จะมีหยาดเหงื่อเกาะพราวเต็มใบหน้า แต่สายตาของเขากลับเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่น
"ฮิคารุ!" ไดเซ็นเอ่ยเสียงดุดัน ขณะลดไม้ไผ่ลง "เจ้าต้องใช้พลังไสยเวทย์ให้เป็นธรรมชาติ ไม่ใช่เพียงแค่แรงกาย ฝึกต่อ!"
ฮิคารุพยักหน้า ก่อนหลับตาลงเพื่อดึงพลังไสยเวทย์ออกมา เสียง "ฟู่ม..." เบาๆ ดังขึ้นเมื่อพลังสีฟ้าดำเริ่มล้อมรอบมือขวาของเขา
"ดี... แต่ยังไม่พอ" ไดเซ็นกล่าว ขณะเดินไปมาพลางอธิบาย "เจ้ารู้ไหมว่าอะไรคือ 'พลังคำสาป'?"
ฮิคารุหยุดฝึกและเงยหน้ามอง "คือพลังที่เกิดจาก...อารมณ์ด้านลบใช่ไหม?"
ไดเซ็นพยักหน้า "ใช่ พลังคำสาปเกิดจากอารมณ์ด้านลบของมนุษย์—ความกลัว ความโกรธ ความสิ้นหวัง ทุกครั้งที่มนุษย์คิดลบหรือหวาดหวั่น พลังเหล่านั้นจะสะสมในโลกนี้ และเมื่อมันเข้มข้นพอ มันจะกลายเป็นสิ่งที่เราเรียกว่า 'วิญญาณคำสาป'"
ฮิคารุเอียงคอ "แล้ววิญญาณคำสาปพวกนั้น...ทำไมเราต้องกำจัดมันล่ะ?"
"เพราะมันคือภัยต่อมนุษย์" ไดเซ็นพูดพลางจับไหล่ของเด็กชาย "มันเกิดขึ้นเพื่อทำลายล้าง พวกมันโหยหาอารมณ์ด้านลบเพื่อเพิ่มพลังของตัวเอง ยิ่งปล่อยไว้ ยิ่งอันตราย หน้าที่ของผู้ใช้คุณไสยอย่างพวกเรา คือการปกป้องผู้คนจากวิญญาณคำสาป และทำลายพวกมัน"
ฮิคารุมองมือของตัวเองที่ยังคงมีเปลวไฟสีฟ้าดำล้อมรอบ "แล้วพลังของผมล่ะ...มันจะกลายเป็นสิ่งชั่วร้ายแบบนั้นไหม?"
ไดเซ็นหัวเราะเบาๆ "พลังของเจ้าอยู่ที่การควบคุม ถ้าเจ้าปล่อยให้มันถูกอารมณ์ด้านลบครอบงำ มันจะกลายเป็นคำสาป แต่ถ้าเจ้าใช้มันด้วยจิตใจที่มั่นคงและเป้าหมายที่ชัดเจน มันจะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่เพื่อปกป้อง"
.
.
.
ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในนั้นคือวันที่ฮิคารุเผชิญกับ คำสาปหัวแมลงวันระดับ 4
เพราะพลังไสยเวทย์ในตัวที่ตื่นขึ้นแล้วทำให้เขามองเห็นสิ่งที่เรียกว่าคำสาปได้
โชคดีที่ไดเซ็นเข้ามาช่วยปัดเป่าคำสาปนั้นไว้ทัน พร้อมเปิดเผยว่าเขาเป็น ผู้ใช้คุณไสยระดับ 2
เหตุการณ์นั้นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการฝึกฝนฮิคารุอย่างจริงจัง...
ดั่งเช่นวันนี้ซึ่งไดเซ็นตะเริ่มฝึกฮิคารุด้วยการให้เขาห่อหุ้มพลังไสยเวทย์ไว้ที่ส่วนต่างๆของร่างกาย เช่นหมัดและเท้า
"ลองห่อพลังไสยเวทย์ไว้ที่มือของเจ้า และทำลายหินก้อนนี้" ไดเซ็นชี้ไปที่หินขนาดเท่าศีรษะคน
ฮิคารุสูดหายใจลึก มือของเขาสั่นเล็กน้อยเมื่อพลังสีฟ้าดำเริ่มแผ่คลุมฝ่ามือ
เขาเงื้อหมัดและตะโกนออกมา
"ฮ้า!!"
เสียง "ตูม!!" ดังลั่น หินแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แต่ฮิคารุก็ทรุดตัวลงกับพื้น
"เจ้าใช้พลังมากเกินไป" ไดเซ็นเดินเข้ามาช่วยพยุงเขา
"การห่อหุ้มพลังไม่ใช่แค่ใส่พลังทั้งหมดที่มี แต่ต้องกระจายพลังอย่างสมดุล ให้พอเหมาะกับเป้าหมาย"
ไดเซ็นสาธิตโดยชกไปที่หินอีกก้อน
เสียง "แกร่ก..." ดังขึ้นเพียงเบาๆ แต่หินกลับแยกออกอย่างสมบูรณ์โดยไม่มีเศษเล็กๆ กระเด็น
ฮิคารุมองอย่างชื่นชม
"เข้าใจแล้วครับ...ต้องควบคุม ไม่ใช่บังคับ"
.
.
.
หลังจากการฝึก ไดเซ็นนั่งพักใต้ต้นไม้ใหญ่ ขณะที่ฮิคารุคุกเข่าลงฟังคำอธิบาย
"ในโลกนี้ ผู้ใช้คุณไสยแบ่งเป็น 4 ระดับหลักๆ" ไดเซ็นอธิบาย "ระดับ 4 คือต่ำสุด เหมาะสำหรับงานเล็กๆ ระดับ 3 คือผู้ที่สามารถรับมือกับคำสาปทั่วไปได้ ระดับ 2 มีความเชี่ยวชาญและสามารถกำจัดคำสาปที่มีพลังสูง และระดับ 1 หรือระดับพิเศษ คือผู้ที่สามารถเผชิญหน้ากับคำสาปที่ทรงพลังที่สุดได้"
"แล้วผมอยู่ระดับไหนครับ?" ฮิคารุถามด้วยสายตาอยากรู้
"เจ้ามีพลังมหาศาลในตัว แต่ตอนนี้เจ้ายังไม่ได้รับการประเมินระดับ" ไดเซ็นตอบ "แต่ข้าเชื่อว่าเจ้ามีศักยภาพที่จะไปถึงระดับสูงสุดได้ หากเจ้าไม่หยุดฝึก"
การฝึกดำเนินต่อไป
เสียงฝีเท้ากระทบพื้นดินดังเป็นจังหวะ ขณะที่ฮิคารุฝึกการห่อหุ้มพลังไสยเวทย์ไว้ที่หมัดและเท้า ซัดเป้าหมายที่วางอยู่ตามต้นไม้จนเสียง "ตูม ตึง" ดังก้องป่า
ไดเซ็นยืนมองอย่างพึงพอใจ
"เจ้าพัฒนาขึ้นมาก ฮิคารุ...แต่การฝึกของเจ้าเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น"
ฮิคารุเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก แต่ในดวงตาของเขายังคงมีประกายแห่งความมุ่งมั่นไม่จางหาย...