webnovel

10-2 冷漠而沉默 นิ่งเฉยเย็นชา

เจ้าปีศาจน้อยถูกทรมานในคุกใต้ดิน หลังจากนั้นนางได้รับการรักษาด้วยพลังวิญญาณของเมืองปีศาจ วันถัดมาปีศาจเฒ่าก็กลับมาทรมานนางใหม่ ทั้งเพื่อเอาความจริงและผลประโยชน์ในการขยายดินแดน ฮู่โหมวตามมาเฝ้านางหน้าคุกใต้ดิน ด้วยความรู้สึกไม่ต่างจากเทพมรณายามนี้...

นัยน์ตากลวงโป๋มีไฟลุกโชติช่วง พวกปีศาจชั่วช้าสามานย์ เขาจะขึ้นบัญชีดำพวกมันแน่!

"เหตุใดปีศาจชั่วช้าถึงเพียงนั้น ไม่ใช้ยาจับโกหกนางเรื่องยมทูต? จะสร้างเวทลวงขึ้นมาเพื่อเอาความจริงก็ได้"

"นางคุยโวโอ้อวดว่าไม่มีพิษใดทำอันตรายนางได้ แม้แต่ยาจับโกหกของท่านปู่ นางเป็นผู้ต้องขังมาร่วมร้อยปี ทดลองสารพัดยาให้ท่านปู่นาง... อีกอย่าง ยมทูตไม่ใช่จุดประสงค์ของหลี่หวังหยาง ปีศาจเฒ่าละโมบโลภมาก ปรารถนาการขยายดินแดน ฝักใฝ่อำนาจความเป็นใหญ่"

นีเทียนต้าเซินออกความเห็น อดนึกถึงคำพูดเจ้าถิงถิงไม่ได้ เขาดูแคลนศัตรู! ความประมาทเป็นจุดอ่อนของการทำศึก ในเมื่อเขาไม่ได้เห็นปีศาจพวกนั้นเป็นข้าศึก แค่พานางไปส่ง... หมดหน้าที่เพียงเท่านั้น

ช่างโหดร้ายต่อนางผู้แสนดีในเมืองมรณา การประชุมจึงดำเนินไปหลายชั่วยาม เมื่อท่านลุงทั้งหลายมีสัมพันธ์ไมตรีที่ดีต่อนาง ย่อมอยากจะไปช่วยนาง โดยเฉพาะท่านลุงอาวุโสมีจิตใจซื่อตรง ลุงสามลุงแปดถึงกับหลั่งน้ำตา

"เจ้าปีศาจน้อยเคยพูดว่าเมืองมรณาคือบ้านนาง มิอาจทรยศ หากนางมีโอกาสได้กลับเรือนใต้ ให้ท่านปู่นางทรมานจนตาย นางจะไม่เปิดเผยเรื่องท่านลุงโดยเด็ดขาด นางจะไม่ทำให้ท่านลุงผิดหวัง ฮือ..."

"ใจเย็นก่อนเถิดลุงสาม ท่านลุงเขตแดนที่เจ็ดพันตั้งฐานทัพในเมืองปีศาจ รอการรวบรวมวิญญาณ ราตรีก่อนลุงแปดเข้าไปพบนางครั้งหนึ่ง ข้าไม่แน่ใจว่านีเทียนต้าเซิน... ควรทราบเรื่องนี้หรือไม่?"

"มีรายงานอะไร เจ้าส่งมา... ทั้งหมด ข้าจะได้ตัดสินใจให้ชัดเจนเด็ดขาด"

"ปีศาจฮู่โหมวร่วมมือกับพี่สาวนาง บุรุษเทพจากเทวโลกชั้นดินภพภูมิบาดาล สหายนางไปช่วยนาง แต่นางไม่ยอมออกจากคุกใต้ดิน... นางยืนกรานว่ามีเรื่องต้องทำให้สำเร็จเสียก่อน พวกข้า... ลักลอบเข้าไปที่เรือนใต้ พยายามจะช่วยนาง..."

เขตแดนที่สามพันต่างมองหน้ากัน พวกเขาละเมิดคำสั่งเทพมรณาครั้งหนึ่ง กลับไม่ถูกกล่าวโทษ เป็นลุงแปดบอกความจริงด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ

"นางบอกข้าว่า... หลี่หวังหยางเสกสร้างตาข่ายมาร ด้วยการนำทารกมาสังเวย ตาข่ายนี้เกิดจากเวทบริสุทธิ์ใช้ดักพลังหยินหยางได้ หอสมบัติหลังเรือนใต้จำเป็นต้องใช้กุญแจใช้ไขค่ายกลจึงสามารถเข้าไป นางเป็นผู้รู้ทางเข้าออก นางได้ยินเรื่องเมืองมรณามียมทูตหายตัวไป นางเชื่อว่าท่านลุงไม่เกียจคร้านบ่ายเบี่ยงการงาน เรื่องนี้อาจเกี่ยวข้อง..."

"เสียสติไปแล้วรึไง! หน้าอย่างนางรึจะไปช่วยท่านลุง ลำพังยังเอาตัวไม่รอด"

นัยน์ตากลวงโบ๋แผดเผาด้วยเพลิงโทสะ ไฟกัลป์ลุกท่วมกายกระดูก เทพมรณาผ่อนลมหายสีชาด อาชาแห่งความมืดเตะกีบม้าเกรี้ยวกราด

เงื้อมมือมัจจุราชเรียกลูกแก้วกลับคืนใต้อาภรณ์ นิ่งสงบไปชั่วขณะ

กิจธุระสำคัญของเทพมรณาคือการนับลูกแก้วยมทูตใต้อาภรณ์ว่าอยู่ครบหรือไม่ ในเขตแดนนีเทียนนั้นครบถ้วน ส่วนสองเทพนั่นมีเจตนา... ไม่บริสุทธิ์

มือกระดูกคว้าอาวุธเป็นโซ่ที่มีปลายมีดพระจันทร์เสี้ยว เฉกเช่นออกไปรวบรวมดวงวิญญาณ เกราะสีนิลลุกโชติช่วงด้วยเพลิงสีชาด หลังสลัดลูกแก้วยมทูตออกจากอาภรณ์ แสงหยินหยางกระจายไปทั่วดินแดน

"ข้าจะไปรับท่านลุงกลับเมืองมรณา ข้าจะจัดการงานนี้ด้วยตัวข้าเอง... พวกท่านกลับไปทำงานเถิด ดวงวิญญาณทั้งหลายเฝ้ารอการนำทางจากยมทูต"

 

พักหลังมานี้ยมทูตไม่ใคร่จำศีลใต้อาภรณ์ เรียกกลับมาไม่นานก็ขอออกไป บ่นว่าอยู่เฉย ๆ เป็นลูกแก้วน่าเบื่อหน่าย ใครเล่าจะทนดมกลิ่นความตาย กลิ่นดอกปี่อั้น คงมีเพียงเจ้าถิงถิงที่คลั่งไคล้หลงใหลนักหนา เป็นเทพมรณาหรือยมทูตก็ควรมีความเป็นส่วนตัวบ้าง

ท่านลุงช่างเจรจาผิดปรกติวิสัย หลังกลับมาจากการรวบรวมดวงวิญญาณจะลุกขึ้นมาฝึกวิชา ทำอาหาร นั่งเดินหมากรุก ประลองกระบี่วิชา ฝึกฝนวิทยายุทธ

ถัดจากเทือกเขายี่หรุนไป ท่านลุงกลุ่มหนึ่งนั่งขัดกระบี่ วางแผนจัดการกับวิญญาณร้ายที่หลบหนีการจับกุม บำเพ็ญเพียรอย่างมุมานะเสมือนเหล่าเซียน พวกเขาทำความสะอาดเรือน ดูแลรูปลักษณ์ภายนอกของตน น่าประหลาดที่สุด! มียมทูตหลับใหลใต้ต้นไม้ที่ไร้กิ่งใบ

ในเขตแดนของนีเทียนต้าเซิน ยมทูตหัวเราะและร้องไห้ มีความรู้สึกเสมือนมนุษย์ปุถุชน

การเปลี่ยนแปลงมีทั้งดีร้าย แม้กระทั่งเจ้าเมืองมรณา อดนึกถึงเรื่องระหว่างเขาและนางมิได้ เสียงหวานกังวานในห้วงนิทราผีเสื้อ ตราตรึงในทุกชั่วขณะจิต

"ข้ามีความลับจะบอกท่าน ข้าจะยอมบอกเรื่องเดียว ท่านจะฟังเรื่องใด?"

"ทำไมเจ้าพูดอ้อมค้อมมากเรื่อง ไม่บอกข้าเสียที เจ้าบอกข้ามาทุกเรื่อง..."

"ปีศาจล้วนหมกมุ่นในราคะ ความโลภหลง แต่ผีเสื้ออย่างข้ามีข้อยกเว้น... เอ้อ! ข้าไม่พูดดีกว่า ท่านลืมไปเถิด ท่านเป็นเทพ จะมาใส่ใจเรื่องอารมณ์รักใคร่ ตัณหาราคะ การเสพสำราญของปีศาจได้ยังไง"

"เจ้าพูดเรื่องความรัก? หมายถึงปีศาจน่ะหรือ..."

"เจ้าค่ะ ข้ากำลังจะบอกว่า... ยามปีศาจผีเสื้อเกิดความรักใคร่ พวกนางมักหลงใหลในสามี อาจมากกว่าวันละสามเวลาของพวกนาง..."

"ข้าเป็นผู้เรียนรู้ทั้งหยินและหยาง เทพมารเช่นข้ามีภริยาได้ ข้าร่ำเรียนมาทุกเรื่องจากตำราสีชาด เพียงแต่ข้า... ไม่ชอบเปิดมันขึ้นมาบ่อย ๆ โดยไม่มีเหตุจำเป็น"

"ท่านพูดแล้วนะเจ้าคะ เทพมรณามีภริยาได้"

"มีได้… ก็คงไม่ใช่เจ้า ปีศาจน้อย เพราะจะว่าไปแล้ว ท่านปู่ของเจ้า... รุ่นเหลนข้ากระมัง"

"ท่านเอาแต่ผ่อนผันให้พ้นตัว ข้าเบื่อท่านแล้วล่ะ เราเข้านอนเถิด"

ในอ้อมแขนเทพมรณาปรารถนาการกลับมาของสตรีนางหนึ่ง เขาเกิดความฝันระหว่างวัน เห็นนางนอนหันก้น อมลมในแก้มป่อง น่าเอ็นดูนัก ดวงตากลิ้งกลอกของนางดีใจเมื่อเขาพูดว่าสามารถรับภริยา จากนั้นเขาก็หลอกนาง แสร้งทำเป็นหาทางออกจากห้วงนิทราผีเสื้อไม่ได้ เพื่อจะได้อยู่ข้างกายนางเป็นครั้งสุดท้าย

นางจะไปอยู่ในอ้อมกอดชายอื่น... สามีนางควรเป็นปีศาจจิ้งจอก

ในฐานะผู้เสียสละเพื่อดวงวิญญาณ เป็นเทพผู้สันโดษดีเสียกว่า

ความตั้งมั่นมลายหายไปเสียเฉย ๆ นีเทียนต้าเซินแทบจะไปปรากฏกายเบื้องหน้านาง หากไม่ติดว่าจำต้องแจ้งเทพมรณาอีกสองเรื่องลูกแก้วยมทูต

หลังปลดอาคมกักขัง มอบอิสระให้ฮุ่ยเหอเยว่ชิงในเรือนไม้สวยงามซึ่งทั้งสองทำเมินเฉยไม่ทุกข์ร้อน ฮุ่ยเหอกางฝ่ามือเรียกลูกแก้วกลับคืนอาภรณ์ไม่ได้ ก็ทำเฉยเมย นั่งหลับตาทำงานในห้วงจิต

นีเทียนต้าเซินสะบัดศีรษะ เตรียมมุ่งตรงไปเมืองปีศาจ ดันเกิดเรื่อง!

'นีเทียนต้าเซิน'

'ทัณฑ์ที่ 1'

เสียงหัวเราะร่าเริงดังขึ้นกลางท้องนภามืด บทลงโทษเทพมรณาผู้จองหองอวดดีเริ่มต้นขึ้น ตำราสีชาดส่องแสงจรัสจ้า โซ่ตรวนใต้เปลวเพลิงพันล้อมรอบร่างกระดูก

พันธนาการถูกคลายออกด้วยเพลิงกัลป์ในชั่วอึดใจ นัยน์ตาสีชาดพิจารณาศัตรูในฝั่งตรงกันข้าม ไม่ผิดเพี้ยนไปจากตัวเขาแม้ปลายเส้นผม ในมือกระดูกมีอาวุธเป็นโซ่ ปลายมีดพระจันทร์เสี้ยวเช่นเดียวกัน

นีเทียนต้าเซินเป็นเทพเดียวนับตั้งแต่ถือกำเนิดเมืองมรณา... ที่ต่อสู้กับร่างจำแลงหลายชั่วยาม เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เขาได้ยินเสียงหัวเราะเย้ยหยันของฮุ่ยเหอเยว่ชิง ออกมานั่งจิบชา ชมการวาดวิทยายุทธวิชาเทพ ทั้งสองแลดูสำราญใจนัก

กว่าจะสามารถผนึกตำราสีชาดลงได้ ร่างกระดูกขบเขี้ยวฟัน มันก็น่าโมโห! ครั้นจะให้ฉีกตำราทั้งสามเล่ม แดนมรณาไม่มีวันสิ้นสลาย เทพมรณาโดยกำเนิดถือครองร่างอมตะ หาใช่จิตเทพจากสระมรกตไม่ ทุบสระมรกตทิ้งเสียก็ดับสิ้น

"สาบานได้ว่าข้าจะเผาเจ้า... จนไม่เหลือสักหน้าแผ่นเดียว... ฮุ่ยเหอเยว่ชิง พวกเจ้าก็ด้วย ฝากไว้ก่อนเถอะ"

'จำ'

สิ้นเสียงเย้ยหยัน มือกระดูกฟาดมีดพระจันทร์เสี้ยวแลกรับกับบุรุษในร่างเสมือนซึ่งกลับมาหัวเราะเยาะเขาอีกรอบหนึ่ง ก่อนหายไปเป็นเถ้าควันในท้องนภา

นีเทียนต้าเซินโดนเวทยมทูตขนานหนึ่งโดยไม่ทันระวัง เวทจดจำเป็นตรงข้ามกับ 'ลืม' 

กลุ่มเมฆาลูกใหญ่พลันหายจากนครมรณาไปปรากฏในเมืองปีศาจ

下一章