ริเชเนีย เด็กหนุ่มผู้เกลียดขุนนางได้หนีออกจากบ้านกับเพื่อนสนิทวิลเฮล์มไปอาศัยแถวหมู่บ้านสามัญชน แต่แล้วก็โดนผู้เป็นผู้ปกครองจับลากกลับมาบ้าน เพื่อให้ไปเข้าทดสอบคัดเลือกองค์รักษ์ประจำตัวของเจ้าชายที่สอง ผู้ไม่เคยออกสื่องานเลี้ยงใดๆ ถ้าผ่านขึ้นมานี่รู้สึกเหมือนเห็นลางร้ายลูกใหญ่เข้ามาในชีวิตเลย ริเชเนียคนนี้ขอไม่เป็นองค์รักษ์ได้ไหมเนี่ย! เขาอยากเป็นอิสระ!!
ขอให้เจ้าจงจดจำไว้
เราได้ทำพันธสัญญากันแล้ว
หากเจ้าลืมเรื่องของข้า ข้าจะไม่มีวันให้อภัยเจ้า...….
เสียงนั้นเป็นของใครกันนะ จู่ๆภาพทิวทัศน์อันว่างเปล่าก็เปลี่ยนเป็นฉากสะเทือนใจขาดตอนไม่ประติดประต่อ
เบียทริช ริเชเนีย หนีไปลูก!!
คุณคะ!!
ไม่เป็นไรนะริเชเนียของแม่…..พ่อกับแม่รักลูกนะ
ท่านพ่อ ท่านแม่ ไม่!!
ภาพตรงหน้าเปลี่ยนเป็นสีเลือดแดงฉาน
เฮือก
เด็กหนุ่มสะดุ้งตื่นพร้อมเหงื่อที่ไหลทั่วใบหน้า เขาหันมองซ้ายขวา มองรอบทิศเพื่อความแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดปกติภายในห้องของตัวเอง เขาจึงลุกขึ้นมานั่งสงบสติอารมณ์พลางใช้มือนวดหน้าผากเบาๆที่รู้สึกปวดหนึบอย่างไม่ได้เป็นมานานมาก
เสียงผู้ชายแปลกๆที่ได้ยินในฝันทุกคืนพระจันทร์เต็มดวง เขามีความเกี่ยวข้องอะไรกับอดีตของผมหรือเปล่านะ ทั้งที่เมื่อก่อนไม่ค่อยได้ฝันแบบนี้เลย หรือจะมีลางบอกเหตุอะไรสักอย่างที่คาดไม่ถึง
แล้วยังมีภาพฝันครั้งที่สองเป็นช่วงที่พวกท่านตายต่อหน้า….
เมื่อเขารู้สึกดีขึ้นแล้วจึงลุกขึ้นจากเตียง เดินตรงไปยังที่กระจกบานใหญ่เท่าตัวของเขา มองดูที่ตัวเองสักพักก่อนจะพึมพำด้วยเสียงเบาบาง
"เขาเป็นใครกันนะ บอกว่าทำสัญญากันไปแล้วด้วย เฮ้อ" เด็กหนุ่มถอนหายใจ
ตัวผมนั้นชื่อริเชเนีย เท็ดริก สูญเสียความทรงจำสมัยเด็ก รู้แค่ว่าพ่อกับแม่เสียชีวิตทั้งคู่จากอุบัติเหตุเกวียนตกลงเหวช่วงฝนตก ผมเป็นคนเดียวที่รอดชีวิตมาได้ จึงต้องมาอาศัยอยู่กับตระกูลโอทิสเพื่อนสนิทของพ่อแม่ที่สามารถรับเลี้ยงผมได้
อืม แค่เคยอาศัยล่ะนะ เพราะตอนนี้ผมเป็นเด็กหนีออกจากบ้านน่ะสิ
หลังจัดเก็บผ้าห่มบนเตียงเสร็จแล้ว จึงเดินมาริมหน้าต่างเพื่อสูดอากาศยามเช้า หวังว่าเช้านี้จะสงบสุขนะ
"ริเช่ เราออกไปรับภารกิจด้วยเลยมั้ย"
เสียงทักทายร่าเริงสดใสของเพื่อนสนิทสมัยเด็ก วิลเฮล์ม โอทิส พร้อมเสียงแรงเปิดประตูห้องดังสนั่น โดยไม่เคาะขออนุญาตเจ้าของห้องสักครั้ง ถึงผมจะชินมันไปแล้วกับนิสัยนี้ของเพื่อนสนิท
ผมกับวิลเฮล์มอยู่บ้านเดียวกันแต่แยกห้องส่วนตัวกันเป็นพื้นที่ไม่ใหญ่ไม่เล็ก เป็นบ้านที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร คนที่มักจะอยู่บ้านหรือออกไปเดินตลาดมันจะเป็นผม ส่วนคนที่ชอบออกไปล่าสัตว์ ไปสมัครนักผจญภัยเพื่อรับภารกิจหาเงินเข้าบ้านจะเป็นวิลเฮล์ม นอกจากงานตึงมือเขาถึงจะพาผมไปด้วย
"ไม่เอาล่ะ วันนี้รู้สึกไม่สบายเท่าไหร่ นายไปคนเดียวเถอะ วิลเฮล์ม" ผมจึงปฏิเสธไปตามตรงเพราะยังรู้สึกแย่กับความฝันนั้นอยู่
"ฝันร้ายอีกแล้วเหรอริเช่" วิลเฮล์มถามหลังจากเห็นสภาพสีหน้าที่ไม่ค่อยดีของผม"ออกไปเดินเล่นข้างนอกไหมละ นายจะได้รู้สึกดีขึ้นไง"
ผมมองหน้าเจ้าเพื่อนสนิทที่พยายามเนียนจะลากเพื่อนของตัวเองให้ออกไปข้างนอกด้วยกัน แน่นอนคำปฏิเสธของผมก็คือ ไม่!
"โหย อย่าใจร้ายนักเลย นายก็เอาแต่หมกอยู่ในห้อง ไม่ก็ออกตระเวนไปรักษาคนอื่นครั้งคราว"วิลเฮล์มเดินเข้ามาใกล้ตรงจุดที่ผมนั่งอยู่ "ฉันไม่เข้าใจนายเลย ทั้งที่ไม่ชอบยุ่งกับคนเอาแต่หลบซ่อนหนีจากบ้านฉัน แต่นายกลับยอมออกไปช่วยเหลือคนอื่น"
"นายไม่กลัวว่าพ่อฉันจะลากพวกเรากลับไปงั้นเหรอ?"
"วิลก็อย่าพูดเป็นลางสิ ผมล่ะเสียวสันหลังทุกรอบที่นายถามจริงๆ"
"ไม่หรอกมั้ง นายก็ออกจากบ้านพักบ่อย แถมอยู่รอดมาได้ตั้งสองปี ยังหานายกับฉันไม่เจอเลย"
"นั่นก็จริง"
พวกเราทั้งสองได้ออกจากบ้านดยุคโอทิสมาสองปี ด้วยเหตุผลของตัวเอง ของผมก็เป็นพวกไม่อยากพบเจอพวกขุนนาง ส่วนวิลเฮล์มตามมาเป็นเพื่อนเพราะบอกว่าดูน่าสนุกดี ถึงเขาจะพูดแบบนั้น แต่ผมก็พอสัมผัสได้ถึงความห่วงใยของเพื่อนรัก
"เฮ้อ ยอมแพ้แล้ว จะออกไปกับนายก็ได้"ผมถอนหายใจยกมือยอมแพ้กับสายตาวิลเฮล์มที่อ้อนวอนทำเอาผมใจอ่อน
"เย่ ในที่สุดก็จะได้ออกไปทำภารกิจพร้อมกับนายสักที"วิลเฮล์มชูมือส่งเสียงดีใจราวกับได้รับชัยชนะจากการพยายามจะลากเจ้าเพื่อนผอมแห้งแรงน้อยออกจากบ้านได้สำเร็จ
เมื่อตกลงว่าจะออกไปทำภารกิจด้วยกัน ผมจึงลุกจากขอบหน้าต่างแล้วไปจัดการกับสภาพเพิ่งตื่นของตัวเอง ส่วนวิลเฮล์มไปรออยู่ห้องนั่งเล่นชั้นล่าง
ผมที่เตรียมตัวเสร็จแล้วกำลังจะออกจากห้อง ได้ยินเสียงเอะอะเหมือนคนทะเลาะกันหลายคนตรงห้องนั่งเล่นชั้นล่าง เลยตัดสินใจลงไปดู
"เกิดอะไร..."ผมพูดไม่ทันจบดี วิลเฮล์มก็ตะโกนสวนกลับมา"หนีไปซะริเชเนีย!!"
ผมยืนงงกับสถานการณ์ตรงจนทำอะไรไม่ถูก วิลเฮล์มวิ่งกลับมาหาผมที่ไม่ขยับไปไหนเอาตัวเองบังข้างหน้าไว้ ถือดาบตั้งท่าพร้อมรับมือกับผู้บุกรุกชายรูปร่างสูงหุ่นกำยำใหญ่สี่คนยืนล้อมปิดกั้นประตูทางออกไว้
เขารู้ว่าผมไม่มีอาวุธในมือเลยตอนนี้ ดาบและมีดสั้นผมวางไว้อีกที่หนึ่ง
"พวกนายเป็นใครกัน มีธุระอะไรกันแน่"วิลเฮล์มตะโกนถาม พลางหยั่งเชิงท่าทีผู้บุกรุกบ้านตัวเอง
"พวกเราไม่จำเป็นต้องตอบ ถ้ายอมตามมาดีๆจะไม่มีการเจ็บตัวหรอกนะคุณชาย"หนึ่งในผู้บุกรุกกล่าว ราวกับเตือนว่าอย่าได้ขัดขืน ผมรู้สึกท่าไม่ดีแล้ว ทั้งสี่คนเป็นคนแปลกหน้าผมไม่เคยเห็นหน้าพวกเขาตลอดที่อยู่หมู่บ้านนี้
"ทำอย่างกับพวกฉันจะยอมว่าง่ายล่ะนะ"
วิลเฮล์มพูดจบล้วงเอาระเบิดควันมือจากกระเป๋าสะพายของ นำปาลงพื้นใจกลางกลุ่ม แล้วจับมือริเชเนียวิ่งหนีพรางตัวไปกับควันหมอกที่กำลังฟุ้งกระจายจนไม่อาจมองเห็นอะไรได้
"บ้าจริง มองไม่เห็นเลย"
"พวกเขาหนีไปทางไหนแล้ว"
"รีบตามพวกเขาไปเดี๋ยวนี้"
เด็กหนุ่มทั้งสองวิ่งหนีออกมาจากบ้านได้สำเร็จ แต่ทว่า….มีกลุ่มคนล้อมรอบหน้าบ้านราวกับจะลอบจับคนร้ายกลางวันแสกๆ ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังวางแผนจะหนีฝ่าวงล้อมนี้ไปยังไงอยู่นั้น คนที่ไล่ตามตาหลังพวกเขาก็ปิดทางประตูบ้านเรียบร้อย กลุ่มคนที่ล้อมจับพวกเขาทั้งสองได้เปิดทางให้คนผู้หนึ่งเดินนำออกมา เป็นคนที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
ดยุคไมน์ฮาร์ท โอทิส ชายหนุ่มร่างสูงผู้อายุเลขสี่นำหน้าแต่ใบหน้าละอ่อนดั่งวัยรุ่นเป็นทั้งพ่อของวิลเฮล์มและผู้ปกครองของริเชเนีย
ทะ….ทำไม
"ท่านลุงไมน์ฮาร์ท/ท่านพ่อ ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ!!"ทั้งสองตะโกนพร้อมกันอย่างตกใจโดยไม่ได้นัดหมาย
"หึ มันจำเป็นต้องถามเหรอ ก็มาจับเจ้าพวกเด็กหนีออกจากบ้านน่ะสิ!!" ไมน์ฮาร์ทพูดด้วยน้ำเสียงโกรธจัดแต่ยังคงใบหน้ายิ้มแย้ม
ผู้คนที่ได้เห็นภาพนี้เริ่มกลัวจนตัวสั่นสะท้าน ปกติดยุคโอทิสคนนี้ไม่ค่อยได้โกรธใครง่าย ท่านจะเป็นคนนิสัยดีรักครอบครัวเพื่อนฝูง แต่ถ้าโกรธขึ้นมาไม่มีใครสามารถห้ามท่านได้สักคน ยกเว้นท่านดัชเชสกับธิดาของท่านเท่านั้นแหละ
"ไม่เอานะ ท่านพ่อ พวกเรายังสนุกไม่พอเลยไม่กลับบ้านไม่ได้เหรอ"วิลเฮล์มเอ่ยปากประท้วงอย่างไม่เกรงกลัวรังสีอำมหิตของพ่อตัวเอง
"ผะ….ผมอยู่ที่นี่ก็ดีอยู่แล้วนะครับ"ริเชเนียเองก็ไม่ค่อยอยากกลับบ้านสักเท่าไหร่
"โฮ่ แค่หนีออกจากบ้านมาสองปี ปีกกล้าขาแข็งมากเลยนะ เจ้าพวกเด็กตัวแสบ"
"ว้าว ท่านพ่อชมฉันด้วยล่ะริเช่"
"ผมว่าท่านว่าพวกเรามากกว่านะ"
เมื่อคำพูดของไมน์ฮาร์ทนั่นโดนลูกชายเมินความแดกดันทำเอามือที่ถือไม้เท้าเวทมนต์กำแน่นจนจะบีบให้แหลกคามือด้วยวาจายั่วยุของลูกตัวเอง
สองพ่อลูกโอทิสมักจะปะทะฝีปากกันแบบนี้ประจำ ส่วนริเชเนียจะอยู่กลางวงศึกของทั้งสองทุกครั้ง
"เวลาแทบจะไม่มีแล้ว ฉะนั้นการเล่นไล่จับซ่อนหานี้ต้องจบได้แล้วล่ะ"
สิ้นเสียงของไมน์ฮาร์ทแล้วเอายกไม้เท้าเวทมนต์กระทุ้งพื้นทีหนึ่ง จนเกิดวงเวทหลายวงใต้เท้าของริเชเนียและวิลเฮล์ม
"นะ…นี่มันเวทหลับไหล ตาแก่เจ้าเล่ห์!!!"
"ประมาทไปเหรอเนี่ย"
เด็กหนุ่มทั้งสองไม่อาจทนเวทหลับไหลได้จนล้มตัวลงนอนกับพื้น วงเวทบนพื้นหายไปหลังจากเป้าหมายหมดสติไปแล้ว
ดยุคไมน์ฮาร์ทเดินเข้าไปใกล้เด็กทั้งสองนั่งแล้วนั่งคุกเข่าลงกับพื้น ยื่นมือไปลูบหัวทั้งคู่อย่างอ่อนโยน
"มันถึงเวลาแล้วล่ะ ข้าตามใจพวกเจ้าได้แค่นี้เท่านั้น"
"ข้าขอโทษที่ไม่สามารถทำอะไรเพื่อช่วยเจ้าได้เลยจริงๆ ริเชเนีย เท็ดริก"
"มันเป็นชะตาของเจ้าที่ต้องผ่านมันไป"
หลังจากนั้นดยุคไมน์ฮาร์ทได้สั่งให้คนอุ้มเด็กทั้งสองที่สลบอยู่พาขึ้นเกวียนเพื่อกลับไปยังคฤหาสห์ตระกูลโอทิส