webnovel

Chapter 15 เเพนโดร่า

ไอ้คนไร้ประโยชน์...ที่มัวแต่ทำงานจนลืมเลือนสิ่งสำคัญไป ทอดทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้ข้างหลังเห็นคนแปลกหน้าดีกว่าครอบครัวของตนเอง จนท้ายที่สุดแล้วก็ต้องมานั่งเสียใจที่สูญเสียสิ่งที่ตนเองรักมากที่สุดไป ฉันจะไม่มีวันให้อภัยคนแบบนั้นเด็ดขาด....!!!

ณ ที่โบสถ์ ฟิชั่นที่ลอยกระเด็นตัวไปติดกับรั้วเหล็ก แรงกระแทกนั้นทำเอารั้วนั้นเบี้ยวไปตามกัน และก็ยังมีบางอันแทบที่จะหักอยู่ด้วย

"ดูท่าแกจะไม่ได้พูดโอ้อวดอย่างเดียวสินะ"

"ก็บอกแล้วไงว่ามันไม่จำเป็นต่างหาก เพราะว่าฉันเชื่อใจหมอนั่นไง" เฮนรี่แสดงสีหน้าที่มั่นใจออกมา

ในระหว่างนั้นเองก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นทางที่จินแยกตัวออกไป เล่นทำเอาเฮนรี่นั้นเป็นห่วงเล็กน้อย...

"เป็นห่วงเพื่อนของแกหรือไง ป่านนี้ถูกไอ้สวะนั่นเก็บไปแล้วละมั้ง?"

...นอกจากไอ้หมอนี่ยังมีอยู่อีกคน แต่ฉันไม่เห็นเหมือนกันว่าตอนนี้มันอยู่ตรงไหนแล้ว กลิ่นเองก็เจือจางแทบแยกไม่ออก

"เป็นอะไรไม่เข้ามาหรือไง? หรือว่าจะหนีไปสมทบกับเพื่อนของแกดีล่ะ?"

"มันไม่ใช่เพื่อนของฉัน" ฟิชั่นพุ่งกระโจนเข้ามาเอามือตะปบอย่างรวดเร็ว แต่เฮนรี่ก็ใช้วิธีหลบอย่างเดิม "มันก็แค่ไอ้สวะที่ฉันจะหาสักกี่คนก็ได้ถ้าเกิดฉันชนะ"

หลังจากที่เฮนรี่หลบการโจมตีของฟิชั่นแล้วก็ถามกลับไปว่า "ทั้งชีวิตนี้แกเคยเชื่อใจใครนอกจากตัวเอง บ้างไหม?"

"เชื่อใจ? มันไม่จำเป็น เพราะว่าฉันเก่งอย่างไงล่ะ ไม่ว่าใครต่างก็อิจฉาในความสามารถ ทุกคนที่เข้ามาหาต่างก็หวังพึ่งฉันในอนาคตกันทั้งนั้น ใครๆต่างก็พูดว่าตัวฉันนี่แหละอัจฉริยะ"

"ช่างเป็นชายที่น่าสงสารเสียจริง" เฮนรี่พูดด้วยน้ำเสียงที่น่าสมเพช

"คนอย่างแกไม่ต้องมาสงสารคนอย่างฉัน!!" แล้วเขาก็พุ่งโจมตีเฮรี่ทันที

เฮรนี่เลยใช้พลังของตัวเองในการดันออกจากระยะการโจมตีนั้น "ไม่มีการพัฒนาอะไรเลยจริงๆ ก็รู้ไม่ใช่หรอ? โจมตีแบบเดิมๆมันไม่ได้กินฉันหรอก" แต่ในขณะนั้นเองฟิชั่นก็ฟาดหางที่คล้ายๆกับหางจระเข้มา มันโดนเข้าที่กลางตัวของเฮนรี่เต็มจนกระเด็นไปชนกับรั้วโบสถ์

"แกเองก็อย่าได้ใจนัก ฉันไม่ได้บอกสักหน่อยว่าตัวฉันจะใช้ความสามารถของสัตว์ได้อย่างเดียว"

"อย่างน้อยก็ดีขึ้นมานิดหน่อย"

...ประมาทไปหน่อยแฮะ ถ้าที่พูดมานั้นเป็นความจริงแสดงว่ามันมีอย่างอื่นที่ถูกซ่อนไว้อยู่สินะ เราเห็นไปแล้วทั้งหมด สามอย่าง เหยี่ยว หมาป่า และก็จระเข้ แต่ว่าพลังมันน่าจะมีข้อจำกัดอยู่เหมือนกันสิ

และในขณะนั้นฟิชั่นก็พุ่งเข้าโจมตีด้วยการฟาดหางจระเข้เป็นวงกว้าง แต่เฮนรี่ก็หลบได้โดยการดันตัวเองขึ้นข้างบน เมื่อเห็นแบบนั้นฟิชั่นเลยข่วนด้วยกรงเล็บหมาป่า...แต่ตัวเฮนรีไม่ได้ถอยหลบกลับกันเขาดันตัวเองเข้าหาและเอามือแตะที่ตัวของฟิชั่น แรงอัดมหาศาลผลักทั้งสองออกจากกันไปคนละทาง

...เปรียบเทียบกับของฉันถึงแม้ว่าพลังทำลายสูงแต่มันต้องแลกกับระยะที่ใกล้มากยิ่งใกล้เท่าไหร่ยิ่งแรงเท่านั้น เขาจะรู้เมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว

"เข้าใจแล้ว...พลังของแกมันมีข้อด้อยอยู่ที่ระยะสินะ ทุกครั้งที่แกจะพยายามไม่โจมตีเข้ามาแต่มักจะสวนกลับเสมอ"

เฮนรี่ปรบมือแล้วพูดต่ออีกว่า"ถูกต้องฉลาดเหมือนกันนิ...ฉันเองก็อยากรางวัลเป็นกระดูกอยู่เหมือนกัน แต่ไม่มีนี่สิ"

"จะปากดีก็ตอนนี้เท่านั้นแหละ" พอสิ้นสุดเสียงแล้วฟิชั่นก็ยกก้อนหินขนาดใหญ่ขึ้นแล้วปามาใส่ที่เฮนรี่ แต่มันก็แตกเป็นเสี่ยงๆทันทีเมื่อเข้าใกล้เขา ดูเหมือนว่าจะถูกทำลายด้วยสิ่งที่คมมาก

และหลังจากที่ทำลายหินนั่นไปแล้วฟิชั่นก็หายไปต่อหน้าต่อตาของเขา

เฮนรี่พยายามมองดูรอบเห็นฟิชั่นในร่างมนุษย์หมาป่ากำลังลอยอยู่บนอากาศด้วยปีกเหยี่ยวขนาดใหญ่งอกขึ้นที่หลัง และหลังจากนั้นเขาก็ทำการบินโฉบลงกับการโจมตีพร้อมกรงเล็บที่แหลมคมของหมาป่า

เฮนรี่รู้ได้ทันทีเลยว่าถ้าเกิดโดนการโจมตีนั้น ร่างกายจะถูกฉีกขาดด้วยความเร็วกับความคมของกรงเล็บนั่น มีทางเลือกเดียวคือต้องหลบอย่างเดียว ถ้าโดนครั้งเดียวเท่ากับตาย เมื่อคิดได้แล้วเขาจึงใช้พลังในการหลบมันทำให้เขารอดมา แต่กระนั้นฟิชั่นก็ได้ทำการโฉบลงมาอีกรอบครั้งนี้โดนเข้าที่แขนของเฮนรี่เต็มๆจนขาดไม่มีชิ้นดี

เลือดไหลทะลักออกมาไม่หยุดราวกับท่อน้ำแตก เสียงกรีดร้องอันทรมานของเฮนรี่นั้นดังไปทั่วทั้งบริเวณ เขาลงไปนอนดิ้นกับพื้นอย่างทุรนทุราย

"อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!!!!!"

ฟิชั่นที่เห็นแบบนั้นเลยบินโฉบลงมาอีกครั้งเพื่อหวังจะปิดชีพเฮนรี่ทันที แต่ในขณะที่กำลังจะเผด็จศึกนั้นก็มีสิ่งกลมๆคล้ายระเบิดอยู่ตรงข้างหน้าแล้วมันก็ระเบิดขึ้น เกิดเสียงดังจนระบบประสาทของฟิชั่นนั้นชาไปชั่วขณะหนึ่งแล้วตกลงมายังบนพื้นก่อนที่จะถึงเฮนรี่ เขาดิ้นทุรนทุรายไม่ต่างกัน ถึงแม้ว่าจะพยายามลุกขึ้นอย่างใดร่ากายนั้นมันก็อ่อนแรงจนไม่สามารถขยับได้อย่างใจนึก

....แม่งเอ้ย! ลืมไปว่าพวกมันยังมีอีกคนหนึ่ง ฉันก็มัวแต่สนใจไอ้หมอนี่ ที่มันพูดจากวนโอ๊ยแบบนั้นเป็นการยั่วโมโหดเราให้ไม่ไปสนใจยายนั่น แล้วที่มันร้องทุรนทุรายแบบนั้นก็แปลว่ามันจงใจให้เราเข้ามาใกล้ระยะของระเบิดเสียงที่สุดเท่านี่จะทำได้สินะ พลาดซะแล้ว

"เป็นอะไรไปกลัวจนลุกไม่ขึ้นเลยหรือไง?" เสียงของเฮนรี่กำลังเดินมาหาเขา "ถูกของนายพลังของฉันมันมีจุดอ่อนที่ระยะก็จริง แถมทั้งยังไม่สามารถเจาะเข้าผิวหนังของนายได้อีกด้วย" แล้วเฮนรี่ก็ทำมือข้างที่เหลือเป็นเหมือนปืน "แต่ถ้ารวบรวมเป็นลูกเล็กๆเหมือนกระสุนปืนละก็...ทำได้แน่" และเฮนรี่ก็ทำการปล่อยลูกกระสุนลมเข้าโจมตีฟิชั่นที่กำลังจะคลานหนีอย่างทุลักทุเล

ลูกกระสุนลมนั้นพุ่งเข้าร่ากายของฟิชั่นนับหลายสิบนัด จนฟิชั่นนั้นกระอักเลือดออกมานอนล้มลงไปท่ามกลางกองเลือดของตนเอง....

"ไม่มีแจ้งเตือน แสดงว่ายังไม่ตายสินะ" หลังจากนั้นเฮนรี่ก็ตะโกนเรียกอลิซ "อลิซอยู่ไหม?"

อลิซโผล่มาข้างๆของเฮนรี่แล้วทำการพยุงร่างกายของเขาที่กำลังจะล้มทันที "ว่าแต่เพื่อนของนาย ตัวนายเองก็บ้าบิ่นไม่แพ้กัน"

เฮนรี่ก็ค่อยพุดกับเธอเบาๆ"ผมยังไหว กุญแจมือที่คุณเอามาจากจินไปล่ามหมอนั่นไว้เร็ว"

"รับทราบ" แล้วอลิซก็รีบวิ่งไปหาร่างของฟิชั่นพร้อมกับกุญแจมือ "แต่ว่าไอ้กุญแจแค่นี้มันจะไปมีปัญญาล่ามไอ้หมอนี้ได้หรอ?"

"ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวผมมีวิธีอยู่....แค่ตอนนี้จำกัดการเคลื่อนไหวของมัน...ก่อน" ตอนนี่เฮนรี่ทำท่าเหมือนกำลังจะเป้นลมได้ตลอดเลยพยายามเร่งให้อลิซรีบทำการล่ามฟิชั่นไว้

"รู้แล้วๆ กำลังทำอยู่นี่"

ในตอนที่ทั้งสองกำลังซะล่าใจนั้นเองฟิชั่นก็ได้สติลุกขึ้นมาทั้งๆที่อยู่ในร่างมนุษย์หมาป่า แล้วเขาก็เอามือขนาดใหญ่นั้นจับไปที่หัวของอลิซแล้วโยนทิ้งราวกับถุงขยะจนไปกระแทกกับรั้วโบสถ์ และตัวเขาเองก็กลับไปร่างมนุษย์ในสภาพที่โป๊เปลือย

ร่างกายของฟิชั่นนั้นฟื้นตัวเร็วจนน่าตกใจ ทั้งบาดแผลก็ค่อยสมานตัว รอยฟกชี่ถูกกระสุนลมเจาะไปก็แทบไม่มี

"นี่แก...ยังใช่มนุษย์หรือป่าวนิ?" เฮนรี่ถามพร้อมกับเอามือกุมแขนข้างที่ขาดไป

"อ้อ! มันรู้สึกดีอย่างนี้นี่เอง อย่างที่หมอนั่นบอกเลย ถ้าเกิดเปิดมันออกจะได้รับพลังที่ไร้ขีดจำกัด" ฟิชั่นบิดตัวไปมาเล็กน้อยเพื่อยืดเส้นยืดสาย

"รีบหนีเร็ว!!!" เสียงตะโกนของเฮนรี่เตือนให้อลิซล่องหนหนีจากฟิชั่นโดยเร็วที่สุด

"อือ…." เธอพยักหน้าตอบแล้วหายตัวไป

"หนีไปก็เท่านั้น ต่อให้พวกแกจะรุมฉันอย่างก็ไม่มีทางชนะฉันคนนี้ได้!" แล้วฟิชั่นก็กลายร่างอีกรอบกลายเป็นหมาป่าที่กรงเล็บยาวแหลมคม ขนสีขาวปกคุมทั่วร่างกาย ดวงตาสีแดงก่ำ และเขี้ยวขนาดใหญ่งอกออกจากปาก

ก๊าซซซซซซซซซซซซซ!!!!!!!! เสียงคำรามราวกับสัตว์อสูรที่กระหายเลือด

"นึกว่าอะไรซะอีก ก็แค่เปลี่ยนสีเองไม่ใช่หรือไง? เหมือนพวกที่ย้อมสีแล้วเอาของมาขายใหม่ไม่มีผิด" เฮนรี่พูดจาดูถูกแล้วก็ยิงกระสุนลมไปที่ฟิชั่นทันที

ฟิชั่นนั้นใช้กรงเล็บที่ยาวนั้นปัดมันกระเด็นออกจนหมดแล้วพุ่งตรงเข้าหาเฮนรี่ด้วยความรวดเร็ว ในขณะที่วิ่งนั้นเองกรงเล็บของเขานั้นก็ได้ไปฟาดฟันผ่ารั้วของโบสถ์จนเละไม่มีชิ้นดี

ก๊าซซซซซซซซซซซซซ!!!!!!!!!

เฮนรี่ที่เริ่มเห็นท่าไม่ดีรีบใช้พลังดันตัวเองแต่มันไม่เสถียรเนื่องจากที่เขาได้เสียแขนไปข้างหนึ่ง ท่ามกลางที่ลอยบนอากาศนั้นใช้แขนพลักออกข้างจนข้ามรั้วของโบสถ์ได้ หลังจากนั้นแล้วเข้าไปข้างในได้สำเร็จ แต่ก็ไม่วายฟิชั่นนั้นสามารถพังกำแพงที่แข็งๆของปูนได้อย่างง่ายดาย เฮนรี่ที่เห็นแบบนั้นถึงกับทำอะไรไม่ถูกได้แต่วิ่งเข้าไปในตัวอาคารของโบสถ์ ตอนนี้นั้นฟิชั่นได้กลายเป็นอสูรเต็มตัวแล้ว...

....ขืนเป็นแบบนี้ไม่ดีแน่ๆ ทั้งพลังการทำลายไหนอีกทั้งจะความรวดเร็วนั่นอีก กระสุนลมของฉันเจาะไม่เข้าด้วย ถ้าจะรอให้แขนขวาฟื้นฟูน่าจะใช้เวลาอีกสักพัก....

แล้วในตอนนั้นเองอลิซก็โผล่มาข้างหลังของเฮนรี่ "นายไหวไหม?"

"น่าจะ...อย่างน้อยตอนนี้เลือดก็หยุดไหลแล้ว"

"นั่นมันตัวอะไรนะ? ไม่เหมือนสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลกนี้เลย"

"ทางนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ใจตอนนี้คือหลักการของพลังเขาและสิ่งที่ต้องแลก" ทันใดนั้นเสียงที่ดังจากข้างนอกของโบสถ์แล้วตามมาด้วยเสียงกำแพงที่พังลง เป็นฝีมือของฟิชั่นในร่างหมาป่าทำลายกำแพงโบสถ์ลงแทบไม่มีชิ้นดี

"รีบไปช่วยรวบรวมสิ่งนั้นให้ที ตอนนี้มีแค่สิ่งนั้นเท่านั้นพลังของฉันไม่สามารถทำอันตรายกับผิวหนังมันได้แล้ว" เฮนรี่ไล่อลิซให้ออกไปจากตัวของเขา

อลิซก็พยักหน้าและหายตัวไปอีกรอบ จนเหลือเพียงแค่เขาตัวคนเดียวที่ต้องเผชิญหน้ากับอสูรหมาป่าร่างยักษ์

....ถ้าที่ฉันคาดการณ์ไว้ หลักการของพลังในการแปลงร่างนั้นมีผลอยู่ถาวรจนกว่าผู้ใช้ไม่สามารถต่อสู้ได้ และสิ่งที่ต้องแลกคือสติสัมปชัญญะ ยิ่งสัตว์ที่ตัวเองแปลงร่างไปนั้นมีความแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งใช้ค่าสติมาก วัดได้จากเขาสามารถพูดโต้ตอบในร่างหมาป่าที่มีปีกและหางจระเข้ได้ แสดงว่า....

และฟิชั่นก็วิ่งเข้าหาเฮนรี่อย่างรวดเร็วพร้อมด้วยโจมตีไปยังบริเวณโดยรอบจนเก้าอี้และตู้ที่สารภาพบาปในโบสถ์นั้นพังลงเป็นทาง อีกทั้งบนพื้นนั้นก็มีรอยกรงเล็บเต็มไปด้วย ขณะที่เขาวิ่งมาวิ่งมา

....ตอนนี้เขาเป็นได้แค่สัตว์ร้ายที่ไม่มีสติสัมปชัญญะ ที่ทำตามสัญชาตญาณเท่านั้น หรือก็คือโง่ แต่ก็จะประมาทไม่ได้เพราะสัตว์ร้ายนั้นมีจุดประสงค์ที่ชัดเจนคือฆ่าศัตรูให้หมด

เฮนรี่ใช้ระหว่างที่ฟิชั่นนั้นโจมตีมันจะมีเศษเก้าอี้และเครื่องประดับลอยเต็มไปหมด เขาใช้มันในการพลางสายตา และเข้าที่ข้างหลังของฟิชั่นใช้มือแตะแล้วปล่อยพลังเต็มที่ แต่กระนั้นมันก็แทบไม่สะเทือนร่ากายอันใหญ่โตนั่นเลย และเมื่อเห็นเป็นแบบนั้นแล้วเขาก็รีบพุ่งตัวเองถอยห่างจากฟิชั่นโดยเร็วที่สุด

"กะแล้วเชียวว่าไม่ได้ผล แต่อย่างน้อยก็ถ่วงเวลาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วกัน"

เฮนรี่รีบตั้งตัวรอรับการโจมตีใหม่อีกรอบ...

ฟิชั่นในร่างนี้กระโดดขึ้นไต่ผนังของโบสถ์และก็กระโดดเปลี่ยนตำแหน่งไปมา แล้วก็พุ่งลงมาโจมตีที่เฮนรี่ด้วยความรวดเร็ว แต่ครั้งนี้พลาดไปเพราะว่าเขาหลบได้ เลยกระโดดขึ้นไปใหม่อีกหลายๆรอบและทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เฮนรี่นั้นจำเป็นต้องใช้สมาธิและสายตาต้องมองดูตลอดว่าการโจมตีของฟิชั่นจะมาจากทางไหน เมื่อแน่ใจแล้วเขาก็จะใช้พลังในการหลบ เพราะว่าถ้าพลาดแม้เพียงเสี้ยววินาทีก็อาจทำให้ตนเองถึงฆาตได้เลย

เมื่อเห็นว่าโจมตีไม่โดนสักที ฟิชั่นในร่างสัตว์อสูรเลยพยายามโดดไปมาเพื่อกดดันเฮนรี่อย่างอ้อมๆ โดยที่จะไม่พยายามเข้ามาโจมตีแต่จะกระโดดพุ่งไปจุดโน้นจุดนี้ ไปเรื่อยๆ รอยกรงเล็บข่วนบนเพดานของโบสถ์นับร้อยรอย รวมทั้งที่พื้นก็เต็มไปด้วยซากของเก้าอี้และก็โต๊ะที่กระจัดกระจายเต็มไปหมด

แล้วในท้ายที่สุดเฮนรี่โดนไล่ต้อนไปเรื่อย หนีไปเรื่อยจนไปโดนเข้ากับเศษขาเก้าอี้ไม้ที่แหลม มันเสียบเข้าที่กลางงท้องของเขาจนทะลุมาข้างหน้า ดูเหมือนว่านี่จะเป็นแผนของฟิชั่นที่พยายามโดดไปมาเพื่อไล่ต้อนให้ไปโดนจุดนั้น ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่สัตว์อสูรที่ไม่มีสติปัญญาก็ตาม แต่สัญชาตญาณนั้นคือของจริง และเมื่อเห็นว่าเป็นไปตามแผนเขาเลยพุ่งกระโจนเข้ามาด้วยความรวดเร็วเพื่อที่จะเผด็จศึก

เพียงชั่ววินาทีนั้นเองก็มีสิ่งที่แหลมพุ่งเข้ามาปักที่กลางหลังของฟิชั่นนับหลายสิบ เหล็กสีดำแหลมบนยอดนั่นคือรั้วที่ถูกทำลายด้วยตัวเขาเอง จนร่างกายของฟิชั่นที่กำลังจะพุ่งใส่เฮนรี่นั้นถูกปักจนลงไปนอนราบบนพื้นจนแน่นิ่งไป และมันทำให้ตัวของฟิชั่นนั้นกลับคืนร่างเป็นมนุษย์ดั่งเดิม

หลังจากนั้นอลิซก็วิ่งเข้ามาหาเฮนรี่แล้วพยุงไปนั่งพักอยู่หน้าประตูของโบสถ์ ส่วนร่างกายของฟิชั่นนั้นถูกปักเต็มไปด้วยเหล็กรั้วนับสิบที่หลังนอนสลบอยู่ใกล้ๆกับกางเขนขนาดใหญ่ภายในโบสถ์

เฮนรี่กล่าวขอบคุณที่อลิซเข้ามาช่วยไว้ได้ทันเวลา "ถ้าไม่ได้คุณช่วยผมแย่เลย"

"ตอนแรกก็แอบตกใจเหมือนกันที่จู่ๆนายให้ออกไปรวบรวมรั้วเหล็กที่พัง แต่ฉันก็ไม่คิดเลยว่านายจะทำแบบนั้นได้ด้วย"

"ถึงแม้...ระยะพลังของผมจะสั้นก็จริง อย่างน้อยมันก็สามารถควบคุมวัตถุในระยะได้อยู่โดยใช้ลมเป็นสื่อกลาง แต่มันก็มีข้อเสียอยู่ที่ว่าในระหว่างตอนที่ใช้นั้นจะไม่สามารถใช้พลังอย่างอื่นได้ นี่เป็นไพ่ตายสุดท้ายของผมแล้ว ถ้าเกิดจัดการไม่ได้ผมเองก็หมดปัญญาแล้ว"

"เรื่องนั้นช่างก่อนเถอะ บาดแผลของนาย มันไม่เป็นอะไรแน่หรอ?" อลิวเป็นห่วงบาดแผลที่ท้องของเฮนรี่

"พวกเรารีบไปกันเถอะ ตามไปสมทบกับจินเร็ว!"

อลิซที่เห็นว่าอาการของเฮนรี่ไม่ค่อยดีเลยพยายามให้ตัวเขาพักก่อน "พักสักเดี๋ยวก่อนเถอะรอนายฟื้นตัวแล้วพวกเราค่อยไป"

ในตอนนั้นเฮนรี่ถูกพยุงออกจากโบสถ์อย่างช้าๆสติก็ค่อยเริ่มเลือนราง ...เหมือนลืมอะไรสักอย่างเลย.....ช่างเถอะอย่างน้อย...ขอแค่...

เมื่อร่างกายของเขาเริ่มที่จะฟื้นตัวและสติก็ฟื้นขึ้นมากะทันหัน แล้วตัวเขาก็ได้พลาดบางอย่างไป ตะโกนออกไปอย่างสุดเสียง

"มันยังไม่ตาย!!!"

ใช่!...มันไม่มีการแจ้งเตือนจากนาฬิกาที่ข้อมือข้างซ้ายของเขาเพราะตอนนั้นเองเขามัวแต่หลงในชัยชนะอยู่เลยไม่ทันได้รู้ตัว และในตอนนั้นเองจู่ๆก็มีสิ่งที่คล้ายกับของแข็งขนาดใหญ่เท่าหน้าถูกปามาด้วยความเร็ว เข้ากระทบหน้าของอลิซอย่างแรงจนหัวของเธอแทบหลุด มันทำให้ตัวของเธอนั้นก็หมดสติไปทันที....

เฮนรี่ที่ถูกพยุงนั้นก็ล้มลงเนื่องจากตอนนี้เขานั้นแทบไม่มีแรงเหลือแล้ว เขาพยายามหันตัวกลับไปมองเห็นร่ากายของฟิชั่นที่เปลือยเปล่าเต็มไปด้วยบาดแผล แต่เขาแปลงกายแค่เฉพาะที่ส่วนแขนเพื่อใช้พลังของมนุษย์หมาป่าปาหินมาที่อลิซ

"ตายยากตายเย็นจริงนะ" เฮนรี่พูดทั้งที่ตนเองก็สาหัสบางตาย

แล้วหลังจากนั้นร่างกายของฟิชั่นก็ทรุดลงกับพื้นในท่าคลานเข่า เขากระอักเลือดออกมาและค่อยๆเอื้อมมือไปข้างหลังแล้วดึงรั้วเหล็กนั้นออกที่ละอันอย่างช้าๆ ในขณะที่เขาดึงออกมนั้นก็มักจะมีเสียงร้องอันแสนเจ็บปวดของตัวเขาเองด้วย

อ๊ากกกก!!!!.... อ๊ากกกกก!!!!... อ๊ากกกกก!!!!..... เสียงร้องอันเจ็บปวดนั้นดังก้องไปทั่วทั้งโบสถ์ แล้วก็หยุดลงเมื่อทันทีที่ดึงรั้วเหล็กอันสุดท้ายออก

ฟิชั่นค่อยลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล ร่างกายที่บอบช้ำ เต็มไปด้วยบาดแผล อีกทั้งตอนนี้แววตาที่ราวกับปลาตาย หลังจากนั้นร่างกายของเขาก็เปลี่ยนแปลงอีกรอบแต่คราวนี้ต่างจากเดิม ในขณะที่ตอนเขากลายร่างเขาจะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดไปด้วย

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!..........

ฟิชั่นที่ร้องด้วยความเจ็บปวดนั้นก็ค่อยๆกลายร่างเป็นสัตว์อสูรขนาดใหญ่ร่างกายกำยำท่อนบนถึงกลางอกเป็นสิงโต กลางลำตัวเป็นแพะ ส่วนหางนั้นคล้ายคลึงกับหางของงูมีเกล็ดมีเขียวมรกต ในช่วงนั้นเองเฮนรี่คิดนึกย้อนไปในตอนสมัยเด็กๆ หนังสือที่ตัวเขาเองเคยอ่านเกี่ยวกับสัตว์อสูรมายาของตำนานกรีก "คิเมร่า"

"เอาจริงดิ?" เสียงพูดของเฮนรี่ตอนนี้เต็มได้ด้วยความสิ้นหวัง และตัวเขาเองก็ค่อยหมดสติไป..

ในที่ที่มืดมิดกว่าเดิม ดำดึ่งลงไป...ดำดึ่งลงไปเรื่อย มี่มีแสงสว่างใดๆที่จะส่องถึง มีเพียงแค่ความมืดเท่านั้นที่อยู่รอบๆ

....นี่เราตายแล้วงั้นหรอ? ก็ช่วยไม่ได้ละนะ ฉันเองก็มีขีดจำกัดอยู่เหมือนกันแต่ก็แอบเจ็บใจอยู่เหมือนกันที่ไม่สามารถกลับไปหานายได้ ใจจริงฉันก็อยากชนะแล้วขึ้นเป็นราชาที่เปลี่ยนแปลงประเทศนี้เหมือนกัน มาได้แค่นี้สินะ

...อยากได้พลังอย่างนั้นหรอ?

...เสียงใคร?

...ฉันถามว่าอยากจะได้พลังอย่างนั้นหรอ?

...ฉันถามว่าเสียงใคร?

...ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันคือใครเพียงแค่ตอบมาว่าจะได้พลังอย่างนั้นหรอ?

...อือ!

...ถ้าอย่างนั้นก็จงเปิดหีบออกซะ!

...หีบ?

แล้วจู่ๆก็มีสิ่งที่คล้ายกับหีบขนาดใหญ่มากที่สามารถบรรจุคนได้ทั้งคนเลย

...ถ้าเปิดมันออกแล้วแกจะได้รับพลังที่ยิ่งขึ้นกว่าเดิม จะเอาหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวของแกเอง แต่ก็รีบหน่อยนะ เพราะไม่อย่างนั้นแกได้กลายเป็นอาหารของสัตว์แน่!!

下一章