สถานที่จัดสนามแข่งรถทามิย่า จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น โชนั่งอยู่บนเก้าอี้สนามกีฬาเก้าอี้สูงกับแววตาอ่อนล้าเขาจับจ้องรถในสนามแข่ง ใส่หมวกแก๊ปและที่วางแขนมีแก้วน้ำอัดลมตั้งอยู่ เด็กนับสิบที่นี่แข่งกันประกอบรถจากพลาสติกและต่อกับแบตเตอรี่หาทางทำให้รถตัวเองทำงานไวที่สุด รถในสนามแข่งความเร็วคละกันไปมาการแข่งของที่นี่ไม่ได้แข่งกันที่ความเร็วรถอย่างเดียว แต่เป็นความทนของแบตเตอร์รี่และการตกแต่งของรถ รถบางคันสามารถเร่งไฟให้แรงได้ความท้าทายของการแข่งรถทามิย่าคือความสามารถในการน็อครอบได้ กับรถคันไหนที่ออกจากสนามก่อนแพ้ รถที่ดีที่สุดของการแข่งขันไม่ใช่รถที่เร็วที่สุด รถที่ดีที่สุดของที่นี่คือรถที่อยู่ในรางและเร็วที่สุด
โชเป็นหนึ่งในตัวตนที่เป็นรถแข่งที่อยู่ในรางต่อให้เร็วที่สุด ทุกคนก็แค่อยู่ในราง โชติดอยู่กับประเทศญี่ปุ่นด้วยภาษาญี่ปุ่นและความรู้ของที่นี่ การแข่งขันที่ผู้แข่งไม่สามารถกำหนดของตัวเองได้นั้นน่าเบื่อสำหรับโช
"ปี๊ด!!" เสียงนกหวีดดังด้วยลมหายใจออกจากโช สนามนี้ได้ผู้ชนะแล้ว เสียงเชียร์ที่นี่มีทั้งคนที่สุขงอมอย่างกระปรี้กระเปร่าและเสียใจต่อความช้าของตัวเอง มีพนักงานสนามแข่งขันเข้ามาทักผู้คุยกับโชจากด้านซ้ายของเก้าอี้ว่ามีคนมาตามหาและชี้ไปที่ประตูทางเข้างาน มีชายสองคนเข้ามาที่สนามทามิย่าและรออยู่ที่หน้าประตู แสงข้างนอกสะท้อนด้านหลังชายร่างใหญ่เป็นคนเกาหลีสวมสูททั้งสองคน โชมองจากที่นั่งสูงแสงที่ย้อนเข้ามาไม่สามารถมองเห็นได้แต่เขาก็รับรู้ว่าการพูดคุยที่กำลังจะเกิดขึ้นมาจากผลลัพธ์ที่ตัวเองเคยทำ
ร้านพิซซ่าเดลิเวอรี่ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย
พิซซ่าและความหอมของแป้งที่อบจากเตา ถาดวงกลมกำลังเอาพิซซ่าวางไว้ในกล่องกระดาษ พนักงานนำเก้าอี้พลาสติกอันเล็กมาวางไว้ตรงกลางแป้งกรอบแป้นนั้น เพื่อให้ฝากระดาษกล่องแข็งแรงไม่ลงมาทับหน้าพิซซ่า กล่องพิซซ่าสามกล่องนั้นซ้อนทับกันและถูกวางในช่องส่งอาหาร ไมล์เป็นพนักงานขับรถส่งอาหารที่นี่ ราวกับเขาใช้ประโยชน์ของการขับรถได้แค่ที่นี่ ทั้งสนามแข่งหรือผู้สนับสนุนในประเทศแบบนี้ ไมล์ต้องรอไปแข่งระดับจังหวัดก่อนถึงจะเป็นตัวแทนระดับประเทศได้ กว่าจะถึงเวลานั้น กลุ่มคนมีเงินและทีมดีพร้อมกับผู้สนับสนุนเงินหนาพวกนั้นจะได้ซ้อมมากกว่านั้นเป็นกฎการสะสมชั่วโมง ไมล์ได้แค่ฝึกฝนผ่านการขับรถส่งพิซซ่า
"อย่าเป็นตัวเองหล่ะ" พนักงานครัวแจ้งคำสั่งซื้ออาหารของไมล์ให้นำไปส่ง
ไมล์รับกล่องพิซซ่าสามกล่อง มองกระดาษสถานที่ลูกค้าพร้อมนึกสงสัย "ทำไมไม่ให้พี่วิทไปส่ง" หันไปทางพี่วิดกำลังนั่งไถหน้าจอสี่เหลี่ยมโทรศัพท์มือถืออยู่ด้านข้างจุดพักพนักงาน เขาทำหน้าที่ส่งอาหารเหมือนกับไมล์
ในขณะเห็นว่าไมล์ดูยึกยักและคิดมาก "เขาเจาะจงว่าเป็นเธอ" เธอตอบก่อนไมล์จะถาม
ไมล์ได้แต่สงสัย เขาแค่เลือกจะรับรู้ ในมือถือกล่องพิซซ่าสามกล่องวางทั้งสามถาดเข้าไปในรถ ไมล์เปิดประตูเขานั่งอยู่ในกระป๋องเหล็กสีแดงเคลือบเงา ความเร็วและความเข้าใจเครื่องยนต์ของไมล์ทำให้เขามีความมั่นใจแค่เรื่องเดียวในที่นี้ การนั่งหลังพวงมาลัยหลวม ๆ และมีสิ่งที่ตัวเองรู้จักอยู่ในมือเป็นเพียงความสนุกเดียว ความเร็วของรถทำให้เวลารอบตัวของไมล์หยุดเคลื่อน เขาไม่ได้รับรู้ถึงเวลาและตัวเองเมื่ออยู่หลังพวงมาลัย
"ช้ากว่านั้นไมล์" พนักงานแคชเชียร์เตือนเรื่องความเร็วการส่งอาหารตอนรถออกไปแล้ว ล้อกำลังหมุนเครื่องยนต์เคลื่อนตัว คนบนรถคิดถึงความเร็วกว่าที่ตัวเองคิด จากระยะทางไมล์ไปถึงอีกฝั่งของเมืองได้ภายในแปดนาที ในขณะที่ปลายทางมีคนสวมสูทสองคนนั่งรอข้างหน้าทางเข้าอาคารชายเกาหลีทั้งสองรอไมล์อยู่
เมื่อถึงจุดหมายไมล์เปิดประตูรถออกจากกล่องเหล็กหยุดเคลื่อนไหว หยิบพิซซ่าทั้งสามถาดออกมาพร้อมเดินไปโรงแรมในพัทยา ชายร่างใหญ่สวมสูททั้งสองคนปรากฏตัวบอดี้การ์ดของลีดูซัมเป็นการเจอที่เขารู้ทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้น กล่องพิซซ่าตกลงที่พื้นไมล์รีบวิ่งกลับเข้าไปในรถยนต์ของตัวเอง แต่ไม่ทันเสียแล้วด้านหลังรถมีชายเกาหลีอุ้งมือรับน้ำหนักปืนชี้มาทางร่างกายผู้เป็นเจ้าของรถยนต์พร้อมพูดทักทาย
เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ประเทศไทย
เสียงออด และเสียงโซ่ และประตูลูกกรงเสียงดังไปมาที่นี่ เป็นเวลา แออัดและไม่สะอาด ข้อหาค้าเบียร์ผิดกฎหมาย จากการทำสิ่งมึนเมาขายในครัวเรือน เบนแค่อยากทำแอลกอฮอล์กินในงานปาร์ตี้ของตัวเอง เสียงก้าวเท้าของเบนเดินออกมาจากห้องขังสองเดือน เข้ามาในตอนเช้าในห้องก่อนการถูกปล่อยตัว เขานั่งลงให้สัมภาษณ์ตรงข้ามเจ้าหน้าที่ข้าราชการรัฐ
"อรุณสวัสดิ์" เสียงพนักงานผู้นั่งตรงข้ามเบน
"อรุณสวัสดิ์ครับ" เบนตอบ
"ช่วยทวนชื่อตัวเองเพื่อการบันทึกข้อความด้วยค่ะ"
"เบนจามิน วอลเตอร์ครับ"
"ขอบคุณมากคุณเบนจามิน เป้าหมายของการสนทนาครั้งนี้คือการประเมินว่า ถ้าปล่อยตัวคุณ คุณจะทำผิดกฎหมายอีกหรือไม่ การกระทำเหตุผิดกฎหมายมีครั้งนี้เป็นครั้งแรกในการค้าของผิดกฎหมาย คุณช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้มั้ยว่าเกิดขึ้นได้ยังไง"
"อย่างที่คุณบอกครับ ผมไม่เคยถูกจับ"
เจ้าหน้าที่คนที่สองจับกระดาษและตรวจสอบข้อความที่ต้องถามเพิ่มตามตัวอักษร "คุณเบนจามิน พวกเราพยายามจะหาเหตุผลว่าทำไมคุณถึงกระทำเรื่องผิดกฎหมาย หรือเหตุผลที่คุณถูกจับในครั้งนี้"
เบนนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง "พ่อผมเสีย แม่ผมแต่งงานใหม่ น้องชายบุญธรรมถูกยิงที่โรงเรียน ผมธาตุไฟแตกเข้าสู่รูปแบบพฤติกรรมทำลายตัวตน"
"ถ้าคุณถูกปล่อยตัว คุณจะกลับเข้าสู่รูปแบบพฤติกรรมเหมือนเดิมอีกมั้ย"
"ผมว่าพ่อผมตายได้ครั้งเดียว แม่ผมอาจจะแต่งงานใหม่อีกหลายรอบเพื่อทำให้ผมไม่พอใจได้"
"แล้วคุณเบนจามินคิดว่าคิดว่าจะทำอะไรหลังจะถูกปล่อยตัวไป" เจ้าหน้าที่คนที่สามสอบถาม
เบนนั่งนิ่งถูกตัดสินเขาบอกคำตอบของตัวเองไปก่อนออกจากห้อง เบนเดินตรงไปที่ห้องรับของส่วนตัว หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จของส่วนตัวที่อยู่ในซองสีน้ำตาลคือกุญแจรถเบนคิดถึงรถตัวเองที่อยู่ที่บ้าน เท้าก้าวของเบนเดินออกจากเรือนจำไปสู่ลานจอดรถ แสงข้างนอกสีฟ้าสะท้อนกับอาคารสีครีม
เบนเดินตรงเข้าไปที่คุ้นตา รถที่จอดรออยู่ตรงหน้าเขาคาดหวังว่าจะเป็นไมล์ที่ให้มารับ เบนสมหวังกับความคิดที่ไมล์มารับ แต่ความสมหวังนั้นมาพร้อมกับความตระหนก ปรากฏว่าในรถนั้นมีคนอื่น และคนอื่นนั้นคือคนเกาหลีอีกสองคนอยู่ข้างใน เบนเห็นแต่ไกลเมื่อเดินมาครึ่งอีกครึ่งก้าว เขาหยุดนิ่งและหมุนตัวกลับไปที่ทางออกลานจอดรถวิ่งหนีท่ามกลางรถและกรวดหินของลานจอด รถสีแดงของไมล์มาดักหน้าทางออกลานจอด เบนตกใจและรับรู้ถึงความกลัวในตัวเองเขาหายใจถี่และหอบจากการวิ่ง
กระจกประตูด้านข้างรถยนต์เลื่อนลง ปลายกระบอกปืนภายในรถชี้มาทางเบน อุ้งมือลีดูซัมโอบอุ้มตะกั่วกับดินปืนและนิ้วชี้อยู่ในลั่นไก
"ขึ้นมาบนรถ" ลีดูซัมพูดภาษาเกาหลี
"ผมขอโทษพี่เบน" ไมล์ที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยพูดด้วยความเสียใจ
เบนขึ้นมานั่งด้านหน้ารถ ข้างหลังคือลีดูซัมที่ถือปืน พร้อมหันไปทางศีรษะคนทั้งสอง ลีดูซัมแจ้งจุดประสงค์ของการเจอเช่นเดียวกับที่แจ้งให้พัฒน์ โช และไมล์
เบนได้แต่ถอนหายใจอยู่เบาะหน้า เขารับรู้ว่าสิ่งนี้ปฏิเสธไม่ได้ เวลาถอยหลังของสิบสี่วันเริ่มต้นขึ้น