webnovel

ตอนที่ 011

ตอนที่ 11 เขาเป็นใครกัน ?

เย่หนิงไม่กล้าตอบกลับไปสักประโยคเดียว ได้แต่ก้มหน้ารับฟังคำต่อว่าของหยางปินต่อไป

โชคดีที่ตอนนี้มือถือของหยางปินดังขึ้นพอดี จึงช่วยยืดชีวิตของเธอออกไปได้อีกหน่อย

หยางปินจ้องเขม็งไปที่เธอ “นั่งลง ! รอผู้เชี่ยวชาญจากที่ว่าการมณฑลสักครู่ พวกคุณควรให้ความสนใจกับผมหน่อยนะครับ !”

เขารับสาย “เสียวหม่า เป็นอย่างไรบ้าง ส่งให้ศาสตราจารย์เสิ่นแล้วใช่ไหม ส่งถึงมือเขาแล้วนะ โอเค ระวังตัวด้วย !”

หลังจากที่หยางปินวางสายไป เขาก็มองไปยังลูกทีมในห้อง แล้วกล่าวขึ้นมา “ผลกระทบของคดีนี้ใหญ่หลวงนัก ผู้บัญชาการต่างก็ให้ความสนใจคดีนี้เป็นพิเศษ และยังต้องให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงทางด้านจิตวิทยาอาชญากรรมศาสตราจารย์เสิ่นอี้มาร่วมมือกับพวกเราด้วย ผมหวังว่าพวกคุณทุกคนจะเตรียมรับมืออย่างเต็มที่ ใช้เวลาที่มีอยู่น้อยนิดนี้สืบคดีให้กระจ่าง ทุกคนทำได้ไหม ?”

“ได้ครับ/ค่ะ !” ตำรวจใต้บังคับบัญชาทุกคนตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน

เย่หนิงลดเสียงถามลู่เว่ยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ “นี่ ไอ้หนูลู่ ฉันถามแกหน่อย เสิ่นอี้คนนี้เขาเป็นคนแบบไหนเหรอ ?”

เมื่อได้ฟังคำเย่หนิง ลู่เว่ยก็ตกใจ “ลูกพี่ไม่รู้จักเขาเหรอครับ ?”

ต้องบอกว่าเธอไม่รู้จักเขาเลยสักนิดเดียว

“ฉันต้องรู้จักเขาด้วยเหรอ ?” เย่หนิงถามกลับ

ลู่เว่ยอยากจะบ้าตาย “ขอร้องล่ะครับพี่เย่ ลูกพี่ควรมีความรู้ในเรื่องแบบนี้บ้างนะครับ สนใจอ่านบันทึกคดีให้มากกว่านี้หน่อยสิครับ”

เย่หนิงแบะปาก “ก็ฉันมีเวลาว่างที่ไหนกันเล่า !”

ลู่เว่ยหมดซึ่งคำพูด “ลูกพี่ ลูกพี่อย่าเอาแต่ขลุกตัวอยู่กับศพทั้งวันทั้งคืนสิ ถ้าขืนลูกพี่ยังทำตัวแบบนี้ มีหวังคงขายไม่ออกกันพอดี มิน่าล่ะถึงไม่มีผู้ชายที่ไหนมาสนใจลูกพี่เลย !”

“แกว่าอะไรนะ !” ไอ้หมอนี่ทำเธอโกรธจนควันออกหู ถ้าไม่ใช่ว่าหยางปินยังอยู่ที่นี่แล้วล่ะก็ เย่หนิงคงซัดลู่เว่ยเข้าให้แล้วแน่ ๆ

ลู่เว่ยบ่นเสียงเบา “ก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วนี่ครับ !”

“ไอ้นี่หนิ ! มันเป็นเพราะพวกนั้นตาไม่ถึงต่างหากล่ะยะ !” เย่หนิงไม่พอใจอย่างมาก “ลูกพี่แกทั้งสาวทั้งสวยจนยากที่จะหาใครมาเปรียบขนาดนี้ ถ้าพวกผู้ชายพวกนั้นยังมองไม่เห็นความสวยของฉัน พวกนั้นก็คงความรู้สึกตายด้านกันไปหมดแล้วล่ะ ! อย่างฉันไม่ได้หากันได้ง่าย ๆ นะยะ ! แล้วฉันจะบอกแกไว้เลยนะ คนในอุดมคติของฉันต้องเป็นเทพบุตรสุดหล่อ บินข้ามนภาเหยียบสายรุ้งมาขอแต่งงานกับฉันเท่านั้นย่ะ !”

ลู่เว่ยหมดคำพูดแบบสุด ๆ “ลูกพี่ ลูกพี่คิดว่าตัวเองถ่ายละครอยู่หรอครับ”

“ก็ใช่น่ะสิ” เย่หนิงเชิดหน้าขึ้น พูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ไม่เคยได้ยินเหรอว่าโลกคือละครน่ะ”

เพียงพูดจบได้ไม่นาน เย่หนิงกลับต้องร้องเสียงดังออกมาด้วยความตกใจเหมือนกับเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น พร้อมสะดุ้งจนตัวโหยง

ประตูของห้องประชุมถูกผลักเข้ามา เสียวหม่าคนขับรถของทีมตำรวจได้เดินนำคนสองคนเข้ามาในห้อง สายตาของเย่หนิงจับจ้องไปที่คนสองคนนั้น เธอรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า กรีดร้องขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว เมื่อมองไปที่สองคนนั้น สีหน้าก็ผลันซีดเผือดไร้สีเลือด

ไม่สิ ถ้าจะพูดให้ถูกนั้น หนึ่งในสองคนนั้น

คะ...คน... คน ๆ นั้น... คนที่เมื่อคืนพวกเราแบกเขากลับมาไม่ใช่หรือ เป็นเขาไม่ใช่เหรอ ?

ถึงแม้เขาจะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว...การแต่งกายก็ไม่ค่อยเหมือนเดิม แต่ว่า ดวงตาคู่นั้น... ลักษณะท่าทางแบบนั้น...ใบหน้าที่หล่อเหลานั่น...ถ้าไม่ใช่เขา แล้วจะเป็นใครไปได้ !

คราวนี้เย่หนิงรู้สึกสับสนมึนงงอย่างถึงที่สุด ไม่รู้ว่าตกลงแล้วเธอฝันไปหรือว่าเธอเห็นผีกันแน่ ?

หยางปินเริ่มจะโกรธขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อกี้เขาก็เพิ่งจะพูดไป เย่หนิงเอาอีกแล้วหรือ ? วันนี้เธอเสียสติไปแล้วหรือไง !

หยางปินตำหนิขึ้นอย่างเสียงดัง “เสี่ยวเย่ คุณทำอะไรน่ะ ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย !”

“คะ...คนนั้น” เย่หนิงชี้ไปที่ผู้ชายคนนั้น พูดตะกุกตะกักจนไม่เป็นภาษา

ลู่เว่ยตกใจจนรีบไปดึงตัวเย่หนิงกลับมา “โอ๊ย ! ลูกพี่ ลูกพี่ที่รักของผม พี่ทำอะไรของพี่เนี่ย...ถึงแม้ศาสตราจารย์เสิ่นจะหล่อระเบิดระเบ้อขนาดไหน ลูกพี่ก็ควรเก็บอาการณ์หน่อยสิ อย่าทำตัวบ้าผู้ชายจะได้ไหมครับ ?”

“แก......แกว่าเขาเป็นใครนะ ?” บ้าผู้ชายงั้นเหรอ ! เย่หนิงรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะประสาทเข้าเต็มทีแล้ว

“ศาสตราจารย์เสิ่นไงครับ” ลู่เว่ยมองหน้าเย่หนิงด้วยสีหน้าที่งุนงง “เขาคือผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยาอาชญากรรมที่ผู้ว่าการมณฑลเชิญมาร่วมทำคดีเป็นพิเศษ ศาสตราจารย์เสิ่นอี้ไงครับ ? ลูกพี่ไม่รู้จักเขาสักนิดเลยหรอ ? เขาเป็นคนที่จะมาพลิกวงการตุลาการไง รู้ไหมครับว่าพ่อของเขาคือใคร ?”

เย่หนิงชะงักไปพักหนึ่ง “ใครล่ะ”

“ท่านผู้ว่าเสิ่นน่ะสิลูกพี่ !” ลู่เว่ยแทบจะร้องไห้ “แม้แต่ท่านผู้ว่าการมณฑลเสิ่นก็ไม่รู้จัก แล้วนี่ยังคิดจะอ่อยเขาอยู่อีกหรอ ? ลูกพี่อย่าล้อเล่นสิครับ ?”

“ฉันเนี่ยนะ !” เย่หนิงฟาดเขาไปทีนึง “ฉันยังไม่ได้อ่อยเขาสักหน่อย !”

“ยังหรอครับ” ลู่เว่ยอดไม่ได้ที่จะแอบหัวเราะ “เห็นสายตาที่ลูกพี่มองเขา อย่างกับจะกลืนกินเขาไปทั้งตัวแล้ว แถมยังอ้าปากค้าง จนน้ำลายแทบจะไหลลงมาแล้วไม่ใช่เหรอครับ ? พี่เย่ ลูกพี่เป็นหมอนิติเวชตำแหน่งสูงสุดในกรมตำรวจของพวกเรานะครับ ถึงแม้จะรู้ว่าลูกพี่ขาดผู้ชายมานาน แต่พี่ก็ควรจะสงวนท่าทีหน่อยสิครับ อย่าเอาแต่จ้องผู้ชายหล่อ ๆ สิ...”

“แกหุบปากไปเลย ! อยากตายรึไงหา !” เย่หนิงแทบอยากจะดึงปากนั่นทิ้ง “ฉันบ้าผู้ชายตรงไหนกัน ฉะ...ฉันแค่ตกใจเฉย ๆ”

“ตกใจหรอครับ ?” ลู่เว่ยหัวเราะคิกคัก “ศาสตราจารย์เสิ่นทำลูกพี่ตกใจขนาดนั้นเลยหรอครับ”

“จะไม่ให้ตกใจได้ยังไงกันเล่า ก็เมื่อคืน...” เย่หนิงหุบปากลงอย่างกะทันหัน เรื่องเมื่อคืนนั้น ต่อให้เธอพูดออกมาก็คงไม่มีใครเชื่อหรอก อย่าว่าแต่คนอื่นเลย ขนาดตัวเธอเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อเลย

ถ้าไม่เป็นเพราะว่าผู้ชายคนนั้นมายืนตัวเป็น ๆ อยู่ตรงหน้าตอนนี้ เธอก็คงนึกว่าเรื่องเมื่อคืนนั้นตัวเองก็แค่ฝันไป แต่ผู้ชายคนนั้นกลับมาปรากฏอยู่ตรงหน้าของเธอให้เห็นอย่างชัด ๆ เช่นนี้ เธอจึงรู้สึกสงสัยกับเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืน

ถึงจะเป็นแค่ฝัน แต่เธอก็คงไม่ฝันถึงคนที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกันขนาดนี้หรอกใช่มั้ย ยิ่งไปกว่านั้น ความรู้สึกของเธอมันก็ช่างชัดเจนมากเสียด้วย

เย่หนิงมองไปที่เสิ่นอี้ เธอยิ่งมองก็ยิ่งสงสัย

ใบหน้านั่น เธอจำไม่ผิดแน่ เหมือนกันทุกระเบียดนิ้วเลย !

ถ้าหากจะมีส่วนไหนที่ต่างกัน ก็คงเป็นชุดคลุมยาวโบราณที่ผู้ชายคนนั้นสวมใส่เมื่อคืน ผมที่ยาวถึงเอว แล้วก็กลิ่นอายแบบโบราณอย่างคนรูปงามที่หลุดออกมาจากภาพวาดโบราณนั่นแหละ

แต่เสิ่นอี้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ กลับแต่งตัวเหมือนคนปัจจุบัน ผมสั้นสะอาดสะอ้าน สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวคู่กับกางเกงขายาวสีดำ ถึงแม้เขาจะแต่งตัวอย่างเรียบง่าย แต่ก็กลับดูหรูหราอย่างไม่น่าเชื่อ แถมยังหล่อตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกต่างหาก

หยางปินเชิญเสิ่นอี้เข้ามาในห้องประชุมด้วยท่าทีที่สุภาพ พนักงานตำรวจทุกคนต่างลุกขึ้นปรบมือต้อนรับ ไม่รู้ว่าเธอรู้สึกไปเองหรือเปล่า เย่หนิงรู้สึกว่าตอนที่เสิ่นอี้เดินผ่านเธอไปนั้น เขาหันมาสบตากับเธอเป็นพิเศษ สายตานั่นแฝงความหมายบางอย่างไว้อย่างลึกซึ้ง

สายตานั่น ทำไมพอมองดูแล้วทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวจนขนลุกขึ้นมาได้

ลู่เว่ยที่ไม่ได้คิดอะไรก็หัวเราะขึ้นมาคิกคัก “พี่เย่ ยินดีด้วยนะครับ ตอนนี้ลูกพี่อ่อยศาตราจารย์เสิ่นได้สำเร็จแล้ว !”

เย่หนิงที่ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี จึงพูดขึ้นมาว่า “อย่าพูดมาก ! หุบปากของแกไปเลย !”

เธอต้องรู้สึกเบื่อมากขนาดไหนกัน ? ถึงจะต้องถึงขั้นใช้วิธีนี้อ่อยเขาน่ะหา !

เธอกลัวไปหมดแล้ว !

คน ๆ นี้มันช่าง... มันช่างเหมือนกับคนเมื่อคืนเลย !