webnovel

ปั้นดินเป็นเดือน

จากดินสกปรกจะถูกปั้นให้เป็นเดือนได้จริงเหรอ? ความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองนั้นมันคุ้มค่าหรือไม่? สุดท้ายแล้วคนเราก็ตัดสินกันแค่ที่หน้าตาใช่ไหม? เบญจมินทร์ หรือ เบ็น เป็นเด็กหนุ่มที่เชื่อสุดใจเลยว่าคนทุกคนบนโลกใบนี้ดูดีในแบบของตัวเอง และทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้หากมีความพยายามมากพอ และด้วยความเชื่อที่ดูจะไปสะกิดต่อมความหมั่นไส้ของคู่อาฆาตนั้น ทำให้เขาถูกท้าแข่งในการประกวดทูตกิจกรรม ไม่ใช่ตัวพวกเขาเองที่จะลงแข่งหรอกนะ แต่พวกเขากำลังแข่งกันปั้นเด็กของตัวเองให้เป็นเดือนคณะให้ได้ต่างหาก ทว่า เด็กที่เบ็นต้องปั้นนั้นกลับเป็นรุ่นน้องปี 1 ที่แสนจืดจาง ใบหน้าห่างไกลจากคำว่าหล่อในยุคสมัยนี้ไปเลย แถมความมั่นใจยังอยู่ในระดับขั้นติดลบ ทุกคนเห็นตรงกันหมดว่าเบ็นไม่ต้องแข่งก็ได้ เพราะรู้ผลตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยด้วยซ้ำ แต่เบ็นเชื่อในตัวน้องคนนี้ และเชื่อในกันและกัน เขาจะปั้นเด็กคนนี้ให้เป็นดวงเดือนสีนวลบนฟ้าให้ได้! สุดท้ายแล้วพวกเขาจะสามารถพิสูจน์ให้โลกวัตถุนิยมใบนี้ยอมรับความพยายามของพวกเขาได้หรือไม่

NIMAJNEB · LGBT+
分數不夠
56 Chs

บทที่ 15.3

วันงานเปิดตัวผู้เข้าประกวดดาวเดือนและดาวเทียมมาถึงในบ่ายวันเสาร์ เมื่อคืนไนน์มานอนค้างที่หอผม ผมจัดการบำรุงหน้าและผิวให้ไนน์แบบเต็มที่ก่อนนอน

เช้านี้สภาพหน้าของไนน์ดูดีขึ้นบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีสิวโผล่ขึ้นทั่วอยู่ดี ส่วนรอยช้ำที่ตาก็ยังไม่หายเลยสักนิด พอมาอยู่ด้วยกันกับแผลเป็นที่คิ้ว ไนน์ดูจะกลายเป็นเด็กเกเรที่เพิ่งท้าต่อยกับคู่อริไปมากกว่าจะเป็นผู้สมัครเดือนซะอีก

ส่วนภาพถ่ายของผู้เข้าประกวดทั้งสิบสองคนเพิ่งถูกปล่อยให้คนทั่วไปได้ยลโฉมเมื่อสองวันที่ผ่านมา ตอนแรกกระแสตอบรับดีมาก กลุ่มเดือนนั้นดูจะมีเชียร์อัพเยอะเป็นพิเศษเพราะการแต่งกายที่วาบหวิวดูเซ็กซี่ของแต่ละคน และแน่นอนว่าภาพของไนน์ที่แต่งตัวมิดชิดนั้นมีคนให้ความสนใจน้อยที่สุด

แต่กระแสตอบรับดีขึ้นได้ไม่นาน กระแสดราม่าก็ตามมาภายในไม่กี่ชั่วโมง สื่อโซเชียลออกมาแสดงความคิดเห็นต่อต้านการแต่งกายที่วาบหวิวของเหล่าเดือนกันเป็นส่วนใหญ่

กระแสตีกลับ ทำให้ไนน์ที่แต่งตัวเป็นเทวดาตัวน้อยสวมเสื้อมิดชิดถูกชื่นชมขึ้นมาแทน

เอาวะ จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว แค่ไนน์เต็มที่กับมันก็พอ

"เดี๋ยวไนน์ นั่นเสื้อคลุมสีเหลืองที่พี่ซื้อให้ใช่ไหมน่ะ" ไนน์หยิบเสื้อตัวนั้นไว้กับตัวทั้งที่ตอนนี้ก็ใส่เสื้อคลุมอีกตัวนึงอยู่

"ใช่ครับ ผมอยากพกไปเป็นของนำโชค"

"แล้วทำไมไม่ใส่ไปด้วยล่ะ"

"ผมอยากใส่นะ แต่มันตัวเล็กไปแล้วไง ใส่ไม่ได้แล้ว"

ผมเข้าใจได้ทันทีว่าทำไมก่อนหน้านี้ตอนถ่ายแบบไนน์ถึงไม่ได้ใส่เสื้อคลุมที่ผมซื้อให้ทั้งที่เมื่อก่อนไนน์ใส่มันตลอดเวลา มาตอนนี้ผมถึงได้เข้าใจ ผมรีบบอกขอโทษไนน์ในใจเรื่องที่ผมเคยน้อยใจเรื่องนี้

"ซักบ้างรึเปล่าเนี่ย ไหน เอามาดมดิ"

"เฮ้ย เดี๋ยวพี่เบ็น" ไนน์ห้ามผมไม่ทัน ผมคว้าเสื้อมาได้ก่อน

แต่แล้วสิ่งที่อยู่ในมือผมมันดูจะไม่เป็นเสื้อคลุมอีกต่อไป มันเป็นแค่เศษผ้าขาด ๆ ที่ไม่น่าจะใส่ได้อีกแล้ว

"ทำไมมันขาดรุ่งริ่งแบบนี้" ผมยอมรับว่าเสียใจหน่อย ๆ ไม่สิ เสียใจมากเหมือนกันที่ไนน์ไม่รักษาของที่ผมให้ไป แต่ผมเก็บอารมณ์นั้นเอาไว้ได้และไม่ใส่มันลงไปในน้ำเสียงด้วย

"คือ...ผม...เอ่อ...เดินไปเกี่ยวกับลวดหนามที่บ้านครับ มันเลยขาดแบบนี้"

ดูยังไงก็ไม่ได้ขาดเพราะอุบัติเหตุ ไม่ใช่รอยลวดหนามด้วยซ้ำ รอยขาดแต่ละรอยมันบอกชัดเจนว่าถูกกรรไกรตัดเป็นรอยเว่อะว่ะ แล้วรอยขาดก็มีอยู่ทั่วทั้งตัว ถ้าไม่ได้ไปเกลือกกลิ้งบนพื้นหนามก็ไม่มีทางมีรอยได้เยอะขนาดนี้

"พี่เบ็นโกรธผมเหรอ ผมขอโทษจริง ๆ นะ" ใช่ผมโกรธ

"ไม่หรอก อะ เอาไปกอดนำโชคไว้" แต่นี่ไม่ใช่เวลาจะมาระเบิดอารมณ์ใส่ไนน์ แค่นี้ไอ้หมอนี่ก็วิตกกังวลจะตายอยู่แล้ว ผมไม่อยากให้ไนน์เครียดไปมากกว่าเดิม

"อื้ม วันนี้ผมต้องพูดได้ดีแน่ ถ้ามีเสื้อของพี่เบ็นอยู่ด้วย"

"คร้าบ ปะ ไปกันได้แล้ว" ผมยีหัวไนน์เล่นแล้วดันไปข้างหน้าเบา ๆ

เรื่องเสื้อเอาไว้ก่อน ไว้ไนน์ผ่านด่านรองสุดท้ายของวันนี้ไปให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาเคลียร์กัน

บรรยากาศที่ลานว่างของคณะดูครึกครื้นกว่าเย็นวันเสาร์ทั่วไป ข่าวประชาสัมพันธ์แพร่กระจายไปทั่วทั้งภายในและนอกคณะ ผู้คนต่างพากันแห่เข้ามารอดูโฉมหน้าผู้เข้าประกวดดาวเดือนและดาวเทียมกันอย่างล้นหลาม

ผู้คนในงานอยู่กันหนาแน่นพอ ๆ กับตอนจัดคอนเสิร์ตกลางแจ้งได้เลย ถึงจะไม่ได้มีการแสดงอะไรมากนัก แต่ทุกคนต่างกระตือรือร้นมาหาที่นั่งเพื่อรอชม

บ้างเป็นเพื่อนหรือคนรู้จักของผู้เข้าประกวด มาเพื่อเชียร์คนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ บ้างก็มาส่องสาวสวยหนุ่มหล่อและหาความบันเทิง

ผมเดินมาส่งไนน์ได้ถึงแค่ข้างหลังเวที ต่อจากนี้จะเป็นหน้าที่ของกองประกวดแล้ว พี่เลี้ยงแต่ละคนไม่สามารถเข้าไปดูแลน้องของตัวเองได้เพราะพื้นที่จัดเตรียมมีจำกัด ผู้เข้าประกวดสิบสองคนก็แน่นพอแล้ว ถ้าเพิ่มพี่เลี้ยงไปอีกก็ไม่ต้องหายใจกันพอดี เขาว่าอย่างงั้นกัน

"พี่เบ็น ผมกลัว ผมจะทำได้จริงเหรอ คนเยอะมากเลยนะ ผมต้องพูดขัด ๆ ติด ๆ แน่เลย"

ยังไม่ทันไรก็ติด ๆ ขัด ๆ ซะแล้ว...

ไนน์พูดด้วยน้ำเสียงกังวลจริง ๆ ขาสั่นจนสังเกตเห็นได้ชัด มือกุมแขนของผมไว้แน่น

ตอนนี้คนเยอะมาก ขนาดผมเองยังรู้สึกประหม่าเหมือนกันตอนที่ต้องเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว

แต่นี่คือไนน์ ไนน์ผู้ที่ไม่ถูกกับสถานที่ที่คนพลุกพล่าน จากสีหน้าและแววตาของไนน์ ผมสัมผัสความกลัวและความวิตกได้ชัดเจน สิ่งไนน์กำลังจะเผชิญต่อจากนี้คงน่ากลัวกว่าที่ผมเคยรู้สึกหลายร้อยเท่า

ผมจ้องไปที่ตาของไนน์ ส่งพลังความเชื่อมั่นทางสายตาไปให้ จากนั้นจึงคลี่ยิ้มบาง ๆ แล้วลูบหัวไนน์เบา ๆ เป็นการปลอบโยน

"พี่อยู่กับผมก่อนนะ อยู่กับไนน์ก่อนนะ ไนน์กลัว"

"ไม่ได้หรอก เขาตกลงกันแล้วว่าพี่เลี้ยงไปอยู่ด้วยไม่ได้ เพราะงั้นพี่ส่งไนน์ได้ถึงแค่นี้จริง ๆ"

"แต่...แต่ ไนน์ทำไม่ได้แน่ถ้าไม่มีพี่เบ็นอยู่ด้วย ไนน์..."

"สู้สิ สู้เขา ไนน์ทำได้อยู่แล้ว พี่เชื่อ ไม่ต้องคิดอะไรมาก ทำให้เต็มที่ก็พอ เนอะ"

ผมสวมกอดไนน์ไว้ ตัวไนน์สั่นมาก หัวใจของไนน์เต้นกระแทกออกมาชนกับท้องผม

"อื้ม ผมจะพยายามครับ"

"เดี๋ยวพี่อยู่ดูแถวนี้แหละ ไม่ไปไหนไกลหรอก ถ้ากลัวขึ้นมาก็มองหาพี่ให้เจอ นะครับคนเก่ง"

"ขอบคุณครับพี่เบ็น สู้ตายครับ"

ไนน์ฉีกยิ้มกว้างพร้อมเอามือชูขึ้นสองนิ้ว ผมลูบหัวไนน์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนเดินออกจากบริเวณหลังเวทีไปข้างนอก

ยิ่งใกล้ถึงเวลา คนยิ่งเยอะมากกว่าเดิม

ผมเดินหาที่นั่งอยู่นานกว่าจะเจอลักษณ์ที่โบกมือเรียกไปนั่งด้วย สักพักกุ้งกับเนตรก็ตามมาด้วยกัน แต่เพราะเรานั่งกันเต็มแล้ว คู่รักราพันเซลกับไกรทองเลยต้องไปนั่งอีกที่หนึ่ง

ไม่นานงานก็เริ่มขึ้น บอลทำหน้าที่เป็นพิธีกรคู่กับพิธีกรหญิงเหมือนเดิม คราวนี้ดูจะกึ่งพิธีการกึ่งเอนเตอร์เทรน เพราะมีผู้ใหญ่และอาจารย์จากทั้งในและนอกคณะมาดูด้วย

งานเริ่มขึ้นด้วยการเปิดตัวของผู้เข้าประกวดดาว สาวสวยทั้งสี่นางเดินโชว์ตัวกันเหมือนนางนพมาศในวันลอยกระทงไม่มีผิด คนจะเป็นดาวได้ต้องสวยและสำรวมทั้งกายวาจาใจ แม้ตัวจริงจะประดักประเดิกขนาดไหนก็ตามที คงยากที่จะได้เห็นดาวสักคนฉีกกรอบเดิม ๆ เดินโชว์ตัวแบบดาวเทียมที่เน้นเอาฮามากกว่าการโปรยเสน่ห์

ว่าที่ดาวแต่ละคนพูดนำเสนอตัวเองได้น่าสนใจและสร้างจุดเด่นให้ตัวเองได้ดี แพทเทิร์นทั่วไปก็ประกอบไปด้วยชื่อเล่น ชื่อจริง สาขา คำคมประจำใจน่ารัก ๆ ให้คนอวยเล่น แล้วปิดท้ายด้วยการฝากตัวฝากใจให้ผู้ชมเลือกโหวตตนเองด้วย

และเมื่อครบสี่คน คราวนี้ก็ถึงช่วงของผู้สมัครเดือน เด็กหนุ่มหน้าหล่อสี่คนก้าวขึ้นมาบนเวที ผู้คนกรี๊ดเชียร์เดือนมากกว่าดาวซะอีก ส่วนหนึ่งคงเพราะผู้ชายที่เชียร์ดาวคงไม่ส่งเสียงกรี๊ดกัน

เห็นไนน์แล้วก็อดรู้สึกเอ็นดูมันไม่ได้ ผู้เข้าประกวดคนอื่นสูงกว่าไนน์หลายช่วงตัว ไนน์ได้ยืนเป็นลำดับที่สามเลยทำให้ดูเป็นเนินเขาน้อย ๆ ที่ถูกห้อมล้อมด้วยภูเขาสูง

ทั้งสี่คนเดินโชว์ตัวไปมารอบเวทีทีละคนตามลำดับ พอถึงช่วงที่ไนน์ต้องเดิน ไนน์กลับเดินหลังค่อมผิดกับท่าเดินปกติมาก สองคนแรกเดินด้วยท่าทางมั่นใจ ก้าวเท้าและโยกไหล่ไปมาตามจังหวะเพลง แต่ไนน์เอาแต่กุมมือไว้ข้างหน้า ยิ้มแหย ๆ ใส่คนดู เดินไม่เข้าจังหวะกับดนตรีเลย

"ไนน์จะโอเคไหมนะ ดูกลัว ๆ นะจ๊ะ" ลักษณ์กระซิบข้างหูผมแต่ตายังมองที่เวทีอยู่

ผมไม่รู้จะตอบยังไง สีหน้าของไนน์ในตอนนี้ดูแย่มากถ้าว่ากันตามตรง เหงื่อแตกพลั๊ก

ผมกับลักษณ์นั่งอยู่ไกลมากยังเห็นมือไนน์สั่นได้ชัดเจน หน้าที่หมองจากสิวและรอยช้ำที่ดวงตาอยู่แล้ว กลับหมองลงไปอีกด้วยท่าทางการเดินประดักประเดิด

"เฮ้ย ไอ้คนที่สามที่ได้ธาตุลมนั่น ชื่ออะไรนะ" "ชื่อไนน์มั้ง ถ้าจำไม่ผิด" "แม่งโคตรไม่ตรงปกเลยว่ะ" "ฝ่ายโสตฯคงเหนื่อยน่าดูเลยว่ะ แก้รูปให้ดูดีได้ขนาดนั้น" "เฮ้ยไอ้เก้า ก้าวพลาดแล้วมั้ง ฮะฮะ"

"ดูมันเดินดิ ดูดิ ตลกฉิบหาย" "เหยด หมุนตัวได้เฟี้ยวจัด"

"แม่งได้ซ้อมเดินบ้างเปล่าวะ หรือเพิ่งแดกเหล้ามา เอากูไปเดินยังดูดีกว่าแม่งเลยมั้ง"

"หน้าเขาดูไม่เนียนเท่าไหร่เนอะ ว่าไมแก" "มองจากที่ไกลขนาดนี้ยังเห็นรอยสิวรอยแผลเป็นชัดเลย" "นั่นซิ หน้าสวยเป็นดวงจันทร์เลย" "ก็ถูกแล้วไม่ใช่หรอจ๊ะ เดือนก็คือดวงจันทร์ หน้าก็ต้องเป็นหลุมเป็นบ่ออยู่แล้ว ฮะฮะฮะ" "จริงแก ฮะฮะฮะ"

"เขาดูเกร็ง ๆ เนอะ" "เออ เดินแปลก ๆ มันเอ๋อเปล่าน่ะ" "อย่าไปว่าเขาซิ น่าสงสารออก"

"เหี้ยเอ้ย ฮาชิบหาย เอาไปแข่งกับดาวเทียมดีกว่าไหม"

ผมกำหมัดแน่นท่ามกลางเสียงนินทาของผู้คนรอบตัวที่ซุบซิบวิจารณ์ไนน์กันอย่างไม่แคร์ความรู้สึกของไนน์มันเลย ไนน์มันผ่านอะไรมามากมายพวกมึงไม่ได้รับรู้ เห็นแค่เห็นสิ่งที่ออกมาก็พูดกันอย่างสนุกปาก ทั้งที่ไนน์มันพยายามหนักขนาดนั้นแท้ ๆ แล้วอีกอย่างดาวเทียมก็ไม่ได้มีแค่เรียกเสียงฮาสักหน่อย พวกเขาก็พยายามเต็มที่เหมือนกัน อย่าเหยียดคนอื่นไปเรื่อยซิวะ เวรเอ้ย

ลักษณ์สังเกตเห็นจึงบีบไหล่ผมเบา ๆ สะกดอารมณ์โกรธให้เบาลงไปได้บ้าง

และคนสุดท้าย ภารดร น้องไอ้สน แค่ก้าวออกมาแค่ขาข้างเดียวคนก็กรี๊ดกันลั่นลานว่างแล้ว จากตรงนี้ออร่าความหล่อของดรเปล่งประกายเจิดจรัสกว่าอีกสามคนมาก แม้ผมจะเกลียดไอ้สนอยู่แต่ผมก็ยอมรับจริง ๆ ว่าดรมันดูดีมาก มากจนไม่ต้องแข่งในวันจริงแล้วก็ได้ ทุกคนเล่นส่งเสียงเชียร์ให้ซะขนาดนี้

"ว๊าย น้องดรกู" "ผัวขา เดี๋ยวแม่เปย์หมดหน้าตักเลย" "น้องเขาผัวกูจ้ะ"

"เหยด อย่างเท่" "วันจริงไม่ต้องแข่งแล้วม้าง!" "ไอ้สัตว์เบา ๆ เดี๋ยวอีกสามคนแม่งร้องไห้ ฮะฮะฮะ" "อีกสามตัวข้างหลังเหมือนตัวประกอบเลยว่ะ"

"ฉันรักเขา" "ฉันเคยเดินสวนกับเขาด้วยนะ ฉันนี่แทบเป็นลม"

ไม่ยุติธรรมเลย...

"เอาล่ะค่ะทุกท่าน เดี๋ยวเราจะมาทำความรู้จักกับน้อง ๆ ผู้เข้าประกวดเดือนกันดีกว่านะคะ" เสียงของพิธีกรสาวดึงผมให้ออกจากภวังค์แห่งโทสะ

เด็กหนุ่มทั้งสองคนแนะนำตัวเองได้ดีตามบทที่เตรียมไว้ แต่พอมาถึงไนน์...

ไนน์ต้องเขย่งพูดเพราะไมค์ถูกตั้งไว้ในระดับของผู้ชายทั้งสามคน เรียกเสียงหัวเราะเยาะจากผู้ชมได้ทันที

"สวัสดีค..."

และคลื่นหัวเราะก็ดังขึ้นอีกครั้งเมื่อไนน์รู้ตัวแล้วว่าไมค์ที่ตั้งอยู่สามารถเลื่อนปรับระดับได้

"เอ่อ...ไนน์ชื่อไนน์ ไม่ ผมชื่อไนน์ นายณัฐดนัย จันทรวงศ์...นิสิตจากคณะศึกษาศาสตร์ จากวิชาสาขาอังกฤษ เอ้ย ขอโทษครับ ภาษาญี่ปุ่น...ครับ ความพยายามอยู่ที่ไหน ค...ความสำเร็จอยู่ที่นั่นครับ"

ทุกอย่างดูรนรานและกระอักกระอ่วนไปหมด จบการแนะนำตัวของไนน์ มีเพียงเสียงปรบมือเปาะแปะเหมือนฝนตกปรอย ๆ ผิดกับสองคนแรกที่ดังกระหึ่มพร้อมกับเสียงเชียร์กรี๊ดดังกระแทกแก้วหู

น้องไนน์ของผมถอยหลังออกไปยังตำแหน่งเดิม ถึงคิวนายภารดรออกมาแนะนำตัว แค่พิธีกรขานชื่อดรจบ ก็มีเสียงฮือฮาทันที ดรพูดจาฉะฉานและมีเสน่ห์ เรียกฐานแฟนคลับได้มากมายไปหมด

ผมอยู่ไกลมากจนมองไม่เห็นว่าไนน์มีสีหน้ายังไงบ้าง แต่ถ้าให้เดา ความรู้สึกของไนน์คงถูกฉีกทิ้งไม่เหลือชิ้นดีแล้ว

ผมทนรอให้จบงานไม่ไหว เมื่อเห็นแม่บอลกล่าวเชิญผู้เข้าสมัครเดือนลงไปหลังเวที ผมรีบวิ่งไปหาไนน์ทันที

น้องไนน์ของผมจะเป็นยังไงบ้างนะ รอแป๊ปนึงนะ เดี๋ยวพี่จะไปหาแล้ว

ผมวิ่งแทรกผ่านฝูงชนที่น่ารังเกียจไปโดยไม่เกรงใจใครอีกแล้ว ถึงจะไม่ใช่ทั้งหมดที่เป็นแบบนั้น แต่ตอนนี้ผมพาลเหมารวมว่าทุกตัวในที่นี้เป็นพวกสารเลวไปหมด

"ไนน์! ไนน์! เป็นไงบ้าง!"

"พี่เบ็น! เข้ามาทำไมครับ ผมโอเคครับ ฮิฮิ"

ไนน์ยิ้มแป้นให้ผม

แต่แววตาไนน์ไม่ได้เป็นแบบนั้น ตาแดงใส ๆ นั้นกำลังกลั้นน้ำตาเอาไว้อยู่ดูก็รู้ จมูกแดงขนาดนี้ยังมีหน้ามายิ้มแล้วบอกว่าตัวเองโอเคอีก

"ไนน์ แน่ใจเหรอว่าโอ..."

"พี่เบ็น เดี๋ยวรอจบงานแล้วค่อยคุยกันก็ได้ครับ อีกแป๊ปเดียวเอง" ไนน์ยังคงฝืนยิ้มให้ผมอยู่

"...อื้ม เข้าใจแล้ว เดี๋ยวพี่รอข้างนอกนะ"

ไนน์คงกำลังต่อสู้กับตัวเองอยู่ คงกำลังต่อสู้กับความอ่อนแอในจิตใจของตัวเอง ถ้าขืนเข้าไปปลอบตอนนี้ละก็ ความเข้มแข็งของไนน์อาจจะหายไปเลยก็ได้

เมื่อจบช่วงของผู้สมัครดาวเทียมแนะนำตัวจบ พิธีกรจึงเชิญน้อง ๆ ทั้งสิบสองคนขึ้นบนเวทีเพื่อถ่ายรูปรวมเป็นที่ระลึก

พอไนน์ได้ลงจากเวที ผมพุ่งตัวไปหาไนน์ทันที

"ไนน์ เป็นไงบ้าง"

"โอเคครับ เห้อ ผ่านไปแล้วเนอะ ตื่นเต้นแทบตาย" ไนน์ยังคงฝืนยิ้มต่อไป ไหนจะเสียงถอนหายใจที่ดูจะตั้งใจเค้นออกมามากกว่าจะโล่งอกจริง ๆ นั่นอีก

"...งั้นกลับหอพี่ก่อนไหม แล้วเดี๋ยวเราไปหาอะไรกินกัน ดีไหม"

"อื้ม ดีเลยครับ กลับกันเถอะ"