webnovel

ตอนที่ 55 แข็งแกร่ง

การโจมตีของพวกเขาโดนอสูรตัวนั้นทั้งหมด แต่กลับสร้างความเสียหายให้มันไม่ได้แม้แต่น้อย

ในขณะที่ยังอึ้งกับผลลัพธ์ที่โจมตีไม่เข้า

เกราะศิลาบนตัวมันก็เปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นหนามแหลมพุ่งทะลุร่างกายทั้งสี่คนจนเป็นรูพรุน

คนทั้งสี่ตัวกระตุกปล่อยอาวุธตกลงพื้น

มีหลายคนฉวยโอกาสยิงศรเข้าใส่ช่องว่างของเกราะที่แปลงเป็นหนามเข้าใส่เกล็ดของมันโดยตรง

แต่ศรยังไม่ถึงตัวเกล็ดตามตัวของมันก็ตีกระพือเหมือนปีกนก สร้างแรงลมเป่าจนลูกศรชะลอความเร็วลง จนร่วงลงไปบนพื้นเหมือนหมดพลัง

"บ้าอะไรเนี่ย! เกราะอย่างหนาโจมตียังไงก็ไม่เข้า!"

"เกล็ดก็มีลูกเล่นแปลกๆ อีก!"

กึง!

หนามศิลาคืนร่างกลับเป็นเกราะแข็งรอบตัวมันอีกครั้ง

อสูรตัวนั้นแสยะยิ้มแล้วกวักมือให้เข้ามา

ต่างคนต่างมองหน้ากัน ไม่มีกล้าเข้าไปใกล้

"ยิงถล่มเข้าไป!"

พวกเขาได้สติจากคำสั่งของใครบางคน แล้วการกระหน่ำยิงก็เกิดขึ้น

สารพัดเวทและอาวุธยิง ขว้างก็เข้าถล่มใส่ไม่ยั้ง

อสูรตัวนั้นกรีดร้องอย่างเจ็บปวด

"โอ้ววววว! เจ็บจุงเบยยยย! ข้าจะตายปลาบปลื้มวววววว!"

ร้องแบบที่คนตอแหลทำกัน

ไม่มีการโจมตีไหนทำเกราะศิลามันแตกได้เลยแม้แต่เศษเสี้ยว

ตอนนั้นเองที่เวทระเบิดเพลิงของนักเวทระดับกลาง ระเบิดจนเกราะมันเปิดออก

ทุกคนเฮอย่างมีความหวัง

มีหลายคนฉวยโอกาสทันที พุ่งเข้าไปโจมตีใส่ เพราะคิดว่าลูกธนูของพวกระดับต่ำคงยิงไม่แรงพอจึงโดนลมของมันพัดตกลงมา

แล้วทุกคนก็ตระหนักรู้ว่าโดนมันหลอกเข้าเต็มๆ

ทั้งดาบ ขวาน หอกถูกแรงลมที่เกล็ดสร้าง หยุดไว้ได้ก่อนถึงตัวมัน

ราวกับฟันเข้าไปในกำแพงลมของนักเวทระดับกลาง โจมตีไม่เข้า มีแต่เรี่ยวแรงของพวกเขาที่เสียไปเปล่าๆ จากการยื้อกับลม

แล้วเกราะก็เปลี่ยนเป็นหนามแหลมแทงทะลุร่างทุกคนรอบตัว

แม้แต่คนที่เอาโล่ไปเพื่อใช้กันหนามศิลาโดยเฉพาะก็ยังไม่รอด เพราะหนามของมันเล่นเลี้ยวโค้งอ้อมโล่มาแทงเขาจนพรุน

อสูรตัวนั้นหัวเราะคิดคักอย่างชอบใจ ก่อนเก็บหนามกลับเข้ามาเป็นเกราะศิลาอีกครั้ง

"เดี๋ยวข้าจะแสดงความแข็งแกร่งให้ดู"

พูดจบเกราะศิลาก็ร่วงกราวลงไปบนพื้นราวกับโดนเวทละลายเกราะของนักเวทชั้นสูง

ทุกคนที่กำลังดีใจนึกว่ามีนักเวทระดับสูงมาช่วยก็เริ่มยิ้มไม่ออก

เมื่อเกล็ดทั้งตัวเริ่มกระพืออย่างรวดเร็ว สายลมเริ่มพัดเอาก้อนหินกับอาวุธรอบตัวลอยขึ้นจากพื้น

และในทันทีที่มันสะบัดมือออกไป ทั้งก้อนหินกับอาวุธก็พุ่งเข้าใส่พวกเขา

ก้อนหินกับอาวุธทิ่มแทงเข้าไปในร่างก่อนจะชอนไชไปมาราวกับมีชีวิต ก่อนจะทะลวงร่างออกมาโจมตีคนถัดไปที่อยู่ใกล้

"มันควบคุมลมได้ด้วย!"

"บ้าไปแล้ว!"

"แบบนี้ใครจะสู้ได้วะ!"

"ขอฮีลเลอร์ตรงนี้ด่วนนน!"

"ตาม [แรงค์ B] มาช่วยที! เยอะๆ เลย!"

"อ้ากกกกกก! ช่วยข้าด้วยยย! อ๊อก!"

"ไม่ไหว! ยังไงก็ไม่ไหว!"

"ยิง! ยิงเข้าไป!"

"หยุดยิงซะ! มันยึดอาวุธของพวกแกได้!"

*****

อสูรปลาเกล็ดวายุเกราะศิลา

อาหารล้มตายลงติดกันเป็นลูกโซ่

ร่างใหม่สุดยอด พลังใหม่ก็ช่างสุดยอด

ร่างกายเบาโหวงทั้งที่มีเกราะหนักปกป้องตลอดเวลา

เกราะศิลาที่คลุมตัวข้าแข็งยิ่งกว่าทุกเกล็ดที่ข้าเคยมี

ภายใต้เกราะศิลาก็ยังมีเกล็ดสร้างเวทลมอีกชั้น

เท่านี้ก็ไม่มีใครหน้าไหนทำร้ายข้าได้อีก แม้แต่หินติดไฟลูกยักษ์นั่น

การวิวัฒนาการครั้งนี้ช่างสุดยอด

ข้าแข็งแกร่งแล้ว แข็งแกร่งยิ่งกว่าใครหน้าไหน

ข้าไม่กลัวเจ้าแล้ว เจ้าอาหารชั้นสูง ฮ่าๆๆๆๆ

"สิ้นหวังกันรึยังล่ะ พวกอาหาร ฮิฮิฮิ เดี๋ยวจะทำให้สิ้นหวังยิ่งกว่านี้"

พวกอาหารชั้นต่ำถอยหนีอย่างไม่คิดชีวิต พวกอาหารชั้นกลางเริ่มรวมตัวกันแล้วโจมตีข้าอีกครั้ง

ครั้งแรกที่พวกอาหารโจมตีโดนเพราะข้าอยากทดสอบเกราะศิลาของตัวเอง แต่ครั้งนี้

ข้าควบคุมสายลมหยุดทุกการโจมตีรอบตัวให้ลอยค้างกลางอากาศ ก่อนผลักกลับไปหาพวกมัน

"สิ้นหวังกันรึยังล่ะ แต่ดูท่าจะยังสิ้นหวังกันไม่พอ"

พวกอาหารชั้นต่ำไปตามตัวพวกอาการชั้นกลางเข้ามาสมทบ

คราวนี้มีแทงค์สวมชุดเกราะทั้งตัวเข้ามาเพียบ หลังแทงค์ก็มีแต่พวกสายโจมตีหนักทั้งค้อน ขวาน ดาบใหญ่อีกสารพัด

พวกมันคิดจะสู้กับข้าในระยะประชิดแทนสินะ

เหมือนจะฉลาดจากการเรียนรู้ แต่ก็โง่อยู่ดี

"อาหารถึงเป็นอาหารสำหรับพวกข้าวันยังค่ำ"

ข้ากระพือเกล็ดปล่อยสายลมกระจายออกไปรอบตัว ครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบจากหินติดไฟ

รอจนพวกมันเข้ามาเยอะขึ้นๆ เยอะจนแตะหลักครึ่งพัน

ข้าจึงควบคุมสายลมให้หมุนวนเป็นวงกลม แรงลมค่อยๆ หมุนแรงขึ้นจนพวกตัวบางเริ่มเซไปตามแรงลม

แต่พวกแทงค์แนวหน้ายังคงไม่สะทกสะท้านและยิ่งคึกเมื่อคิดว่าข้าทำได้แค่นี้

ไม่นานพวกมันก็เริ่มรู้ตัวและเริ่มสั่งให้หนีออกจากพื้นที่

"ถึงจะไม่ชอบแบบไหม้เกรียมก็เถอะนะ ฮิฮิฮิ"

สายลมพัดพาเปลวเพลิงทั้งหมดในสนามหมุนวนตามไปด้วย เปลวไฟยิ่งถูกพัดก็ยิ่งโหมแรงขึ้น

ฟู่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!

โดยมีพวกอาหารที่เกาะกลุ่มกันจนแน่นขนัดเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี

อาหารทุกตัวถูกย่างสดทั้งในวังวนทะเลเพลิง

พวกมันดิ้นทุรนทุราย กรีดร้องโหยหวน ชุดเกราะหนาเตอะและอาวุธทุกชนิดถูกหลอมละลายเป็นของเหลว

ผิวหนังพวกอาหารพุพองก่อนจะไหม้เป็นตอตะโก ร่างของพวกมันกลายเป็นซากที่จำเค้าเดิมไม่ได้

เป็นภาพที่ชวนหดหู่และน่าหวาดกลัวสำหรับพวกอาหาร

แต่สำหรับข้าที่เป็นเชฟควบคุมไฟอยู่ตรงกลางนั้น รู้สึกปลาบปลื้มและยินดีจนน้ำตาแห่งความสุขหลั่งออกมา

"จะกินให้อร่อย ก็ต้องใช้วัตถุดิบแบบสด ฮิฮิฮิ"

แต่มันยังไม่จบ ข้าต้องแก้แค้นให้เพื่อนต่างพันธุ์ของข้าสักเล็กน้อย

ข้าควบคุมสายลมพัดพาเปลวเพลิงรอบตัวให้หมุนวนเป็นพายุเพลิงขนาดใหญ่

ก่อนผลักมันออกไปทางประตูเมือง

แค่รัศมีความร้อนก็ทำพวกอาหารผิวไหม้แสบร้อนจนต้องหนีหางจุกตูด

ส่วนอะไรก็ตามที่ถูกพายุเพลิงดูดเข้าไปจะสลายกลายเป็นเถ้าธุลี

พวกอาหารพยายามยิงเวทน้ำเพื่อดับมันอย่างเปล่าประโยชน์

แม้แต่เวทดินที่ก่อกำแพงเพื่อหยุดชะลอหรือเปลี่ยนเส้นทางก็ไร้ผล

พายุเพลิงไม่มีการชะลอตัว ไม่มีการอ่อนกำลัง เผาสิ้นทุกสิ่งอย่างที่มันผ่านทาง

พวกอาหารเริ่มหนีตายจากจุดที่คิดว่าพายุเพลิงจะผ่านไป

ยกเว้นพวกอาหารสวมชุดเกราะที่พยายามกันอย่างสุดความสามารถไม่ให้พายุเพลิงทำลายประตูเมือง

คำสั่งที่บ้าบิ่นที่สุดของอาหารชั้นต่ำแต่สวมชุดเกราะดีกว่าตัวอื่น คือ การสั่งให้พวกอาหารพลีชีพเพื่อลดความรุนแรงของพายุเพลิงลง

"ฮิฮิ ฮิฮิฮิ ฮิฮิ... ฮ่า ฮ่าๆ ... ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ"

ข้าอดใจขำไม่ไหว พวกอาหารนี่มันโง่จนเกินเยียวยา สมควรแล้วที่เกิดมาเป็นอาหารให้เผ่าพันธุ์อสูรอย่างพวกข้า

"กระจอกสิ้นดีพวกเผ่าอาหาร!"

ครืนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!

ข้าอ้าปากค้างกับภาพตรงหน้า เพราะจู่ๆ พายุเพลิงก็ถูกอะไรสักอย่างที่มองไม่เห็นผลักมันไปชนกับกำแพงเมือง

ฟู่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!

เปลวเพลิงถูกทับแบนราบไปกับกำแพง ถึงจะเผาจนตัวกำแพงเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท แต่ไม่นานพายุเพลิงก็สิ้นฤทธิ์ สลายหายไป

เหลือเพียงแค่ควันเขม่าสีดำลอยขึ้นไปบนฟ้า

และตัวการที่ทำคืออาหารชั้นสูงอีกตัว

ข้าก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้สึกตัว สะดุดหินจนล้มก้นจ้ำเบ้า

แข็งแกร่ง แข็งแกร่งเหลือเกิน

ทำไมกัน ทำไมข้าถึงยังแข็งแกร่งไม่เท่าพวกมัน

ไม่ได้การแล้ว ก่อนที่เจ้าอาหารชั้นสูงตัวนั้นจะหมดความอดทน

ข้ากวาดตามองหา เมื่อเจอเป้าหมายก็รีบพุ่งตัวไปสุดกำลัง

ตรงหน้าข้ามีอาหารขยะทั้งสองตัวถูกผลกระทบจากวังวนทะเลเพลิงเผาขาจนไหม้เกรียม

ยังดีที่พวกมันยังมีชีวิตรอด แค่นี้มันก็น่าจะเห็นหลักฐานว่าข้าเป็นคนกิน

ไม่สิ เหลือส่วนหัวไว้ดีกว่า มันจะได้เชื่อว่าข้ากินจริง

ข้าเลือกหยิบอาหารขยะก่อนอาหารสัตว์เพราะกินง่ายกว่า

"ปล่อยเอลด้านะ!"

ข้าถีบหน้าอาหารสัตว์กระแทกกับพื้นจนมันหัวแตก

ถึงจะทนเอาเรื่องแต่สภาพร่อแร่แบบนี้อีกไม่นานก็ตายแล้ว ยังมีหน้ามาห่วงอาหารตัวอื่นอีก

ข้าไม่สนใจอาหารสัตว์ที่ตะโกนทั้งน้ำตาและยื่นมือมาเพื่อจะคว้าอาหารตัวนี้คืน

ดูซะสิอาหารชั้นสูง ข้ากำลังจะกินตามที่แกสั่งแล้ว

วินาทีที่ข้าอ้าปาก ก็เกิดเสียงตะโกนที่ดังยิ่งกว่าเสียงใดที่เคยได้ยินมา

"อย่ามาแตะต้องน้องของฉันนะ!!!"

ไม่ใช่แล้ว นี่มันเสียงคำราม

ในสนามรบที่เปลี่ยนจากสีขาวโพลนเป็นสีเทาหม่นหมอง

ขี้เถ้าลอยฟุ้งในอากาศจนเป็นหมอกหนา

เสียงคำรามเสียงนั้น พัดพาขี้เถ้าด้านหน้าตัวข้ากระจายออกไป จนข้าเห็นตัวตนมันได้ชัดเจน

ตัวประหลาดผมสีทองสวมหน้ากากไม้พังๆ ที่ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นอาหารหรือเผ่าพันธุ์เดียวกันกับข้า

เธอกระโจนง้างหมัดพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง

Chương tiếp theo