คาลิก้า เนฮิว
เจ้าหน้าต่าง ฉันช่วยชีวิตพวกเธอได้แน่ใช่มั้ย
[สามารถช่วยได้ ถ้าเป้าหมายยังมีชีวิตอยู่]
แล้วที่แกบอกว่าสูญเสียระดับที่อัพล่ะไปทั้งหมดล่ะ มันหมายความว่า...
[สามารถช่วยได้แค่เป้าหมายเดียว]
ถ้าฉันหามาอัพใหม่ก็ช่วยได้อีกใช่มั้ย
[สามารถทำได้ไม่จำกัด]
ค่อยเบาใจขึ้นนิดนึง ตอนนี้คงได้แต่ภาวนาไม่ให้เอลด้าเป็นหนักไปกว่าพี่เทียร่า เพราะฉันกลัวจะหาแกนดันเจี้ยนมาช่วยเธอไม่ทัน
ใช้เวลาสักพักฉันก็วิ่งมาถึงแนวหลัง
ที่แนวหลังนอกจากคนเจ็บ ก็มีทหารเฝ้าอยู่เต็มไปหมด ส่วนคนเจ็บถูกไล่ไปนอนกองรวมกันด้านข้างอย่างแออัด
"นั่นไงครับ ผู้หญิงผมทองสวมหน้ากาก!"
ทหารคนนึงที่สังเกตเห็นฉันตะโกนเสียงดังลั่น จนทุกคนหันมามอง
เมื่อหัวหน้าทหารเห็นก็โบกมือส่งสัญญาณ ลูกน้องทั้ง 1 กองพันเคลื่อนตัวมาล้อมฉันไว้ทันที
จากนั้นหัวหน้าทหารก็ประกาศเสียงดัง
"นักผจญภัยดาเนีย! จากความชั่วร้ายที่เจ้าเตรียมการวางแผนทำให้พื้นไม้ชำรุด! ทำให้ท่านอัศวินอันมีค่าของอาณาจักรหล่นลงไปเบื้องล่างจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย! ด้วยอำนาจจากกฎอัยการศึก! เจ้าจะมีความผิดในข้อหาปองร้ายร้ายอัศวิน! แต่เนื่องจากท่านอัศวินมีความเมตตา! หากเจ้ายอมสวมปลอกคอทาสแล้วคลานไปขอโทษท่านตอนนี้! ท่านอาจเมตตาละเว้นโทษประหารเจ้ากับครอบครัว!"
สิ้นเสียงหัวหน้าทหาร ทหารทั้ง 1 กองพันก็ตีวงล้อมเข้ามาแคบขึ้น
"อย่าได้ขัดขืน! ถึงจะมีคำสั่งให้จับเป็น! แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำร้ายเจ้าจนสาหัสไม่ได้!"
"ขอโทษนะคะ ช่วยหลีกทางไปที ไม่งั้นฉันคงต้องใช้กำลังฝ่าออกไป"
หลังพูดจบกองทหารทั้ง 1 กองพันก็หัวเราะกันครืน แม้แต่หัวหน้ายังแอบปิดปากหัวเราะจนไหล่สั่นเพื่อไม่ให้เสียฟอร์ม
ฉันไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไป แค่วิ่งไปข้างหน้าแล้วซัดเลย
โล่เหล็กใหญ่ที่กันลูกธนูหรือเวทมนตร์ได้ ถูกฉันต่อยทะลุไปถึงชุดเกราะที่มันสวม เครื่องป้องกันไม่ได้ลดทอนพลังหมัดของฉันลงได้แม้แต่น้อย
หมัดที่ทะลวงเข้าไปอัดชุดเกราะเหล็กกล้ายุบลงไปโดนช่วงท้องเต็มๆ ทหารโล่คนนั้นหลังน็อคสลบในหมัดเดียว แถมยังกระเด็นชนเพื่อนข้างหลังจนล้มไปตามๆ กัน
"หลีกทางซะ! ตอนที่ฉันยังออมมืออยู่!"
พวกทหารไม่รับคำสั่งนอกจากหัวหน้าตัวเองเท่านั้น พวกมันจึงรุมเข้ามาอย่างไม่เกรงกลัว
มีหลายคนพยายามจับฉันกดลงไปกับพื้น แต่เพียงแค่ฉันสะบัดตัว ก็เหวี่ยงหลุดไปได้ง่ายๆ
ส่วนพวกใส่เกราะหนาหรือถือโล่ฉันต่อยไม่เลี้ยง
ฉันพยายามจะกระโดด แต่พวกมันก็จะอาศัยจังหวะนั้นกระโดดมาเกาะแกะถ่วงฉันไว้ตลอด
ถึงจะแงะแล้วเขวี้ยงออกไปไกลๆ หรือชกให้สลบ พวกมันก็เข้ามาไม่หยุด
รอบตัวฉันมีทหารนอนกองหมดสติมากขึ้นเรื่อยๆ
"หยุดขวางกันได้แล้ว!"
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครหยุดฉันอยู่ แถมยังเดินหน้าไปได้เรื่อยๆ หัวหน้าทหารก็รีบเปลี่ยนแผน
พวกมันเหวี่ยงบ่วงเชือกคล้องคอฉันถึงห้าเส้น พอกระตุกดึง เชือกก็รัดคอฉันจนแน่น
เชือกแต่ละเส้นมีทหารถึง 10 คนจับอยู่ พอเห็นว่าบ่วงรัดแล้วพวกมันก็ช่วยกันกระชากให้ฉันล้มหงายหลัง
ยังไม่พอเท่านั้น มีทหารอีกคนกระโดดถีบขาคู่ใส่ฉัน แต่ฉันจับขามันได้ทันแล้วยกขึ้นฟาดลงไปบนพื้นจนหน้าแหก
ตอนนั้นเองที่พวกมันกว่า 50 ตัวออกแรงดึงพร้อมกัน ฉันจึงเซถอยหลังจนต้องใช้ขายันไว้
"แน่ใจนะว่า [แรงค์ F] !"
"ไหนข้อมูลบอกว่าแข็งแรงแค่นิดหน่อยไง!"
"นี่มันไม่นิดเลยนะโว้ย!"
"ข้อมูลผิดหรือเปล่าวะ!"
"สกิลอะไรวะเนี่ย!"
"ทะ ทำไงดีครับ!"
"โยนบ่วงเข้าไปอีก ช่วยกันดึงสิวะ!"
"เข้าไปอัดมันเลย! อย่าให้ตายก็พอ!"
ซึ่งข้อมูลที่ทหารส่วนตัวของจีเซ็นแจ้ง ไม่ได้เป็นความจริงทั้งหมดเพราะกลัวเสียหน้า
พวกพลโล่เข้ามาจากหน้า คิดจะใช้โล่กระแทกฉันให้ล้ม
"น่ารำคาญ!"
ฉันออกแรงฉีกบ่วงเชือกทิ้ง แล้วจับรวบทุกเส้นมากำไว้แล้วกระชากพวกมันทุกตัวฟาดไปข้างหน้า
"เฮ้ย!"
"เหวออออออ!"
"อ๊าาาาาาาาาาา!"
ทหารกว่า 50 คนปลิวไปข้างหน้าชนใส่พวกเดียวกันจนล้มระเนระนาด
โครมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!
ฉันรีบวิ่งฝ่าไป เมื่อเห็นว่าหยุดฉันไม่สำเร็จ หัวหน้าจึงเปลี่ยนคำสั่ง
"อนุญาตให้ยิงกับฟันขาได้!"
ด้านหน้าพวกทหารถึงกับเหยียบเพื่อนที่ล้มอยู่เพื่อเข้ามาขวางทางฉันไว้เป็นกำแพงมนุษย์
ส่วนด้านข้างกับด้านหลังก็ยิงธนูกับร่ายเวทใส่ขาฉันหลังสิ้นเสียงคำสั่งแทบจะในทันที
มีพลดาบตามเข้ามาหลังจากนั้น พวกเขาคิดจะฟันขาให้ขาดอย่างไม่ลังเล
ที่ผ่านมาฉันใจดีเกินไปสินะ
"อย่ามาขวาง-"
ฉันยกเท้าขึ้น ใส่เต็มพลังครั้งแรก กระทืบลงไปบนพื้น
"-ทางฉัน!"
ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!
เสียงดังกึกก้อง ฝุ่นควันพุ่งสูง แผ่นดินยุบตัว รอยแตกร้าวกระจายไปรอบทิศ จากนั้นแผ่นดินก็ยกตัวขึ้นทำพวกมันเกือบทั้งกองพันล้มหกคะเมนตีลังกา
ฉันอาศัยช่วงที่มันชุลมุนวิ่งฝ่าไปและใส่แรงมากขึ้นในแต่ละหมัด คนที่ยังขวางจึงโดนอัดตัวปลิว
ไม่มีทหารตัวไหนหยุดฉันได้ จนฉันหลุดเข้าเมืองชั้นนอกไป
ประชาชนอพยพไปหมดแล้ว ในเมืองชั้นนอกจึงมีแค่ทหารคอยตรวจตราว่ายังมีใครหลงเหลืออยู่
พวกนี้คงยังไม่รู้คำสั่งจับตัวฉัน ถึงได้เข้ามาบอกว่าถ้าเป็นประชาชนให้รีบอพยพไป
ฉันจึงได้โอกาสถามทางไปกิลด์ [เวทกังวาน]
พอรู้ทางจึงใช้เวลาไม่นานก็ถึง
พวกทหารจะไล่ตามมาก็จริง แต่โดนฉันทิ้งห่างมาไกล จึงมีเวลาเหลือเฟือให้พาพวกเธอหนี
เราอยู่อาณาจักรนี้ไม่ได้แล้ว
ที่กิลด์ฉันรีบเข้าไปคุยกับพนักงานคนนึง โดยแสดงตัวว่าเป็นคาลิก้าและมาเพื่อรับตัวพี่เทียร่ากับเอลด้า
ก็ไม่รู้ว่าพนักงานแน่ใจได้ไงว่าเป็นฉัน อาจจะเพราะหน้ากากไม้ของคุณลาสวินหรือท่านเลร่าบอกลักษณะของฉันให้ทุกคนรู้ล่ะมั้ง
"ถ้าเทียร่าล่ะก็เราวางเธอไว้ในห้องท่านเลร่าค่ะ แต่น้องสาวคุณ มีคนถือจดหมายมารายงานว่าพวกเขาถูกทำร้าย พอฟื้นขึ้นมาน้องสาวของคุณก็หายไปแล้ว"
"...เอ๊ะ?!!"
"เห็นเขาบอกว่าส่งอีกคนไปแจ้งคนในกิลด์แล้วนะคะ"
"..."
ฉันพูดอะไรไม่ออก ทำเพียงแค่ออกวิ่งกลับสลัมเป็นเส้นตรง ไม่ว่ากำแพง บ้านเรือน หรืออะไรก็ตามที่ขวางอยู่ ฉันพังมันทิ้งทุกอย่าง
แต่ตอนที่ต่อยกำแพงแล้ววิ่งเข้าไปในบ้านหลังนึง ฉันก็โดนอะไรสักอย่างสะกิดที่ขา
ตอนแรกคิดว่าเศษปูนเลยไม่สนใจ จนโดนอีกครั้ง
คราวนี้แรงกว่าครั้งแรก เหมือนถูกอะไรสักอย่างทิ่มเบาๆ ที่เท้า
แต่มองไปรอบตัวก็ไม่เห็นอะไร ฉันจึงไม่สนใจแล้ววิ่งต่อไป
แต่แล้ว
ฉัวะ!
"โอ๊ย!"
ฉันล้มลงหน้าคว่ำ ความเจ็บแล่นเข้าที่น่องขาด้านซ้าย พอหันไปดูก็เห็นมีดเล่มนึงปักคาอยู่ เลือดสีแดงสดไหลออกมาเป็นสาย
*****
โรจา หัวหน้าทีมนักชำแหละ สังกัดทีมรอง หน่วย 5 กิลด์ [เขี้ยวประกายแสง]
เหตุการณ์ก่อนคาลิก้าปะทะกับทหาร
ตอนที่ทหาร 1 กองพันมาถึงแนวหลัง พวกเขาก็ไล่ถามหานักผจญภัยสาวชื่อดาเนีย มีจุดเด่นคือสวมหน้ากากไม้กับผมสีทอง
ดูแล้วคงต้องการจับตัวมากกว่าเชิญไปช่วยสู้
ผมไม่สนใจแล้วถอยหลบออกมาเงียบๆ
จนดาเนียมาถึงแล้วเปิดศึกซัดกันเละ แต่พวกทหารเละอยู่ฝ่ายเดียว
ดาเนียที่ว่ามีผมสีทองและแต่งชุดคล้ายกับที่ไอเด็กแก๊งนั่นบอก
ด้วยความสงสัย ผมจึงใช้สกิลลอบเร้นแล้วแอบตามมันไป จนถึงกิลด์ [เวทกังวาน]
แล้วมันก็เปิดปากพูดออกมาเองว่ามันคือคาลิก้า
ดูเปลี่ยนไปราวกับคนละคน หรือมีดเล่มนั้นจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
ระหว่างที่ผมคิด มันก็พังทุกอย่างที่ขวางหน้ากลับสลัมเป็นเส้นตรง
สุดท้ายก็ต้องลองถามดู ผมวิ่งตามเส้นทางที่เธอพังไปดักหน้า
เมื่อเธอวิ่งผ่านผมก็ปาดมีดใส่ข้อเท้ามัน
"..."
ไม่มีแผลเลยสักนิด ทั้งที่เฉือนโดนเต็มๆ ซึ่งมันก็ทำหน้างงนิดหน่อย
คราวนี้เลยออกแรงหนักขึ้น ตามปกติควรจะแทงทะลุแทงเข้าไปในเท้าของมัน แต่มีดกลับเด้งออก
ถึงมันจะรู้สึกสับสน แต่เท้าที่ไร้บาดแผล ทำให้มันวิ่งต่อได้อย่างไม่สะทกสะท้าน
ผิวหนังจะหนาอะไรขนาดนั้น ใช่คนแน่เหรอ จะว่าใช้ไอเทมก็ไม่น่าใช่ ดูไม่มีของแบบนั้นสักชิ้น
หรือเป็นเพราะสกิล งั้นสกิลก็ต้องเจอกับสกิล
หลังเปิดใช้งานสกิลพิเศษ คราวนี้ไม่ต้องออกแรงเยอะปลายมีดก็กรีดเจาะทะลุผิวหนังเข้าไปอย่างง่ายดายจนมิดด้าม
มันกรีดร้องพร้อมกับล้มคุกเข่าลงไป
"เธอทำอะไรกับมีดเล่มนั้นคาลิก้า"
"...?!!"
มันไม่ตอบพลางมองไปรอบตัวอย่างสับสน พอไม่เห็นใครมันก็ดึงมีดออก รีบลุกขึ้นแล้วพยายามฟังเสียงกับสังเกตสิ่งรอบตัว
แต่กับผมที่มีสกิลลอบเร้น ทำแบบนั้นไปก็ไร้ประโยชน์
โห ผมทึ่งที่แผลมันรักษาตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งฮีลหรือกินยา เลือดหยุดไหลแทบจะทันทีที่ดึงมีดออก ปากแผลก็เริ่มสมานเข้าด้วยกันเอง
ผมหยิบมีดอีกเล่มออกมาพร้อมกับใช้สกิล อ้อมหลังไปแทงซ้ำเข้าที่แผลเดิมที่ใกล้ปิดสนิท
"โอ๊ยย! บ้าเอ๊ย!"
ผมกระโดดถอยหลังหลบหมัดที่ฟาดใส่วงกว้าง แล้วหยิบมีดเล่มใหม่ อ้อมเข้าประชิดด้านหลัง แล้วแทงใส่กลางหลังด้วยสกิล
"โอ๊ยยยยยยย!"
พอมันตั้งตัวจากความเจ็บที่กลางหลังได้ มันก็หันกลับมากระทืบเท้าใส่พื้น
ความเสียหายลามจากเท้ามันไปยันกำแพงบ้าน ไม่นานบ้านก็ถล่มลงมาทั้งหลัง
ผมที่รู้ถึงความสามารถของมันออกจากบ้านมานานแล้ว
"จะถามอีกที มีดที่แทงใส่หัวใจเธอตอนนั้น เธอทำอะไรกับมัน แล้วเธอรอดชีวิตมาได้ยังไง"
ตอนที่มันวิ่งหนีออกมา มันก็ชะงักกับคำถามผม ก่อนจะนึกออก
"?!!...โรจางั้นเหรอ"
แต่มันก็ยังไม่ยอมตอบคำถามที่ผมถาม มันกระชากมีดทั้งเล่มไปเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง ก่อนหันกลับไปคว้าซากบ้านขว้างใส่แบบสุ่มทิศทาง
ซากบ้านปลิวชนกระแทกทุกอย่างรอบด้านจนพังเสียหาย เกิดเสียงโครมครามไม่หยุด
จะว่าไปการโจมตีของมันก็คล้ายกับพวกมอนสเตอร์บ้าพลังจำพวกยักษ์ ออร์ค โอเกอร์ โทรล อะไรพวกนี้
มีดทำจากเขี้ยวโอเกอร์ก็จริง แต่มันแปรสภาพไปแล้ว แล้วมันดึงพลังออกมาได้ยัง หรือเป็นเพราะสกิลตื่น
สกิลจำพวกจำลองพลังหรือเลียนแบบพลังของสิ่งมีชีวิตตัวนั้นหรือเปล่า
ผมคิดอย่างไม่ทุกข์ร้อน เพราะอ้อมมาหลบอยู่ข้างหลังมันนานแล้ว ไม่ว่ามันจะหันไปทางไหนผมก็ขยับตัวไปอยู่ด้านหลังมันเสมอ
มันจึงผลาญพลังไปซะเปล่าๆ
ประสบการณ์ต่อสู้แทบไม่มี นังเด็กนี่ก็เหมือนพึ่งได้พลังมาไม่นาน
ตัดไฟแต่ต้นลมเลยดีมั้ย
ผมฉกมีดทั้งสองเล่มในกระเป๋ากางเกงของมันกลับมาได้อย่างง่ายดาย
เปิดสกิลแล้วแทงมีดใส่กลางหลังก่อนกดลากยาวลงมาตามกระดูกสันหลังเหมือนแล่เนื้อสัตว์
เสื้อผ้ากับเนื้อหนังส่วนหลังของมันฉีกขาดจนเห็นกระดูก เลือดสีแดงสดไหลทะลักพุ่งออกมา
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด!"