webnovel

ตอนที่ 37 กิน

โนนา นักผจญภัยเผ่าฮาร์ปีสังกัดสำนักงานดูแลนักผจญภัย แผนกตรวจสอบเฝ้าระวังและส่งข่าว รับคำสั่งโดยตรงจากโรเซ่นหรือเหนือกว่าขึ้นไปเท่านั้น

หนีไม่ทันแล้ว ฉันจึงใช้สกิล เกราะขนนก

เป็นสกิลที่มีข้อเสียตรงที่มันจะใช้ขนนกทั้งตัวมาห่อหุ้มเป็นชั้นๆ จนเหมือนไข่นกขนาดใหญ่

ถึงจะมีข้อเสียแต่ก็แลกกับพลังป้องกันที่สูงมาก สามารถทนไฟได้สบาย

ท่าฟองระเบิดเป็นท่าที่แรงมากหากใช้ในน้ำเพราะมันจะสร้างคลื่นใต้น้ำกระแทกไปมากับกำแพง

ถึงบนบกมันจะเบาลง แต่เมื่อเน้นจำนวน เกราะขนนกจึงกันแรงระเบิดได้ไม่กี่ระลอกก็พังทลายหลุดเป็นชิ้นๆ

ฉันโดนแรงลมร้อนที่เกิดจากการระเบิดซัดจนร่วงลงมา และนกที่ไร้ขนก็ไม่มีทางบินได้

ฉันรีบตั้งสติพลิกตัวเอาหัวลง เพื่อพ่นลมหายใจเพลิงชะลอการตก เมื่อความเร็วลดลงถึงพลิกตัวอีกครั้งเพื่อเอาเท้า ส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดลง

ตุ้บ!

"โอ๊ย!"

ถึงจะยังเจ็บ แต่ก็ดีกว่าตกลงมาตายหรือพิการ

ง้าวของฉันหล่นหายไปตั้งแต่ตอนสร้างเกราะ เพราะขนนกมันปกป้องแค่ฉัน ถ้าตั้งสติได้ดีกว่านี้คงเก็บเข้ามิติเก็บของไปแล้ว

ฉันรีบเปิดมิติเก็บของแล้วกวาดยารักษาออกมาดื่มกับราดขา แล้วรีบวิ่งหนีพวกมอนสเตอร์ชั้นสาม

กุ้งฟองระเบิดมีขนาดเท่าหมาโตเต็มวัย แต่พวกมันทั้งวิ่งและว่ายน้ำช้า เลยไม่ได้ไล่ตามฉัน ฟองระเบิดมันก็ไม่ยิงใส่คงเพราะอาจโดนพวกชั้นสาม

เผ่าฮาร์ปีอย่างฉันอาจจะไร้เทียมบนอากาศ แต่ถ้าต้องวิ่งหรือเดิน กรงเล็บเท้าใหญ่ๆ ของฉันมันไม่เหมาะ ยิ่งพื้นเป็นน้ำขังเพราะพวกปลาอ้วน เลยแทบทำความเร็วไม่ได้

ฉันจึงตัดสินใจหยิบดาบคู่จากมิติเก็บของออกมาถือไว้ แล้วพยายามฝืนวิ่งให้ห่างจากดันเจี้ยนมากเท่าที่ไหว

ตอนที่เข้าระยะโจมตีพวกปลาอ้วนฉันก็ยกดาบขึ้นมาตั้งท่ากัน แต่มันกลับไม่สนใจและพ่นน้ำต่อไป ฉันจึงตัดสินใจวิ่งผ่านมันไป

แต่พวกชั้นสามเนี่ยสิ วิ่งไล่มาไม่หยุด พื้นเปียกแฉะแบบนี้สำหรับพวกมันเหมือนได้บัฟให้วิ่งเร็วขึ้น

พอฉันเริ่มหอบและระยะของพวกมันก็ใกล้เข้ามาทุกที ฉันจึงหยุดวิ่งแล้วหันกลับไปเตรียมสู้กับพวกมัน

ถ้ามีแค่พวกชั้นสามแบบนี้พอไหวอยู่ รีบฆ่าก่อนตัวหลังกุ้งฟองระเบิดจะออกมาดีกว่า

ยิ่งเจ้าปลาอ้วนไม่สนใจฉันแบบนี้ก็ยิ่งสบาย

ตอนนั้นเองที่ฉันได้ยินเสียงอากาศแหวกอากาศของบางอย่างที่เร็วมากมาจากข้างหลัง เผ่าฮาร์ปีนั้นหูดีถ้าเกี่ยวข้องกับสายลม

ฉันกลิ้งตัวหลบและมองไปยังตัวการที่ทำเสียงนี้ ปรากฏว่ามันคือบอลน้ำของเจ้าปลาอ้วน

และพอมองไปรอบตัวอีกครั้ง ฉันก็รู้สึกถึงความสิ้นหวัง

ได้แต่โทษความโง่ของตัวเองในตอนที่ยังมีปีก แทนที่จะรีบไปรายงานท่านโรเซ่นเรื่องมีตัวสั่งการได้ทั้งชั้น

ฉันกับอยู่โจมตียื้อให้ได้นานที่สุด เพียงเพราะอยากให้ท่านโรเซ่นชมเชยและประทับใจในตัวฉัน

ท่ามกลางปลาอ้วนนับไม่ถ้วนรอบทิศทาง พวกมันหยุดพ่นน้ำแล้วเงยหน้ามองฉันด้วยดวงตาโหดเหี้ยม

พวกชั้นสามก็หยุดยืนมองดูฉันจากที่ไกลๆ

แสดงว่าพวกมันหลอกให้ฉันวิ่งมาตรงนี้ ตรงลานสังหารของพวกมัน

แล้วบอลน้ำก็ถูกยิงมาจากรอบทิศทาง

ฉันเค้นพลังทั้งหมดพ่นลมหายใจเพลิงออกไปรอบตัว

จะตายไม่ได้ ฉันยังไม่ได้สารภาพรักกับท่านโรเซ่นเลยนะ เร่งไฟขึ้นอีก พ่นให้คอพังไปเลย

แต่มันก็เปล่าประโยชน์ บอลที่เผาไม่ทันลูกนึงกระแทกเข้าที่ขาจนฉันตีลังกา ขาชี้ฟ้า หัวกระแทกพื้น

สมองตื้อจนเห็นภาพเบลอ เลือดไหลอาบใบหน้า พอส่ายหัวเรียกสติแล้วมองไปที่ขา ตอนนี้มันหักจนเห็นกระดูกสีขาวแทงออกมา

"กรี๊ดดดด...!"

ยังกรีดร้องไม่สุดเสียง ฉันก็โดนอีกลูกซัดเข้าใส่ใบหน้าจนกลิ้งไปอีกหลายตลบ

มันแรงซะจนหนังศีรษะเปิด ตาซ้ายบอด จมูกหัก ฟันกับคางหลุดจนลิ้นห้อย

พวกปลาอ้วนหยุดยิงแล้วกลับไปพ่นน้ำตามเดิม ปล่อยให้พวกชั้นสามวิ่งเข้ามาจัดการแทน

ฉันกวาดมือควานหาดาบรอบตัว เมื่อตั้งใจมองดีๆ จึงพบว่ามันกระเด็นไปอยู่ข้างปลาอ้วนตัวนึง ส่วนอีกเล่มก็หักจนใช้งานไม่ได้แล้ว

ฉันจึงเปิดมิติเก็บของเอายารักษาออกมาราดหัว ก่อนจะหยิบมีดที่เป็นอาวุธชิ้นสุดท้ายออกมาป้องกันตัวพลางคลานหนีพวกชั้นสามที่ใกล้เข้ามา

"อร่าเอร้าอราอร๊ะ!" (อย่าเข้ามานะ!)

*****

มอนสเตอร์ไม่เคยสนใจเสียงขอร้องของอีกฝ่าย

พวกมันใช้โล่รุมทุบตีโนนาจนกระดูกหักไปทั่วร่าง ก่อนแย่งกันฉีกร่างเธอทั้งเป็น

หลังโนนาตายมิติเก็บของส่วนตัวจึงถูกยกเลิก ไอเทมของเธอล้นทะลักออกมากองบนพื้น

ในนั้นมีทั้งโพชันยารักษาแบบต่างๆ เนื้อตากแห้ง ขนมหวาน เครื่องสำอาง กระจก เงิน ชุดสวมใส่ ภาชนะใส่อาหารและอุปกรณ์จิปาถะต่างๆ

พวกมันไม่สนใจแล้วกลับไปทำหน้าที่ปกป้องกุ้งฟองระเบิดตามคำสั่งของบอสมอนสเตอร์เฝ้าแกนดันเจี้ยน

แต่มีอยู่ตัวนึงตัดสินใจกินทุกชิ้นส่วนของโนนาเข้าไปจนหมด

หลังกินเสร็จมันก็จะกลับไปทำตามคำสั่ง แต่แล้วมันก็เจ็บปวดไปทั่วร่าง นอนดิ้นทุรนทุรายไปมาบนพื้น

ร่างกายเริ่มเดือดปุดๆ ผิวหนังยุบเข้ายุบออก กระดูกส่งเสียงหักไม่หยุด ก่อนที่ร่างกายทั้งหมดจะยุบเข้าหากันแล้วเริ่มสร้างใหม่

ใช้เวลาสักพัก มันก็วิวัฒนาการเป็นอสูรแรกเกิดได้สำเร็จ

ร่างปลาของมันหายไปเปลี่ยนไปเป็นมนุษย์ปลาตัวผอมแห้ง หน้าตาอัปลักษณ์ ทั่วร่างปกคลุมด้วยเกล็ดปลาที่ยังไม่แข็งมากนัก

มันทรุดหอบหายใจอยู่สักพัก ก่อนจะพูดออกมา

"ขะ... ข้า... การ... ต้อง... ต้อง... การ... อีก... ต้อง... กิน... อีก... เยอะ ๆ"

ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างออกมาเผยให้เห็นฟันแหลมคมเต็มปาก เพราะเสียงคำสั่งของบอสเฝ้าแกนดันเจี้ยนในหัวของมันหายไปแล้ว

แทนที่ด้วยเสียงที่บอกให้มันกินเพื่อวิวัฒนาการไปขั้นถัดไป

*****

กำแพงนอกเมือง เขตสลัม

ทหารหมื่นกว่านายกำลังวิ่งล้อมกำแพงนอกเมืองเขตสลัมเป็นรูปครึ่งวงกลม

"จัดแถว! ตรงนั้นทำอะไรอยู่! รีบวิ่งไปจัดแถว!"

แนวหน้าของพวกเขามีพลโล่ยืนตั้งแถวเรียงชิดติดกันกว่า 5 แถว โดยมีพลหอกยาวอีก 3 แถว ประกบอยู่ด้านหลัง

ตามด้วยพลธนู 6 แถว พลดาบโล่ 30 แถว ทหารนักเวทเกือบ 1 แถว กระจายไปตามจุดสำคัญ ท้ายสุดคือทหารม้าอีก 5 แถว

และด้านหน้าพลโล่มีทหารอีกชุดกำลังขุดและปักแท่งเหล็กลงไป

"ปักให้เสร็จใน 10 นาที! ใครช้าจะทิ้งไว้ตรงนี้!"

เหล็กที่ปักลงไปเป็นเหล็กปลายแหลมสูงเท่าเอวผู้ใหญ่ ตัวเหล็กเชื่อมแท่งเหล็กแหลมสั้นทำมุมเฉียงติดเอาไว้รอบแท่งเพื่อเพิ่มความเสียหาย

โดยปักสลับฟันปลาเว้นระยะห่างกัน ซึ่งทำการปักตั้งแต่กำแพงเมืองมาจนเกือบถึงพลโล่

"ขุดให้ไว! ใครไม่มีพลั่วก็ใช้มือซะ!"

และห่างไม่ไกลจากพลโล่ ก็มีคำสั่งให้ทหารช่วยกันขุดหลุมกว้างเพื่อชะลอหรือหยุดพวกมัน

"ให้ไวเลย! ให้ไว! มีแรงกันแค่นี้เหรอวะ! รีบยกรีบผูกเร็วเข้า! จะรอมันมาแดกหัวถึงจะทำเสร็จกันเหรอวะ!"

สุดท้ายคือตรงหน้าพลโล่ มีกองทหารม้าช่วยกันลากท่อนซุงมาวางกองไว้ตรงหน้า ก่อนจะให้ทหารทหารราบช่วยกันใช้เชือกมัดไขว้ติดกันเพื่อทำเป็นสิ่งกีดขวางอีกชั้นนึง

*****

บนกำแพงเมือง เขตสลัม

ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! ตึง!

"ประจำตำแหน่ง! ประจำตำแหน่ง! นี่ไม่ใช่การฝึกซ้อม! ประจำตำแหน่งแล้วเตรียมสู้ทันที!"

เสียงตะโกนสั่งการ พร้อมกับเสียงตีกลองดังขึ้นไม่หยุด

ทหารจำนวนมากวิ่งมาจากคนละฝั่งของกำแพงเพื่อมาบรรจบกันตรงกลาง

โดยแถวแรกสุดเป็นพลหอกที่ถูกสั่งให้นั่งลงกับพื้นเพื่อไม่ให้ขวางทางลูกธนู ตามด้วยพลธนู 5 แถวยืนสลับฟันปลา

หลังพลธนูมีทหารนักเวทตามจุด แล้วปิดท้ายด้วยพลดาบอีก 2 แถว

"เตรียม!"

เพราะเห็นสถานการณ์ด้านล่างที่ฝูงมอนสเตอร์จำนวนมหาศาลกำลังรุกคืบไปทางเมือง

ผู้บัญชาการก็รีบสั่งในทันที ทั้งที่พึ่งตั้งแถวเสร็จและทหารยังไม่หยุดหอบจากอาการเหนื่อย

"ยิง!"

พลธนูยิงออกไปตามลำดับแถวเพื่อหวังผลการฆ่าต่อเนื่อง

ลูกธนูจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งติดๆ กันขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนตกลงไปในสลัมเหมือนสายฝน

*****

ฝูงมอนสเตอร์จากชั้น 3 5 กับ 6 รวมตัวกันเกินครึ่งพันแล้วเข้าทำลายทุกสิ่งที่เห็น

ไม่ว่าจะบ้านเรือนหรือคนสลัมที่แอบซ่อนตัว

มอนสเตอร์จากชั้นหก เป็นปลาสี่แขนไม่มีขา ถือดาบทั้งสี่มือ พวกมันว่ายสไลด์ตัวไปมาบนพื้นได้อย่างรวดเร็วเพราะปลาอ้วนปล่อยน้ำจนเริ่มสูงเกือบถึงเอว ยิ่งหิมะตกไม่หยุดพวกปลาอ้วนมันก็ยิ่งมีทรัพยากรสร้างน้ำได้ไม่รู้จบ

และเพราะกุ้งฟองระเบิดเคลื่อนที่ช้ามันจึงเกาะหลังพวกปลาจากชั้นหก และคอยปล่อยฟองระเบิดขึ้นไปบนอากาศ เมื่อฝนธนูกระทบถูกมันก็ระเบิดอย่างต่อเนื่อง สร้างแรงลมมหาศาลพัดพวกทหารบนกำแพงเมืองที่ตั้งตัวไม่ทันปลิวกระเด็นหล่นลงไปจากกำแพง

บางคนโชคดีที่มีจอมเวทใช้ช่วยดึงกลับมาหรือชะลอการตก แต่พวกที่โชคร้ายร่วงลงไปกระแทกพื้นด้านล่างเสียชีวิตในทันที

แต่เพราะการยิงต่อเนื่องของพลธนู หลังฟองระเบิดหมด ธนูก็เข้าโจมตีฟองที่พึ่งปล่อยออกมาและยังไม่ทันลอยไปไหน

พวกมันจึงโดนระเบิดของตัวเองฉีกร่างกายเป็นชิ้นๆ อวัยวะกับเลือดสีแดงสดสาดกระจายไปทั่ว

ฝูงมอนสเตอร์ฝั่งทหารที่อยู่ในระยะยิงธนูบนกำแพงระลอกนี้จึงยังไปไม่ถึงแนวหน้าสลัม แต่ช่วงที่บนกำแพงหยุดยิงพวกปลาอ้วนที่ซ่อนตัวอยู่ตามซากบ้านก็เริ่มเคลื่อนไหว

พวกมันเริ่มซ่อนตัวและแอบปล่อยน้ำออกมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ทหารเริ่มวางกำลังบนกำแพง

แต่ตอนนี้มันได้รับคำสั่งให้กลิ้งไปจนถึงพื้นที่ที่น้ำยังไปไม่ถึงแล้วพ่นน้ำออกมาอีกครั้ง

ผู้บัญชาการจึงสั่งยิงอีกครั้ง ด้วยจำนวนลูกธนูมหาศาล พวกมันจึงโดนยิงจนพรุน

หลังจากพวกปลาอ้วนตายมันก็เริ่มพองตัว ก่อนระเบิดออกมาเป็นน้ำจำนวนมหาศาลเพิ่มพื้นที่ให้ฝ่ายมัน

เมื่อไม่เห็นมอนสเตอร์ในระยะยิงอีก คำสั่งจึงเปลี่ยนเป็นเฝ้าระวังและเติมอาวุธ

"หยุดยิง! ทำการเติมลูกธนู!"

"เติมลูกธนู!" "เติมลูกธนู!" "เติมลูกธนู!" "เติมลูกธนู!"

หลังส่งคำสั่งไปถึงหน่วยคลังอาวุธบนภาคพื้นดิน พวกเขาก็ส่งลังใส่ลูกธนูขึ้นไปเป็นทอดๆ

ระหว่างหยุดพักหายใจกัน โดยที่ไม่มีใครรู้ มอนสเตอร์จากชั้น 7 ได้ออกมานานแล้ว

เป็นมอนสเตอร์ปลาดาวที่มีความสามารถในการกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมและพวกมันกำลังคลานกระจายตัวไปตามแนวกำแพงของฝั่งทหารฝั่งเดียว

*****

แนวหน้าสลัม ฝั่งทหาร

ทหารกับนักผจญภัยแบ่งกันปกป้องคนละครึ่ง ทหารรับผิดชอบทางซ้ายเพราะติดกำแพงกับประตูเมือง

ส่วนนักผจญภัยรับผิดชอบทางด้านขวาก็ได้ประโยชน์จากสำนักงานในตัวเมืองที่สามารถซัพพอร์ตพวกเขาได้เร็วขึ้น

ฝ่ายทหารมีอัศวินเป็นผู้บัญชาการ เขานั่งฟังรายงานอยู่ในเต็นท์ที่สั่งให้สร้างเป็นฐานบัญชาการรบชั่วคราว

ข้อมูลมาจากทั้งภาคพื้นและบนกำแพง

คำสั่งแรกคือให้ทหารไล่ต้อนทาสกับคนสลัมไปที่แนวหน้าสุด โดยไม่ให้อาวุธแม้แต่ชิ้นเดียว พวกเขาจึงทำได้แค่หาอาวุธที่เจอตามบ้านมาถือไว้

ดีหน่อยก็เจอดาบไม่ก็มีด แต่ที่เลวร้ายก็ถือแค่ท่อนไม้หรือแผ่นไม้ใช้แทนโล่

พวกทาสกับคนสลัมถูกบังคับให้เดินหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ โดยมีกำแพงหอกไล่ต้อนอยู่ข้างหลัง ใครที่ช้าหรือล้มลงจะถูกแทงจนตาย

และไม่ว่าเจอใครระหว่างทาง หากเป็นทาสหรือคนสลัมจะบาดเจ็บยังไงก็ไม่สน พวกเขาจะบังคับให้เดินไปข้างหน้า

แต่ถ้าเป็นนักผจญภัย หากสาหัสจะรักษาให้เบื้องต้นแล้วส่งไปฝั่งนักผจญภัย

เมื่อดูภาพรวมแล้วกับรายงานแล้ว อัศวินจึงสั่งให้เร่งเดินทัพไปให้ถึงปากทางเข้าดันเจี้ยนก่อนพวกนักผจญภัย

ตอนที่มีรายงานเข้ามาว่ามีพื้นที่น้ำขังตรงหน้า เพราะบ้านเรือนแออัด ขยะก็รก มันเลยอุดตันจนน้ำระบายลงคลองไม่ได้

เลยสั่งเดินข้ามไปเลย ไม่ต้องเสียเวลาเคลียร์เส้นทาง

ตามแผนการ หลังจากกองทัพไปถึงปากทางเข้าดันเจี้ยน จะทำการเข้าปิดล้อมแล้วระดมยิงถล่มเข้าไปไม่หยุดเพื่อลดการสูญเสียของฝั่งเราและจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุด

ส่วนเรื่องจัดการกับบอสชั้นสุดท้ายอาจต้องร่วมมือกับนักผจญภัย

แต่ยังไงหลังโค่นได้ เราก็ได้รับคำสั่งให้ปกป้องแกนดันเจี้ยนอยู่ดี แค่นี้ก็สร้างผลงานใหญ่ให้ตัวเองได้แล้ว

ไม่แน่ว่าจบศึกนี้ ราชาอาจยกระดับตระกูลขุนนางของเขาให้สูงขึ้นก็เป็นได้

Chương tiếp theo