webnovel

ตอนที่ 14 เอาตัวรอด

โรจา หัวหน้าทีมนักชำแหละ สังกัดทีมรอง หน่วย 5 กิลด์ [เขี้ยวประกายแสง]

ได้ข้อมูลแค่ว่าอาศัยอยู่ในสลัม

ขึ้นชื่อว่าสลัม ทางสำนักงานไม่มีวันเก็บข้อมูลเรื่องที่อยู่แน่นอน เพราะคนในสลัมอยู่กันไม่เป็นหลักแหล่ง วันนึงอยู่หลังนี้พออีกวันไปเจอบ้านที่ดีกว่าก็เปลี่ยนไปใช้หลังนั้นแทน

คนนี้อยู่กินกับคนนี้ พอผ่านไปหลายวันก็เลิกกันแล้วไปอยู่กับคนอื่น ไม่ก็หายตัวไปอย่างลึกลับแล้วมีคนอื่นมาอยู่แทน

ข้อมูลจากคนที่อยู่ในสลัมจึงมั่วเละเทะไปหมด เชื่อถืออะไรไม่ได้สักอย่าง

เผลอๆ สองพี่น้องนั่นอาจถูกจับไปขายหรือโดนใครซ้อมตายไปแล้วก็ได้

ผมกล่าวขอบคุณพนักงานก่อนเดินทางกลับกิลด์

ถ้าไม่พาคนไปเยอะสักครึ่งร้อย กลางคืนแบบนี้ไม่ควรเข้าไปในสลัม เสี่ยงโดนพวกออกล่าเหยื่อกลางคืนมันลอบเล่นงานเอา

ยังไงคืนนี้ท่านไจเกียก็สนแต่เรื่องมีดแน่นอน

แค่เด็กพิการกับเด็กอ่อนแอ พรุ่งนี้เช้าพาทีมไปจับมาก็ยังทัน

และเมื่อกับถึงกิลด์ก็เป็นไปตามคาด

ความกระหายเลือดและจิตสังหารสุดที่รุนแรงระดับครอบคลุมได้ทั้งกิลด์ มีแค่ท่านไจเกียคนเดียวที่ปล่อยออกมาได้

พวก [แรงค์ D] ถึงกับหยุดขยับเขยื้อน อึดอัดจนหายใจไม่ออก

แสดงว่าเกิดอะไรขึ้นกับมีดนั่นแน่นอน

ถ้าท่านไจเกียโกรธแล้วลงกับพวกต้นเหตุ แสดงว่ามีดอาจจะเสียหายไปบ้างแต่ยังคงอยู่

แต่ถ้ากลับมาพร้อมเลือดท่วมตัวขนาดนี้ แสดงว่ามีดเล่มนั้น หายไปแล้ว

ท่านไจเกียสั่งการให้ทีมหลักมุ่งหน้าไปดันเจี้ยนแห่งนั้น

ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะสั่งทีมหลักของท่านเองไปลงดันเจี้ยนที่ตายแล้ว

นอกเสียจาก เก็บกวาดพวกที่อาจเหลือรอด ซึ่งผมกล้าพนันเลยว่าไม่มี กับพวกที่บังเอิญผ่านมาเห็นเหตุการณ์

หลังจากสั่งเสร็จท่านไจเกียก็รีบร้อนออกจากกิลด์ไปทันที

คนเดียวที่หยุดไม่ให้ท่านฆ่าคนไม่เลือกหน้าได้ คือ คุณเรเชล

แต่จากความรีบร้อนที่เห็น วันนี้คุณเรเชลคงได้เกือบตายหลายรอบแน่ๆ

นึกย้อนถึงตอนที่ท่านไจเกียยังไม่พาคุณเรเชลเข้ากิลด์เลย

ตอนนั้นน่ะ งานเก็บกวาด ล้นมือเลยล่ะ

ได้แยกส่วนศพเพื่อให้ขนไปทิ้งในดันเจี้ยนง่ายๆ จนชำนาญและได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าทีมชำแหละในปัจจุบัน

ก่อนเช้ามืดวันถัดมา ผมพาคนในทีมรอง [แรงค์ C] กับ [แรงค์ D] รวมกันได้ประมาณ 30 คนมุ่งหน้าเข้าสลัม

ด้วยรถม้า

แต่รถม้าเราจอดทิ้งไว้หน้าสลัมแล้วให้สารถีเฝ้า

ในสลัมไม่มีแสงไฟจากอุปกรณ์เวทเหมือนในเมือง ผมจึงให้นักเวทแสงส่องทางให้

สลัมมีกฎของสลัม เป็นสิ่งที่ผมได้เรียนรู้มาสมัยเป็นเด็ก

สลัมเป็นแหล่งรวมพวกปรับตัวเก่ง ใครอ่อนแอก็เตรียมทิ้งชีวิตในสลัม

หากเข้าไปคนเดียวและดูไม่เก่ง คนในสลัมจะแห่กันมาต้อนรับ แบบที่ไม่มีวันได้กลับออกไปเป็นๆ อีกเลย

แต่ถ้าดูแล้วแข็งแกร่งหรือพาพวกมาเยอะ คนพวกนั้นจะซ่อนและหนีเก่งยิ่งกว่าหนูท่อเสียอีก

การต้องหาทีละบ้านในสลัมที่ทั้งแออัดและกว้างใหญ่เป็นงานที่หินพอตัว

วิธีที่ง่ายที่สุดคือใช้เงินซื้อข้อมูล แต่ผมเคยเห็นมาแล้วสมัยยังเป็นลูกทีมของหัวหน้าคนเก่า

บอกได้เลยว่าข้อมูลปลอมทั้งนั้น พวกมันจะบอกผิดทาง ให้ไปเจอกับอีกคน และอีกคนที่ว่านั้นก็จะทำทีว่ารู้และขายข้อมูลต่อ

และก็จะโดนพวกมันหลอกต่อกันไปเป็นทอดๆ จนกว่าจะหัวเสียยอมแพ้กลับไป

แต่ถ้าใช้กำลังบีบบังคับให้คายข้อมูลเมื่อไหร่ ขอให้มั่นใจว่าตัวเองมีอำนาจและแข็งแกร่งได้เท่ากับท่านไจเกีย

ไม่งั้นก็เตรียมตัวโดนเอาคืนในสักวันได้เลย

แต่ใช่ว่าบังคับแล้วจะได้ข้อมูลถูกต้อง เพราะพวกมันจะพยายามโกหกจนถึงที่สุด

ผมเลยสั่งให้ลูกทีมห้ามทำร้าย ยกเว้นจะโดนฝ่ายนั้นหาเรื่องก่อน

มีพวกขอทานอยากเข้ามารุมตอมขอเงินเหมือนแมลงวัน แต่เพราะลูกทีมชักอาวุธขู่ พวกมันจึงไม่กล้า

การให้เข้าใกล้อาจโดนพวกมือไวฉกของมีค่าไป เราจึงต้องสร้างระยะห่างกับพวกมัน

เป้าหมายของผมคือแหล่งน้ำแห่งเดียวที่มีอยู่ในสลัม คลองน้ำเสีย

กว่าน้ำจะไหลมาถึงสลัม มันก็เต็มไปด้วยขยะกับสิ่งปฏิกูลของเสียที่มนุษย์ขับถ่าย ตั้งแต่ราชวัง เมืองขุนนาง เมืองชั้นใน เมืองชั้นนอก พอถึงสลัม

น้ำจึงดำข้นคลั่กและส่งกลิ่นน่าสะอิดสะเอียนชวนอ้วก ทำเอาคนที่ไม่เคยชินสามารถอ้วกแตกสลบกลางอากาศได้เลย

ดังนั้นพวกเราจึงให้นักเวทในทีมใช้เวทชะล้างใส่ผ้าสะอาดแล้วปิดปากกับจมูกเอาไว้ตั้งแต่เดินเข้าใกล้คลองน้ำเสีย

เป้าหมายการถามข้อมูลของผมคือเด็ก แต่ใช่ว่าจะไว้ใจได้ทุกคน พวกมันเจ้าเล่ห์เพราะต้องเอาชีวิตรอดกันจนชิน

คำยอดฮิตของพวกคนในสลัม คือ พวกคนโง่สมควรโดนหลอกจนตาย

เด็กที่ผมมองหาคือเด็กจำพวกอ่อนแอ ไร้กำลังต่อสู้ ได้แต่หลบซ่อนและรอคอยเศษขยะของขยะอีกทีเพื่อประทังชีวิต

พอมาถึงคลองผมก็ให้ยิงเวทแสงขึ้นฟ้าแล้วรีบกวาดตามอง

มีทั้งเด็กยันคนแก่ บางคนตกใจวิ่งหนี บางคนก็ยืนแข็งค้างทำอะไรไม่ถูก บางคนก็สอดส่ายตามองชุดอุปกรณ์และอาวุธของพวกเราด้วยความโลภ

และผมก็เจอเป้าหมาย เด็กตัวสกปรกผมเผ้ารุงรังจนเห็นใบหน้าไม่ชัด ไม่แน่ใจว่าชายหรือหญิง แต่ดูอ่อนแอจนแม้แต่ถังไม้พังๆ ยังยกจนแขนสั่น

ผมพาทีมเดินเข้าใกล้ในระยะที่พุ่งไปจับได้ทันทีแล้วโบกมือส่งสัญญาณให้ทุกคนหยุดอยู่กับที่

ถ้าเผลอไปขู่แล้วเด็กนี่กลัวจนโดดหนีลงไปซ่อนในน้ำคลอง คงไม่มีใครกล้าลงไปงมจับหรือหามันแน่ๆ

ในขณะที่แสงยังสว่างอยู่ผมก็เดินเข้าหาอย่างสุภาพ ก่อนจะคุกเข่าถามสิ่งที่ต้องการอย่างเป็นมิตรและยิ้มแสดงความบริสุทธิ์ใจจอมปลอม

"หนูรู้จักบ้านตระกูลเนฮิวไหม"

"รู้จักดีเลยค่ะ"

แววตาดูแปลกใจที่ถาม แต่ไม่มีความกังวล ถึงจะเป็นเด็กผู้หญิงแต่ไม่น่าจะใช่เนฮิวที่เราตามหา

ผมหยิบเหรียญทองแดง 3 เหรียญมากำรอไว้ แสร้งทำเป็นถูเหรียญเล่นเพื่อให้รู้ว่ามีจำนวนเท่าไหร่

และเมื่อเห็นประกายตาความโลภที่จ้องเหรียญบนมือไม่หยุด ก็หมายความว่าถามข้อมูลได้ แต่เพื่อความชัวร์

"ตระกูลนั้นมีกี่คนเหรอ"

"3 ค่ะ เป็นผู้หญิงทั้งหมดเลย"

"แต่ละคนมีลักษณะยังไงอธิบายหน่อยได้มั้ย"

"คนโตเป็นคนพิการไร้ค่าที่ทำได้แต่นอนอยู่บนเตียง คนกลางได้ยินว่าเป็นแค่ [แรงค์ F] เลยไร้ค่าเหมือนพี่มันนั่นแหละ"

"แล้วคนสุดท้ายล่ะ"

"เด็กอ่อนแอที่ต้องการความช่วยเหลือให้หลุดพ้นจากพวกครอบครัวไร้ค่า นามนั้นคือ เอลด้า เนฮิว หรือก็คือ หนูเองค่ะ"

"ช่วยเลิกพูดเล่นด้วย"

"หนูคือเอลด้าจริงๆ นะคะ ช่วยพาหนูไปให้พ้นจากครอบครัวขยะไร้ค่าแบบนั้นทีเถอะค่ะ"

"2 เหรียญทองแดง"

"อึก... มะ ไม่เชื่อเหรอคะ"

"1 เหรียญทองแดง"

"ก็ได้! จะบอกทางให้"

เด็กนี่ยื่นมือออกมา ผมจึงโยนเหรียญ 1 ทองแดงให้ไป

"ตรงไปสุดทางจนถึงกำแพงเมืองเส้นนั้นแล้วเลี้ยวขวา เดินไปอีกประมาณ 17 หลัง จะเจอบ้านเล็กๆ ที่ทำจากไม้ผุๆ เอาเชือกมามัดต่อกัน"

"มีจุดสังเกตอื่นอีกไหม"

เด็กนี่ยื่นมือมาขอเพิ่ม ผมจึงโยนให้ไปอีก 1 เหรียญทองแดง

"หลังบ้านมีท่อระบายน้ำเก่าที่ไม่ใช่แล้ว"

แล้วเด็กนี่ก็เดินจากไปพร้อมกับถังน้ำ ผมจึงส่งสัญญาณให้สองคนสะกดรอยตามไปเผื่อไว้

แล้วพาพวกที่เหลือไปตามทางที่เด็กนั่นบอก

ถ้าข้อมูลปลอมค่อยทรมานแล้วฆ่าทิ้ง

ตอนนี้ต้องแข่งกับเวลาก่อนท่านไจเกียจะตื่น

ต่อให้คุณเรเชลถูกใช้ระบายความโกรธออกไปแล้ว แต่มีดก็ไม่ได้กลับมาอยู่ดี

เพราะงั้นใครที่ทำภารกิจพลาดช่วงนี้ ก็เตรียมรับโทสะท่านไจเกียกันได้เลย

ระหว่างทางผมกับลูกทีมก็สอดส่องหาเด็กผู้หญิงและจับพวกเธอมาสอบถาม

จับได้บ้างไม่ได้บ้างเพราะพวกมันไวอย่างกับหนู

สำหรับพวกที่วิ่งไม่ค่อยทัน ผมสั่งไม่ให้ตามไปคนเดียว เพราะมันมีพวกที่ส่งเด็กมาล่อให้ไปติดกับ

พวกที่อ่อนแอจนจับได้ทันก็เอามาเค้นถาม แต่ข้อมูลที่ได้กลับชี้มั่วซั่วไปคนละทาง

ในเมื่อไม่ได้ข้อมูลอะไร เลยจำต้องตรงไปตามทางที่เด็กนั่นบอก

พวกเราใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ กว่าจะถึง

ที่บ้านหลังนั้น ผมนำทีมเดินตรงไปหน้าประตูบ้าน แล้วยกเท้าถีบจนประตูพัง

"คุณ! โรจาาาาา! แฮ่ก ๆ ๆ"

จังหวะนั้นสองคนที่ส่งไปตามจับเด็ก ตะโกนเรียกผมทั้งที่หอบจนแทบพูดไม่ได้

"แกเป็นใครวะ!"

ผมหันกลับไปมองในบ้านอีกครั้ง ชายวัยกลางคนเนื้อตัวสกปรกตะคอกใส่ผมพร้อมกับเหวี่ยงหมัดเข้ามา

ไม่เด็กนั่นโกหกก็คงถูกไอนี่ยึดบ้าน

ผมยกเท้าถีบมันจนกระเด็นกลิ้งไปชนกับกำแพงบ้าน เพราะทำจากไม้เก่าๆ มันจึงพังอย่างง่ายดาย

"แกรู้จักพวกเด็กสกุลเนฮิวไหม"

ไม่ทันได้ตอบ คนที่ส่งไปจับเด็กรีบตะโกนบอกผมอีกครั้ง

"คุณโรจา! หยุดก่อนครับบบบบ!"

แต่เสียงตะโกนของสองคนนั้นมาช้าเกินไป

ที่ท่อระบายน้ำด้านหลัง มีกลุ่มขอทานสามสิบกว่าคนวิ่งกรูกันออกมา

แต่ละคนถืออาวุธเช่นเดียวกับนักผจญภัย ขัดกับภาพลักษณ์ขอทานของพวกมัน

แถมท่าทางการถืออาวุธก็ดูไม่ใช่มือใหม่

ทีมของผมจึงเตรียมพร้อมสู้ในทันที จำนวนแค่นี้ไม่มีปัญหา ยิ่งถ้าอีกครึ่งที่ส่งไปหาอีกบ้านตามมาสมทบด้วยแล้วก็ยิ่งง่าย

แต่ปัญหาคือไอพวกนี้มันเป็นกลุ่มของใคร

สองคนที่มารวมตัวแจ้งผมว่าหาเจ้าเด็กนั่นไม่เจอ แต่ระหว่างทางได้ยินเจ้าเด็กนั่นมันตะโกนว่าหนูผี

ผมจึงรู้ทันทีว่าที่นี่คือแหล่งกบดานของ กลุ่มโจรลักเด็ก [หนูผี]

กลุ่มที่ชอบจับเด็กไปขายให้พวกคนรวยอีกอาณาจักร ตอนแรกก็ลักคนในสลัม มีคนไปฟ้อง แต่สำนักงานไม่สนใจ จะหายหรือตายไปก็ดีทั้งนั้น

แต่เพราะพวกมันได้ใจเลยลามปามไปลักลูกของประชาชนในเมืองชั้นนอกไปขาย

พอมีภารกิจตามหาเด็กหายมากๆ เข้า เรื่องจึงไปถึงหูของพวกขุนนาง ตอนแรกยังมีทีท่าเฉยๆ

แต่พอเริ่มมีเด็กหายในเมืองชั้นในใกล้เขตขุนนางของพวกมัน

พวกมันจึงใช้อำนาจกดดันให้สำนักงานประกาศภารกิจกวาดล้าง

แต่เพราะกลุ่มโจรพวกนี้อาศัยสลัมเป็นที่ซ่อนตัวและเนียนอยู่ในคราบคนสลัม

ถึงจับได้ก็ได้แต่พวกปลายแถวที่ทำหน้าที่ลักเด็กหรือคุ้มกันบ้านที่ใช้ขังเด็ก พวกนี้ไม่รู้ที่ซ่อนจุดอื่น ไม่รู้จักรังหลัก ไม่รู้ช่องทางลักลอบเด็กออกจากเมืองหรือส่งไปขายที่ไหน

จึงปราบปรามกันไม่ได้จนถึงตอนนี้

ส่วนตอนนี้ จู่ๆ ประตูบ้านทุกหลังในเขตนี้ก็เปิดออก พวกที่ดูเหมือนขอทานแห่กันออกมาล้อมรอบพวกเราพร้อมอาวุธครบมือ

กะคร่าวๆ ก็เกินครึ่งร้อย พวกนี้ฝีมือดูอ่อนกว่าพวกที่ออกมาจากท่อน้ำเก่า แต่เน้นไปที่จำนวน

ถ้าให้เดาก็พวก [แรงค์ F] ไร้ค่า พวกนี้มันใช้ง่ายทำได้ทุกงานขอแค่โยนเศษเงินจ้างพวกมัน

Chương tiếp theo