บทที่ 46 เทียบความหล่อกับคุณไม่ได้เลยสักหนึ่งในหมื่นส่วน
เมื่อทานข้าวเช้าเรียบร้อย เยี่ยหวันหวั่นก็เดินเข้าไปที่ห้องเรียน
เมื่อมาถึงระยะห่างอีกสิบกว่าก้าวจะเดินไปถึงประตูห้องเรียน เยี่ยหวันหวั่นก็มองเห็นแต่ไกลๆ ว่ามีคนสองสามคนชะเง้อศีรษะมองออกมานอกหน้าต่าง
เมื่อเห็นว่าเป็นเธอแล้ว คนพวกนั้นเหมือนกับตกใจ รีบผลุบศีรษะเก็บลงไป ในห้องเรียนมีเสียงเจี๊ยวจ้าวดังขึ้นมาเป็นสาย
จากนั้นก็เงียบลงอย่างน่าประหลาด
เยี่ยหวันหวั่นยืนอยู่ห่างจากประตูห้องเรียนประมาณสามก้าว ฝีเท้าที่จะเดินไปข้างหน้าพลันหยุดชะงักลงทันที สายตาชำเลืองไปทางกรอบประตูด้านบนศีรษะที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร
ตอนที่เธอหยุดไม่เดินต่อนั้น ในห้องเรียนก็เงียบกริบไร้สุ่มเสียง ราวกับทุกคนกำลังเฝ้ารอฉากยิ่งใหญ่อะไรสักอย่าง
เมื่อวานเธอดวงซวยถูกจับฉลากชื่อได้งานที่สร้างความวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ คนพวกนั้นไม่เล่นงานเธอก็บ้าแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นไม่รีบร้อน ยังคงยืนนิ่งอยู่หน้าประตูต่อไป
ผ่านไปพักหนึ่ง ก็มีศีรษะของคนที่อดไม่ไหวโผล่ออกมามองจริงๆ ด้วย ก่อนจะรีบผลุบกลับเข้าไปอย่างระแวดระวัง
ไม่นาน เสียงออดเข้าเรียนก็ดังขึ้น
ด้านหลังมีเสียงอุทานตกใจของชายหนุ่มดังขึ้น “โอ๊ยแม่เจ้า! ตกใจหมดเลย! เยี่ยหวันหวั่น...เป็นเธอเหรอเนี่ย...”
จ้าวซิงโจวในมือถือหนังสือคณิตศาสตร์มาเล่มหนึ่ง ยกขึ้นทาบอก หน้าตาตกใจจ้องมองใบหน้าของเธอ ดูท่าทางเขาจะตกใจไม่เบาเลย “ใกล้เข้าเรียนแล้ว ทำไมยังยืนอยู่หน้าประตูไม่เข้าไปอีก?”
“ทบทวนเรื่องราวในชีวิตอยู่ค่ะ เชิญอาจารย์เข้าไปก่อนเลย” เยี่ยหวันหวั่นถอยหลังไปก้าวหนึ่งยอมให้เขาไปก่อน
จ้าวซิงโจวแสดงความพอใจมากกับท่าทีของเธอ “หึๆ สอบเลขได้ 0 คะแนน ตอนนี้รู้จักเสียใจแล้วสินะ?”
จ้าวซิงโจวพูดพลางยื่นมือไปผลักประตูห้องเรียน
วินาทีต่อมา ‘พรวด’ น้ำถังใหญ่เทราดจากศีรษะของจ้าวซิงโจวราดลงมา ครู่เดียวทำเขาตัวเปียกเป็นลูกนกตกน้ำ
จ้าวซิงโจวตะลึงไปวินาทีหนึ่ง ก่อนจะระเบิดโมโหขึ้นมา “ฉัน...++! ฉันเพิ่งไปทำผมมาเมื่อเช้านี้! เด็กเปรตที่ไหน ไสหัวออกมาให้ฉันดูเดี๋ยวนี้!”
ในห้องเรียนมีเสียงโห่ร้องอย่างผิดหวังดังขึ้นก่อนหน้า ตามมาด้วยสีหน้าตื่นตระหนกของคนจำนวนไม่น้อย
เฮ้ย! ทำไมคนที่ผลักประตูเข้ามาถึงเป็นอาจารย์เลข? ซวยแล้ว?
นักเรียนห้อง F ทุกคนต่างรู้ว่าล่วงเกินอาจารย์ประจำชั้นได้ แต่อย่าได้ล่วงเกินอาจารย์เลขที่เห็นเขามีรอยยิ้มพูดด้วยง่ายท่านนี้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะถูกทรมานเหมือนตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!
จ้าวซิงโจวลูบน้ำที่ใบหน้าของตัวเอง ยิ้มเย็นชา “จะไม่ยอมออกมาใช่ไหม? ถ้ารอให้ฉันเจอตัวเอง แบบนั้นจะพูดจากันดีๆ แบบนี้ไม่ได้แล้วนะ!”
ผ่านไปนาน ในที่สุดก็มีนักเรียนหญิงสามคนและนักเรียนชายหนึ่งคนลุกขึ้นยืนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว
“พวกเธอสี่คนตามอาจารย์ไปที่ห้องทำงานเดี๋ยวนี้!”
เมื่อเดินผ่านเยี่ยหวันหวั่น จ้าวซิงโจวจ้องเธออยู่หลายวินาที ด้วยแววตาคับข้องใจ
เยี่ยหวันหวั่นกระพริบตาปริบๆ ทำหน้าตาบริสุทธิ์ไร้เดียงสา
หลังจากจ้าวซิงโจวพาพวกนักเรียนที่ก่อเรื่องออกไปแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็เดินตรงเข้าไปหย่อนก้นนั่งลงที่ตำแหน่งด้านข้างกับซือเซี่ย ภายใต้สายตาโกรธเคืองของบรรดานักเรียนหญิงที่อิจฉาเธอ
น่าจะเป็นเพราะหลังเลิกเรียนต้องไปซ้อมการแสดง วันนี้ซือเซี่ยจึงแต่งกายด้วยชุดสไตล์อังกฤษ พื้นเป็นสีขาวบริสุทธิ์ ด้านข้างปักด้ายลิ่มทอง ติดกระดุมคอเสื้อสไตล์นักบวชมาถึงเม็ดสุดท้ายที่ต้นคอ ค่อนข้างสอดคล้องกับบทเจ้าชายที่เขาต้องแสดง
โดยเฉพาะบุคลิกสูงศักดิ์ที่ติดตัวมาแต่กำเนิด และการแสดงออกที่เย่อหยิ่งสูงส่งของเขา
เพียงแต่ก็น่าแปลก เพราะเขาเป็นหลานชายคนเดียวของตระกูลเยี่ย มีคนรักคนเอาใจเป็นหมื่นเป็นพัน ไม่มีใครจะมาอยู่ในสายตาของเขาได้เลยเหรอ
แน่นอนว่าไม่รวมถึงเยี่ยหวันหวั่น
แทบจะทุกวินาทีที่เขาได้เห็นเยี่ยหวันหวั่น ใบหน้าโดดเด่นแพรวพราวของชายหนุ่มจะถอดสีลงมา
เยี่ยหวันหวั่นไม่ทันได้สังเกตอาการตกใจของเพื่อนร่วมโต๊ะ เธออาศัยโอกาสที่อาจารย์ไม่อยู่ หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วเริ่มพิมพ์ข้อความส่งให้ซือเยี่ยหาน เธอจะต้องชิงลงมือก่อนที่เฉินเมิ่งฉีจะลงมือ
ซือเซี่ยกว่าจะข่มอารมณ์ตกใจจากเมื่อครู่ให้ผ่อนคลายลงได้ ได้เห็นว่าเยี่ยหวันหวั่นไม่รู้ว่ากำลังส่งข้อความหาใคร แต่ก็บังเอิญมองเห็นเนื้อหาของข้อความที่เธอพิมพ์อย่างชัดเจน...
[ที่รักคะ ช่วงนี้ทางโรงเรียนจัดการแสดงศิลปะ ทุกห้องต้องทำการแสดงหนึ่งรายการ ฉันถูกจับฉลากชื่อให้แสดงเป็นเจ้าหญิงสโนไวท์ อิๆ เก่งไหมล่ะ~ แต่น่าเสียดาย เจ้าชายที่เล่นคู่กับฉันหน้าตาขี้เหร่มากเลย เทียบความหล่อกับคุณไม่ได้เลยสักหนึ่งในหมื่นส่วน~]
……….…………………………………………………………..