ตอนที่ 86 ยั่วผึ้งหยอกผีเสื้อ!
“พี่มู่หรง? ท่านมาทำอะไรตรงนี้เจ้าคะ?”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงด้านหลัง เขาก็ได้สติกลับมา และหันมองไปทางต้นเสียงตามสัญชาตญาณ “ชิงเกอ? เจ้ามาได้ยังไงกัน?”
สิ้นสุดเสียง ราวกับนึกอะไรขึ้นได้ จึงหันมองไปที่ต้นดอกท้อต้นนั้น
ไม่เห็นสาวน้อยภูตพรายผู้นั้นเสียแล้ว ราวกับก่อนหน้านี้เป็นเพียงภาพลวงตา เห็นกลีบดอกไม้โดนสายลมอ่อนพัดร่วงโรยราเช่นฝนดอกไม้ชวนมอง ทว่าในใจกลับมีความอ้างว้างที่ไม่อาจอธิบายได้อยู่เลือนราง...
“ท่านยังมีหน้ามาพูดอีก! เดิมข้าอยากดีดพิณให้ท่านฟัง ใครจะรู้ว่าท่านกลับวิ่งมาชมดอกไม้ตรงนี้เสียแล้ว” นางมองตามสายตาเขาไป ก็เห็นเพียงกลีบดอกไม้ที่ร่วงหล่นตามสายลมโปรยปรายลงพื้น
“ดอกท้อตรงนี้แดงขาวตัดสลับกันน่ามองยิ่งนัก ไม่ทันรู้ตัวก็มองจนเคลิ้มเสียแล้ว” เขากล่าวอย่างอบอุ่น บนใบหน้ามีรอยยิ้มจางๆ ดูใจลอยเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด
เฟิ่งชิงเกอที่กำลังจะพูดว่าดอกท้อโดยรอบนี้ล้วนเหมือนๆ กัน พลันขยับทำท่าทาง เอ่ยถาม “ท่านพี่มู่หรง ท่านได้กลิ่นหอมอะไรหรือไม่เจ้าคะ?”
“กลิ่นหอมรึ? ในอากาศล้วนมีแต่กลิ่นหอมดอกท้อ”
“ไม่ใช่นะเจ้าคะ” นางส่ายหัว “เหมือนยังมีอีกกลิ่นหนึ่งเจ้าค่ะ”
ขณะกำลังพูด พลันได้ยินเสียงหึ่งๆ ดังลอยมา นางหันมองไปตามเสียง เห็นเพียงฝูงผึ้งผืนใหญ่ดำตะคุ่มๆ อยู่ไม่ไกลกำลังบินมาด้านนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปทันใด จึงส่งเสียงอุทานอย่างอดไว้ไม่ได้
“ผึ้ง!”
ขณะที่มู่หรงอี้เซวียนเห็นผึ้งฝูงใหญ่นั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปน้อยๆ ไม่นานนักจึงดึงมือนางวิ่งหนี ผึ้งนับพันนับหมื่นตัวพุ่งเข้ามา และไม่ใช่ว่าแขนสองคู่ของพวกเขาจะไล่พวกมันออกไปได้
ทว่า ถึงแม้ที่นี่จะมีผึ้งมารวมกันเก็บน้ำหวาน เพียงครู่เดียวก็ไม่ควรมีผึ้งโผล่พุ่งมาหาพวกเขาตั้งมากมายขนาดนี้!
“กรี๊ด!”
เฟิ่งชิงเกอกรีดร้องเจ็บปวด เพียงรู้สึกว่ามือถูกต่อยไปทีหนึ่ง ต่อจากนั้น ผึ้งสิบกว่าตัวก็ถาโถมเข้าหาร่าง นางตกใจเสียจนต้องตบลงบนร่างตัวเองในทันที
“ไปให้พ้นนะ! รีบไปให้พ้นๆ!”
คาดไม่ถึงว่าจะเห็นพวกผึ้งที่ล้อมเข้ามารุมต่อยนางเพียงคนเดียว มู่หรงอี้เซวียนนิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะเร่งรีบถอดเสื้อคลุมมาห่อตัวนาง แต่ไม่ทันได้แตะตัว ก็ได้ยินเสียงกรีดร้อง พลันนางตบลงบนร่างตัวเอง แล้ววิ่งออกไปหลายก้าวเพื่อหลบหนีผึ้งพวกนั้นที่ไล่ตามมา
“พี่มู่หรง! ท่านพี่มู่หรงมีผึ้งหลายตัวต่อยข้าเจ้าค่ะ กรี๊ด!”
นางตะโกนพลางวิ่ง ส่วนผึ้งพวกนั้นก็ตามหลังไปติดๆ โดยเฉพาะเมื่อวิ่งพรวดผ่านตรงด้านหน้าที่มีนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ นักท่องเที่ยวต่างตื่นตกใจ กุมหัวลงหมอบส่งเสียงกรีดร้อง กลับพบว่าผึ้งพวกนั้นไล่ตามแค่เฟิ่งชิงเกอคนเดียว
“นางไปโดนของอะไรเข้าหรือไม่? ไยจึงดึงดูดผึ้งมามากมายขนาดนี้ได้?”
“เมื่อครู่ที่นางวิ่งผ่านมาตรงนี้ บนตัวมีกลิ่นหอม อาจจะประโคมผงหอมมากเกินไปกระมัง”
“ถูกผึ้งตอมมากมายขนาดนั้น เดาว่าใบหน้าคงได้บวมเหมือนหัวหมูแน่”
นักท่องเที่ยวรอบๆ ไม่ว่าชายหรือหญิงต่างนิ่งดูดายมองเฟิ่งชิงเกอวิ่งไปทั่วป่าต้นท้อ ผู้หญิงบางพวกยังมองนางด้วยสายตาที่ขำขันในความโชคร้ายนี้
ผู้คนมองฝูงผึ้งด้านหลังที่ไล่ตามอยู่ไม่ลดละ พวกมันบินไปต่อยหน้าอย่างรวดเร็วในชั่วขณะ นำมาซึ่งเสียงกรีดร้องของนาง เมื่อนึกถึงความรู้สึกเจ็บปวดบนร่างตัวเอง ร่างกายก็ตึงเกร็งขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“กรี๊ด! พี่มู่หรง...พี่มู่หรงช่วยข้าด้วย...”
ทว่ามู่หรงอี้เซวียนในตอนนี้ก็ตกตะลึงเล็กน้อยเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ในตอนแรกจึงยังทำอะไรไม่ถูก
พอนึกขึ้นได้ว่าผึ้งกลัวไฟ ระหว่างที่เร่งรีบหยิบกระบอกจุดไฟออกมากะจะใช้ไฟไล่ กลับเห็นนางกรีดร้องพลางวิ่งออกไปไกลร้อยเมตร ก่อนจะโดดตู้มลงในสระน้ำที่ไว้สาดรดต้นท้อ...
…………………………………………………….