ขัตติยะรู้สึกปวดหัวมากเป็นพิเศษ ปวดหัวเหมือนจะระเบิด ไม่สามารถคิดอะไรได้นอกจากนอนกุมขมับอยู่บนเตียงแข็ง
เตียงแข็ง?
เขาจำไม่เห็นได้ว่าตัวเองเคยซื้อเตียงแข็งมาด้วย เตียงที่บ้านเขานุ่มแบบนอนแล้วจมหายไปทั้งตัวได้ด้วยซ้ำ
งั้นนี้เตียงใครกัน?
ขัตติยะพยายามคิด แต่ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว
เนื่องจากว่านอนอยู่บนเตียงอยู่แล้ว เขาปล่อยความระวังตัวลงชั่วคราว การปวดหัวมากขนาดนี้เขาคิดอย่างมีสติไม่ได้นัก นอกจากการบังคับตัวเองให้หลับเพื่อไม่ให้รู้สึกเจ็บปวดอีก
ไม่รู้ว่าขัตติยะหลับไปนานแค่ไหน เมื่อเขารู้สึกตัวอีกครั้งอาการปวดหัวที่น่ารำคาญก็หายไป แต่กลับมีความสับสนยิ่งกว่าอาการปวดหัวของเขาเสียอีก
ขัตติยะยังไม่ลืมตาแต่ยกมือขึ้นลูบหน้าเพื่อบรรเทาอาการสับสนของตัวเอง นึกถึงความทรงจำสุดท้ายก่อนที่เขาจะหลับไปด้วยความปวดหัว
เขาจำได้ว่าตอนไปเที่ยวในฟาร์มกับพี่สาวแล้วออกมาเดินย่อยอาหารในตอนกลางคืนก็ถูกใครไม่รู้เอาบางอย่างแทงทะลุอกแล้วตรึงไว้กับต้นไม้ ก่อนที่จะหันไปดูหน้าคนร้าย สติก็ดับวูบไป
รู้สึกตัวอีกครั้งก็อยู่บนเตียงแข็งแล้วมีอาการปวดหัวมากจนแทบเสียสติ จึงบังคับตัวเองให้หลับไป...
เอ่อ...
ไม่ใช่ว่าเขาตายไปแล้ว?
หรือถูกช่วยไว้ทันแล้วพามาโรงพยาบาลนะ?
ขัตติยะลืมตาขึ้นแล้วมองไปรอบๆ ห้องที่ค่อนข้างมืด มันดูไม่ใช่ห้องนอน เพราะทั้งหมดดูสะอาดและโล่งเกินไป ที่ขวามือของเขามีสายน้ำเกลือและเสาเหล็กอยู่ มองออกไปนอกหน้าต่างที่เห็นจันทร์เต็มดวงเด่นชัดแล้วก็รู้ได้ในทันที
เขาอยู่ในโรงพยาบาล
เป็นห้องส่วนตัวเสียด้วย แต่ดันไม่มีใครอยู่เฝ้า
ขัตติยะตรวจร่างกายอย่างใจเย็น ที่หน้าอกไม่มีแผลแม้แต่น้อย ซึ่งแปลกมาก แต่ที่หัวกลับมาผ้าพันแผลที่แน่นหนา อาการปวดหัวอย่างหนักคงเป็นเพราะบาดแผลที่หัว
แต่เขาจำได้ว่าก่อนหมดสติไปจริงๆ เขาถูกแทงที่หน้าอกนี่นา
ขัตติยะไม่ได้รีบลุกขึ้นนั่ง เขายังคงนอนอยู่ หายใจเข้าลึกๆ แล้วลองนึกลำดับเหตุการณ์อีกครั้ง ในคราวนี้มีความทรงจำอื่นแทรกซ้อนเข้ามาในความทรงจำของเขาด้วย
เป็นความทรงจำที่เขาล้มหัวกระแทกอะไรบางอย่างแล้วหมดสติไป
แต่เขามั่นใจว่านั่นไม่ใช่ความทรงจำของเขาแน่นอน
ถึงจะซุ่มซ่ามยังไงก็ไม่มีทางล้มหงายหลังแบบไม่ระวังอย่างนั้นเด็ดขาด
งั้น...ความทรงจำของใคร?
มีความทรงจำบางอย่างที่ไม่ใช่ของเขาปะปนกันซึ่งขัตติยะแยกแยะมันทั้งหมดไม่ได้ เมื่อสมองถูกใช้จนถึงขีดจำกัดกับความทรงจำที่ไม่สมเหตุสมผล ก็มีกรอบสี่เหลี่ยมคล้ายหน้าจอในเกมออนไลน์สมัยใหม่แต่สีทองแสบตาปรากฏขึ้นตรงหน้า
[ทำการเชื่อมต่อเสร็จสิ้น]
[ดาวน์โหลดข้อมูลของโฮสต์เสร็จสิ้น]
[ตรวจสอบความเสถียรของระบบเสร็จสิ้น]
[ระบบอยู่ในสถานะพร้อมใช้งาน]
[โฮสต์ 'ขัตติยะ' จะเปิดใช้งานระบบหรือไม่]
[YES] หรือ [OK]
"..."
ขัตติยะมองหน้าจอเหล่านั้นอย่างมึนงง...
นี่คงไม่ใช่อะไรที่คล้ายๆ กับระบบผู้ติดตัวแบบในนิยายยอดนิยมในสมัยนี้หรอกใช่ไหม?
แล้วปุ่มให้เลือกนี่มันอะไรกันครับ
สิทธิ์ให้เลือกผมอยู่ตรงไหน ถามหน่อยสิ
ถึงจะยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรเท่าไหร่ หรือต่อให้คิดจนหัวแตกก็ไม่ได้ข้อสรุปที่ต้องการ เขาจึงจำใจกดสักปุ่มเพื่อให้ระบบที่น่าสงสัยนี้ทำงาน
[ระบบเปิดการทำงาน]
[เปิดฟังก์ชันตัวช่วยอัจฉริยะแก่โฮสต์ 'ขัตติยะ' กรุณาตั้งชื่อผู้ช่วย]
"...ให้ตั้งชื่อผู้ช่วยแต่รูปร่างผู้ช่วยเป็นยังไงก็ไม่เห็นเลยเนี่ยนะ" ขัตติยะคิดว่ามันแปลกๆ ถ้าเป็นไปตามสไตล์นิยายออนไลน์ที่เคยอ่านมามันก็ต้องมีรูปร่างให้ดูก่อนหรือเปล่า
แต่นี่ให้เริ่มตั้งชื่อก่อนรูปร่างเนี่ยนะ
หรือมันจะกำหนดรูปร่างตามชื่อที่เราตั้ง?
ก็เห็นว่าเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะก็คงใช่แหละเนอะ?
ขัตติยะใช้เวลาคิดอยู่นานเรื่องชื่อของผู้ช่วย เพราะเขาไม่เคยมีสัตว์เลี้ยงหรือพยายามจะตั้งชื่อให้กับสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งของมาก่อนเลย
การตั้งชื่อดีๆ มีความหมายทำไมยากจังวะ
[กรุณาตั้งชื่อผู้ช่วย]
"อย่าเร่งสิ!"
เห็นหน้าจอระบบปรากฏขึ้นอีกครั้งเพื่อเร่งรัด ขัตติยะถึงกับเผลอพูดตอบโต้ไปอย่างไม่รู้ตัว
ก่อนจะคิดได้ว่าระบบคงตอบโต้กับเขาไม่ได้
การเร่งรีบเกินไปก็ทำให้ตัวเองทำอะไรโง่ๆ เหมือนกันนะ
ขัตติยะลุกขึ้นนั่งหายใจเข้าออกอยู่พักใหญ่ก่อนจะพูดชื่อออกมาชื่อหนึ่ง แล้วรอดูสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตั้งใจ
"ชื่อว่า 'แฟร์' แล้วกัน"
หน้าจอของระบบหายไปช่วงเวลาหนึ่งก่อนจะปรากฏขึ้นอีกครั้งโดยมีมุมซ้ายบนที่เขียนคำว่า 'แฟร์' อย่างเรียบง่าย
ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปกว่านั้น
[ผู้ช่วย 'แฟร์' กำลังทำงาน]
[ขอแสดงความเคารพต่อโฮสต์ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับใช้]
[วิธีเรียกใช้งานผู้ช่วย เรียกชื่อไม่ว่าจะด้วยเสียงหรือในใจ ผู้ช่วยจะตอบสนองต่อคำพูดของคุณ และปรากฏในรูปแบบของหน้าต่างข้อความเท่านั้น]
ขัตติยะนั่งเงียบไปนานเพื่อรอให้หน้าต่างระบบที่คล้ายเกมออนไลน์นี่แสดงรายละเอียดมากกว่านี้ แต่ก็มีเพียงสามหน้าจอนี้ปรากฏค้างอยู่อย่างนั้น ราวกับกำลังรอให้เขาเรียกใช้
ขัตติยะมองไปรอบๆ ห้องพยาบาลที่เรียบง่ายครั้งหนึ่ง เขาได้ยินเสียงเดินผ่านไปมาที่หน้าประตู อาจจะเป็นพยาบาลที่กำลังเดินตรวจ และเสียงนั้นก็ผ่านห้องของเขาไปด้วยจังหวะไม่ช้าไม่เร็ว
เขาหันไปมองหน้าจอระบบอีกครั้งแล้วถอนหายใจ
"ถ้านี่เหมือนเกม แฟร์ก็คือ AI ผู้ช่วยที่ให้คำแนะนำการใช้ระบบเบื้องต้นใช่ไหม?"
[ใช่แล้วโฮสต์]
"งั้นระบบนี้ชื่ออะไร?"
[ระบบ■■■]
"???"
ทำไมเป็นพื้นถมดำแบบนั้นกันล่ะ
ไม่มีชื่อ? หรือไม่ให้อ่าน?
[โฮสต์ยังไม่สิทธิ์ในการอ่านชื่อของระบบ]
[เนื่องจากเพิ่งเปิดใช้งานระบบ จึงมีเพียงสิทธิ์เบื้องต้นที่ใช้งานได้]
"สิทธิ์เบื้องต้นมีอะไรบ้าง?"
[หน้าต่างสเตตัส] [หน้าต่างสกิล] [หน้าต่างภารกิจ] [หน้าต่างช่องเก็บของ]
[เนื่องจากโฮสต์เป็นผู้ถือกุญแจแห่งพันธสัญญา จึงได้รับหน้าต่างระบบแห่งพันธสัญญา]
[หน้าต่างภารกิจแห่งพันธสัญญา] [หน้าต่างแผนที่ระบุตำแหน่งดันเจี้ยน]
ขัตติยะลูบคางของตัวเองไปมาอย่างครุ่นคิด มีหน้าต่างละคำบรรยายเพียงเล็กน้อยไม่มีอะไรเลย และไม่ได้ช่วยให้เขาเข้าใจอะไรเลยเช่นกัน เขาถอนหายใจอีกครั้งแล้วถาม
"แฟร์ ที่นี่คือที่ไหน?"
[โรงพยาบาล]
"ฉันรู้ แต่หมายถึง 'โลก' ใบนี้ต่างหาก ดูเหมือนจะไม่ใช่โลกที่ฉันเคยอยู่"
ขัตติยะหันออกไปมองนอกหน้าต่าง ถึงสถาปัตยกรรมภายนอกจะเหมือนกันแต่ก็ดูเจริญรุ่งเรืองกว่าที่ควรเป็น
ถึงเขาจะไม่ใช่คนที่ฉลาดอะไรแต่เขายังมีสติและยังได้ด้วยเหตุผล แม้ว่าร่างกายนี้จะอ่อนแรงจนเคลื่อนไหวได้อย่างยากลำบาก แต่ก็ยังรับรู้ได้ว่าเป็น 'เสมือน' ร่างกายของเขา
เพียงแต่อายุไม่ใช่
มันดูอ่อนเยาว์กว่าความเป็นจริงอยู่หลายปี
เขาเห็นความแตกต่างได้โอยอาศัยแสงจันทร์ และอาการบาดเจ็บที่ผิดที่ผิดทาง
เขาไม่น่าจะอยู่ในโลกเดิมแล้ว หรืออาจสรุปได้ว่าเขาตายไปแล้วและมาอยู่ในอีกร่างหนึ่งที่มีร่างกายคล้ายกับเขา ซึ่งมันเป็นข้อสรุปที่น่าตกใจ แต่ขัตติยะไม่ได้แปลกใจกับมันนัก
ที่เขาอยากรู้คือ 'โลกนี้' มันอะไรกัน
มีระบบ มีดันเจี้ยน และมีกุญแจแห่งพันธสัญญา...
ทำไมรู้สึกคุ้นๆ นะ
[นี่คือโลกที่คุณอาศัยอยู่อย่างแท้จริง]
"อะไรนะ?" ขัตติยะจ้องหน้าจอระบบที่ตอบคำถามเขาก่อนหน้านี้อย่างไม่พอใจ "หมายความว่ายังไง จะบอกว่าโลกก่อนหน้านี้ที่ผมอยู่เป็นของปลอมเหรอ"
[โฮสต์ยังไม่สิทธิ์เข้าถึงข้อมูล]
"ชิ!"
ขัตติยะเดาะลิ้นอย่างขัดใจ
"ถ้างั้นอธิบายวิธีใช้หน้าต่างที่เป็นสิทธิ์เบื้องต้นที"
ในเมื่อระบบไม่สามารถให้ข้อมูลแก่เขาได้เขาก็ต้องเก็บรายละเอียดปลีกย่อยเอง จากสภาพแวดล้อม จากรูปแบบระบบ จากสิ่งต่างๆ ที่ดูคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยในความคิดของเขา
[หน้าต่างสเตตัส เมื่อโฮสต์พูดหรือคิดว่า 'สเตตัส' ก็จะปรากฏขึ้น แสดงข้อมูลของโฮสต์ออกมาในรูปแบบของตัวเลข หน้าต่างอื่นๆ ก็มีวิธีเรียกใช้แบบเดียวกัน โฮสต์สามารถถามได้เมื่อมีข้อสงสัยต่างๆ เพิ่มเติม]
"สเตตัส"
หน้าจอสีน้ำเงินปรากฎขึ้นมาตรงหน้าเขาทันที
[สเตตัส]
ผู้ถือกุญแจ – ขัตติยะ (19)
อาชีพ – อยากเป็นอะไรก็ตามใจ (EX)
ระดับ – 2
พลังชีวิต – 156/200
พลังเวท – 65/65
พลังกาย – 10
ความคล่องตัว – 5
ความทนทาน – 2
ความแม่นยำ – 4
สติปัญญา – 14
โชค – 5
คะแนนโบนัส - 5
ติดสถานะผิดปกติ 'อ่อนแรง' (3:05:47)
ชื่อขัตติยะเหมือนกัน แต่ที่ (19) ตามหลังนั่นคืออายุของร่างกายนี้หรือเปล่า
เด็กกว่าเดิมหลายปีจริงๆ ด้วย
"แฟร์ ตรงตัวเลขนับถอยหลังติดสถานะผิดปกติอ่อนแรงคือถ้ามันเป็นศูนย์ ฉันจะกลับมาแข็งแรงดีใช่ไหม?" ขัตติยะถามขณะชี้ไปที่ตัวเลขที่นับถอยหลังวินาทีต่อวินาที
[ใช่]
ระบบตอบกลับทันที
"แล้วคะแนนโบนัสคืออะไร?"
ค่าสถานะอื่นๆ เขายังพอเข้าใจได้ ไม่มีพลังป้องกันที่เฉพาะหรือพลังโจมตีที่เฉพาะ อาจจะขึ้นอยู่กับอาวุธที่ถือหรือเครื่องป้องกันที่ใส่อยู่ จึงไม่นับรวม
แต่ว่ามาอยู่ในร่างใหม่ก็เลเวลสองเลย นี่เรียกว่าดีหรือไม่ดีกันเนี่ย
แล้วไอ้หน้าต่างค่าสถานะที่ดูคุ้นๆ นี่มันอะไรกันเนี่ย
[คะแนนโบนัสคือคะแนนที่สามารถเอาไปเพิ่มในค่าสถานะ]
"เหมือนเกมจริงๆ แล้วตรงอาชีพนี่ยังไง 'อยากเป็นอะไรก็ตามใจ' แถมยังระดับ EX อีกเนี่ยนะ มันมีสกิลอะไรบ้างละเนี่ย"
ขัตติยะมีความสงสัยเป็นอย่างยิ่งจึงเรียกหน้าต่างสกิลออกมา และเมื่อเขาเห็นรายชื่อสกิลที่ยาวเป็นพรืดมากกว่าร้อยรายการก็เกิดเวียนหัวตาลาย
มันคือสกิลที่ผสมกันจากทุกอาชีพที่เป็นไปได้
มีตั้งแต่สกิลระดับ D ถึง S เลยทีเดียว
แต่เป็นสกิลเลเวล 1 ทั้งหมดเช่นกัน
อะไรกันครับเนี่ย!?
[แฟร์ขอแนะนำ โฮสต์ลองกลับไปที่อาชีพแล้วกดเลือกสักอาชีพในนั้นดูก่อน]
ระบบหน้าจอสีทองตัดกับหน้าจอข้อความสเตตัสและสกิลปรากฏแทรกขึ้นมาตรงหน้า ก่อนจะหายไปเมื่อเขาอ่านจบ ขัตติยะกะพริบตาปริบๆ แล้วลองทำตาม
เมื่อเขาจิ้มไปที่อาชีพก็มีตัวเลือกอาชีพขึ้นมามากมายให้เขาเลือก
ขัตติยะนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง
ปรากฏว่า 'อยากเป็นอะไรก็ตามใจ' ช่างตรงตามตัวอักษร
"แฟร์ ถ้าเลือกอาชีพแล้วจะมีผลเป็นยังไง แล้วสามารถเปลี่ยนได้หรือเปล่าถ้าเกิดไม่ชอบอาชีพที่เลือก"
ขัตติยะหันไปอีกด้านหนึ่งเพื่อให้หน้าจอสีทองปรากฎออกห่างจากหน้าต่างสเตตัสและหน้าต่างสกิลที่เขาเปิดค้างไว้
[อาชีพของโฮสต์คือ 'อยากเป็นอะไรก็ตามใจ (EX)' ดังนั้นไม่ว่าโฮสต์จะเลือกอาชีพอะไรก็สามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลา โฮสต์สามารถเลือกอ่านรายละเอียดของแต่ละอาชีพด้วยกันกดสองครั้ง]
"แบบนี้สินะ" ขัตติยะทำตามโดยกดที่อาชีพดั้งเดิมของเขา
[อยากเป็นอะไรก็ตามใจ (EX)]
[คำอธิบาย – สามารถใช้สกิลของอาชีพทั้งหมดที่ถูกบันทึกไว้ในพันธสัญญาได้ตามต้องการ แต่เพราะไม่ใช่สายอาชีพโดยตรง แม้จะใช้งานบ่อยจนชำนาญก็ไม่สามารถเพิ่มเลเวลของสกิลใดๆ ได้ แต่หากเลือกเปลี่ยนอาชีพแล้วจะสามารถเพิ่มเลเวลสกิลได้
หมายเหตุ – เมื่อเลือกเปลี่ยนอาชีพจะมีคูลดาวน์ 24 ชั่วโมง ถึงจะเปลี่ยนได้อีกครั้ง แต่สามารถเปลี่ยนกลับสู่อาชีพ 'อยากเป็นอะไรก็ตามใจ' ได้ตลอดเวลาโดยไม่มีคูลดาวน์]
นี่มัน...
สุดยอดไปเลยไม่ใช่เหรอเนี่ย!
ดูเหมือนว่าการมาต่างโลกของเขาจะโกงตั้งแต่เปิดเลย
ขัตติยะไม่ได้คิดติดใจสงสัยเรื่องที่ตัวเองมาอยู่ต่างโลกหรือว่าโลกนี้เป็นโลกที่แท้จริงของเขาก็ตาม
เขาให้ความสนใจกับระบบที่เหมือนเกมออนไลน์ตรงหน้ามากกว่า
เขาเปิดอ่านรายละเอียดต่างๆ ที่มีอยู่ในอาชีพทั้งหมดอย่างมีชีวิตชีวา ลืมความเหนื่อยล้าไปสิ้น
ความฝันในวัยเด็กของขัตติยะคือการได้ออกไปต่อสู้ผจญภัยเหมือนในเกมหรือการ์ตูนต่างๆ มากมาย ขนาดเป็นคนดูยังรู้สึกลุ้นระทึกขนาดนั้น ถ้าได้มาลงมือด้วยตัวเองมันจะต้องตื่นเต้นยิ่งกว่าแน่นอน
การมีพลังพิเศษแบบซุปเปอร์ฮีโร่นี่แหละสุดยอด!
แต่พออ่านรายละเอียดอาชีพไปเรื่อยๆ ใบหน้าที่เคยสดใสมีชีวิตชีวาของขัตติยะก็เริ่มเปลี่ยนไป มือที่กดอ่านแต่ละอาชีพสั่นระริก
เหมือน...
มันจะเหมือนเกินไปแล้ว...
เพื่อความมั่นใจขัตติยะเปิดหน้าต่างของระบบทุกแบบขึ้นมาแล้วอ่านดูอย่างคร่าวๆ คราวนี้ไม่ใช่แค่มือสั่น แม้แต่เสียงของเขาก็สั่นด้วย
"แฟร์... บอกฉันหน่อยสิว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง"
[ทั้งหมดเป็นความจริงโฮสต์]
"..."
ขัตติยะยกมือกุมอกแล้วล้มลงกับเตียงด้วยสีหน้าเหมือนคนอยากจะตายอีกรอบ
"ให้ตายเถอะ นี่ฉันมาอยู่ในโลกของนิยายที่พี่สาวเขียนเหรอวะเนี่ย"
นิยายที่ถูกบังคับอ่านหลายรอบเรื่องนั้น
เขาได้กลายมาเป็นตัวละครในโลกในนี้แล้วงั้นเหรอ!
แถมตัวละครที่ชื่อ 'ขัตติยะ' นี่มันใครวะครับ!?
ที่เขาอ่านมามันไม่มีตัวละครชื่อนี้อยู่ในนิยายของพี่สาวไม่ใช่เหรอ
ฉันเป็นใครเนี่ย!
เล่นบทอะไรบนโลกใบนี้!!?