และเมื่อเวลาผ่านไปไม่นานตามเนื้อเรื่องก็ต้องถึงเวลาที่พระลักษณวงศ์ต้องกลับไปยังเมืองของตนเอง
"น้องทิพย์เกสรจ๊ะ พี่ต้องกลับเทืองแล้วพี่บอกแม่เอาไว้ว่าพี่จะมาไม่นาน เพราะว่าพ่อกับแม่ก็พี่ก็แก่แล้ว ถ้าเมืองถูกโจมตี พ่อกับแม่พี่คงรับมือไม่ไหว ดังนั้น น้องทิพย์เกสรกลับไปเป็นมเหสีที่เมืองของพี่ได้หรือไม่" คำพูดคำจาหวานหยดย้อย แต่ที่จริงแล้วก็แค่คนเจ้าชู้คนหนึ่ง ชิ! ฉันคงทำได้แค่มองอยู่ไกลๆสินะ หงุดหงิดโว้ยหงุดหงิด
"ได้สิจ๊ะ น้องทำทุกอย่างเพื่อพี่ได้เสมอ แต่น้องขอพาแม่จันทร์ไปด้วยได้หรือไม่ นางไม่มีใครแล้ว"
"ได้สิ เรื่องแค่นี้เองทำไมพี่จะทำให้น้องไม่ได้"
แล้วพระลักษณวงศ์ก็เดินไปพบกับนางกินนรีทั้ง 5
"แม่นกน้อยของพี่กลับวังกับพี่ไหมจ๊ะ"
"ข้าตัดสินใจกันแล้วว่าจะอยู่ที่นี่ไม่ตามท่านกลับไป" กินนรีคนโตพูดด้วยน้ำเสียยืนหยัด
"แต่ถ้าน้องๆกลับไปกับพี่พี่จะเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดีเลยนะจ๊ะ"
"พวกข้าขอไม่รบกวนท่านดีกว่า ท่านไปแล้วก็ดูแลทิพย์เกสรให้ดีด้วยนะ อย่าให้นางเป็นอันตราย" กินนรีคนที่สามพูดด้วยความเป็นห่วง
"ถ้าท่านทั้งห้าคัดสินใจดีแล้ว ข้าก็จะยอมรับ"
หลังจากนั้นก็มีการร่ำลากันเกิดขึ้น แล้วออกเดินทาง
ในป่าระหว่างทาง
"เหนื่อยไหมจ๊ะน้องทิพย์เกสรของพี่" แหมม มีเอาผ้ามาซับให้ เอาน้ำมาให้ดื่ม เวลาผู้ชายอยากได้อะไรก็เป็นแบบนี้ทุกคน! ทำให้ผู้หญิงตายใจ!!
"ขอบคุณมากนะจ๊ะ แค่ได้อยู่กับพี่จะลำบากหรืออยากแค่ไหนน้องก็ไม่กลัว" สบตาปานจะกลืนกินน แหวะๆๆๆ
"พระลักษณวงศ์ คืนนี้เราค้างแรมที่ไหนดี"
"อืมมม ข้าว่าข้าเห็นถ้ำตรงนั้นอยู่ไม่ไกล เราไปหลบในถ้ำก่อนดีกว่าคืนนี้"
เมื่อถึงถ้ำจู่ๆฝนก็ตกลงมาปรอยๆ เราเลยก่อไฟและทำอาหารกินกัน แต่ระหว่างที่นั่งหน้ากองไฟ ฉันก็เห็นมือพระลักษณวงศ์อยู่นิ่งไม่ได้เลยเชียว! สบโอกาสก็จับนู่นจับนี่แม่ทิพย์เกสร เห้อออ~ งั้นฉันไม่อยู่เป็นก้างละกัน
"แม่จันทร์จะลุกไปไหนหรือ" ทิพย์เกสรถามฉันด้วยความเป็นห่วง
"ปลดทุกข์นิดหน่อยเดี๋ยวข้ามา"
"แต่ฝนยังตกปรอยๆอยู่เลยนะจ๊ะ"
"ไม่เป็นไรแม่ฉันแข็งแรงมากก ฝนแค่นี้ทำไรฉันไม่ได้หรอก"
"ได้เลย ฉันจะรอแม่ที่นี่นะ" คิดถูกคิผิดวะเนี่ยย เดินออกมาเนี่ย สกิลการเอาตัวรอดยิ่งน้อยๆอยู่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นคงตายเป็นปุ๋ยในป่าเป็นแน่!
ซ่า!!!
เดี๋ยวฝน!! แกแกล้งฉันหรอ เฮ้อออ คนโสดก็มักเป็นแบบนี้แหละ วิ่งไปหลบฝนที่ไหนดี บ้านพักตรงนั้นละกัน อาจจะเป็นตายายในเรื่องที่ใจดีๆชอบอยู่กลางป่าก็ได้
"ขอโทษนะจ๊ะ มีใครอยู่ไหมจ๊ะ"
"จ้าา มาแล้ว" เสียงผู้ชายอายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกัน
นั่นมัน! นายธุมเกตุ!!