webnovel

One Shot ' กฎการทำงานในอุทยานกีฏวิทยาตอนกลางคืน

ลองมือเขียน Creepypasta/Rule of horror,Set of horrorดูครับ ขอฝากผลงานด้วยนะครับ

◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉

ยินดีต้อนรับคุณเจ้าหน้าที่คนใหม่ ที่นี่ไม่เหมือนอุทยานแมลงแห่งอื่นๆ เราให้ค่าจ้าง100,000บาทต่อเดือนโดยไม่จำเป็นต้องใช้วุฒิการศึกษาใดๆ ทางเราต้องการเพียงผู้มีทัศนคติเหมาะสม เรียนรู้งานได้เร็ว มีไหวพริบและความกระฉับกระเฉง สามารถทำงานหนึ่งหรือสองวันต่อสัปดาห์ได้ อุทยานกีฏวิทยาในยามราตรีจะมีกฎกติกาการทำงานอยู่พอสมควร เพื่อผลประโยชน์กับสวัสดิภาพของคุณ ตัวคุณควรศึกษาและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากคุณทำได้ดี คุณก็มีโอกาสก้าวหน้ารวมทั้งปรับฐานเงินเดือนอย่างรวดเร็วอีกด้วย

นี่คือคู่มือรายละเอียดกฎในอุทยาน มันจะช่วยเหลือการทำงานของคุณ เมื่อคุณได้อ่านเนื้อหาแล้วพร้อมปฏิบัติตาม ขอให้คุณไปเตรียมตัวทำงานในค่ำคืนนี้ แต่ถ้าไม่พร้อม ขอให้คุณวางเอกสารลงบนโต๊ะ แล้วหันหลังกลับออกไปก่อนอาทิตย์ตกดินเถอะ ทางเราไม่ถือโทษโกรธเคืองคุณแต่ประการใด ดังนั้นแล้วขอเชิญคุณศึกษากฎอย่างเต็มที่เลยจะดีกว่า

การทำงานในอุทยานฯตามปรกติคุณจะทำงานหนึ่งหรือสองวันต่อสัปดาห์ อาจมีเพียงครั้งคราวที่มาทำงานสามวัน ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นคุณจะต้องพร้อมมาทำงานเสมอ เวลางานของอุทยานคือตอนหนึ่งทุ่มจนถึงตีสาม ระหว่างเวลางานคุณสามารถจัดสรรเวลาพักหนึ่งชั่วโมงได้อย่างอิสระ เราขอแนะนำให้คุณศึกษาเนื้อหาจนจบแล้วค่อยจัดสรรเวลาตามความเหมาะสม คุณจะลำบากหากทานมื้อดึกไม่ถูกที่ถูกเวลา

2.สำหรับเจ้าหน้าที่ใหม่เฉพาะในเดือนแรกจะต้องมาถึงตอนหกโมงเย็น ห้ามมาสายเด็ดขาด คุณจะรับผิดชอบบริเวณอาคารหลักกับโดมผีเสื้อ ห้ามออกนอกอาคารหากไม่มีเหตุจำเป็น โดยเฉพาะหลังตะวันตกดิน มิฉะนั้นคุณอาจรับมือบางสิ่งที่นี่ไม่ได้

3.จงไปเตรียมตัวที่ห้องล็อกเกอร์ในอาคารหลัก คุณจะได้พบกับเจ้าหน้าที่หนุ่มผมทองดวงตาสีฟ้าของเรา เขาชื่อว่าลีเวอร์ เป็นผู้ดูแลประจำอาคารอุทยานหลัก คุณจะได้ทำงานกับเขาเท่านั้นในอาคารอุทยานหลัก อย่าพลั้งเผลอทักถามเขาเรื่องอายุกับแผลเป็นตรงดวงตาข้างซ้าย คุณคงไม่อยากให้การพบกันครั้งแรกต้องกระอักกระอ่วนใจ ถึงเจ้าหน้าที่ของเราจะดูเป็นหนุ่มอายุน้อย แต่ขอให้คุณวางใจในตัวลีเวอร์ ความสามารถกับประสบการณ์ของเขายอดเยี่ยม ขอให้คุณสนทนากับลีเวอร์อย่างความสุภาพฉันมิตร เขาจะอวยพรให้คุณโชคดี

4.ในตู้ล็อกเกอร์จะมีป้ายชื่อของคุณ จากนี้จงพกติดตัวตลอดเวลา นอกจากนี้ในกระเป๋าเป้ลายพรางจะใส่ของใช้จำเป็นเบื้องต้นกับชุดสำหรับเจ้าหน้าที่แล้ว ส่วนเหนือตู้ล็อตเกอร์จะมีอาหารว่างจำพวกขนมปังไส้เนื้อ มันจะห่อหุ้มด้วยพลาสติกอย่างดีวางเอาไว้ให้เห็น คุณจะแกะกินก็ได้แต่ความจริงแล้วมันไม่ได้เตรียมไว้ให้คุณทานเท่านั้น

5.ขอให้ตรวจสอบของในกระเป๋าพร้อมเก็บของว่างใส่ช่องด้านในอย่างบรรจง อย่าแกะห่อพลาสติกอาหารว่างออกมาหากคุณไม่คิดจะกินมันให้หมดในตอนนี้ เมื่อกินหมดจงขอลีเวอร์เพิ่ม ในกระเป๋าควรมีของว่างติดเอาไว้ในยามฉุกเฉินหนึ่งชุด อย่าขอเพิ่มมากไปกว่านั้นถ้าคุณไม่อยากกลายเป็นแหล่งอาหารเคลื่อนที่ในค่ำคืนนี้ จงอย่ากินเหลือแล้วเก็บใส่กระเป๋าทำงาน จงทิ้งมันทันทีแล้วรักษาสุขอนามัยตนเองก่อนสวมชุดเจ้าหน้าที่ คุณคงไม่อยากให้มีเศษอาหารกับกลิ่นของกินลอยไปแตะพวกจมูกไวน่าขนลุกในอุทยาน

6.หากพบแมลงตัวเล็กเกาะอยู่บนอาหารว่างแม้เพียงตัวเดียว จะเห็นจริงหรือตาฝาด ขอให้คุณทิ้งมันใส่ถังขยะทันที อย่านึกเสียดาย ชีวิตของคุณมีค่ามากกว่าอาหารว่างนั่น คุณจะเสียใจภายหลังที่ทานมันต่อ ขอให้คุณแจ้งลีเวอร์ในเรื่องนี้ เขาจะมอบอาหารว่างห่อใหม่แล้วนำถังขยะไปห้องใต้บันไดเพื่อตรวจสอบ รวมถึงนำอุปกรณ์ยาฆ่าเชื้อล็อกเกอร์กลับมาอีกชุดใหญ่ คุณจงทำความสะอาดห้องล็อกเกอร์ให้ทั่วทันที อย่าให้มีแมลงเข้ามาที่นี่เด็ดขาดเพื่อความปลอดภัย

7.ในกระเป๋าเป้มีอุปกรณ์อนามัยอยู่ โปรดใช้พวกมันอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันให้เรียบร้อยแล้วสวมชุดเจ้าหน้าที่ ถึงชุดจะมีกลิ่นสาบฉุนพิลึกพิลั่น เนื้อโฟมกับยาสระผมค่อนข้างหยาบ ยาสีฟันมีรสชาติขมปร่าทั่วทั้งปาก ต่อให้คุณเกลียดพวกมันมากแค่ไหนก็ตาม ขอจงรู้ไว้ว่าพวกมันมีประโยชน์และปกป้องตัวคุณเองในตลอดค่ำคืนนี้ กลิ่นกายหรือเหงื่อของคุณจะไม่ไปกระตุ้นต่อมพวกมันให้เข้าหาคุณชั่วขณะหนึ่ง ซึ่งเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของคุณมากขึ้น

8.ของในกระเป๋าที่คุณต้องตรวจสอบว่ามีได้แก่ ของว่างหนึ่งชุด น้ำสะอาดขวดเล็ก ตลับใส่หยูกยาทั้งกินและแบบทา สมุดกับปากกาจดบันทึกเหตุการณ์ประจำวัน แผนที่ภายในอุทยานหลักรวมถึงโดมผีเสื้อ ตะเกียงน้ำมัน ไม้ขีดไฟ มีดพกใบเลื่อยและปืนขนาด9มม.พร้อมกระสุนสำรองสองสามชุด วิธีใช้ปืนเราได้แนบไว้ด้านหลังคู่มือฉบับนี้แล้ว

9.สำหรับตะเกียง จะมาพร้อมน้ำมันและไม้ขีดไฟหนึ่งชุด จงรักษาพวกมันให้ดีอย่าได้เปียกน้ำเด็ดขาด ตะเกียงจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งตลอดค่ำคืนนี้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าปืนหรือมีดพกของคุณ กรณีจำเป็นแสงสว่างจากมือถืออาจจะช่วยคุณมองเห็นในเวลาสั้นๆ แต่ว่าพวกแมลงทั้งหลายกับบางสิ่งในที่นี้จะว่องไวต่อแสงไฟโทรศัพท์มากกว่าตะเกียงของทางเรา เพียงไม่กี่อึดใจพวกมันอาจพุ่งเป้าเข้าหาคุณ คุณอาจจะฝันร้ายและนึกเสียใจที่ใช้งานโทรศัพท์ หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือของมีตำหนิ จงแจ้งแก่ลีเวอร์ เขาจะนำมามอบให้คุณภายหลัง

10.จะไม่มีการติดต่อกันผ่านทางอุปกรณ์ส่วนตัว คุณควรระมัดระวังในการใช้งานโทรศัพท์ จะเป็นการดีหากคุณปิดเครื่อง หรือปิดเสียงรบกวนเอาไว้ กรณีมีเบอร์คนรู้จักหรือเบอร์ปริศนาเข้ามาให้ตัดสายซะ อย่าสนทนาในอาคารหลักหรือโดมผีเสื้อตอนกลางคืนเพราะอาจมีบางสิ่งฟังบทสนทนาพร้อมกับคุณด้วย

11.งานแรกของพนักงานใหม่ทุกคนคือประจำจุดบริเวณประตูอาคารอุทยานหลัก คุณจึงสามารถเดินสำรวจตามแผนที่เพิ่มเติมได้ ขอเพียงอย่าเถลไถลไปไกลประตูมากนัก ในระหว่างนี้คุณจะได้พบปะเจ้าหน้าที่ดูแลจุดอื่น โปรดจดจำและทักทายฝากตัวกับพวกเขาเท่าที่ได้ ถึงปรกติเราจะเริ่มงานตอนหนึ่งทุ่ม แต่พนักงานบางคนเลือกเผื่อเวลาก่อนพระอาทิตย์ตกจนเป็นนิสัย พวกเขามักจะรีบวิ่งจ้ำไปเตรียมตัวที่ห้องล็อกเกอร์ในอาคารหลักก่อนไปประจำจุดต่างๆ เจ้าหน้าที่ทั้งหลายอาจทักทายหรือไม่สนใจพนักงานใหม่ในช่วงแรก ขออย่าได้น้อยใจไปเลย มันจะดีขึ้นเมื่อคุณทำงานที่นี่ได้เกินหนึ่งเดือนขึ้นไป และถึงจะเป็นเช่นนี้แต่เหล่าเจ้าหน้าที่จะประสานงานช่วยเหลือคุณได้ไม่น้อย หากแต่จงจำไว้ให้ดี เมื่อถึงเวลางานคุณจะไม่พบใครหากไม่มีเหตุจำเป็น มีเจ้าหน้าที่เพียงคนเดียวที่ทำงานร่วมกับคุณตรงอาคารหลักคือลีเวอร์เท่านั้น

12.เมื่อเวลาผ่านไป คุณอาจจะเห็นมีแขกในชุดท่องเที่ยวปริศนาเดินอยู่แถวหน้าประตูตามลำพัง หรือเกาะเป็นกลุ่มชมบริเวณใกล้สวนหย่อมอาคารหลัก หนึ่งในนั้นอาจเข้ามาทักทายคุณซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ใหม่ จงอย่าลืมเรื่องรีบเข้าอาคารก่อนพระอาทิตย์ตก ขอให้คุณจงระวัง'แขกอาจไม่ใช่มนุษย์' อาจเป็นหนึ่งในพวกจมูกไวหรือจำแลงกายเพราะสนใจคุณมาตั้งแต่ต้น หากถูกชวนไปสถานที่อื่นจงปฏิเสธอย่างนุ่นนวลแต่เด็ดขาด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามจงเข้างานตรงเวลา จงอยู่ใกล้ประตูและไม่ห่างจากแสงสว่างจากแดดหรือไฟในอาคารอุทยานฯ เมื่อคุณบอกลาแล้วให้รีบเข้ามาภายในอาคาร สิ่งนั้นจะไม่ตามคุณ อย่างมากก็เพียงยืนมอง มอบรอยยิ้มให้ พูดคุยเสียงกระซิบกระซาบแล้วจากไปในอย่างเงียบงัน

13.ในกรณีที่หน้าประตูผู้มาสนทนากับคุณเป็นเจ้าหน้าที่ แต่งกายเหมือนหรือคล้ายคุณ ขอให้คุณพูดคุยอย่างสุภาพ บางทีจะเป็นเจ้าหน้าที่จากจุดอื่นในอุทยาน หากแต่ขอให้ลอบสังเกตจากเสื้อผ้าหน้าผมกับท่าทีคำพูดของคู่สนทนา ถ้าพบเห็นความผิดปรกติเป็นพิรุธเช่นเนื้อตัวสกปรก ป้ายชื่อที่เลือนราง ให้คุณรีบตัดบทแล้วเดินเข้าอาคารทันที หากใกล้ถึงช่วงตะวันตกดิน เจ้าหน้าที่ผู้นั้นไม่ไปประจำจุดหรือใช้งานตะเกียงไฟ จงจำไว้ว่าสิ่งที่คุณเผชิญหน้าไม่ใช่เจ้าหน้าที่อุทยานของเรา! ให้คุณรีบวิ่งเข้าอาคารทันที ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจงอย่าขึ้นเสียง อย่าใช้อารมณ์รุนแรงกระตุ้นโทสะอีกฝ่ายเด็ดขาด

14.ในกรณีเลวร้ายที่หน้าประตูคุณเผลอแสดงอาการหยาบคายและร่างนั้นไม่ใช่มนุษย์ ถึงตรงนี้ไม่มีอะไรที่คุณทำได้แล้วนอกจากรีบวิ่งหนี! จงวิ่งออกจากบริเวณนั้นให้เร็วที่สุด คุณอาจได้ยินเสียงเรียกหรือกระดูกหักอย่างน่าสยดสยองจากด้านหลัง อย่าหันกลับไปมอง คุณคงไม่อยากเชื่อว่าอะไรไล่กวดหลังคุณมา จงมองหาที่ที่มีแสง คุณจะปลอดภัย อย่าออกไปไหนไกลจากแสงสว่างนั่นเด็ดขาด ร่างนั้นจะโมโหวนเวียนมองดูคุณอยู่สักครู่หนึ่ง ส่งเสียงบาดหูเหมือนแมลงร้องระงม ถ้าคุณนิ่งไม่สนใจมันสักพักมันจะหายไป คุณอาจเจอมันอีกในค่ำคืนนี้ ปืนและมีดสามารถทำให้มันชะงัก แสงสว่างเท่านั้นที่ทำให้มันกลัว

15.เมื่อเข้ามาในอาคารได้แล้ว บนแผนที่จะระบุตำแหน่งรังของผึ้งเอาไว้ทั้งชั้นหนึ่งและสอง จงเขียนรายงานตรวจสอบสภาพและตำแหน่งรังที่ระบุภายในอาคาร ห้ามทำการไล่หรือทำร้ายพวกมัน พิษของมันตัวเดียวจะทำให้คุณชา คันแสบร้อนและเกิดภาพหลอนรุนแรงถึงขั้นหมดสติ หากโดนกัดจงรีบไปหาลีเวอร์ เจ้าหน้าที่หนุ่มของเรามักจะอยู่ที่ประชาสัมพันธ์ชั้นหนึ่ง ให้คุณใช้ยาหรือแล้วดื่มน้ำสะอาดเพื่อบรรเทาอาการ ลีเวอร์จะช่วยปฐมพยาบาลคุณ ห้ามแกะเกาเด็ดขาด พวกผึ้งจะไม่ทำร้ายคุณถ้าคุณไม่แสดงเจตนาทำร้ายพวกมัน ดังนั้นจงเก็บมีดและปืนให้มิดชิด ถ้ามันบินมาหาคุณก็มีเพียงเจตนาเฝ้าสังเกตเท่านั้น พวกมันจดจำทุกการกระทำของคุณในอาณาเขต ถ้าคุณแสดงความเคารพอ่อนน้อมอย่างจริงใจ ในรุ่งสางก่อนเลิกงานตรงหน้าล็อกเกอร์ของคุณจะมีขวดน้ำผึ้งขนาดเล็กๆ เป็นของขวัญ

16.ถ้าคุณพบรังผึ้งปริศนาที่ไม่ปรากฏในแผนที่ จงแอบเขียนลงเอกสารรายงานแล้วเลี่ยงเส้นทางนั้นซะ แต่ถ้าเส้นทางนั้นเป็นทางเดียวที่ต้องผ่าน จงใช้ตะเกียง มีดหรือปืนเพื่อป้องกันตัวแล้วรีบหาทางกลับไปแจ้งลีเวอร์ เขาจะไปจัดการมันโดยกลับมาพร้อมถุงขยะสีแดงสดมัดถุงอย่างแน่นหนา คุณสามารถช่วยลีเวอร์เอามันไปห้องกำจัดขยะได้ แต่ห้ามแกะออก มันไม่ใช่รังแมลงธรรมดาอย่างที่เราเข้าใจ

17.ห้องกำจัดขยะอยู่ใต้บันไดทางขึ้น ห้องนี้เป็นห้องเดียวในนี้ที่ไม่ไฟ คุณไม่จำเป็นต้องเข้าไปด้านใน เพียงแค่ต้องเคาะประตูแล้วจงพูดแจ้งความประสงค์ของคุณออกมา อย่าเคาะเกินมิฉะนั้นประตูจะไม่เปิดออกสักพักใหญ่ จงเคาะประตูหนึ่งครั้งสำหรับทิ้งขยะทั่วไป สองครั้งเพื่อขออุปกรณ์ปัดกวาดเช็ดถู ไม่นานบานประตูจะเปิดออกช้าๆ มองภายนอกอาจเหมือนเป็นห้องมืดว่างเปล่าแต่ความจริงแล้วมีผู้อยู่ด้านในเสมอ สำหรับถุงขยะพิเศษโปรดเคาะประตูสามครั้ง บอกจำนวนให้ชัดเจนว่ามีกี่ใบ แล้วรอนานสักหน่อยจนเมื่อประตูเปิดออกมาให้รีบส่งถุงขยะสีแดงทันที หากมีเสียงด้านในถามว่ามีอีกหรือไม่ จงตอบว่าในตอนนี้ไม่มีแล้วถ้าคุณไม่เปลี่ยนสถานะจากเจ้าหน้าที่เป็นของว่าง ถ้าหากเสียงปริศนาด้านในเชื้อเชิญคุณเข้ามาในฐานะแขกก็ให้บอกปฏิเสธ อย่าแสดงความหวาดกลัวเหล่านักกำจัดซากของเราเลย ให้รีบออกไปจากห้องกำจัดขยะ รวมถึงอย่าใช้ตะเกียงส่องเข้าไปรบกวนชั่วโมงอาหารแสนโอชะของพวกเขา

18.งานต่อมาของคุณคือเดินไปตรวจตราแมลงสต๊าฟในโซนจัดแสดงชั้นสอง บริเวณแมลงสต๊าฟในโซนจัดแสดงชั้นสอง หากไม่มีความผิดปรกติอะไรขอให้จดลงบันทึกไปตามนั้น ถ้าหากมีแมลงสต๊าฟตัวไหนหายไป จงสังเกตว่าเป็นตัวไหนและจดรายละเอียดไว้ หากเป็นพวกไม่มีพิษก็อย่าตกใจไปเลย พวกมันทั้งหมดจะหวนกลับมาก่อนตีสอง แต่ถ้าเป็นพวกมีพิษหายไปขอให้คุณเพิ่มความระมัดระวังในการเดินอาคารมากขึ้น พวกมันอาจอยู่ที่ไหนก็ได้ หลังตีสองสักเล็กน้อยให้คุณกลับมาที่นี่เพื่อตรวจสอบความเป็นอยู่ของพวกมันอีกครั้ง โปรดตระเตรียมไม้กวาดกับถังขยะจำนวนมากมาด้วย เพราะหลายครั้งพวกมันมักกลับมาพร้อมเศษซากบรรดาอาหารว่าง คุณจะดีใจที่ทานข้าวมาแล้วก่อนหน้านี้แล้วไม่งั้นคุณจะกินอะไรไม่ลงอีกนาน เมื่อทราบว่าพวกมันกินหรือขย้อนอะไรทิ้งไว้บ้าง

ในระหว่างตรวจโซนจัดแสดงแมลงสต๊าฟ หากได้ยินเสียงแมลงเคาะกระจก จงอย่าเปิดออกหรือสนใจ แต่ถ้าหากเป็นเสียงเหมือนกระจกจะแตก ขอให้คุณเร่งเข้าไปตรวจสอบทันที บางทีอาจเป็นฝีมือของแมลงก้าวร้าวบางตัว ให้จดบันทึกรายงานแล้วจ้องมองพวกมัน โปรดตักเตือนสุภาพสักครู่หนึ่ง ถ้ายังมีเสียงเคาะให้ทำซ้ำอีกครั้งจนกว่าจะเงียบลง กรณีที่กระจกหล่นลงพื้นหรือแตกไปแล้ว ขอให้คุณจัดการเพียงเก็บกวาดเศษกระจกกับพรรณพืชพรรณไม้ ส่วนพวกแมลงให้ปล่อยไว้อย่างนั้น พวกมันดูแลตัวเองได้

20.หลังจากตรวจตราบริเวณแมลงสต๊าฟแล้ว ให้คุณไปยังห้องจำลองแมลงตามธรรมชาติซึ่งอยู่เยื้องถัดไป ที่นี่พิเศษกว่าที่อื่นมาก คุณต้องระวังตัวและศึกษากฏต่อจากนี้ให้ดี มิฉะนั้นมันจะกลายเป็นตั๋วเที่ยวเดียวที่เข้าไปแต่ออกมาไม่ได้

21.ที่ห้องจำลองคุณพบกับสุภาพสตรีในชุดแดง หากเป็นหญิงชราสูงศักดิ์ชมนิทรรศการอยู่ตามลำพัง จงผ่อนคลายตามสบาย เธอเป็นสหายเก่าแก่ของอุทยานแห่งนี้และพร้อมจะเป็นมิตรของคุณตราบใดที่คุณให้เกียรติเธอ หล่อนจะเอ่ยทักทายคุยอย่างเป็นกันเอง หญิงชราผู้น่ารักอาจช่วยเหลือคุณได้ในอนาคต ขอให้คุณดูแลสุภาพสตรีสูงศักดิ์อย่างดี เมื่อชมนิทรรศการเสร็จโปรดประคองพาเธอไปนั่งพักตรงเก้าอี้สีแดงหรูหราริมหน้าต่าง มันเป็นที่นั่งพิเศษของเธอโดยเฉพาะห้ามใครนั่งโดยเด็ดขาด ถ้าหล่อนขอเครื่องดื่มหรือของกินให้ตอบไปว่าลีเวอร์จะจัดเตรียมของที่ดีที่สุดไว้ให้ สุภาพสตรีผู้นั้นจะไม่ทักท้วงใดๆ เธอจะอนุญาตให้คุณกับลีเวอร์มายังห้องนี้ได้เพื่อรับประทานอาหารด้วยกัน จงรับไมตรีไว้ จากนั้นขอให้คุณออกจากห้องแล้วล็อคประตู บอกหญิงชราว่าเพื่อความปลอดภัยของเธอ แล้วรีบไปหาลีเวอร์ที่ประชาสัมพันธ์ชั้นหนึ่ง รายงานเขาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนี้คุณสามารถพักทานของว่างได้เมื่อกลับไปที่ห้องจำลองพร้อมอาหารพิเศษที่ลีเวอร์เตรียมให้หญิงชรา

22 ในกรณีถ้าสุภาพสตรีชุดแดงไม่ได้อยู่ตามลำพัง โดยมีหญิงสาวสวมผ้าคลุมศีรษะจำนวนหนึ่งอยู่ในห้องด้วย จงสังเกตชุดกับผ้าคลุมศีรษะของพวกเธอ หากมีสีอื่นที่ไม่ใช่สีเดียวกับสุภาพสตรี ขอให้คุณรีบปิดประตูด้วยความเงียบเชียบ จงล็อคประตูด้วยกุญแจเสีย ไม่ว่าจะได้ยินเสียงเคาะ เสียงกรีดร้องโหยหวนแค่ไหนก็อย่าหันหลังกลับมา จงจำไว้ว่าคืนนั้นคุณจะไม่ได้รับประทานอาหารกับสุภาพสตรีชุดแดง

23. ในกรณีถ้าหญิงชราอยู่ในห้องและหญิงสาวคนอื่นสวมผ้าคลุมสีเดียวกับเธอ เช่นนี้คุณจึงสามารถเข้าไปได้ แต่ต้องระวังท่าทีของคุณให้มาก นอกจากหญิงชราแล้วไม่มีใครยินดีที่คุณย่างกรายเข้ามาในห้องนี้ หญิงสาวสวมผ้าคลุมจะหันมาทางคุณเสมอ พวกเธอไม่ต่างจากผึ้งที่คุณเคยเผชิญมา หากแต่ยังปกป้องอันตรายต่อ'นางพญา'ของตนอีกด้วย คุณจะได้สนทนากับหญิงชราซึ่งรอตรงที่นั่ง ห้ามคุณสัมผัสเก้าอี้ ร่างกายหรือสบตาหญิงชราโดยตรงก่อนได้รับอนุญาตเป็นอันขาด หญิงชราสามารถช่วยกันไม่ให้ใครทำร้ายคุณในสายตาเธอเท่านั้น แต่เธอจะไม่อยู่ห้องจำลองคุ้มครองคุณได้ตลอดไป

24.เมื่อคุณก้าวเท้าเข้ามาแล้วประตูจะถูกขวางเอาไว้แน่นหนา เหล่าหญิงสาวชุดแดงจะไม่ให้คุณออกไปจากห้องหากไม่มีบรรณาการแก่นางพญา ถ้าหากคุณยังมีอาหารว่างในกระเป๋าจงมอบเพื่อเป็นบรรณาการแก่หญิงชราพร้อมกล่าวว่าลีเวอร์จะนำสิ่งที่ดีกว่ามาให้เพิ่มเติม ถ้าคุณกินไปแล้วหรือมีน้ำเปล่าจงแจ้งไปตามตรง แต่กรณีเลวร้ายที่สุดถ้าคุณไม่เหลือของกินเหลืออยู่เลย หากเก็บของว่างไว้สภาพไม่ดี พลาสติกมีรู เป็นของเหลือเก็บไว้ หรือเคยมีแมลงตัวอื่นเกาะแกะมาก่อนแล้วยังไม่ทิ้งไป ต่อให้คุณเลือกไม่บอก เหล่าหญิงสาวชุดแดงก็ได้กลิ่นอยู่ดี ดังนั้นทางรอดก็คือยอมรับความจริงว่าพวกนางจะไม่ปล่อยคุณที่บุกรุกมาออกไป คุณต้องรอจนลีเวอร์นำอาหารมาให้ ซึ่งเขาจะเตรียมบรรณาการมาไถ่ตัวคุณด้วยหากความสัมพันธ์พวกคุณดีต่อกัน แต่ถ้าไม่ บางทีทางเลือกสุดท้ายของคุณคือจงกระซิบเตือนหญิงชราให้ถอยออกจากเก้าอี้ชั่วคราวแล้วกระโดดพุ่งหลาวออกทางบานหน้าต่างชั้นสอง

25.คุณอาจพบเหล่าสตรีชุดแดงสวมผ้าคลุมเดินด้านนอกห้องตามพื้นที่อาคาร พวกเธอเหล่านี้ไม่โหดร้ายทารุณกับคุณเท่าบริวารใกล้ชิดของนางพญา คุณสามารถทักทายพวกหล่อนอย่างเป็นมิตร แต่ระวังอย่าให้เธอนึกว่าคุณเป็นอาหาร โปรดเลี่ยงสัมผัสร่างกายโดยตรงมิฉะนั้นคุณอาจแสบคันอย่างสาหัส กรณีที่โดนห้ามแกะเกาเด็ดขาด จงใช้น้ำสะอาดและยาเข้าช่วย หากพวกเธอหลงทางจงบอกทางแต่อย่าเผลอออกนอกอาคารหลัก หากถูกขอให้ช่วยยกสัมภาระกับอาหารก็ตามแต่กำลังของคุณเอื้ออำนวย อย่าลืมกลับไปล้างมือที่ห้องน้ำด้วยอุปกรณ์อนามัย

26.ถ้าไฟในอาคารอุทยานดับ กระตุกหรือหรี่แสงลง ให้คุณรีบจุดตะเกียงทันที หลังจากนี้ไม่ว่าไฟจะกลับมาปรกติหรือไม่ ขอให้จุดมันติดตัวเอาไว้เสมอเนื่องจากอาจมีบางสิ่งแฝงเข้ามาด้านใน ช่วงที่ไฟติดคุณอาจจะหรี่แสงมาให้เล็กที่สุดเพื่อถนอมน้ำมันเอาไว้ หากน้ำมันจะหมดหรือตะเกียงมีปัญหาให้กลับไปหาลีเวอร์ตรงประชาสัมพันธ์ที่ชั้นหนึ่ง เขาจะจัดเตรียมของสำรองให้คุณทันที

27.กรณีที่ไม่เจอลีเวอร์ให้รอเขาตรงประชาสัมพันธ์สักพัก เขาอาจจะไปทำภารกิจ เดินตรวจตราหรือเช็คระบบไฟในอาคารหลักเป็นระยะแล้วจะรีบกลับมาหาคุณ แต่ถ้าเขายังไม่กลับหรือมีบางสิ่งรบกวนคุณ ขอให้คุณจงวางเอกสารรายงานทั้งหมดไว้โต๊ะตรงประชาสัมพันธ์ วิ่งไปยังห้องล็อกเกอร์ซ่อนตัวในตู้ของคุณจนกว่าลีเวอร์จะมาหาคุณที่นี่ ภาวนาอย่าให้ไฟในห้องกับตะเกียงดับ ก่อนจะออกมาจากที่ซ่อนคุณต้องมั่นใจว่าเป็นลีเวอร์ตัวจริงด้วยการสังเกตเปลวไฟในตะเกียงติดอยู่ หากอีกฝ่ายไม่ถือตะเกียงหรือไฟดับจงอย่าออกไปให้มันพบคุณเด็ดขาด อย่าส่งเสียงดัง อย่าทักอะไรทั้งสิ้นจนกว่ามันจะออกไปหรือลีเวอร์ตัวจริงเข้ามา หากอยู่ในสถานการณ์ที่ลีเวอร์ทั้งสองประจัญหน้ากันจะมีเสียงการต่อสู้เกิดขึ้น จงรอให้ทุกอย่างสงบปลอดภัยและลีเวอร์ตัวจริงให้สัญญาณไฟตะเกียง บางทีหลังจากนี้พวกคุณทั้งสองอาจต้องใช้อุปกรณ์อนามัยอีกรอบหนึ่ง ในการล้างคราบเลือด เศษซากบางสิ่งที่เคยมีชีวิตหรือสิ่งสกปรกบริเวณนี้ออกให้หมด

28.โดมผีเสื้อคือพื้นที่ตรวจตราสุดท้ายของคุณ มันตั้งอยู่ด้านหลังอาคารหลักของอุทยานฯ ห่างจากตรงประชาสัมพันธ์ของลีเวอร์ที่สุด ดังนั้นคุณต้องวางแผนให้รัดกุมก่อนไปที่นี่ เมื่อเข้าไปในโดมคุณจะต้องลอดอุโมงค์ทางเดินซึ่งภายในมีเทวรูปแกะสลักผีเสื้ออยู่มากมาย ขอให้หาเทวรูปผีเสือตัวใหญ่ที่มีปีกสีแดง ดำและทองคำ คุณต้องสักการะเทวรูปผีเสื้ออย่างอ่อนน้อมที่สุด จากนั้นใช้น้ำเปล่าที่คุณมีราดลงไปเทวรูปให้ชุ่ม ให้สังเกตผงละอองที่ไหลออกมากับน้ำ ถ้าน้ำเป็นสีดำ แดงหรือทองคำจงนำมาพรมเหนือศีรษะ แต่ถ้าเป็นสีอื่นนอกเหนือจากนั้นขอให้คุณรอเทวรูปแห้งสนิท สักการะอีกครั้งแล้วรินน้ำเปล่าจนกว่าได้สีใดสีหนึ่งข้างต้นจึงเข้าไป ไม่เช่นนั้นปลายทางอุโมงค์จะไม่ใช่โดมผีเสื้อหรือสถานที่ที่คุณรู้จัก

29.หากคุณพบผีเสื้อกลางคืนตัวสีดำปลายหางสีแดงแปลกประหลาด จงอย่าเข้าใกล้ รอให้มันจากไป หรือให้'ผู้เชี่ยวชาญแมลง'จับออกไป มันจะนำเรื่องเหนือจินตนาการมาให้คุณหากไปใกล้ สัมผัสหรือแตะต้องละอองของมัน ซึ่งยาที่คุณมีกับน้ำสะอาดใช้แก้อิทธิฤทธิ์ของมันไม่ได้

30.เมื่อเข้ามาในโดมผีเสื้อ ถ้าโชคดีคุณจะพบ'ผู้เชี่ยวชาญด้านแมลง'ซึ่งจะใส่ชุดเหมือนผีเสื้อกลางคืนไม่ผิดเพี้ยน เขามาทำวิจัยกับจับผีเสื้อกลางคืนเจ้าปัญหาข้างต้น อย่าหวาดกลัวผิวขาวซีดกับแววตาเรืองแสงในความมืด รอบตัวจะมีผีเสื้อกลางคืนเรืองแสงสีทองเกาะอยู่และมีผงละอองกระจายเป็นนิจ ห้ามสัมผัสก่อนได้รับอนุญาตจากเจ้าตัวและผู้เชี่ยวชาญ ถึงค่อนข้างยุ่งและพูดคุยกับมนุษย์เท่าที่จำเป็น กระนั้นคุณจงสุภาพและเป็นมิตร ความรู้ความสามารถของผู้เชี่ยวชาญจะช่วยเหลือคุณจากภยันตรายทั้งหลายได้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าลีเวอร์ เขาจะบอกตำแหน่งอุปกรณ์ที่คุณต้องใช้ทำงานอย่างถังใส่อาหารผีเสื้อหรืออื่นๆ ผู้เชี่ยวชาญสามารถใช้ตะเกียงได้เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่อุทยาน แต่โดยมากผู้เชี่ยวชาญจะอยู่ในโดมผีเสื้อเป็นหลัก ถ้าหลงทางหรือต้องการความช่วยเหลือเจ้าตัวจะมาช่วยคุณทันที ผู้เชี่ยวชาญสนิทกับลีเวอร์เป็นอย่างดี บางทีเมื่อเสร็จเวลางานคุณอาจจะชวนผู้เชี่ยวชาญกับลีเวอร์มาทานอาหารด้วยกันในสักแห่งของโดมผีเสื้อ คุณจะอุ่นใจอย่างที่สุดกับความปลอดภัยที่ทั้งสองมอบให้

30.เมื่อเข้ามาในโดมให้เดินตามแผนที่เท่านั้น อย่าวอกแวกไปผิดทาง หาไม่คุณจะหลงอยู่ในมิติของพญาผีเสื้อพิษ ด้วยขนาดกับหน้าตากระหายเลือดทำให้คุณแยกพวกมันกับผีเสื้อปรกติได้ไม่ยาก ถ้าโชคดีผู้เชี่ยวชาญกับผีเสื้อสีทองจะตามหาคุณพบในไม่กี่อึดใจ แล้วเจ้าตัวจะพาคุณกลับมาโดมผีเสื้อปัจจุบัน ห้ามชะล่าใจเด็ดขาด พนักงานคนก่อนกว่าจะถูกพบก็ในสภาพอิดโรยซีดเซียว เนื่องจากโดนฝูงผีเสื้อพิษรุมล้อมทั่วทั้งตัว

31.อย่าแปลกใจหากเจอผีเสื้อกลางคืนโบยบินเล่นกับผีเสื้อกลางวัน หรือเหล่าแมลงชนิดอื่นในโดมเวลานี้ ความงดงามจะสะกดคุณไว้จนหลงลืมเวลาทีเดียว พวกมันบางส่วนมาจากห้องสต๊าฟชั้นสองตามที่คุณตรวจสอบไว้ แต่ถ้าคุณเจอตัวที่ไม่มีข้อมูล บางส่วนเช่นกัน มันอาจมาจากมิติอีกฝาก จงใช้มีดขู่โจมตีหรือตะเกียงไล่มันออกไปถ้ามันเริ่มเกาะแกะคุณ การใช้ปืนกับเป้าหมายตัวน้อยมีอัตราสำเร็จต่ำ ทำให้เหล่าแมลงดื่มด่ำแสงจันทร์แตกตื่นตกใจจนพุ่งเป้ามาที่คุณ รวมถึงอาจทำให้กระจกโดมแตกซึ่งแปลว่าบางสิ่งภายนอกสามารถเข้ามาที่นี่ได้

32.คุณต้องตรวจสอบภายในโดมผีเสื้อให้เรียบร้อย ขอให้คุณช่วยเหลือผีเสื้อที่บาดเจ็บ พาหนอนทารกกับดักแด้น้อยไปเข้านอน ตรวจสภาพพรรณพืชหรือแผ่นกระจกตามที่เขียนไว้ในเอกสาร ทำจนกว่าจะวนกลับมาที่ประตูตอนขามาอีกรอบ เนี่องจากโดมเป็นกระจกใส บางสิ่งภายนอกก็สามารถมองเห็นคุณได้ ระหว่างทางหากคุณพบแสงประหลาด เสียงประหลาด หรือใครทักทาย ห้ามตอบรับอะไรกลับไปโดยเด็ดขาด เพราะมิติภายในโดมผีเสื้ออาจเล่นตลกให้พวกคุณมาเจอกันก็เป็นได้

33.เวลาตรวจโดมผีเสื้อหากคุณพบรังดักแด้ยักษ์ใหญ่กว่าตัวคุณ มันคือปรสิตจากมิติอื่น ถ้าภายในของดักแด้ว่างเปล่า จงวิ่งตรงจนเจอประตูแล้วออกจากโดม ภาวนาอย่าให้เผชิญหน้ากับมัน แต่ถ้ามันยังไม่ลอกคราบขยับราวกับหายใจอยู่ ให้คุณหยิบปืนกับกระสุนที่มีออกมาใช้กว่ามันจะแน่นิ่ง ค่ำคืนนี้จะไม่สงบสุขถ้าคุณปล่อยไว้มันฟักตัวออกมา กรณีที่พบดักแด้ยักษ์จำนวนมากหรือกระสุนไม่พอ ขอให้คุณจงใช้มีดใบเลื้อย แต่ระวังในการสัมผัสให้ดีมิฉะนั้นยาในกระเป๋าก็มิอาจเยียวยาความทรมานของคุณได้

หากเจียนตัวจริงๆ ซึ่งเราไม่แนะนำเท่าใด ขอให้คุณสละน้ำมันตะเกียงแล้วเผามันซะ ถ้าโชคดีคุณรอดมาได้ จงไปขอโทษลีเวอร์และผู้เชี่ยวชาญที่เผาควันไฟในโดมผีเสื้อ

34.เมื่อเสร็จภารกิจในโดมผีเสื้อเสร็จ ขอให้กลับมาพบลีเวอร์แล้วรายงานตามที่พบ หลังจากนี้ก็ตรวจตราความเรียบร้อย ทำความสะอาดหรืออื่นๆ ตามแต่คุณจัดสรร โดยมากลีเวอร์จะสอนภารกิจอื่นๆ ยิบย่อยเพิ่มเติมเมื่อคุณทำเวลาได้ดีขึ้นตามลำดับ เมื่อถึงเวลาเลิกงานเพื่อความปลอดภัยคุณสามารถพักผ่อนในอุทยานได้จนกว่าพระอาทิตย์ขึ้น โดยสามารถขอร้องลีเวอร์หรือผู้อื่นช่วยดูแลเป็นเวลาสั้นๆ ได้ตามระยะเวลาที่คุณตั้งใจจะพักผ่อน

กฏในอุทยานสำหรับพนักงานใหม่เริ่มต้นจบลงดังนี้ ขอให้คุณโชคดีกับการทำงานส่วนหนึ่งในอุทยานแห่งนี้...

◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉

พระเจ้าช่วย สิบนาทีผ่านไป ผมอ่านกฏที่ว่ามาอย่างใจเย็นที่สุดแม้ว่าในใจจะมีสารพัดคำถามมากมาย หันด้านหลังกระดาษก็มีประกันชีวิตกับคู่มือสอนใช้ปินซะด้วย พูดตรงๆนะ นี่มันเป็นเอกสารงานที่เล่นใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา ไม่แน่ใจว่าอุทยานแมลงแห่งอื่นจะเป็นอย่างไร แต่ที่สำคัญคือผมไม่เกี่ยงงานที่เงินดีขนาดนี้อยู่แล้ว ผมเก็บเอกสารแล้วตอบว่าพร้อมเริ่มงานทันที โบกมือลาท่านผู้อำนวยการ ตรงไปเข้าอาคารหลัก เย็นนี้อากาศ มีเมฆมีแดดร่ำไร ผมไปประชาสัมพันธ์แต่ไม่เจอใคร เลยไปที่ห้องล็อกเกอร์ก่อนต่อ ก่อนเปิดตู้ออกผมเหลือบไปด้านบน...เห็นมดแดงกับผึ้งเดินบนของว่าง ขนมปังไส้เนื้อห่อพลาสติกล่ะ ผมกวาดมือไล่ปัดนิดหน่อยแล้วแกะพลาสติกกึ่งหนึ่ง คาบมันไว้ด้วยปาก กำลังมองกระเป๋าด้านในไปพลางหยิบเสื้อมาทาบตัว

"สวัสดีครับคุณเจ้าหน้าที่ใหม่ ผมทราบจากผู้อำนวยการแล้ว คืนนี้ขอฝากตัวด้วยนะครับ"

ผมตกใจ เผลออ้าปากค้างจนของว่างไส้เนื้อหล่นพื้น ไม่ใช่เพราะสะดุ้งเสียงอีกฝ่ายอย่างเดียว แต่เพราะเห็นหน้าเด็กหนุ่มที่เข้ามาทัก ผมทอง มีแผลเป็นที่ดวงตาสีฟ้า สวมชุดเจ้าหน้าที่...ไม่เพียงเท่านั้นยังมาพร้อมด้วยร่างผิวซีดขาวที่มีผีเสื้อกลางคืนเกาะอยู่รอบตัวด้วย

ผมเริ่มกลับไปอ่านคู่มืออีกรอบ ...ควรเริ่มจากตรงไหนดีล่ะเนี่ย?

ตอนถัดไป