webnovel

3-1 寻求和平的神 เทพผู้แสวงหาความสงบ

คราแรกพบสตรีแปลกหน้า นางสบมองนัยน์ตาสีแดงก่ำประหนึ่งดวงตาแห่งเทพสงครามอย่างไร้ความกลัวเกรง

หาใช่ความใจกล้าของนางผู้ไม่หวาดหวั่นต่อเทพ เหมือนนางเป็นสตรีประหลาด ผู้ไม่หวาดกลัวในสิ่งใด

เทพอู่เฉินรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของตน ยังค่อนข้างให้ความสนใจอาเป้ย นางสร้างความประหลาดใจให้เขาเป็นอย่างมาก

ดวงตาคู่สวยสว่างใสของนางหยุดลมหายใจของเขาไปชั่วขณะหนึ่ง วันต่อมาเขาจึงเริ่มส่งของสวยงามไปให้นางหลายชิ้น เสื้อผ้าอาภรณ์ ปิ่นปักผมสตรี เรือนนี้ไม่เคยมีข้าวของเครื่องใช้สตรีมาก่อน ก็วานให้บ่าวประจำตัวทั้งสองไปหาวัตถุดิบจากสวรรค์มาสร้างมันด้วยพลังเวท ส่วนหนึ่งนั้นก็สร้างมันด้วยพลังปีศาจ

เทพอู่เฉินเป็นครึ่งเทพครึ่งปีศาจ ทว่ามีนิสัยรักความสงบ ตามหาความสงบอยู่เป็นนิจ เขาใคร่อยากจะรู้นักว่าคำทำนายนั่นมีมูลความจริงหรือไม่ หากว่านางเป็นบุคคลตามคำทำนาย เขาจะพบความสงบสุขได้จริงหรือ?

ตลอดหลายร้อยปีมานี้ ภาระปัญหามากมายรบกวนเขาอยู่เรื่อยไป ปีศาจตามรังควาน แม้แต่ทวยเทพยังผลักภาระมาให้เขาจำเป็นต้องรับผิดชอบ ชีวิตวุ่นวายแม้เป็นเทพยังหาได้พบความสุข

ตัวเขากำลังคิดว่าหากใช่นางจริง การบีบบังคับนางไม่น่าจะทำให้นางยอมปฏิบัติตามระเบียบ จากที่เห็นความดื้อรั้นเอาเรื่องของนาง ไม่ฟังผู้ใดยังเอาแต่คุยโม้โอ้อวดเรื่องอาจารย์ของนาง การใช้ไม้อ่อน เป็นมิตรกับนางเสียหน่อย อาจได้สิ่งที่ตนปรารถนาในอนาคต

"มนุษย์ยกย่องให้นางเป็นเจ้าสาว กุเรื่องขึ้นมาหลอกพวกนางให้รับหน้าที่อย่างเต็มใจ แต่จะสวรรค์หรือข้าหรือใคร ไม่เคยสั่งให้มนุษย์ส่งเครื่องสังเวย เป็นแผนการอะไรของท่านแม่กันแน่?"

คงเป็นฝีมือท่านแม่แต่แรกเริ่ม ได้ยินว่านางไปบอกเจ้าเมืองให้ส่งเครื่องสังเวยมาเป็นสตรีในทุกรอบสิบสองปี แต่เงื่อนไขยิบย่อยนั้นเห็นว่ามนุษย์จะตั้งกันเอง บอกผ่านกันมารุ่นสู่รุ่น การสื่อสารก็ผิดเพี้ยนไป

หรือจะเป็นการเข้าใจผิดแต่แรก มนุษย์ต่างทึกทักกันเอาเอง?

ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้... สมควรเป็นฝีมือของท่านแม่มากกว่า

เทพอู่เฉินยืนคิดเรื่องนี้อยู่หน้าเรือน เคียงข้างงูเขียวและงูขาวที่เขาชุบเลี้ยงมา

เซียวอี้หรู ปีศาจงูคนพี่มีความเป็นกังวลเรื่องคำทำนายของแม่เฒ่า

"หากว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องและเป็นไปตามคำทำนาย นางอาจเป็นสตรีผู้ทำให้เทวโลกเกิดปัญหาครั้งใหญ่ นางเฟยอี๋คงอยากให้เป็นเช่นนั้น"

"การปรากฏตัวของนางไม่ใช่เรื่องใหญ่ วันใดที่ใต้เท้าจีกงหรือข้ารับมือไม่ไหว ท่านราชาแห่งสวรรค์จะลงมาจัดการด้วยตนเอง ท่านจะไม่ปล่อยให้เทวโลกสักภพหนึ่งล่มสลาย ข้าเชื่อ..."

บุรุษเทพเงยหน้าขึ้นมองพรรณพฤกษาหลากสีสะท้อนแสงระยิบระยับ วิจิตรตระการตา ร่วงโรยจากต้นไม้ทิพย์ ไม่มีวันสิ้นสลายหากไม่ถูกทำลาย ยังเป็นถาวรนานบนเทวโลก มันเพียงร่วงหล่นเพื่อผลัดใบใหม่ เป็นสัญญาณบอกว่าท่านเทพจะเริ่มเข้าสู่การพักผ่อน

เทพอู่เฉินกำลังนึกถึงมารดาผู้ให้กำเนิด

ปีศาจอสรพิษผู้ทรงพลังมากที่สุดในทุกภพภูมิ มักจำแลงกายเป็นสตรีแสนงดงามอ่อนหวาน คอยก่อกวนผู้มีศีลให้มุ่งสู่ความหมกมุ่นในกามารมณ์ ครั้งหนึ่งนางถูกคุมขังอยู่ร่วมพันปี แหกคุกออกมาได้จึงออกอาละวาด สร้างความวุ่นวายไปทั้งเทวโลก ลงไปเข้าร่วมกองทัพบนโลกมนุษย์ ยุยงปั่นป่วนทั้งฝ่ายเจ้าเมืองและฮ่องเต้ให้ทำสงคราม นางเป็นเหตุชนวนของการทำให้บ้านเมืองเกิดสงครามครั้งใหญ่ การรบราฆ่าฟันกันโดยไร้เหตุผล เกิดความวุ่นวายยุ่งเหยิง ผู้คนล้มตายจำนวนมาก นางสังหารขุนนางผู้ตั้งตัวเป็นมือปราบมาร ชักชวนอสูรลงไปล่อลวงมนุษย์ด้วยกันกับนาง

วีรกรรมท่านแม่ เล่าไม่จบในวันเดียว มีแต่เรื่องร้ายกาจเหมือนกับว่านางทำทุกอย่างเพื่อระบายอารมณ์โกรธแค้นเพราะถูกกักขังในคุกใต้ดินมานาน

จะมีเรื่องดีเพียงเรื่องเดียว นางไม่เคยทำร้ายบุตรชายที่อุ้มครรภ์มาอย่างหวงแหน เป็นตรงกันข้ามเสียอีก หากผู้ใดมายุ่มย่ามวุ่นวายกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมากจนเกินไป นางอาจปรากฏตัว

เผาผลาญทุกสิ่งสิ้น!

นี่เป็นเรื่องที่เขาจะไม่ลืมอย่างเด็ดขาด อู่เฉินหันไปพูดกับบ่าวคนสนิททั้งสอง

"เจ้านำความว่าข้าไม่ว่างรับแขกไปติดให้ทั่ว หวังว่าเรือนข้าจะไม่พังราบเป็นหน้ากองเหมือนคราวก่อน ทั้งอสูร ปีศาจ ทั้งท่านแม่อุตส่าห์มาเยี่ยมเยียน เผาต้นไม้ข้าเสียไม่เหลือสักต้นเดียว"

"ข้าน้อยซื่อหยูอี้ ด้วยเกียรติของตระกูลข้า รับปากท่านว่าจะดูแลทุกอย่างในเรือนนี้ให้เรียบร้อย ขอให้ท่านอู่เฉินวางใจ ไม่ต้องเป็นกังวล" บุรุษร่างเล็กที่สุดให้คำสัตย์ว่าจะปกป้องเรือนเทพเท่าชีวิต ประสานมือทั้งสองก้มศีรษะลงคำนับท่านเทพพร้อมกับพี่ชาย

"พวกข้าเอาอยู่ แม้แต่ต้นไม้ดอกไม้เหล่านี้พวกข้าก็จะคุ้มครองมัน รีบเข้าห้องจำศีลเถอะครับท่านอู่เฉิน เดี๋ยวจะไม่ทันการ"

"ขอบใจมาก ข้าไว้วางใจเจ้าสองพี่น้องมากที่สุด ข้าจะไปผลัดร่างใหม่ของข้าอย่างสบายใจละกัน"

ในสายตาอ่อนโยนลง เทพอู่เฉินหันหลังกลับไปทางเรือนไม้หลังใหญ่

"เรื่องอาเป้ย นางอยากออกมาสูดอากาศบ้างก็ปล่อยนาง นางประสงค์สิ่งใด หากไม่เหลือบ่ากว่าแรงของพวกเจ้า ข้ารบกวนพวกเจ้าดูแลนางด้วย"

สองเทพงูมองหน้ากันเหลอหลา ด้วยเหตุว่างานยากอย่างใหญ่หลวง ยิ่งเสียกว่างานดูแลบ้านของเทพอู่เฉินคงจะเป็นงานดูแลนาง!

 

เทพเจ้าแห่งท้องสมุทรผู้ดูแลสายน้ำบนโลกมนุษย์ และการเปลี่ยนแปลงของสายน้ำทุกแห่งหนบนเทวโลก เป็นที่รู้จักกันในนามเทพเจ้าสายน้ำแห่งทิศประจิม

ผู้เฒ่าอาวุโสปกครองเทวโลกชั้นน้ำภพภูมิบาดาล มานานนับเจ็ดพันปี ได้รับการยกย่องในนาม 'ใต้เท้าจีกง' ถึงแม้ว่าท่านจะเดินทางไปช่วยงานราชาแห่งสวรรค์ในเทวโลกชั้นฟ้า สถานที่แห่งอื่นบนเทวโลกในบางโอกาส อย่างไรเสียก็ต้องกลับมาปักหลักที่เรือนของท่าน

เรือนสี่ประสานแห่งนี้รายล้อมรอบด้วยน้ำใสสะอาด มีไอสีขาวมากมายลอยอยู่เหนือผืนน้ำ ห้วงนทีเย็นยะเยือกปกคลุมด้วยไอเย็นละลานตา ปทุมมาลย์หลากสีเบ่งบานอย่างสวยงาม บางส่วนแอบซ่อนอยู่ข้างใต้นั้น บางต้นสามารถนำมาใช้เป็นสมุนไพรรักษาอาการบาดเจ็บหรือประกอบอาหารก็ได้

ลำน้ำใสสะอาดไหลเวียนไปทั่วเรือน มวลน้ำเหล่านี้เย็นจัดในเหมันต์ฤดู จะกลับมาอุ่นอีกครั้งในฤดูกาลหน้า น้ำนิ่งไม่ขยับทว่าไหลลึกและเชี่ยวกราก หมู่มัจฉามีตัวเล็กถึงขนาดกลาง ทว่ามีพละกำลังมหาศาลกว่าปลาตัวใหญ่ในโลกมนุษย์เสียอีก

เทพแห่งท้องสมุทรส่วนใหญ่จะอยู่กันเป็นคู่ ใต้เท้าจีกงมีมเหสีเพียงหนึ่งเดียว มีบุตรชายเป็นเทพทั้งสองคือเทพเฟยหลิงและเทพฟางหรง แต่คณาญาติ มิตรสหาย เทพตระกูลสายน้ำนั้นมีมากมายหลายสาย

การปรากฏตัวของสตรีตามคำทำนายทำให้เหล่าทวยเทพร้อนใจจึงออกมาหารือกัน กระทั่งแขกไม่รับเชิญบุกรุกมาจากน่านฟ้า

อสูรปักษาบินโฉบมาบอกข่าวดี ส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยันแล้วหายไปในก้อนเมฆา ยักษาและสัตว์อสูรลูกสมุนของมันกระทืบเท้าอันโอฬาร ประลองฝีมือกับบุตรชายคนโตของใต้เท้าจีกง

ทั้งสองสวมเสื้อผ้าอาภรณ์งดงาม ถักทอด้วยลวดลายของคลื่นทะเลและท้องนภา เป็นบุรุษร่างกำยำ แข็งแกร่ง ชำนาญทั้งเวทสายน้ำและวิชาตัวเบา ได้รับการยกย่องว่าเป็นเทพเซียนฝีมือเก่งฉกาจไม่ต่างจากบิดาผู้มีอายุขัยร่วมหนึ่งหมื่นปี

น่าเสียดายนัก...

Next chapter