นีเทียนต้าเซินตัดสินใจไปไถ่ถามเรื่องการรักษาปีศาจจากยมทูตในเขตแดนที่สิบสาม ได้ยินว่ามี 'ท่านลุง' เคยเป็นแพทย์หลวงผู้ชอบรับสินบนในแคว้นต้าเหลียง ท่านลุงห้าหมื่นห้าสิบเคยเป็นเทพแห่งการรักษา ทรยศเหล่าเทพด้วยการหันไปเป็นแพทย์ในเมืองปีศาจ
ยมทูตอาจมีอีกร่างเป็นบุรุษเทพ สตรีเทพ สวมอาภรณ์สีนิล ผ้าคาดเอวยาวต่ำกว่าข้อเข่าลงไป มีอักขระอันอ่านออกเสียงว่าสีขาวและสีดำอันหมายถึงสัจธรรมแห่งชีวิต พวกเขาใช้เวทวิชาได้ทั้งสองแขนง หยินและหยาง บางคราจำศีลเป็นลูกแก้วใต้อาภรณ์เจ้านครมรณา จะออกมาก็ต่อเมื่อไปรวบรวมดวงวิญญาณ
ยมทูตล้วนไม่มีชื่อ ไม่มีรูปลักษณ์ที่แน่ชัด เหนือศีรษะปรากฏอักขระว่าเป็นยมทูตตนที่เท่าไร อักขระสีทองนี้คล้ายการวาดด้วยพู่กันหวัด ๆ
'ปีศาจดำรงอยู่ได้ด้วยพลังวิญญาณ ท่านสังเกตไหมว่าทำไมปีศาจชอบสังสรรค์ ดื่มด่ำสุราอาหารอยู่เป็นนิจ ดับกระหายทางจิตวิญญาณด้วยการสมสู่กัน เพิ่มพูนพลังกายด้วยอาหารและสุรา ด้วยเนื้อสัตว์ที่มาจากการประกอบอาหาร ด้วยผลสุกวิญญาณ ปีศาจสตรีเข้าหาบุรุษเมื่อหิวกระหาย พวกนางสูบพลังจากปีศาจ จากมนุษย์…'
เทพระดับนีเทียนต้าเซินสามารถทำความเข้าใจเรื่องการเยียวยารักษาภายในไม่กี่วัน ทั้งจากท่านลุงและตำรายาเล่มเก่า ได้รับมาจากท่านลุงเช่นกัน
ที่ผ่านมาเขาร่ำเรียนเพียงการจำแนกดวงวิญญาณแต่ละประเภท เพื่อจับกุมและรวบรวมไปส่งปรภูมิ ไม่เคยรู้วิธีการรักษา ร่างสูงสง่าในอาภรณ์ลวดลายเมฆาถักทองดงาม อันตรธานหายไปจากเรือนไม้สว่างไสว หลังพูดคุยกับท่านลุงในห้องรับรองของเรือนยมทูตเขตแดนสิบสาม กลับมาหยุดยืนหน้าโต๊ะไม้ตัวใหญ่ด้วยสีหน้าครุ่นคิด...
'วิญญาณดวงนี้น่าเวทนายิ่งนัก เหตุที่เป็นสีทองอร่าม คงเพราะเวียนว่ายตายเกิดกี่ครา จำต้องพบชะตากรรมเดิม นางมีหน้าที่เพียงสิ่งเดียว เพื่อเสียสละตน...'
"นีเทียนต้าเซิน!"
ปีกผีเสื้อสีม่วงปรากฏขึ้นในห้องทำงานสว่างไสว คืนร่างสตรีในอาภรณ์ถักทอลายบุปผางามสีขาวสะอาด ราวองค์หญิงบนเมืองมนุษย์ รอบกายนางมีผีเสื้อตัวเล็ก ๆ บินวนเวียน แต้มสีชาดกลางหน้าผากมีตราปีศาจ
"ข้าสั่งเจ้าไม่ให้ออกมาเพ่นพ่าน เจ้าควรอยู่แต่ในเรือน"
"ข้าก็เฉาตายพอดี ข้าเบื่อนะท่าน" ปีศาจสาวหน้าตาบึ้งตึง สยายปีกออกมาครั้งหนึ่ง พอสบเข้ากับแววตาดุดัน นางก้มหน้ามองพื้นเหมือนคนทำความผิด "ธรรมดาข้า... เป็นปีศาจเผ่าพันธุ์แมลง นิสัยเสีย ชอบพุ่งตัวเข้าหาแสง นอกจากหอนอนข้าแล้ว มีเพียงห้องทำงานของท่านสว่างไสว นีเทียนต้าเซิน ข้าขอโทษที่รบกวนท่าน"
"เมื่อเจ้าพำนักอาศัยในเมืองมรณา เจ้าต้องปฏิบัติตามระเบียบ ที่นี่ไม่เคยมีปีศาจมาก่อน..."
"ข้ากลบกลิ่นอายปีศาจของตนแล้ว รับรองไม่เป็นอันตราย ข้าจำแลงกายเป็นบุรุษได้ ไม่ทำให้ใครฟุ้งซ่าน..."
เสียงเจื้อยแจ้วเล่าเรื่องพลังกายปีศาจราตรี นีเทียนต้าเซินยืนนิ่งฟังนางพูดอย่างตั้งใจ นางว่านางเป็นปีศาจแห่งแมลงบุปผา ไม่ต่างอะไรจากพวกจิ้งจอกสตรี ต่อให้นางมิได้มีเจตนายั่วยวน... นางก็แค่… มาเยี่ยมเยียนยมทูตกระมัง
"ขนาดเทพระดับสูงอย่างข้ายังได้กลิ่นหอมฟุ้งจากเจ้า ดังนั้นเจ้าควรอยู่แต่ในหอนอน"
"ท่านลุงทั้งหลายไม่มีจิตอกุศลกับข้า ถิงถิงเป็นปีศาจน้อย อายุขัยน้อยกว่าพวกท่านหลายหมื่นปี"
"ยมทูตมาใหม่อายุน้อยกว่าเจ้า เป็นไปได้ว่าอาจมีท่านลุงเคยเป็นโจรป่า ยังไม่ปลงสังขาร บำเพ็ญตบะยมทูตไม่ถึง มีอยู่บ้างที่ท่านลุงระลึกชาติได้โดยบังเอิญ ตั้งแต่เจ้ามา…"
"จะทำอะไรข้าได้เล่า! ข้าบินหนีไปก็จบเรื่องแล้วเจ้าค่ะ" นางว่าเสียงดัง ยมทูตจะมากักขังนางเป็นสัตว์เลี้ยงมิได้ นางมีลมหายใจเยี่ยงปีศาจมาห้าพันกว่าปี นางก้มหน้ากัดริมฝีปากตัดพ้อเขาว่าใจดำ นางตั้งใจมาบอกเรื่องสำคัญ "ข้าอุตส่าห์จะมาบอกท่าน เรื่องความฝัน..."
"เจ้าดื่มด่ำพลังวิญญาณมากไป เจ้าจึงฝัน"
"ข้าแยกแยะระหว่างความฝันกับความเป็นจริงได้แม่นยำ ท่านมิรู้เลยหรือเจ้าคะ? แมลงบุปผาเชี่ยวชาญเรื่องภาพลวงตา..." นางสะบัดชายอาภรณ์เบา ๆ กางฝ่ามือออก ปรากฏดวงไฟกระจกสะท้อนภาพบุคคลมากหน้าหลายตา "แม่ทัพผู้กล้าหาญระดมพลทหารม้าภายใต้พระบรมราชโองการในจักรพรรดิไท่หู นำพาอิสรภาพมาสู่ดินแดนซึ่งถูกกดขี่ข่มเหงมาเนิ่นนานนับหลายร้อยปี ข้าพลีชีพในสนามรบเพื่อปกป้องชาวเมืองในร่างบุรุษผู้องอาจ อีกภพชาติข้าเป็นสตรีผู้สูญเสียสามีในสงคราม ปกป้องทารกน้อยจากการถูกสังหาร การกวาดล้างของกษัตริย์ผู้ไม่เป็นธรรม ข้าช่วยเด็กเล็กและผู้คนไว้มาก..."
นีเทียนต้าเซินเลิกคิ้วมองลูกไฟปีศาจ ประหนึ่งคันฉ่องภพชาติของเหล่าเทพ ทว่าเป็นภาพลวงตาของปีศาจ นางเล่าว่าอีกสามภพชาติสุดท้าย นางเป็นบุตรสาวคนโตของสกุลลู่ หน้าตาสะสวย จิตใจดี นางยอมเสียสละตนในฐานะเชลยศึก เพื่อให้ครอบครัวของนางหลบหนีการจับกุมสำเร็จ หลังผลัดเปลี่ยนดินแดนแคว้นใหม่ ให้พวกเขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี
อีกภพชาติของนางยอมรับโทษกบฏแผ่นดิน สละชีพให้คนรักของนางอย่างเต็มใจ เพื่อให้เขาได้ตบแต่งกับองค์หญิงแห่งแคว้นที่เฟื่องฟู จวบจนปัจจุบัน นางเป็นปีศาจผีเสื้อ ก็ยังต้องเสียสละเพื่อปีศาจตนอื่น...
"ตำราแห่งความเป็นและความตายจึงเรียก 'จิตวิญญาณที่เสียสละ' นับแสนปีเทวโลกจะพบสักดวงหนึ่ง จากวิญญาณนับหลายหมื่นล้านดวง"
นีเทียนต้าเซินไม่คิดว่าควรพูดเรื่องนี้ เพียงเห็นนางดีใจเป็นลิงโลด นั่นอาจเป็นประโยชน์ หากนางตั้งเป้าหมายสำคัญในการเข้าไปในตำรา
"แล้วเจ้าพร้อมทำงานหรือยัง?"
ถิงถิงพยักหน้าหงึกหงัก "ต่อให้ข้าไม่พร้อมก็ต้องพร้อม ใช่ไหมเจ้าคะ?"
"ใช่"
การต่อสู้กับตำราแห่งความตายด้วยพลังปีศาจเต็มกาย ผลออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจต่อเจ้านครมรณา ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วปีกอันงดงามเหลือสภาพเป็นสีดำกระง่อนกระแง่น ด้วยฝีมือผู้พิทักษ์ที่หน้าตาเหมือนปีศาจงู
เจ้าตำราแสบสร้างกำแพงสูงเทียมฟ้า แถมเก่งฉกาจเรื่องเพลิงกัลป์ ปีศาจสาวในอาภรณ์สีขาวสะอาดกลิ้งหลุน ๆ จากตำรา ก้นกระแทกพื้นเรือนอย่างเจ็บปวด นางร้องไห้คร่ำครวญพูดจาไม่รู้ความ "ฮืออ.... ปีกแสนสวยของข้าา หนวดข้า... ข้าเหลือแต่หนวด..."
"เจ้าทำได้ดี... ปีศาจผีเสื้อ"
"ข้าทำงานให้ท่านมาตั้งนาน ไยท่านไม่เรียกชื่อข้าเจ้าคะ?ข้า..."
"ถิงถิง ข้ารู้ชื่อของเจ้า เพียงพลั้งเผลอไปบ้างประสาข้า ขอเจ้าอย่าถือสา ข้าไม่เคยเอาอกเอาใจใคร"
"เจ้าค่ะนายท่าน เทพมรณาผู้ยิ่งใหญ่เกลียดชังความชั่วร้ายของปีศาจ ท่านก็เลยจะพิพากษาข้า... ถิงถิงไร้ความผิด... ข้ามาช่วยงานท่าน แลกกับการมีชีวิต..."
นางไม่วายตัดพ้อบุรุษเทพ ใบหน้าหวานงามเปรอะเปื้อนคราบเขม่าควันและคราบน้ำตา อาภรณ์สีสันสดใสของนางขาดวิ่น มิหนำซ้ำยังมีกลิ่นไหม้ดำ ผิวกายขาวละเอียดมีรอยช้ำเขียว โลหิตเกรอะกรัง
เทพมรณาก้มหน้าเล็กน้อย เรียกนางด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนลง "ถิงถิง... ข้าจะพาเจ้าไปชิมผลสุกวิญญาณดีไหม? เจ้าคิดว่ายังไง ที่จริงแล้วต้นไม้วิญญาณก็มีตั้งหลายแห่ง"
"ข้าไป ข้าอยากไป!"
"เจ้าเคยไปเทวโลกหรือไม่?"
"ข้าเคยไปเทวโลกชั้นดินครั้งหนึ่ง เทวโลกชั้นน้ำชั้นฟ้าข้ายังไม่เคยไป ท่านแม่กำชับข้าไม่ให้ข้าไปเทวโลกอีก ข้าเคยไปสร้างเรื่องเอาไว้..."
เงาปีกหงิกงอลีบลงไปกับแผ่นหลัง นึกย้อนกลับไปตอนนางและพี่สาวทั้งสองติดกับดักอสูรในภพภูมิลับแล เกือบได้เป็นอาหารของปีศาจตะขาบพันปี
พี่รองพี่ใหญ่เล่าว่าปีศาจตนนี้มีเรือนผมสีเงิน รูปโฉมงดงาม แต่เหยื่ออย่างไรก็คืออาหารรองท้อง การหลบหนีจากโพรงหลุมขนาดใหญ่จำต้องมีพลังที่มากกว่า
เมื่ออดทนรอความช่วยเหลือของท่านปู่ต่อไปไม่ไหว นางถูกฉีกปีกไปจนไม่เหลือแม้เส้นปีก พี่สาวทั้งสองยังเกือบจะฉีกแขนและขาปีศาจของนางเพื่อสูบกินพลังเวทให้ตนมีชีวิตรอด
กว่านางจะผลัดปีกผีเสื้อให้งอกออกมาใหม่ได้ครบทั้งสามคู่ ใช้เวลาร่วมสามร้อยปี