บทที่ 24 แผนพัฒนา
ตอนที่โรแลนด์ตื่นขึ้นมาตอนเช้า คนที่มาปรนนิบัติเขาไม่ใช่ไทร์ แต่เป็นสาวใช้สูงวัยอีกคน
พอเดินออกจากห้องนอน ก็เห็นหัวหน้าอัศวินคาร์เตอร์กำลังรอเขาอยู่นอกประตูแล้ว
“ฝ่าบาท กระหม่อมจำเป็นต้องแจ้งข่าวร้ายแก่ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ” เขาพูดเสียงขรึม “หัวหน้าสาวใช้ของฝ่าบาทเสียชีวิตลงเมื่อคืนพ่ะย่ะค่ะ”
“อะไรนะ” โรแลนด์หนังตากระตุก ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าผลจะออกมาแบบนี้ ทว่าลึกๆ ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่ดี อย่างไรเสียคนคนนี้ก็ตายเพราะเขา
“นางพลัดตกลงไปจากระเบียงพ่ะย่ะค่ะ สถานที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ทหารยามก็ไม่เห็นคนนอกเข้าออก...ดังนั้นจึงสันนิษฐานว่านางน่าจะพลัดตกลงมาเอง เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุพ่ะย่ะค่ะ”
อัศวินรายงานผลการตรวจสอบ สายตาที่มองโรแลนด์ดูประหลาดน้อยๆ โรแลนด์ย่อมรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร ตอนอยู่ที่เกรย์คาสเซิล ใครๆ ก็รู้ว่าเจ้าชายตัวจริงพยายามจะข่มขืนไทร์อยู่หลายครั้ง ในยุคนี้ เจ้าชายอาจมีความสัมพันธ์กับสาวใช้ข้างกายได้เป็นเรื่องปกติ เพราะเดิมทีกิจกรรมบันเทิงก็ไม่มีมากอยู่แล้ว ชีวิตกลางคืนก็ไม่มี กินข้าวอิ่มเแล้วไม่มีอะไรทำก็ต้องทำเรื่องอย่างว่า และนอกจากจะทำกับคู่ของตัวเองแล้ว ระหว่างเจ้าชายกับขุนนางชั้นสูงยังมีการแลกคู่นอนกัน หรือกระทั่งจัดงานเลี้ยงเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ดังนั้น เรื่องราวความเละเทะในหมู่ชนชั้นสูงจึงไม่ใช่แค่เรื่องล้อเล่นสนุกๆ
ตั้งแต่เจ้าชายมาอยู่ที่นี่ก็นับว่าสำรวมพฤติกรรมลงมาก มิหนำซ้ำหลังจากที่กลายเป็นโรแลนด์คนปัจจุบันแล้วก็ไม่เคยแตะต้องผู้หญิงเลย...เพราะนอกจากไทร์แล้ว สาวใช้คนอื่นๆ ก็ไม่น่าพิศมัยเอาจริงๆ นอกจากนี้พอย้อนเวลามาก็มาเจอเดือนแห่งปีศาจอีก สมองเขาจึงแทบจะมีแต่แผนสร้างเมืองเพียงอย่างเดียว ยังไม่เคยมีโอกาสดื่มด่ำชีวิตรักอันหอมหวานอย่างชนชั้นสูงด้วยซ้ำ
“น่าเสียดายจริง” โรแลนด์แสร้งทำท่าเสียดาย “อย่างนั้นก็ให้สาวใช้คนที่ปรนนิบัติข้าเมื่อเช้าจัดการเรื่องไทร์แล้วกัน นางเป็นหัวหน้าสาวใช้คนใหม่”
คาร์เตอร์พยักหน้า โค้งคำนับแล้วจากไป
โรแลนด์เพิ่งเดินเข้ามาในห้องทำงาน ก็เห็นไนติงเกลที่นั่งอยู่บนโต๊ะไม้แดง
“ถามได้ความอะไรหรือไม่”
“ไม่ได้อะไรทั้งนั้นเพคะ พอนางเห็นข้าก็ชิงฆ่าตัวตายแล้ว” น้ำเสียงเธอเจือแววผิดหวัง “นางไวมากจริงๆ ไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว”
“เจ้าไม่ได้คุมตัวนางไว้หรือ” โรแลนด์เดินวนรอบอีกฝ่ายก่อนจะทิ้งตัวลงบนเก้าอี้
“หม่อมฉันมัดนางไว้แล้วเพคะ” ไนติงเกลโน้มตัวมาใกล้เขา “แต่ใครจะรู้ว่านางจะซ่อนยาพิษไว้ในปาก หม่อมฉันเลยต้องจัดฉากให้เหมือนอุบัติเหตุแทน”
“ข้านึกว่าเจ้าจะมีประสบการณ์มากเสียอีก เช่นนี้ยังกล้ารับค่าตอบแทนอีกหรือ”
“อ๊ะ อย่าตรัสเช่นนี้สิเพคะ แม้หม่อมฉันจะไม่ได้ข้อมูลอะไรจากปากนาง แต่ก็ใช่ว่าหม่อมฉันจะกลับมามือเปล่า” ไนติงเกลหัวเราะเบาๆ วางกระดาษที่พับอย่างเรียบร้อยลงบนโต๊ะ “หม่อมฉันเจอสิ่งนี้ในห้องนางเพคะ”
โรแลนด์คลี่กระดาษออก มันคือจดหมายจากครอบครัว คนส่งจดหมายเรียกไทร์ว่าพี่สาว เนื้อหาพูดคุยถึงเรื่องทั่วๆ ไป แต่เขาสังเกตว่าอีกฝ่ายพูดถึงทะเลอยู่บ่อยครั้ง เช่นว่าทิวทัศน์ริมทะเลสวยมาก เธอชอบมองพระอาทิตย์ตกจากชายหาดอะไรพวกนั้น ตอนท้ายจดหมายยังถามพี่สาวด้วยว่าเมื่อไรจะได้กลับมา เธอคิดถึงพี่สาวมาก โรแลนด์นึกถึงดินแดนในปกครองของพี่น้องตัวเอง ก่อนจะพูดอย่างไม่แน่ใจ “พี่สามแห่งท่าเรือเคลียร์วอเตอร์หรือ”
“ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น เมืองของพระเชษฐาทั้งสองของฝ่าบาทมองไม่เห็นทะเลนี่เพคะ จากการสันนิษฐานของหม่อมฉัน เจ้าหญิงลำดับที่สาม การ์เซีย วิมเบิลดัน คงจะทรงจับน้องสาวนางเป็นตัวประกัน แล้วใช้นางเป็นหมากในมือมากกว่า นางฆ่าตัวตายอย่างเด็ดขาดขนาดนั้นแสดงว่าแผนนี้ถูกเตรียมไว้ก่อนแล้ว หรือก็คือ ก่อนหน้าที่นางจะมาอยู่กับฝ่าบาท นางเคยผ่านการฝึกฝนมาแล้วอย่างน้อยสองถึงสามปี”
โรแลนด์ถอนใจเบาๆ ราชโองการชิงตำแหน่งรัชทายาทไม่สิ้นสุดง่ายๆ จริงๆ ต่อให้เขาไม่ร่วมชิงก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัย เพื่อราชบัลลังก์แล้ว พี่น้องของเขาไม่คิดปรานีกันเลย ต่อไปก็คงจะมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกนั่นล่ะ
“อ๊ะ มีคนมา หม่อมฉันทูลลาเพคะ ฝ่าบาท”
ไนติงเกลเป่าลมใส่โรแลนด์อย่างยั่วเย้า แล้วหายตัวไปในอากาศอย่างรวดเร็ว
แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็น แต่การแสดงกลกลางวันแสกๆ แบบนี้ก็ยังทำให้โรแลนด์ตกใจอยู่ดี เขาลังเลสักครู่ ก่อนจะลองจิ้มนิ้วไปยังขอบโต๊ะที่ว่างลง ทว่านิ้วยื่นไปได้ครึ่งทางก็ถูกมือนิ่มๆ คว้าไว้ “ฝ่าบาท ทรงทำเช่นนี้อันนาจะเสียใจเอาได้นะเพคะ”
เอาล่ะ ดูเหมือนพลังของเธอจะเป็นการล่องหน ไม่ใช่หายตัว โรแลนด์คิด มิฉะนั้นคงน่ากลัวมาก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก “ฝ่าบาท กระหม่อมบารอฟพ่ะย่ะค่ะ”
โรแลนด์เก็บนิ้ว ปรับสีหน้าให้นิ่งสงบดังเดิม “เข้ามา”
ผู้ช่วยเจ้ากรมหอบเอกสารกองใหญ่เข้ามาในห้องทำงาน ยังไม่ทันนั่งเรียบร้อยก็เริ่มรายงานผลการบริหารงานในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา โรแลนด์เองก็รวบรวมสมาธิ ฟังเขาบรรยายอย่างตั้งอกตั้งใจ จากการได้พบเห็นอะไรมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนกว่า เขาพบว่าตัวเองเริ่มตามจังหวะของอีกฝ่ายทันแล้ว ไม่ได้มึนงงสับสนเหมือนตอนแรกเริ่ม
สรุปแล้ว สถานะทางการเงินของเมืองชายแดนดีขึ้นในระดับหนึ่ง สาเหตุหลักเพราะขายแร่และพลอยดิบให้เมืองวิลโลว์ได้เงินมาเกือบสองร้อยเหรียญทอง เงินก้อนนี้หลังจากหักค่าอาหารและจ่ายค่าแรงแล้ว ยังมีเหลืออีกเก้าสิบกว่าเหรียญทอง
บารอฟเองก็ตื่นเต้นดีใจมาก เมื่อมีเงินเก็บในมือ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะอยู่ไม่พ้นฤดูหนาวแล้ว
แต่โรแลนด์ไม่ยอมให้เขาว่างงานเลย “ข้าจะคัดชาวเมืองสักกลุ่มมาต่อสู้กับสัตว์อสูร พวกเขาจะต้องถูกฝึกตั้งแต่ตอนนี้ คนฝึกก็คือหัวหน้าอัศวินของข้าเอง ไว้ข้าจะคุยรายละเอียดปลีกย่อยกับเขาอีกที ส่วนเจ้าไปทำแผนจัดซื้อมาให้ข้า คนพวกนี้ต้องมีทวนและเกราะหนังที่แข็งแรง รวมทั้งเสื้อผ้าฤดูหนาวสำหรับผลัดเปลี่ยนคนละสองชุดด้วย”
“ฝ่าบาท เอ่อ...ตามธรรมเนียมปกติแล้ว พวกเราก็แค่เกณฑ์คนไปรบชั่วคราวไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ”
“กองทัพที่ลงสนามรบโดยไม่ผ่านการฝึกฝนก็ไม่ต่างอะไรจากกลุ่มคนสะเปะสะปะ พวกสัตว์อสูรจะกลัวพวกเราแค่เพราะคนเยอะหรือ เกิดแพ้ขึ้นมาจะยุ่งยากกว่าเดิมเปล่าๆ”
“นี่ฝ่าบาททรงดำริจะอยู่รักษาเมืองชายแดนจริงๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ” บารอฟถามอย่างลังเล
“หากรักษาไม่อยู่จริงๆ ก็ต้องถอย แต่ข้าไม่คิดว่าพวกเราจะรับมือสัตว์อสูรกลายพันธุ์เพียงไม่กี่ตัวไม่ได้”
“แต่หากทำตามแผนของฝ่าบาทก็ต้องใช้เงินอีกก้อนใหญ่”
ท่าทางขี้เหนียวของอีกฝ่ายทำให้โรแลนด์หัวเราะ “แต่งานนี้จำเป็นต้องใช้ เจ้ารีบไปจัดการเถอะ”
ในคลังส่วนตัวของเขายังมีเงินอีกสามร้อยกว่าเหรียญทอง หลักๆ ใช้ในการก่อสร้างกำแพงเมือง เงินค่าสั่งทำวัสดุและชิ้นส่วนเครื่องจักรไอน้ำก็ควักจากกระเป๋าตัวเองเหมือนกัน เครื่องแรกใช้เงินไปประมาณยี่สิบเหรียญทอง และเขาก็ยังต้องการเพิ่มอีกสามเครื่องเป็นอย่างน้อย
เครื่องจักรไอน้ำผลักดันให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่หนึ่งก็จริง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเครื่องจักรไอน้ำคือการปฏิวัติอุตสาหกรรม ในประวัติศาสตร์ ประเทศอังกฤษเจริญถึงขั้นต้องการกำลังขับเคลื่อนใหม่ๆ มาแทนที่แรงงานคนและสัตว์เพื่อเพิ่มผลผลิตให้เหมือง หลังจากวัตต์พัฒนาเครื่องจักรไอน้ำแล้วก็ได้รับรายการสั่งซื้อจำนวนมหาศาล กำลังขับเคลื่อนชนิดใหม่นี้แพร่หลายไปสู่อุตสาหกรรมชนิดต่างๆ ภายในระยะเวลาสั้นๆ
เมืองชายแดนในเวลานี้ไม่มีพื้นฐานสำหรับการปฏิวัติอุตสาหกรรมแม้แต่น้อย หรืออาจเรียกได้ว่าไม่มีอุตสาหกรรมด้วยซ้ำ ดังนั้น โรแลนด์จึงไม่ได้หวังจะโกยเงินเป็นกอบเป็นกำจากการขายเครื่องจักรไอน้ำ เขาเพียงแต่อยากนำเครื่องจักรชนิดนี้เข้าไปขนแร่และบดหินในเหมืองเนินเขาทิศเหนือเท่านั้น หลังจากเหมืองเพิ่มปริมาณการผลิตได้แล้ว จึงค่อยขยายขอบเขตการใช้งานของมัน เป็นการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมจากบนลงล่าง
........................................