webnovel

From Scratch (2)

"ทำไมล่ะ ไม่สู้กับผู้หญิงแล้วหรอ"

"!!!"

"นายคงจะรับไม่ได้หรอก เพราะผู้หญิงที่ทั้งตัวเล็กกว่าทั้งแขนสั้นกว่าคนนี้กำลังจะทำให้นายแพ้ ด้วยหมัดเล็กๆ นี่"

"นังบ้านี่!!!"

ทันใดที่อีกฝ่ายพุ่งเข้ามา เรเวนก็ตั้งการ์ดคอยตั้งรับการโจมตีต่อไปทันที คงเป็นเพราะเห็นว่าเธอใช้กำลังในการต่อสู้ ฝ่ายตรงข้ามเลยไม่ได้ใช้อาวุธใดๆ เลย จนกระทั่ง…

ปึก!!

"อ้ากก!!" เธอสวนฝ่ายตรงข้ามกลับไปทันทีเข้าที่หน้าของอีกฝ่ายหลังจากที่ป้องกันการโจมตีโดยใช้กำลังของอีกฝ่ายได้สำเร็จ พร้อมเหวี่ยงขาฟาดไปที่น่องเต็มๆ เพื่อเป็นการโจมตีต่อไป

เปรี้ยง!

"อย่ามาหยามกันนะเว้ย!!!" สติของคนตรงหน้าได้ขาดสะบั้นลง แล้วเริ่มคว้าอาวุธที่ไม่ยอมแตะตั้งแต่แรกของตัวเองขึ้นมา

'เรายังออกหมัดช้าไปอยู่เพราะเราตัวเล็กกว่า เราต้องลดข้อเสียเปรียบตรงนี้ลง' เรเวนคิดอย่างใจเย็น

เปรี๊ยะ… ครืนนนน!

เสียงอาวุธของฝ่ายตรงข้ามเริ่มทำงาน อาวุธค้อนที่ฝ่ายตรงข้ามมีสมานกับพลังไฟที่เจ้าตัวสามารถควบคุมได้ เกิดเป็นวงพลังงานขนาดกว้าง ล้อมรอบเจ้าตัวไว้ นี่สินะ 'ผู้ใช้ค้อน'

"ฮ่าฮ่า มีอะไรจะสั่งเสียไหม" ไม่ทันเหลือช่องว่างให้เธอได้พูดตอบโต้ อีกฝ่ายก็หวดค้อนที่ชาร์จมาแล้วใส่เธอเข้าอย่างจัง

แคร้ง!

"ใช้มีดสั้นกั้นไว้งั้นหรอ!" อีกฝ่ายคำรามออกมาอย่างอารมณ์เสีย เมื่อเห็นว่าเธอกันค้อนที่ฟาดลงไปตรงๆ ได้ ด้วยมีดสั้นที่จับหันลงขนานกับมือเป็นรูปตัว x

ปึก!

การใช้อาวุธเป็นหนึ่งวิธีในการลดความต่างของขนาดตัวลง เธอไม่รอช้าผลักฝ่ายตรงข้ามออกทันทีหลังจากที่กันการโจมตีของค้อนยักษ์ได้ เพราะเท่าที่ได้ยินมาจากที่คนอื่นคุยกันเมื่อกี้ ถ้ามันคิดจำลองเอาไว้แล้วว่าเวลาคู่ต่อสู้หลบแล้วจะต้องใช้ท่าโจมตีไหนต่อ งั้นทางเดียวที่จะทำให้เราพอจะงัดกับมันได้ก็คือ การที่เราไม่ต้องหลบ แล้วทะลวงเข้าไปเลย!

ปึง! ปึง! ปึง!

"อึก…!" ครั้งนี้เป็นเสียงของเรเวน เดิมทีแล้วคนร่างใหญ่จะเสียเปรียบเรื่องความเร็วความคล่องแคล่วในการโจมตี แม้จะมีแรงมหาศาลที่ทำให้เหวี่ยงอาวุธใหญ่โตได้ แต่คนคนนี้ทั้งหวดเร็วใช้ได้ทั้งแรงเยอะเลย

ซ้าย ขวา ซ้าย เขาหวดค้อนอย่างต่อเนื่อง จนหลังของเรเวนเริ่มเคลื่อนไปตรงจุดอับตรงขอบมุมของสังเวียนเพราะแรงกระแทก เรเวนได้แต่ตั้งการ์ดคอยหลบค้อนที่เหวี่ยงมาหาเธอเท่านั้น

"จนมุมแล้วสินะ!!!" อีกฝ่ายพุ่งเข้ามากะจบเกมทันทีที่เห็นเธอโดนต้อนเข้ามุมไม่มีทางสู้ แต่หารู้ไม่ว่าเรเวนเองก็รอเวลานี้อยู่เหมือนกัน

ปึง!

เสียงหมัดอัพเปอร์คัทดังสนั่นดั่งเสียงปืน เธอรอเวลานี้มาโดยตลอด อาวุธที่เธอมีเหมาะกับการต่อสู้ระยะประชิดมากกว่า เธอรู้ตัวเองดี เธอจึงจงใจยั่วโมโหฝ่ายตรงข้ามให้เสียศูนย์ และทำเป็นว่าโดนต้อนเข้ามุมและเก็บแรงของตัวเองรอ เมื่อล่อให้เขาเข้ามาได้สำเร็จ เธอเล็งจังหวะที่เขาพุ่งเข้ามาซึ่งจะทำให้เสียหลักและโดนหมัดไปเต็มๆ สิ่งที่เธอต้องทำก็คือการกำหมัดแน่นๆ พร้อมออกแรงในหมัดนั้นให้มากที่สุด ก็เพราะแบบนี้แหละฝ่ายตรงข้ามจึงได้ปลิวไปได้ง่ายๆ ต่อให้เธอจะเป็นผู้หญิงที่แรงน้อยและตัวเล็กกว่า แค่นี้ก็มากพอที่จะทำให้อีกฝ่ายล้มไปกับพื้นได้แล้ว

สิบปีของการต่อยมวย สองปีของเทควันโด และ หนึ่งปีของยูโด มันเป็นการออกกำลังกายที่ดี การเล่นเทควันโดและยูโดของเธอนั้น ถูกต่อยอดมาจากมวยไทย มวยไทยเป็นศิลปะป้องกันตัวแรกที่ได้ร่ำเรียนมา เหตุเกิดจากการที่เธอกับแม่เดินผ่านโรงเรียนสอนต่อยมวย แล้วเห็นว่าควรเรียนเอาไว้หน่อยดีกว่า เพื่อการป้องกันตัวทั่วไป เมื่อเธอลองเรียนไปเรื่อยๆ ดูแล้วพบว่ามันก็ไม่ได้แย่อะไร จึงลองลงเรียนศิลปะป้องกันตัวศาสตร์อื่นที่สามารถปรับใช้กับผู้หญิงได้เพิ่ม จนเริ่มหยุดไปตอนเริ่มเรียน ม.ต้น นี้เอง

เธอจะทำให้เขาเห็นถึงประสบการณ์ที่สั่งสมมานานปีเอง ว่ามันนำมาใช้ประยุกต์ได้อย่างไร เหมือนดั่งชื่อศาสตร์ฉบับเต็มที่ว่า เป็นศิลปะการ 'ต่อสู้' และการป้องกันตัว ด้วยนวมที่ซื้อมาในราคาสองร้อยเหรียญนี่แหละ!!

ตึง!!!

"หนึ่ง!"

"สอง!"

"สาม…!"

"ผะ ผู้เข้าแข่งขันฝ่ายท้าชิงเป็นฝ่ายชนะครับ!!!"

แม้ว่าจะนับแบบช้าๆ แล้วก็ตาม แต่เจ้าของร่างที่เพิ่งโดนหมัดเข้าไปอย่างจัง ก็ดูจะยังไม่ได้หายมึนดีเท่าไหร่จนการนับของพิธีกรจบสิ้นไป

"นั่นมันอะไรน่ะ"

"ศิลปะป้องกันตัวเรอะ!"

เสียงฮือฮาของเหล่าคนดูดังกระหน่ำไปทั้งสนามทันทีที่พิธีกรประกาศดังกร้าวถึงผลผู้แพ้ชนะ ไม่มีใครคาดว่าเธอจะชนะ ไม่มีใครคาดว่าเจ้ายักษ์ที่ครองสนามมาเสียนานจะถึงวันที่พ่ายแพ้ และไม่มีใครคาดว่าเธอจะใช้ศิลปะป้องกันตัวในการต่อสู้ มันเป็นการฉีกวิธีเล่นเกมวีอาร์แฟนตาซีแบบปกติไปเลย ก็จริงที่ในร้านขายอาวุธเองก็ลงขายอุปกรณ์สำหรับการโจมตีใช้ศิลปะการต่อสู้เพราะฉะนั้นแล้วจะใช้ก็ไม่แปลก หากแต่ไม่มีใครลองใช้เองจริงๆ และหันไปลงแรงกับการฝึกเวทมนตร์ และอาวุธอนุภาพชนิดอื่นซะส่วนใหญ่ ไม่มีใครให้ความสนใจกับสิ่งที่ถ้ากลับไปโลกจริงแล้วเห็นเกลื่อนกลาดไปหมด

ทรัพย์สินของผู้เล่นกำลังไหลเข้ามาเต็มไปหมด ทั้งอาวุธ เหรียญเงินที่เจ้าตัวสะสมมา และไอเทมทุกชิ้นในคลังพร้อมเลเวล ต่างก็ทยอยลบออกไปจากร่างที่กำลังจะหายงงกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับตัวเขาพร้อมพยุงตัวเองขึ้นมา

"ไม่! ไม่จริง-!!!!" เสียงของผู้เล่นที่พ่ายแพ้ไปเริ่มอวดครวญขึ้นเมื่อชุดเกราะที่ใส่อยู่ซึ่งเป็นไอเทมชิ้นสุดท้ายที่เจ้าตัวมีอยู่ได้หายไปและตัวเขาโดนเปลี่ยนกลับกลายเป็นชุดธรรมดาๆ ที่ผู้เล่นใหม่ใส่กัน

"แก… แก!!! เอาของๆ ฉันคืนมานะ! กลับมาสู้กันใหม่เดี๋ยวนี้!!!!" เขาตะโกนอยู่แบบนั้นจนกระทั่งเรเวนได้เดินจากไป ทิ้งสายตาของทุกคนที่ยังคงตะลึงอึ้งอยู่ไว้ด้านหลัง

'โห… นี่นับว่าเป็นการรีดไถแบบหนึ่งได้เลยนะเนี่ย แม้แต่ข้าวของที่ผู้ชายก่อนหน้านี้แพ้ให้เจ้านั่นไปก็ตกมาอยู่ที่เราแล้ว'

ครั้งนี้นับว่าเธอโชคดี หากฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ประหม่าเพียงเพราะเธอเป็นผู้หญิง จนโดนยุได้ง่ายๆ ไปถึงการโดนหมัดเธอเข้าไปเต็มๆ หมัดเดียวที่มากพอทำให้ล้มลงไปได้ก่อนที่จะงัดสกิลเวทมนตร์หรือสกิลอื่นๆ ของค้อนนั่นมา ไม่งั้นเธอคงแพ้ไปแล้ว ด้วยข้อจำกัดของอาวุธและสกิลที่เธอมี เธอยิ่งไม่มีแผนสำรองเอาไว้อยู่ ต่อให้เธอนึกเรื่องที่จะใช้ศิลปะป้องกันตัวเข้าต่อสู้ออก เพราะบังเอิญไปเห็นนวมที่ขายอยู่ในตลาดอาวุธก็ตาม โอกาสชนะคือครึ่งครึ่ง การประลองครั้งนี้ก็คือพนันดีๆ นี่เอง

บางทีแล้วทั้งความชอบแข่งขัน และความบ้าบิ่นหุนหันพลันแล่นของเธอ อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เธอเดินทางมาถึงจุดๆ นี้ก็ได้

'เอาล่ะ ทีนี้เราก็ไปลงทะเบียนได้แล้ว'

[เหลือเวลาสมัครอีกหนึ่งชั่วโมง]

ถือว่าเธอทำเวลาได้ดีเลยทีเดียว ในขณะที่เธอกำลังไล่อ่านกฏและลงทะเบียนสมัครแข่งอยู่นั้น ก็มีสิ่งหนึ่งที่ดันไปสะดุดตาเธอเข้า

"รับคนสมัครไม่จำกัด?" ทัวร์นาเมนต์วีอาร์ที่เปิดรับคนสมัครแบบไม่จำกัดเนี่ยนะ… สังหรณ์ใจไม่ดียังไงก็ไม่รู้แหะ

[ระบบบันทึกข้อมูลเสร็จสิ้น]

หลังจากที่ลงทะเบียนเสร็จสิ้น ก็มีหน้าต่างขึ้นมาสรุปข้อมูลของทัวร์นาเมนต์ขึ้นมาให้อีกรอบ รอบคัดเลือกทั้งหมดมีสามรอบ หลังจากนั้นก็จะเป็นทริปพักผ่อนหนึ่งอาทิตย์ให้ก่อนที่จะเริ่มทัวร์นาเมนต์ของจริง ทัวร์นาเมนต์นี้ถูกจัดขึ้นโดยร่วมมือกับลิลลิเอซ เพื่อเป็นวันสันติภาพสากลของโลกใบนี้ ซึ่งสถานที่จัดทัวร์นาเมนต์ก็คือที่ลิลลิเอซ ต้องยอมรับเลยว่าเธอแทบไม่ได้อ่านข้อมูลของเกมมาก่อนเลยจนกระทั่งมาสมัครแข่ง ส่วนหนึ่งก็เพราะไม่มีเวลาด้วย แต่เป้าหมายหลักของเธอคือการตามหาคำตอบจากเรื่องที่เคยเกิดขึ้นจากแอนโทนี ระบบแข่งทัวร์นาเมนต์จะเป็นอย่างไรก็ช่างเถอะ

"ให้ตายเถอะ… ขนาดลงทะเบียนก็ยังจะขูดรีดเงินไปอีกห้าสิบเหรียญงั้นหรอ" เธอบ่นพึมพำกับตัวเองขณะที่เดินออกมาจากตึกทำการลงทะเบียน หลังจากตรวจทานข้อมูลรอบสุดท้าย แล้วพบเอ็นพีซีกระต่ายตัวเดิมยืนรอเธออยู่ข้างหน้าตึก …พร้อมฉีกยิ้มให้เธอทันทีที่เห็นเธอเดินออกมาจากตึก

"เรเวนนางฟ้าหน้าตาย" เอ็นพีซีตัวนั้นพูดขึ้นพร้อมขำคิกคัก

"!!!" ชื่อนั้นทำให้เรเวนหยุดชะงักลง นั่นเป็นชื่อเล่นที่ได้มาจากเกมวีอาร์ที่เล่นครั้งแรก เธอรู้จักชื่อนี้ได้ยังไง? ไม่สิ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเธอจำเราได้ยังไง

"ฉันว่าฉันเป็นประโยชน์ให้เธอได้นะ" เธอพูดต่อพร้อมยกยิ้มใส่เธอในขณะที่เปลี่ยนมือจาก เป็นไพล่หลังพร้อมเดินเข้ามาหาเธอ

"..."

"เธอ… ไม่ใช่เอ็นพีซีสินะ"

และแล้วข้อสันนิษฐานที่เรเวนได้สร้างขึ้นมาก่อนหน้านี้ก็เพิ่งจะถูกพิสูจน์ไปเดี๋ยวนี้เอง