webnovel

บทที่ 20 ทำร้ายจิตใจ

ฮาวเวอร์ยืนหน้ามึนเมื่อได้ยินเช่นนั้น แต่ในเมื่อตัวเองไม่ได้ทำร้ายอีกฝ่ายจนถึงความตาย ก็ไม่น่าจะมีเหตุผล​อะไรให้ฝั่งคามาโดใช้ก่อสงคราม หรือแม้แต่ยมโลกก็ไม่อาจเอาเขาลงนรกได้

'แจ้งเตือน ระบบจะทำการเคลื่อนย้ายจิตนามฮาวเวอร์ไปยังดินแดนนรกเพื่อชดใช้การกระทำ หมายเหตุ ด่าทอทำร้ายจิตใจมีส่วนให้ผู้ฟังถึงแก่ความตาย ต้องติดอยู่ในนรก 5 แสนปี และอยู่ในสถานะไร้ร่างครึ่งวันของโลกทดลอง'

ฮาวเวอร์ถูกดึงจิตออกไปทันที อีคอนเข้าควบคุมร่างและต้องช็อกกับเหตุการณ์เมื่อครู่ ไม่ใช่แค่ฮาวเวอร์จากไป แต่มีคนตายต่อหน้าเขา อีคอนหันไปมองโทมัสพยายามขอความช่วยเหลือ เมื่อโทมัสเห็นฮาวเวอร์ตัวสั่นก็รู้ทันทีว่าร่างนี้ถูกสลับจิตแล้ว เขาหันไปทางลาติโนและทำสัญญาณมือบอกให้รู้กันภายใน ทุกคนเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ไม่คาดฝันนี้ไว้หมดแล้ว​ ก่อนจะส่งคนไปรับร่างฮาวเวอร์กลับ

"พวกแกบังอาจฆ่าท่านพ่อของพวกเรา! อย่าอยู่เลย!!"

คนที่ส่งไปยังเดินไม่ถึงครึ่งทาง คนฝั่งนั้นก็ชักดาบมาฟันอีคอนกลางลำตัว เขานิ่งช็อกครู่หนึ่งก่อนจะล้มตัวลงพลางกุมแผลที่เต็มไปด้วยเลือด

"ฆ่าพวกมัน!!"

"เฮฮฮฮฮฮฮฮ่!!"

ฝั่งคามาโดบุกเข้าไปในเขตฮาวเวอร์ ลาติโนสะบัดมือลงให้คนเป่าแตรเห็น เขาหยิบแตรสังข์ขึ้นมาเป่าเสียงดังลั่นทั้งกอง ทหารทั้งหมดถือโล่ป้องกันแล้วถอยหลังเป็นรูปตัวยู ใครที่เข้ามาให้รัศมีนี้จะถูกยิงศรพิษสกัดเข้มข้นจากพิษของตะขาบ ถึงแม้จะไม่อันตรายถึงชีวิต แต่ก็อาจทำให้เป็นอัมพาตไปตลอดชีวิตได้

เผ่าคามาโดยังไม่รู้ชะตากรรมรุดหน้าเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง แต่ก็ต้องล้มลงในเวลาต่อมา ลูกศรพิษกระหน่ำยิงใส่คนที่ใกล้ที่สุดให้ล้ม คนด้านหลังก็สะดุดร่างนั้นจนล้มไม่ต่าง เมื่อทางฝั่งคามาโดเห็นท่าไม่ดีก็เริ่มถอยหลังแต่ไม่ทันกาล ทหารฝั่งฮาวเวอร์ปิดทางออกเมื่อฝั่งนั้นรีบรุดเข้ามาจนหมด

ฝั่งคามาโดไร้ซึ่งทางหนี พวกที่ล้มกองอยู่ก็ไม่รู้จะเป็นหรือตาย ทุกคนต่างหันหน้าไปหาความหวังสุดท้าย บุตรชายที่ได้เรื่องมากที่สุดของหัวหน้าเผ่า และคงต้องขึ้นเป็นผู้ปกครอง​เขต​คนต่อไป

"จาคอบ!"

จาคอบลอบมองคนของฝั่งฮาวเวอร์พลางมองท่อยิงลูกศรลอดออกมาจากโล่ คนพวกนี้มีกลยุทธ์ไว้รับมือกับพวกเขา แถมทั้งสองเขตเมื่อรวมตัวกันก็มีจำนวนคนมากกว่า หากครั้งนี้​ไม่พึ่งการอัญเชิญปีศาจแล้วล่ะก็ ฝั่งคามาโดคงต้องศิโรราบและกลายเป็นฝ่ายถูกล่าวิญญาณแทน

"อัญเชิญปีศาจจอมตะกละ เจ้าแห่งการสวาปาม! อัญเชิญปีศาจราคะ ราชินีร้อยผัว อัญเชิญปีศาจแห่งความโลภ โจรเหรียญร้อยศพ!"

วงแหวนเวทย์กางออกสามวงด้วยกัน ผู้อัญเชิญต้องโยนความต้องการของผู้ถูกอัญเชิญลงไป ทั้งอาหาร ตุ๊กตาผู้ชาย และเหรียญ จาคอบโยนทั้งสามอย่างลงวงแหวน​เวทย์​ ร่างเน่าเปื่อยก็ออกมาจากวงแหวนทันที เสียงกรีดร้องประสานกันดังขึ้นจนแสบแก้วหู ทางฝั่งฮาวเวอร์เริ่มถอยทัพออกไปสามทาง เพื่อแยกปีศาจทั้งสามออกจากกัน

เมื่อปีศาจเหล่านั้นวิ่งตามกองกำลังทหารย่อยที่แยกตัวออก ทหารฝั่งฮาวเวอร์ก็รวมพลังเวทย์เข้าด้วยกันสร้างบาเรียคุ้มกันตัวเองจากภายนอก การสร้างบาเรียต้องใช้พลัง​เวทย์มหาศาล ทหารทั้งกองจึงต้องรวบรวมพลังไปที่จุดเดียว สร้างบาเรียเล็กๆ หลายชิ้นติดต่อกันจนครอบคลุมกองกำลังของตน แม้จะป้องกันจากปีศาจได้ แต่ไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้ และนั่นแหละคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ พวกเขาไม่จำเป็นต้องต่อสู้ เพียงแค่เอาชีวิตรอดไว้ก่อน เพราะนั่นคือคำสั่งของท่านฮาวเวอร์

ปีศาจเริ่มทุบหวังจะทำลายบาเรียให้แตก​ แต่ก็ไม่อาจทำได้ จนกระทั่ง มีร่างใครบางคนปรากฏเป็นเป้าสายตาอยู่ด้านหลัง คนผู้นั้นคือคู่ต่อสู้ที่ปีศาจแต่ละตนต้องเผชิญ ฝั่งซ้ายคู่ปรับเก่า มารโมงุนปะทะโจรเหรียญร้อยศพ ฝั่งซ้ายศึกสตรีราชินีร้อยผัวปะทะอสูรเวทย์หมื่นดารานามว่าลิลลี่ ด้านหน้า แม้ว่าจะน่าเป็นห่วงแต่คนที่จะต่อกรกับปีศาจได้ก็มีแค่คนเดียวแล้วตอนนี้ ผู้ปกครองเขตฮาวเวอร์ นามจิตอีคอน

เมื่อทุกอย่างเข้าล็อกศึกครั้งที่สองก็เริ่มขึ้น มารโมงุนกลายร่างเป็นแมวป่ายักษ์เข้าปะทะกับปีศาจ เพราะคราวก่อนต้องห่วงหน้าห่วงหลังกับคนในเผ่าจนไม่มีสมาธิ แต่ตอนนี้ทุกคนอยู่ในบาเรียคุ้มกัน ปกป้องตัวเองได้อย่างไม่ต้องห่วง ครั้ง​นี้มารโมงุนไม่คิดจะออมมือให้ใครอีกต่อไป นางเริ่มร่ายเวทย์สายฟ้าเข้าปะทะกับปีศาจตรงหน้า แม้ว่ามันจะไม่ส่งผลอะไร แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา นางคิดจะใช้สายฟ้ารบกวนการมองเห็นของมันแล้วเข้าจู่โจมปีศาจที่ขา มันพยายามคว้าตัวนางเอาไว้ นางก็ใช้สายฟ้าฟาดตัดหน้าไม่ให้มันตามทัน การแว้งกัดเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมาจนปีศาจเริ่มจับทิศไม่ถูก ขาของมันถูกกัดจนแหว่ง แม้จะงอกขึ้นใหม่ได้แต่ก็มีขีดจำกัดของมัน เมื่อขาไม่งอกขึ้นมาอีกมันก็เสียหลักล้ม มารโมงุนได้โอกาสก็วิ่งขึ้นไปกัดที่หลังคอมันจนขาดวิ่นแล้วกัดอีกหลายทีจนขาดออกจากกัน นางถุยเศษซากออกจากปากก่อนจะหันหน้าไปเผชิญกับเผ่าคามาโดที่เหลืออยู่

อีกด้านทางฝั่งลิลลี่ ราชินีร้อยผัวเรียกเหล่าสามีออกมาจากดิน หุ่นปั้นโคลนถาโถมเข้าใส่ลิลลี่ แต่เพราะมันอยู่ได้แค่ในพื้น ลิลลี่จึงขยับปีกบินขึ้นสูงแล้วเผาเหล่าหุ่นปั้นดินจนมันแข็งและแห้งแตกออก ปีศาจเห็นเหล่าสามีถูกทำร้ายก็กรีดร้องออกมาพลางไขว่คว้าพยายามจับนางด้วยมือ ความเร็วของลิลลี่เคลื่อนที่ไวกว่าอสูรเวทย์น้อยหลายเท่า นางบินโฉบร่างปีศาจไปมาพลางพ่นไฟออกจากปาก ผิวหนังของปีศาจเริ่มหลุดล่อนออกจากร่างก่อนจะสลายกลายเป็นผงไป เมื่อปีศาจนางนั้นสิ้นใจ ลิลลี่จึงหันกายมาเผชิญหน้ากับบรรดาเผ่าคามาโดที่เหลืออยู่

ทางฝั่งอีคอน เขายืนประหม่าต่อหน้าปีศาจ เจ้าแห่งการสวาปามรุดหน้าเข้ามาหาอีคอน เขาวิ่งหลบไปที่ด้านหลัง เมื่อปีศาจเดินตามมา เขาก็วิ่งหลบไปอีกทางพยายามบ่ายเบี่ยงการต่อสู้ ลาติโนมองการกระทำอย่างเคร่งเครียด หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้นานๆ เหล่าทหารที่อยู่ในนี้ต้องอ่อนแรงและไม่อาจสู้ต่อได้ จึงลองวิเคราะห์ดูดีๆ จากที่ได้ยินมา ท่านฮาวเวอร์มีสองจิตที่แข็งแกร่งและอ่อนโยน จึงอาจถูกสลับจิตกันบ้างบางครั้ง และเพราะอย่างนั้นจึงต้องคอยวางแผนสำรองหากว่าจิตของผู้อ่อนโยนควบคุมร่างขึ้นมา รองผู้ปกครองเขตอย่างนางจึงต้องสั่งการทุกอย่างแทน และจากที่เคยฟังสามีเล่า ฮาวเวอร์ไม่กล้าฆ่าผู้คนก็เพราะไม่อยากพรากชีวิตของผู้อื่น และทุกการต่อสู้ก็มีเพียงจิตของฮาวเวอร์เท่านั้นที่ควบคุม แต่ตอนนี้เป็นจิตอ่อนโยนเข้าต่อสู้ บางทีเขาอาจสู้ไม่เป็นหรือเกรงว่าจะไปพรากชีวิตผู้คนจึงไม่กล้าลงมือ หากว่าจิตนี้ของฮาวเวอร์อ่อนโยนจริง​ คงต้องกดดันให้เขาทำในสิ่งที่จำเป็น

"นายท่านฮาวเวอร์เจ้าคะ หากว่าปล่อยให้เวลายืดเยื้อต่อไป ทหารของเราจะอ่อนแรงและทำแผนการต่อไปไม่ได้ หากโชคร้ายก็จะถูกปีศาจตนนั้นฆ่า นายท่านต้องเลือกนะเจ้าคะ ว่าจะปกป้องชีวิตทหารของเราหรือจะปกป้องชีวิตของปีศาจตนนั้น"

อีคอนนิ่งคิดก่อนจะตัดสินใจ เขาไม่อยากทำร้ายผู้อื่นไม่ว่าใครก็ตาม แต่ว่าบางที หากคนบางคนไม่มีสติจนคิดอ่านไม่เป็น ก็คงต้องลงมือเยี่ยงสัตว์ให้ราบจำกับสิ่งที่ทำลงไป

ปีศาจตนนั้นเริ่มวางมือทั้งสองข้างลงราบกับพื้น กวาดรอบบริเวณข้างคล้ายเขาด้วงคีมคอยจำกัดขอบเขตการวิ่งของอีคอน ส่วนหัวของมันอ้าปากกว้างลากกับพื้นคอยงับร่างที่กำลังวิ่งอยู่ อีคอนหยุดยืนอยู่กับที่ก่อนจะวิ่งเข้าใส่ร่างของปีศาจตนนั้นแทน เขากระโดดตัวขึ้นสูงแล้วดิ่งตัวเข้าใส่ร่างของปีศาจก่อนจะง้างหมัดกระแทกลงตรงกลางลำตัวของมัน ปีศาจถูก​ทุบ​จนหลังแอ่นพลางร้องโหยหวน อีคอนตีลังกาหลายตลบกระโดดตัวออกจากร่างนั้นแล้วยกมือขึ้นไหว้

"อภัยให้ข้าด้วย"

ร่างปีศาจแน่นิ่งในหมัดเดียว เมื่อปีศาจทั้งสามถูกจัดการจนหมด จาคอบไม่เหลือหนทางให้สู้ต่อ เขาหันไปมองชายคนเดียวที่เขาห่วงอยู่ตอนนี้

"นีล เจ้ารีบหนีไปก่อนเถอะ ไปบอกคนในเผ่าให้อพยพหนีไป ตอนนี้ดูท่าพวกเราจะไม่รอดแล้ว"

"ข้าไม่ไปหรอก ข้าทิ้งเจ้าไปไม่ได้ แล้วก็ไม่ต้องห่วงเรื่องคนในเผ่าหรอก ข้าให้คนอื่นหลบหนีไปแจ้งข่าวแล้ว"

"ทำไมเจ้า!" จาคอบถึงกับถอนหายใจ หากว่านีลไม่ยอมหนีไปละก็ เขาก็คงต้องสละชีพลงที่นี่เพื่อเดิมพันครั้งสุดท้าย

จาคอบเดิมพันครั้งสุดท้ายด้วยพลังทั้งหมด การอัญเชิญนั้นต้องใช้พลังมหาศาลก็จริงแต่หากไม่รู้ความต้องการของผู้ถูกอัญเชิญแล้วล่ะก็ การทำสัญญาก็จะไม่เกิดขึ้น และครั้งนี้เขาจะอัญเชิญปีศาจตนใดก็ตามที่ยอมรับวิญญาณของเขา

"ข้าขออัญเชิญปีศาจตนใดก็ตามที่รับวิญญาณข้า​ ข้าจะลงนามในสัญญา…"

"อย่านะจาคอบ!!"

ระหว่างที่จาคอบกำลังร่ายวงแหวนอยู่นั้น นีลก็วิ่งเข้ามาผลักเข้าออกจากการทำพิธี ทันทีที่นีลเข้าวงแหวน แทนที่พิธีจะไม่สำเร็จแต่มันกลับมีแสงส่องสว่างรุ่งโรจน์แสดงให้เห็นว่าปีศาจตนนั้นรับของบรรณาการ

"นีล!!"

ร่างของปีศาจปรากฏขึ้นท่ามกลางสายตาของผู้คนทั้งฝั่งคามาโดและฝั่งฮาวเวอร์​ แต่ร่างของปีศาจตนนั้นต่างออกไปจากปีศาจสามตัวแรกที่เห็น ร่างของมันสมบูรณ์เหมือนมนุษย์มากที่สุด แสดงถึงความสูงศักดิ์และพลังที่เหนือกว่าสามตนแรกหลายเท่า

"นีล…"

ข้างกายของปีศาจตนนั้นมีนีลยืนอยู่ข้างๆ ทั้งถูกโอบรัดราวกับหวงแหน จาคอบคิดจะเดินเข้าไปหาแต่สายตาคมของปีศาจตวัดมองมาทางเขาก่อน

"เจ้าเองสินะที่กล้าอัญเชิญข้า ราชาปีศาจลำดับที่ 145 ไม่นึกว่าจะมีใครผ่านเงื่อนไขของข้ามาก่อน แต่ในเมื่อเจ้าอัญเชิญข้ามาแล้ว ก็จงบอกความปรารถนาของเจ้ามา"

จาคอบอึ้งงันไปพักหนึ่ง เขาต้องการอะไรนั้น ในคราแรกตนจำได้ดี แต่ตอนนี้ความต้องการมันเปลี่ยนไป จะหมู่บ้าน เผ่าพันธุ์ หรือพี่น้อง ตอนนี้เขาแทบไม่เห็นความสำคัญ มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ปรารถนามาเนิ่นนานและไม่อาจจะไขว่คว้ามาได้

"ข้าขอ… นีลคืนมา"

เขาพูดทั้งส่งสายตาแน่วแน่มาให้ ปีศาจตนนั้นเลิกโอบนีล แล้วปล่อยให้เขาหนีไป

"ทำไมเจ้าขออย่างนั้นล่ะ แล้วคนในเผ่าของเรา"

"ข้าไม่สน แค่เจ้าก็พอ ข้าไม่ยอมให้ใครมาพรากเจ้าไปได้แม้ต้องแลกกับคนทั้งเผ่าข้าก็ตาม!"

คำพูดที่ออกจากปากจาคอบนั้นทำให้คนในเผ่าถึงกับต้องตะลึงงัน ลูกชายหัวหน้าเผ่าที่กำลังจะขึ้นเป็นผู้นำคนต่อไปกลับมีความคิดเห็นแก่ตัว ไม่อยากปกป้องคนในเผ่า แม้จะคับแค้นใจแต่เขาก็เป็นคนเดียวที่ต่อกรกับเผ่าอื่นได้เพราะความแข็งแกร่งนั้น ทุกคนถึงต้องจำยอม

"ขออภัยหากข้าพูดไม่ชัดเจน สิ่งที่ท่านปรารถนาต้องมาจากตัวข้าที่สามารถให้ได้ ตัวของชายผู้นี้มิได้เป็นของข้าตั้งแต่แรก มีสิ่งอื่นอีกหรือไม่ที่ท่านต้องการ"

นีลหันไปมองจาคอบอย่างนึกเป็นห่วง จาคอบเองก็มองนีลไม่ต่างก่อนจะตัดสินใจสั่งในสิ่งที่ต้องทำ

"จัดการผู้ปกครองฝั่งฮาวเวอร์ซะ"

"รับทราบขอรับ"

ปีศาจตนนั้นเดินไปทางฝั่งของฮาวเวอร์ อีคอนเองก็มองมาที่ปีศาจไม่ต่าง ราชาปีศาจลำดับที่ 145 มีรูปร่างอย่างชายวัยกลางคนสวมชุดสูทสีดำทั้งตัว สีผิวขาวซีดอย่างคนตายและกลางอกของเขามีรูเล็ก​ๆ​ กับรอยเลือดสีดำเหมือน​กับมีบางอย่างเคยทะลุออกจากร่างเขามาก่อน

เมื่อปีศาจตนนั้นเข้ามาใกล้อีคอนก็พุ่งตัวเข้าประชิดแล้วแทงเข้าร่างน้อยทันที อีคอนลอยตัวขึ้นทั้งจุกอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่อมือนั้นถอนออกจากร่างก็ถีบเขากระเด็นไปติดบาเรียของเหล่าทหาร

ผู้คนที่มองดูถึงกับตื่นตระหนกในความเร็วและความสามารถนั้น แต่อีคอนนั้นรู้สึกต่างออกไป กระบวนท่าอย่างนี้เขาเคยสัมผัสมาก่อน ราวกับว่าเคยเรียนรู้มาจากร่างกายที่มักจะต่อสู้ตลอดตอนอยู่ในจิตฮาวเวอร์

"เจ้าคือ…"

"เพิ่งรู้ตัวรึไง ในร่างปีศาจนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะฆ่าใครตาย แต้มบาปก็ไม่เพิ่มขึ้นด้วย แถมข้ายังเพิ่งรู้ตัวอีกว่าตัวเองต้องมาอาศัยในร่างอัปลักษณ์ขนาดนี้ ไม่อยากจะเชื่อว่ายมโลกกล้าทำอย่างนี้กับข้าได้ ไอ้สารเลวนั่น"

"แต่ว่าถ้านายรู้ตัวอยู่แล้ว ทำไมเราไม่หยุดเพียงเท่านี้ล่ะ พวกเราก็แค่ขอให้เขาเจรจากันดีๆ"

"แกไม่รู้อะไร อีคอน ปีศาจที่ถูกอัญเชิญขึ้นมาแล้วต้องทำความปรารถนาให้ผู้อัญเชิญเป็นจริง ไม่งั้นจะเสียชื่อในนรก และกว่าข้าจะสร้างชื่อมาได้ขนาดนี้คิดว่าข้าจะยอมเสียไปงั้นหรือ? ถ้าแกไม่สู้กับข้าจนกว่าข้าจะตายแล้วล่ะก็ เขตปกครองที่ข้าสร้างขึ้นมาคงต้องถูกทำลาย"

"งั้นเจ้าจะยอมทำลายสิ่งที่สร้างมากับมืองั้นเหรอ? "

"แล้วยังไงเล่า ข้าถือกำเนิดมาเพื่อเป็นนักล่าพวกอมตะ ไม่ได้มาเล่นเป็นผู้ปกครองเขตให้ใคร"

อีคอนได้ยินอย่างนั้นก็เริ่มเดือดดาล คนที่นี่เชื่อใจฮาวเวอร์มากแค่ไหนตนย่อมรู้ดี หากว่าฮาวเวอร์ไม่ได้มีใจคิดปกป้องพวกเขาเลยสักนิดก็ดูจะน่าสงสารเกินไป

ปีศาจดีดนิ้วดังเปาะทีหนึ่งบาเรียของทหารก็แตกออก เหล่าทหารต้องล้มตัวลงอย่างอ่อนแรงไม่อาจสร้างบาเรียใหม่ขึ้นมาได้อีก

"หากว่าเจ้าไม่คิดสู้กับข้า ดูท่าเจ้าพวกนั้นคงเป็นรายต่อไป"

อีคอนลอบมองไปทางทหาร บางคนล้มตัวลง บางคนก็หมดสติ ครั้งนี้อีคอนไม่มีทางเลือกจริงๆ เขาคงต้องลงมือต่อสู้จริงแล้วล่ะ

ปีศาจพุ่งตัวอีกครั้งด้วยความเร็วสูง หวังจะใช้จังหวะลอบมองนั้นเล่นงานอีคอนอีกรอบ แต่อีคอนกลับรู้ทันรับลูกเตะนั้นไว้ ร่างทั้งคู่นิ่งลงเพียงอึดใจก่อนอีคอนจะรั้งขาแล้วต่อยลงที่เข่าของปีศาจ

กร๊อบ!

ขาปีศาจหักลงก่อนที่มันจะกระโดดเตะอีคอนแล้วเด้งตัวออก ขาที่บิดเบี้ยว​ข้างนั้นกลับมาเป็นปกติ ทั้งคู่จ้องมองกันพักหนึ่งก่อนจะพุ่งใส่กันอีกครั้ง ทั้งความเร็วและความแรงสร้างคลื่นลมไปมาจนคนมองไล่ตามไม่ทัน ฝั่งทหารของทั้งสองฝ่ายต้องกลืนน้ำลายลงคอเมื่อร่างของทั้งสองต่อสู้เตะต่อยจนกระดูกหักแต่ร่างสามารถสมานรักษาได้โดยไม่ต้องใช้เวทย์ฮิลลิ่ง

การต่อสู้ดำเนินการไปต่อจนตะวันใกล้ตกดิน แม้ว่าฝั่งคามาโดตั้งใจจะลอบกัดอีคอน​ แต่ก็ถูกนีลห้ามไว้ก่อน การต่อสู้ที่ไม่รู้ผลแพ้ชนะครั้งนี้ทำเอาทหารทั้งสองฝั่งถึงกับเริ่มตั้งค่ายขนาดย่อมๆ มานั่งดูพลางลุ้นไปด้วย

อีคอนเริ่มสร้างเวทย์ไฟตามความทรงจำหลัก ปีศาจวิ่งหลบพลังเวทย์ไปมาก่อนจะกระโดดขึ้นโต้กลับด้วยการต่อยลงที่ร่างของอีคอน แม้ว่าจะโดนจังๆ แต่ร่างกายก็เริ่มรู้สึกเจ็บน้อยลง อีคอนดึงรั้งมือที่ต่อยไว้แล้วหักลงก่อนจะจับทุ่มลงพื้นและกระทืบซ้ำจากนั้นสร้างบาเรียกันแล้วทุ่มเวทย์ไฟลง แรงระเบิดจากเวทย์ไฟทำให้อีคอนกระเด็นออกก่อนจะถอยมาตั้งหลักดูผลการต่อสู้ ปีศาจลุกขึ้นยืนท่ามกลางเปลวเพลิงแล้วเดินออกมาช้าๆ

"ช่างเป็นร่างที่ไร้ที่ติ ยิ่งต่อสู้ก็ยิ่งแข็งแกร่ง เพราะผลจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้เลยทำให้ร่างกายเจ้าในตอนนี้ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยตลอดการต่อสู้ สมแล้วที่เป็นนักล่าอมตะ แต่เพราะจิตของเจ้ามันอ่อนแอเกินไปจึงไม่รู้ว่าร่างนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง"

ปีศาจกล่าวก่อนจะเดินไปทางฝั่งคามาโด และยืนต่อหน้าผู้อัญเชิญตนออกมา

"เจ้ามีนามว่าอะไร ผู้อัญเชิญข้า"

"ข้ามีนามว่าจาคอบ"

"จงทำพันธะกับข้าซะ และจงติดตามข้า เป็นลูกน้องข้า"

"แต่ว่าข้าเป็นผู้อัญเชิญเจ้ามา…"

"ปีศาจหากจะเบี้ยวงานขึ้นมามีสองอย่างที่มันจะทำ หนึ่งคือหนีออกจากมิตินั้นไปซะ และสองคือการฆ่าผู้อัญเชิญ ตัวข้าเป็นถึงราชาปีศาจ หากจะเบี้ยวสัญญาผู้อัญเชิญก็ไม่ได้อยากเย็นอะไรขนาดนั้น จงเลือกเอาว่าจะตายหรือรับใช้ข้า"

จาคอบมองหน้านีลรอบหนึ่งก่อนจะตัดสินใจ "ข้าจะรับใช้ท่าน"

"ดี ครั้งหน้าหากมีโอกาสให้ข้าได้ออกมาอีกล่ะก็ อัญเชิญข้าด้วยนามว่า คาเอลบูมบูม"

"ขอรับนายท่าน"

ไม่นานร่างปีศาจตนนั้นก็หายไปพอดีกับแสงของเช้าวันใหม่สาดทอเข้ามา อีคอนเดินมาหาจาคอบก่อนจะกล่าวด้วยความอ่อนน้อม

"ข้าคิดว่าเราคงต้องเจรจากันเสียหน่อย"

ทั้งสองฝั่งยุติการสู้รบกันชั่วครู่ ในเต็นท์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ปกครองทั้งสองฝั่งนั่งคุยกันตามลำพังโดยมีทหารแบ่งฝ่ายคอยคุมเชิงอยู่ด้านนอก

ภายในเต็นท์ที่มีเพียงจาคอบและอีคอนนั่งคุยกันอยู่ห่างๆ ในตอนแรกอีคอนนั่งลงตรงข้ามอย่างนิ่งสงบแล้วค่อยเปลี่ยนท่าทีนิ่งสงบนั้นเป็นนอนลงอย่างสบาย​อารมณ์​ก่อนจะมองมาทางจาคอบอย่างเบื่อหน่าย

"เจ้าคนที่เข้าวงแหวน​อัญเชิญนั่นเป็นใครหรือ"

จาคอบระแวงคำถามนั้นแต่ก็ต้องตอบไป "ชื่อนีล เป็นคนรับใช้ข้างตัวข้า"

"ชิ เจ้านั่นดูจะให้ความสำคัญกับเจ้ามากถึงขนาดยอมถูกสังเวยแทน"

"เขาคงเป็นห่วงคนทั้งหมู่บ้าน หากว่าข้าต้องเสียวิญญาณไป ที่หมู่บ้านก็จะไม่มีใครสืบทอด ตอนนี้มีเพียงข้าที่พอจะปกป้องคนในเผ่าได้"

"ทั้งที่เจ้าเคยพูดว่า ยอมแลกคนทั้งเผ่าเพื่อคนรับใช้ข้างกายเนี่ยนะ ดูไม่สมเป็นผู้นำเลย"

จาคอบนิ่งไปก่อนจะถามเข้าประเด็น "แล้วเจ้าต้องการอะไรถึงได้เจรจากับข้า หากว่าเจ้าต้องการยุติสงคราม ข้าก็จะทำสัญญาสงบศึกให้"

"สงครามมันยุติลงตั้งแต่ข้ากลับมาแล้ว ตอนนี้เจ้าเป็นลูกน้องของข้า เป็นเจ้าคนเดียวที่ข้าอุตส่าห์ยอมรับ"

"ข้าไปเป็นลูกน้องเจ้าตอนไหนกัน อย่ามามั่วนะ"

"คาเอลบูมบูม…"

จาคอบนิ่งไปก่อนจะลอบมองสายตาเรียบนิ่งนั้น ไม่รู้ว่าผู้ปกครองฝ่ายนั้นไปได้ยินที่ปีศาจตนนั้นพูดตอนไหน​ แต่ก็ไม่อาจไว้ใจได้จึงต้องเฉไฉอีกครั้ง

"เจ้าพูดอะไร ข้าไม่รู้เรื่อง…"

"คาเอลบูมบูมเป็นชื่อเรียกของราชาปีศาจ ลำดับที่ 145 ในนรกขุมที่ 8 เป็น​วิญญาณชั่วร้ายที่มีเงื่อนไขการอัญเชิญว่า จะรับเพียงเครื่องบรรณาการเป็นความตั้งใจในการเสียสละเท่านั้น ชาติก่อนข้าตายเพื่อเสียสละชีวิตให้คนที่รัก จึงได้ผูกพันอยู่กับการเสียสละเหล่านั้นไว้ในวิธีการอัญเชิญ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าคนชื่อนีลมีความรักแบบไหน​กับเจ้า แต่ในเมื่อเขาทำให้การอัญเชิญนั้นมันตรงเงื่อนไขของข้า ข้าจึงออกมา แต่ว่าเจ้าคงไม่อาจอัญเชิญข้าออกมาได้อีกหากหาเครื่องสังเวยอย่างเดิมมาไม่ได้ ข้าจึงต้องให้เจ้าผูกพันธะกับข้าด้วยการให้เอ่ยนามแต่งตั้งนั้นขึ้น"

"แสดงว่าข้าจะอัญเชิญท่านออกมาได้ทุกเมื่อหรือขอรับ? "

"ไม่ได้ ในขณะนี้ข้าอยู่ในร่างของเด็กคนนี้และมีจิตนามว่าฮาวเวอร์ การอัญเชิญของเจ้าจึงต้องขึ้นอยู่กับว่าข้าจะลงนรกไปเมื่อไหร่และกี่วัน"

"แล้วอะไรทำให้ท่านลงนรกกันหรือขอรับ? "

"ความตายของผู้อื่นที่ข้ามีส่วนร่วม ตัวอย่างก็... พ่อเจ้าตายเพราะความชรา แต่มากำเริบตอนที่ข้าเปิดศึกด่าทอเขา เพราะงั้นข้าจึงมีส่วนทำให้พ่อเจ้าตาย และได้ไปลงนรกอยู่ครึ่งวัน"

"แล้วตอนที่ท่านลงนรก… ท่านเห็นเขารึเปล่า?"

"ไม่เห็นง่ายๆ หรอก อย่างน้อยเจ้านั่นต้องไปหายมโลกก่อนจะถูกตัดสินบาปล่ะนะ ถึงเรื่องที่พ่อเจ้า​ตายข้าจะมีส่วนเกี่ยวข้องเพียงนิดเดียว แต่ข้าก็ขออภัยด้วยที่เจ้าต้องกำพร้าพ่อ"

"เรื่องนั้นข้าก็เสียใจอยู่นะขอรับ แต่ท่านเองก็ได้รับผลของสิ่งที่ทำ และพ่อข้าเองก็เป็นฝ่ายเริ่มสงครามก่อน เรื่องนี้คงต้องโทษพื้นเพของชีวิตที่ทำให้พวกเราเกิดมาเช่นนั้น"

"ข้าชอบคนที่มองโลกตามความจริง จากนี้ไปเจ้าต้องติดตามข้าไปทุกที่ ข้าจะให้ทหารนำยาถอนพิษตะขาบมาให้ แล้วก็ส่งเชลยกลับ หลังจากนี้ เขตแดนตรงนี้จะเป็นศูนย์รวมการปกครองของทั้งสามเขต และอยู่ใต้กฎเกณฑ์ของข้า รับใช้ข้าในแบบผู้นำ"

"ขอรับ ข้าจะประกาศยกเขตปกครองให้ท่าน ลำพังเพียงแค่ตัวข้าคงไม่สามารถควบคุมคนในเผ่าได้"

"จาคอบ เจ้าเป็นคนรักอิสระ ไม่ใช่คนไร้ความสามารถ เจ้าเก่งในแบบของเจ้า หากใช้ในทางที่ถูกก็ช่วยคนได้หลายร้อย"

"ขอรับนายท่าน"

จาคอบเดินออกจากเต็นท์ก่อนฮาวเวอร์จะออกตามหลัง เขาหันหน้าไปหาเผ่าคามาโดที่ตั้งตารอฟังผลเจรจาของทั้งสองฝ่าย

"เผ่าคามาโดทั้งหลายจงฟัง นับจากนี้ไปข้าจะยกเขตแดนแห่งนี้ให้อยู่ในการปกครองของท่านฮาวเวอร์ พวกเจ้าจะเป็นประชากรในการปกครองของเขาโดยอยู่ใต้กฎเกณฑ์ที่ท่านฮาวเวอร์สร้างขึ้น"

"ท่านจาคอบ ผลการต่อสู้ยังไม่รู้ใครแพ้ชนะเลย ทำไมเราต้องยกเขตแดนให้มันปกครองได้ง่ายๆ ด้วย"

"ผลการต่อสู้บรรลุผลนานแล้ว หากจะต่อสู้กันตอนนี้จริง พวกเราก็จะแพ้อยู่ดี ทหารเกินครึ่งของเราถูกพิษจนขยับไม่ได้ ตัวข้ากว่าจะอัญเชิญปิศาจได้ก็ต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะฟื้นฟู แถมฝั่งท่านฮาวเวอร์เองก็ไม่มีคนเจ็บสักราย พลังเวทย์ที่หายไปของพวกเขาก็ฟื้นฟูกลับขึ้นมาแล้ว เจ้ายังจะต่อสู้ให้ฝ่ายเราบาดเจ็บเพิ่มไปทำไม"

เมื่อไม่มีใครโต้แย้งต่อฮาวเวอร์ก็เริ่มพูดขึ้นบ้าง "นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไปเผ่าคามาโดต้องส่งลูกหลานมายังเขตปกครองแห่งนี้ และรวมเอาเหล่าทหารมาที่ชายเขตเพื่อมอบหมายหน้าที่ใหม่ แยกย้ายกลับได้!"

เผ่าคามาโดเดินทางกลับหมู่บ้าน เหลือแต่จาคอบที่ยังอยู่ที่เต็นท์บัญชาการแห่งนี้ นีลเองก็รอคอยให้เขากลับไปพร้อมกันจนจาคอบต้องมาบอกสถานการณ์ของเขาตอนนี้

"เจ้ากลับไปเสียเถอะนีล ข้าต้องติดตามท่านฮาวเวอร์อยู่ที่นี่"

"แล้วท่านจะกลับเมื่อไหร่ขอรับ?"

"ข้าคงไม่ได้กลับไปอีก เจ้ากลับไปเถอะ กลับไปสร้างครอบครัวที่เจ้าใฝ่ฝันเอาไว้"

"แต่ถ้าข้าไม่อยู่แล้วใครจะดูแลท่านกันเล่า"

"ข้าดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องลำบากเจ้าหรอก อีกอย่าง ตอนนี้ข้าก็เป็นเพียงผู้ติดตามของผู้ปกครองเขตคนใหม่เท่านั้น ไม่ได้มีฐานะอย่างแต่ก่อนแล้ว เจ้าไม่ต้องทำทีเป็นเกรงใจข้าก็ได้"

"แต่ถึงอย่างนั้น…"

"ให้ข้าได้ใช้ชีวิตของตัวเองเถอะ"

นีลนิ่งเงียบไป​ ก่อนจะค่อยๆ เดินหันหลังกลับไปยังหมู่บ้านของตัวเอง ถึงแม้จาคอบจะอยากรั้งเอาไว้ก็ต้องฝืนกลืนคำพูดนั้นลงคอ

"เจ้าทำดีแล้วที่ไม่เอาความภักดีของเขามาสนองความต้องการของตัวเอง อย่าปล่อยให้ความรู้สึกเหล่านั้นมาฉุดรั้งเส้นทางของคนรักเลย"

"ท่านเองก็เคยเจ็บปวดกับเรื่องแบบนี้หรือขอรับ? "

"อืม แต่มันก็นานมาแล้ว สุดท้ายความปรารถนาก็เป็นจริงแค่ในฝัน"

ตอนถัดไป