เรือนอาบน้ำส่วนตัวของหลงอี้หลิง
ผิวน้ำในสระกระเซ็นซ่าน แตกออกไปเป็นวงกว้างทุกทิศทาง
เพียงชั่วอึดใจ ทั้งคู่ก็โผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำและยืนประจันหน้าเข้าหากันด้วยสภาพเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ
ด้วยความลืมตัว สตรีน้อยเผลอตะคอกเสียงดังใส่หน้าแม่ทัพหนุ่มอย่างฉุนเฉียว สีหน้าบึ้งตึงแถมดวงตากลมโตใสจ้องตาเอาเรื่องเขาอย่างเย่อหยิ่ง
"ท่านจะปล่อยมือทำไมไม่บอกกันก่อน ดูสิข้าเลยตกลงมาในสระน้ำของท่านเลย"
แม่ทัพหนุ่มยังคงวางมาดนิ่ง ท่าทางใจเย็น และตอบกลับด้วยสีหน้าราบเรียบ น้ำเสียงเย็นชา แต่ดวงตากลับฉายแววความพึงพอใจแฝงอยู่
"เจ้าจะมาโทษข้าได้เยี่ยงไรกัน ก็เจ้าเป็นผู้บอกให้ข้าปล่อยมือเองนะสาวน้อย"
ฟ่งหลันหลั่นได้ฟังคำตอบที่แสนยียวนนั้น แถมสีหน้าท่าทางของแม่ทัพหนุ่มที่ตอบกลับอย่างหน้าตาย เหมือนไม่รู้สึกผิดอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยิ่งทำให้อารมณ์ขุ่นมัวในใจของนางพุ่งกระฉูดสูงปี๊ดขึ้น ใบหน้าแดงพิโรธจนรู้สึกว่าลมออกหู
ด้วยความที่ยังเยาว์จึงขาดสติในการควบคุมอารมณ์ไปบ้าง ทำให้ระงับความโกรธไม่อยู่ พานชูนิ้วขึ้นชี้หน้าและตวาดเสียงดังตอกใส่หน้าเขาอีกครั้ง กระนั้นก็ตาม นางกลับนึกคำด่าเอาไม่ออกสักคำ
"นี่ท่าน!..."
พูดได้แค่สองคำนางก็เงียบไปซะเฉย ๆ แต่พอสายตาเหลือบเห็นรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าอย่างพึงพอใจของเขา เท่านั้นแหละความโมโหของนางก็พุ่งพรวดขึ้นมาอีกครั้ง
สตรีน้อยแสดงท่าทางกระฟัดกระเฟียดด้วยการใช้มือตีผิวน้ำข้างละตัวอย่างโกรธขึ้งต่ออีกฝ่าย พร้อมกับเชิดหน้าเงยคางขึ้นสูง จ้องมองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาด้วยดวงตาถมึงทึง
"รอยยิ้มอ่อนเจ้าเล่ห์ราวกับจิ้งจอกบนใบหน้านั้นของท่านเมื่อสักครู่นี้ มันหมายความว่ายังไงกัน! ท่านพึงพอใจและมีความสุขมากนักหรือ ที่ได้เห็นข้าตกลงมาในสระน้ำจนมีสภาพไม่ต่างจากลูกหมาตกน้ำเยี่ยงนี้"
ดูเหมือนหลงอี้หลิงจะไม่สะทกสะท้านในท่าทีโมโหฉุนเฉียวของนางเลยสักนิด มิหนำซ้ำยังถามยียวนสาวใช้ส่วนตัวผู้นี้กลับด้วยสีหน้านิ่งเฉย เย็นชา แต่แววตาแฝงไว้ด้วยความขบขันและมีความสุขอยู่ในทีอย่างที่นางกล่าวมาจริง ๆ
"เจ้าเป็นคนบอกให้ข้าปล่อยมือเอง แล้วเหตุใดตอนนี้เจ้าถึงได้ทำหน้าบึ้งตึงและต่อว่านายน้อยของตัวเองเช่นนี้กันแถมยังเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับลูกหมาอีก"
เฮอะ...ฟ่งหลันหลั่นพ่นลมออกทางจมูกอย่างหงุดหงิด
"นี่ท่านโยนความผิดให้ข้างั้นเหรอ ใช่ ใช่ เป็นข้าเองที่กล่าวคำนั้นออกไป และหาเรื่องให้ตัวเองจนต้องมาเปียกไปทั้งตัวแบบนี้ ได้ยินแบบนี้แล้ว ท่านแม่ทัพหนุ่มผู้หล่อเหลาองอาจมากความสามารถและแสนเย่อหยิ่งทระนงในตนเองยิ่งกว่าผู้ใด คงจะพอใจแล้วสินะเจ้าคะ"
ฟ่งหลันหลั่นยังคงต่อปากต่อคำและพูดประชดประชันถากถางแม่ทัพหนุ่มไม่หยุด จนลืมไปเลยว่าอาภรณ์ที่นางสวมใส่อยู่นั้น มันบางเสียจนมองทะลุไปเห็นด้านในของเรือนร่างบางอรชร ยอดปทุมทั้งสองตั้งชี้โด่เผยขึ้นมาอย่างท้าทาย
ในขณะนั้นเอง นายทหารเวรเดินตรวจตราเวรยามตามปกติเหมือน ทุกวัน และมาหยุดอยู่ตรงด้านหน้าเรือนอาบน้ำของแม่ทัพหนุ่มอย่างบังเอิญ ประจวบกับที่เสียงเอะอะโวยวายของสตรีน้อยดังเล็ดลอดออกมาจากด้านในอีกฟากฝั่ง
พวกเขาจึงตะโกนสอบถามเข้าไปข้างในผู้เป็นนายตามหน้าที่เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี
"ท่านแม่ทัพ ทุกอย่างด้านในเรียบร้อยดีไหมขอรับ"
ดวงตาคมกริบของแม่ทัพหนุ่มยังคงจ้องหน้าสตรีน้อยตรงหน้า และในขณะเดียวกันเขาก็ตะโกนตอบนายทหารยามกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"ไม่มีอะไร ก็แค่ลูกแมวน้อยหลงทางเข้ามาเท่านั้น"
นายทหารยามตรงด้านหน้าทั้งสองนายได้ยินแม่ทัพหนุ่มกล่าวแบบนั้น ทั้งสองคนก็หันหน้ามองกันอย่างละล่ำละลัก
สีหน้าของนายทหารเวรยามทั้งคู่มีหน้าตาสงสัยและแปลกใจ เพราะในเรือนหลงหลิงนี้มีการตรวจตราอย่างแน่นหนามาก แม้แต่ยุงสักตัว ถ้าไม่ได้รับอนุญาตยังไม่สามารถบินเข้ามาในนี้ได้สักตัว จึงพูดขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน
"ลูกแมวน้อยหลงทางงั้นเหรอ"
ด้านฟ่งหลันหลั่นได้ยินนายทหารเวรยามทั้งสองนายเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย นางก็เผลอคล้อยตามแม่ทัพหนุ่ม หลุดปากร้องเสียงดังขึ้นเพื่อความสมจริงอย่างลืมตัว
เหมียว เหมียว
แม่ทัพหนุ่มผู้มักวางมาดนิ่งและสีหน้าตึงเครียดเกือบตลอดเวลา ซึ่งกำลังยืนประจันสตรีน้อยอยู่ในเวลานี้ เขาแทบจะหลุดขำออกมาต่อหน้านาง ยังดีที่คุมสติตัวเองได้ จึงทำแค่เพียงยิ้มอ่อนและพูดแซวเจ้าตัวเบา ๆ
"หัวไวดีนี่"
เมื่อฟ่งหลันหลั่นถูกอีกฝ่ายแซวขึ้นมาเช่นนั้น นางแทบอยากจะกระโดดหยุมหัวเขานัก แต่ก็ทำได้แค่เพียงสะกดกลั้นอารมณ์ขุ่นมัวนั้นไว้ในใจ และถลึงตาใส่เขา พร้อมกับทำปากขมุบขมิบบ่นในใจ
ในตอนแรกนายทหารทั้งสองคนเพียงแค่สงสัยว่าในสิ่งที่แม่ทัพหนุ่มกล่าว แต่พอได้ยินเสียงลูกแมวน้อยร้องดังมาจากอีกฟากฝั่ง ทั้งสองคนก็เผยสีหน้าซีดเผือดขึ้นมาทันที
นายทหารยามคนหนึ่งจึงตะโกนถามเข้าไปได้ในด้วยน้ำเสียงกังวล เพราะกลัวจะถูกแม่ทัพหนุ่มสั่งลงทัณฑ์ โทษฐานที่พวกเขาบกพร่องต่อหน้าที่เพาะปล่อยให้ลูกแมวหลงเข้ามาในเรือนหลงหลิงนี้ แถมยังมาโผล่ที่สระน้ำส่วนตัวของผู้เป็นนายอีก จึงชิ่งพูดออกตัวอย่างร้อนใจ ก่อนที่นายน้อยของตนจะกล่าวสิ่งใด
"ท่านแม่ทัพ อนุญาตให้พวกเราสองคนเข้าไปนำตัวเจ้าลูกแมวน้อยออกไปปล่อยด้านนอกเถิด มิเช่นนั้นพวกเราก็สมควรที่จะต้องไปรับโทษกับนายกองผู้คุมกฎ โทษฐานบกพร่องต่อหน้าที่"
แม่ทัพหนุ่มนั้นรู้ดีแก่ใจว่าเรื่องลูกแมวน้อยหลงทางเป็นเขาเองที่กุเรื่องขึ้นมา เพราะไม่อยากให้ผู้ใดมาเห็นสภาพตอนนี้ของสตรีน้อยตรงหน้า นั่นก็เพื่อต้องการปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของนาง จึงตะโกนบอกลูกน้องกลับไปด้วยน้ำเสียงปกติ
"ไม่เป็นไร พวกเจ้าไปทำหน้าที่ตามปกติของตนต่อเถิด ส่วนทางนี้แค่ลูกแมวน้อยหลงทางตัวเดียว ข้าจัดการเองได้"
ฟ่งหลันหลั่นได้ฟังคำตอบของบุรุษตรงหน้าพูดย้ำคำว่าลูกแมวน้อยหลงทาง ยิ่งทำให้นางรู้สึกว่าตัวเองกำลังโดนดูถูกดูแคลนยิ่งนัก
'ก่อนหน้านี้เป็นลูกหมาตกน้ำ ตอนนี้กลายเป็นลูกแมวหลงทางอย่างนั้นเหรอ'
นางจึงคิดจะโต้เถียงคำกล่าวของเขา แต่พอกำลังเปิดปากจะพูด อีกฝ่ายก็ปรี่ประชิดตัวอีกครั้งห้ามปรามเอาไว้ ด้วยการยกมือขึ้นปิดปากนางอย่างรวดเร็ว
สตรีน้อยส่งเสียงอู้อี้ฟังไม่รู้ความ และยิ่งถลึงตาโกรธขึ้งใส่เขาอยู่ตลอดเวลา
ทางด้านฝ่ายทหารยาม เชื่อฟังคำสั่งของผู้เป็นนายอย่างเคร่งครัด ทุกคำกล่าวของแม่ทัพหนุ่มผู้นี้ ถือเป็นคำขาด พวกเขาจึงได้ขานรับอย่างง่ายดาย
"ขอรับท่านแม่ทัพ"
จากนั้นทหารยามทั้งสองนายก็เดินตรวจตราเวรยามความเรียบร้อยภายในเรือนหลงหลิงตามหน้าที่ของตน
เมื่อทางฝั่งด้านหน้าเรือนอาบน้ำเงียบเสียงลง แม่ทัพหนุ่มจึงคลายมือของเขาออกจากริมฝีปากบางของสตรีน้อยซึ่งเริ่มขาวซีด
ทันใดนั้นเอง
ฮะ ฮัดเช๊ย!
ฟ่งหลันหลั่นจามเสียงดังใส่หน้าแม่ทัพรูปงามเข้าเต็ม ๆ
ตอนนี้เอง ทั้งคู่จึงได้ฉุกคิดและมีเวลาก้มหน้าสำรวจสภาพของตัวเองอย่างตั้งใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองฝ่ายตรงข้ามอย่างจริงจังอีกครั้ง
วินาทีต่อมา ทั้งหลงอี้หลิงและฟ่งหลันหลั่นก็เกิดอาการขวยเขินและประหม่าออกมาพร้อมกัน
แม่ทัพหนุ่มรีบเบือนหน้าไปทางด้านข้างทันที แม้ในใจอยากจะสัมผัสและมองเรือนร่างอรชรตรงหน้ามากเพียงใดก็ตาม แต่เขาต้องสะกดกลั้นอารมณ์นั้นเอาไว้
ฟ่งหลันหลั่นรีบยกมือขึ้นมาสวมกอดร่างกายตัวเองอย่างฉับพลัน และจ้องหน้าอีกฝ่ายพร้อมคำขู่เบา ๆ
"ห้ามมองนะ! มิเช่นนั้นข้าจะท่านรับผิดชอบในตัวข้าไม่รู้ด้วย"
พอกล่าวประโยคนี้ออกไปอย่างขาดสติเยี่ยงนั้น พอฉุกคิดได้นางถึงกลับอยากด่าทอตัวเองซะจริงเชียว
'หลันหลั่น! เจ้าพูดบ้าอะไรออกไป ถ้าเกิดเขาเข้าใจผิดขึ้นมา เจ้าจะต้องซวยเพราะปากตัวเองเป็นแน่'
หลงอี้หลิงได้ฟังแทนที่เขาจะโกรธ แต่กลับหันมาเผยยิ้มอ่อนบนใบหน้าอันหล่อเหลาอย่างพึงพอใจ และพยายามข่มใจไม่ให้คิดฟุ้งซ่านไปกับสิ่งสวยงามยั่วใจตรงเบื้องหน้า พลางกล่าวขึ้นกับสตรีน้อย ด้วยโทนเสียงที่ไม่แสดงออกว่าตอนนี้เขามีอารมณ์แบบใด
"วันนี้หมดหน้าที่ของเจ้าแล้ว กลับห้องพักไปซะเถอะ เดี๋ยวข้าจัดการตัวเองได้ อย่าลืมหาชาอุ่น ๆ ดื่มก่อนนอนด้วยล่ะ"
เมื่อกล่าวจบแม่ทัพหนุ่มก็หมุนตัวหันหลังให้ฟ่งหลันหลั่น เพื่อที่นางจะได้เดินขึ้นไปจากสระน้ำอย่างไร้ความกังวลว่าเขาจะมองเห็นสภาพนางในตอนนี้ ซึ่งเจ้าตัวคงไม่อยากให้ชายใดได้เห็นเรือนร่างงามที่ซ่อนอยู่ภายใต้อาภรณ์บางใสที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำ
สตรีน้อยต่อว่าแม่ทัพหนุ่มทิ้งท้ายอย่างเอาเรื่อง "ฮึ! ถ้าพรุ่งนี้ข้าเกิดจับไข้ไม่สบายขึ้นมา มันคือความผิดของท่านเลย" จากนั้นก็รีบเดินกอดหน้าอกแหวกน้ำและขึ้นไปจากสระน้ำทันที
ตอนนี้เหลือเพียงแม่ทัพหนุ่มที่ยังคงนั่งแช่น้ำในสระส่วนตัวของเขาต่อไปอย่างเงียบ ๆ ใบหน้าหล่อเหลาแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามค่ำคืน สีหน้าครุ่นคิด
แม่ทัพหนุ่มถอนหายใจแรงอย่างเหนื่อยใจ
เฮ้อ...
และกล่าวรำพึงรำพันขึ้นลอย ๆ
"ข้าจะจัดการกับสตรีน้อยผู้นี้เยี่ยงไรดี นับวันนางจะสร้างความปั่นป่วนหัวใจให้กับตัวข้าและคนในเรือนหลงหลิงและเหล่าทหารกล้าของข้าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนยากต่อการหาทางรับมือเสียแล้ว"
...
เซียงไค 盛開