หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นที่หอมู่ต๋า ในช่วงที่มู่เซียวหลานไม่อยู่ ฟ่งหลันหลั่นยื่นมือเข้าช่วยแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าให้หอมู่ต๋าได้ร้อนพ้นจากความเดือดร้อนในครั้งนี้
เหตุการณ์ในค่ำคืนนั้นจึงพัวพันลากยาวมาจนถึงเช้าของอีกวัน และได้ทำให้แผนการเดินทางของมู่เซียวหลานที่วางไว้ต้องถูกเลื่อนออกไป
ฟ่งหลันหลั่นจึงได้ขอแยกตัวกลับไปหาตาเฒ่าของนางที่กระท่อมกลางป่า เพื่อให้หายกังวลก่อนที่จะออกเดินทาง และในขณะที่นางกำลังเดินอยู่บนเส้นทางกลางป่าโปร่ง เพื่อมุ่งหน้ากลับไปยังกระท่อมก็ได้เกิดเรื่องบางอย่างขึ้น
กลางป่าโปร่งนอกเมืองจิ่ว
เสียงของอาวุธหลายชนิดกำลังกระทบกระทั่งกัน ดังลอยแว่วตามสายลมมาในระยะไกล จากทางชายป่าด้านหน้าที่สตรีน้อยกำลังจะเดินผ่านไป
ด้วยความสงสัยแปลกใจ นางจึงรีบรุดฝีเท้าเพื่อไปดูให้เห็นกับตา ว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นกันแน่
และภาพที่ฟ่งหลันหลั่นเห็น คือขบวนเดินทางรถม้าคันใหญ่ดูหรูหรา มีชายฉกรรจ์มากฝีมือคุ้มกันหลายคนและพวกเขากำลังถูกกลุ่มคนชุดดำปิดบังอำพรางใบหน้าเข้าโจมตี
ต่างฝ่ายต่างใช้อาวุธในมือต่อสู้ฟาดฟันกันอย่างดุเดือดเลือดสาด
ถัดไปเล็กน้อย ม้าสองตัวซึ่งถูกผูกเทียมติดอยู่กับรถม้ากำลังอยู่ในอาการตื่นตระหนกส่งเสียงร้องตกใจเป็นอย่างบ้าคลั่ง
"โจรป่าพวกนี้ชักจะเอาใหญ่ มาดักปล้นชาวบ้านอีกแล้วงั้นรึ แต่ดูจากลักษณะของรถม้าคันนั้นแล้วน่าจะไม่ใช่ขบวนเดินทางของชาวบ้านทั่วไป เอาไงดี...ตาเฒ่าสั่งไว้ว่าห้ามยุ่งเรื่องของคนอื่นโดยไม่จำเป็นด้วยสิ"
ฟ่งหลันหลั่นยืนดูเหตุการณ์อยู่ห่าง ๆ และคิดสับสน สองจิตสองใจว่าจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือคนกลุ่มนั้นดีไหม แต่พอนึกถึงคำที่ท่านตาของตัวเองได้ย้ำเตือนไว้ นางจึงตัดสินใจได้ว่าควรทำเช่นไร
"...ช่างเถอะ ดูจากกระบวนท่าที่ใช้ ฝีมือการต่อสู้ของพวกเขาดีกว่าเราเสียอีก โจรป่าไม่กี่คน คงจะไม่คณามือนักหรอก"
สตรีน้อยตัดสินใจที่จะไม่เข้าไปยุ่งในปัญหาของผู้อื่นตามที่ตาเฒ่าของนางสอน แต่ในขณะที่กำลังจะเดินออกจากเส้นทางนั้น เพื่อเลี่ยงไปทางชายป่าด้านข้าง
ม้าสองตัวที่ผูกเทียมกับรถม้าก็เกิดอาการตื่นตระหนกหนักยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ฮี้!ฮี้!...
พวกมันร้องเสียงดังตื่นกลัว พร้อมกับยกขาหน้าทั้งสองขึ้นพร้อมกัน
เมื่อเกือกม้ากระทบลงบนพื้นอีกครั้ง พวกมันก็ออกตัววิ่งพุ่งตรงไปทางด้านหน้าอย่างบ้าคลั่งและรวดเร็ว
"แย่แล้ว อันตราย! ทางนั้นมีหน้าผาอยู่ด้วยสิ"
สีหน้าและแววตาที่มองตามหลังรถม้าของสตรีน้อยแสดงออกถึงความตกใจและกังวลอย่างชัดเจน
เมื่อนางคิดได้เช่นนั้นก็ไม่รอช้า รีบหันตัวขวับพร้อมกับใช้วิชาตัวเบาที่มีอยู่ติดตัวเพียงน้อยนิด พยายามพุ่งตัวลอยเพื่อให้ทันเจ้าม้าพวกนั้นก่อนจะสายเกินไป
เหมือนว่าสวรรค์ยังเข้าข้างอยู่บ้าง ฟ่งหลันหลั่นลอยตัวเหยียบลงบนหลังคารถม้าได้แม่นยำ สายตาก็เพ่งมองไปทางด้านหน้าเพื่อประเมินสถานการณ์และทิศทางของม้าที่กำลังวิ่งไป
"ชิ! ให้มันได้อย่างนี้สิน่า ข้าเพิ่งกินอิ่มมาแท้ ๆ ต้องออกแรงเหนื่อยอีกแล้วเหรอเนี่ย"
สตรีน้อยกล่าวคำสบถออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอี้ยวตัวและกระโดดลงไปทางด้านหลังของรถม้า
ฝ่าเท้าเล็กคู่นั้นแตะลงพื้นดิน สองขายืนหยัดอย่างมั่นคง
ฟ่งหลันหลั่นรีบยื่นมือไปจับตรงตำแหน่งของคานใต้ท้องรถม้า พร้อมกับใช้กำลังที่มีทั้งหมดออกแรงดึงอย่างไม่รีรอ
ครืด...
ฝ่าเท้าคู่น้อยลากยาวไปบนพื้นตามแรงดึงของรถม้า เกิดฝุ่นดินลอยฟุ้งขึ้นตามหลังมากมาย
อึ๊บ!
ดวงหน้าของสตรีน้อยเริ่มแดง แถมยังมีเม็ดเหงื่อจำนวนมากมายเริ่มผุดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
"ไม่ไหว! รถม้าคันนี้ใหญ่และหนักเกินไป แถมเจ้าม้าหนุ่มสองตัวนั้นก็มีพละกำลังเกินกว่าที่เราจะต้านทานได้ เราคงต้องคิดหาวิธีอื่น"
แน่ละ ฟ่งหลันหลั่นเป็นเพียงตัวเล็กหญิงสาวรูปร่างบอบบาง แถมเพิ่งเข้าสู่วัยบุปผาแรกแย้ม แม้นางจะมีวิชายุทธ์อยู่บ้างแต่ก็หาใช่ยอดฝีมือ ไฉนเลยจะสู้กำลังของเจ้าม้าหนุ่มวัยกำยำสองตัวที่กำลังตื่นตระหนกได้อย่างไรกัน
ทางด้านเหล่าผู้คุ้มกันซึ่งกำลังต่อสู้อยู่กับพวกโจรป่าอย่างดุเดือด
พอคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าเห็นว่ารถม้าของพวกตนวิ่งพุ่งตรงไปยังทางข้างหน้าอย่างรวดเร็วโดยไร้ซึ่งคนบังคับ เขาจึงต้องรีบจัดการสยบคู่ต่อสู้ข้างหน้าให้เร็วที่สุด พร้อมกับตะโกนบอกลูกน้องเสียงดัง
"ทางนี้ข้าจะจัดการเอง พวกเจ้ารีบไปช่วยนายหญิงก่อนเร็วเข้า!..."
แต่ทว่าทุกคนก็กำลังติดพันการต่อสู้ไม่ต่างจากตัวเขา ณ เวลานี้ไม่มีใครสามารถสะบัดคู่ต่อสู้ได้หลุดได้สักคน
หัวหน้าขบวนคุ้มกันมัวพะวงกับรถม้าของนายหญิงมากเกินไป และฝ่ายศัตรูก็มีจำนวนคนเยอะกว่า ทำให้เขาดันพลาดท่าถูกคมดาบเข้าที่ต้นแขนและตามลำตัวหลายแห่ง จนลูกน้องคนอื่น ๆ ต้องรีบพากันเข้ามาช่วยเหลือ
ทันใดนั้นเอง เสียงควบฝีเท้าของม้าหนุ่มหลายตัวกระแทกลงกับพื้น อีกทั้งน้ำเสียงอันดุดันและทรงพลัง ดังแว่วคู่กันมาแต่ไกล
กุบกับ! กุบกับ!
ย่า! ย๊า!
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ....
ลูกธนูหลายดอกถูกยิงมาจากทางในระยะไกลจากทุกทิศทุกทาง พุ่งจู่โจมเข้าใส่ร่างของกลุ่มโจรป่าอย่างแม่นยำ
เข่อลั่ว ทหารนายกองลูกน้องคนสนิทควบม้ามุ่งหน้ามาถึงที่เกิดเหตุก่อนเจ้านาย เขาได้สำรวจมองไปรอบอย่างรวดเร็ว และตะโกนบอกกลับไปด้วยน้ำเสียงตกใจ
"นายน้อย พวกเขาคือคนที่ข้าสั่งให้คอยคุ้มกันเหล่าฮูหยิน ขอรับ"
หลงอี้หลิง แม่ทัพหนุ่มผู้เกริกเกรียงไกร ท่าทางองอาจกล้าหาญและสง่างาม นัยน์ตาสีนิล แววตาคมกริบ ใบหน้าดุดัน ควบม้าศึกสีดำทมิฬตัวใหญ่มาหยุดลงท่ามกลางการต่อสู้ที่ยังคงดำเนินอยู่
จังหวะนั้นเอง ม้าสองตัวที่ผูกติดเทียมรถม้าและฟ่งหลันหลั่นกำลังพยายามจะหยุดมัน ได้ส่งร้องร้องดังขึ้นมา
ฮี้ฮี้ฮี้!!!
หลงอี้หลิงหันขวับไปมองตามเสียงนั้นด้วยแววตาวิตกกังวล ก่อนที่จะหันกลับมาสั่งเข่อลั่วด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
"รีบช่วยคนก่อน!"
ทั้งสองเข้าปะทะกับกลุ่มโจรป่าอย่างรวดเร็ว และเห็นได้ชัดเจนว่าฝีมือของทั้งคู่นั้นดูเหนือชั้นมาก เพราะใช้เวลาเพียงไม่นานพวกเขาก็จัดการกับคนร้ายได้สำเร็จ
ทางด้านฟ่งหลันหลั่น ซึ่งนางได้ออกแรงทั้งหมดที่มีพยายามจะหยุดรถม้าไว้
แต่ก็ไม่อาจต้านทานพละกำลังของม้าหนุ่มสองตัวได้
ในขณะที่สตรีน้อยกำลังจดจ่ออยู่กับสิ่งตรงหน้า เพื่อหวังจะช่วยคนและม้าให้เร็วที่สุด ทำให้ไม่มีเวลาสนใจสิ่งอื่นรอบตัว
ทันใดนั้นเอง ลูกศรคันหนึ่งถูกยิงมาจากระยะไกล โชคดีที่ธนูแค่ถากโดนท่อนแขนส่วนบนของนางเท่านั้น
ฉึก!
ช่วงเวลาคับขันยังต้องมาได้รับบาดเจ็บ ทางข้างหน้าก็เป็นหน้าผาด้วย ตอนนี้ฟ่งหลันหลั่นไม่มีเวลาเหลือมากแล้ว นางต้องคิดใช้วิธีอื่นเพื่อช่วยเหลือคนด้านในให้เร็วที่สุด
สตรีน้อยจึงตัดสินใจกระโดดขึ้นบนหลังคาของรถม้า และวิ่งไปทางดานหน้าและกระโจนลงไปนั่งตรงตำแหน่งที่นั่งของคนบังคับรถม้าอย่างรวดเร็ว
สองมือก็คว้าหมับดึงเชือกผูกเทียมหลังม้าเข้าหาตัวอย่างสุดแรง สองขาก็เหยียดตรงดันไปทางด้านหน้าในเวลาเดียวกัน
กรี๊ด!
สตรีผู้หนึ่งกรีดร้องตื่นตระหนก
"นายหญิง...จะทำอย่างไรดีเจ้าคะ ม้าวิ่งเร็วขนาดนี้ ท่านแม่ทัพคงจะตามมาช่วยพวกเราไม่ทันแน่เลยเจ้าค่ะ"
ฟังดูจากน้ำเสียงแหบแห้งสั่นเครือของผู้ที่กำลังพูดคุยอยู่กับใครบางคน ดูนางค่อนข้างจะมีอายุพอสมควร ซึ่งเสียงนั้นดังมาจากด้านในหลัง ผ้ากั้นของรถม้า
แต่ยังไม่ทันที่จะได้ยินเสียงของผู้เป็นนายหญิงตอบ
ฟ่งหลันหลั่นก็ตะโกนบอกคนข้างในเสียงดัง
"พวกท่านอย่าเพิ่งตื่นตระหนก ตั้งสติและใจเย็นลงกันก่อน ตอนนี้ข้ากำลังพยายามหาทางหยุดรถม้าเพื่อช่วยพวกท่านอยู่"
ในขณะที่กล่าว นางก็ออกแรงเพิ่มไปยังฝ่ามือทั้งสองข้างและดึงเชือกเข้าหาตัวสุดกำลังเพื่อหวังจะหยุดการเคลื่อนไหวของเจ้าม้าที่กำลังบ้าคลั่งทั้งสองตัว
ทว่าคำพูดนั้นของสตรีแปลกหน้า หาได้ทำให้สตรีในรถม้าสองนางหายตื่นตระหนกตกใจกลัวไม่
ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานเป็นตายเช่นนี้ ใครเล่าจะสงบใจลงได้
....
เซียงไค 盛開
การสร้างสรรค์งานเป็นเรื่องยาก ส่งกําลังใจให้กันด้วยนะ!
อ่านแล้วชอบไหม เพิ่มในคลังหนังสือเลยสิ!
มีความเห็นเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ใช่รึเปล่า คอมเมนต์มาได้เลยไรต์อยากฟัง
Thank you. ^^