webnovel

ตอนที่ 12 พี่ชาย

เมื่อจัดระเบียบอาภรณ์ของตนเรียบร้อยแล้ว เซนิตจึงเดินออกมาจากห้องพร้อมส่งยิ้มให้บุรุษร่างสูงที่ยืนรอนางอยู่

"เสร็จแล้วเพคะ"

คลีโอยิ้มตอบ "อืม เราพาท่านไปคุยที่ถ้ำสระมรกตดีกว่า องค์หญิงจะได้เดินชมสิ่งสวยงามในแดนเทพด้วย"

"เพคะ"

สองหนุ่มสาวเดินเคียงกันไปยังถ้ำสระมรกต ระหว่างทางเซนิตยลความงามในแดนเทพอย่างตื่นตาตื่นใจ ผงสีทองลอยละล่องไปทั่วอณูที่นางเดินผ่าน ยามต้องแสงแดดยิ่งส่องแสงระยิบระยับ

ทุ่งหญ้าเขียวขจีเติบโตเต็มสองข้างทาง มีดอกไม้สีชมพูขึ้นแซมประปราย ห่างออกไปทางขวามีต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านไพศาล ดูแล้วร่มรื่นน่ามาเอนกายนอนยิ่งนัก

เบื้องหน้าคือสะพานทองคำที่พาดอยู่บนสายธารไหลเอื่อย ทอดเข้าสู่ถ้ำมรกตสีเขียวแปลกตา

"เชิญองค์หญิง" คลีโอผายมือให้เซนิตเดินก่อน จากนั้นร่างหนาจึงเดินตามเข้าไป

เซนิตนึกว่าด้านในถ้ำจะมืดทึบ แต่ถ้ำแห่งนี้กลับสว่างกว่าถ้ำไหนๆ ที่นางเคยไปมา น้ำตกจากด้านบนไหลลงใจกลางถ้ำจนเกิดเสียงซ่าๆ รอบด้านมีตั่งและแท่นนอนวางเรียงรายกันหลายตัว

"องค์หญิงนั่งก่อนเถิด"

คลีโอเดินนำนางไปยังแท่นนอนทางขวา จากนั้นทั้งสองก็นั่งลงข้างกัน

"ฝ่าบาทมีเรื่องอะไรจะคุยหรือเพคะ"

เทพหนุ่มทำสีหน้าเคร่งเครียด "ตอนนี้คนของเรายังไม่พบสหายของท่านเลย คาดว่านางคงไม่ได้อยู่ในนั้น"

เซนิตเริ่มใจคอไม่ดี "หากไม่อยู่ในนั้นนางจะไปอยู่ที่ใดล่ะเพคะ หม่อมฉันเห็นนางถูกดูดเข้าไปกับตา..." เสียงหวานเอ่ยสั่นเครือ

ร่างสูงถอนหายใจ "เราเองก็จนปัญญา ให้คนออกตามหาทั่วที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว หากไกลกว่านี้เกรงว่าทหารของเราจะกลับมาไม่ได้"

ยามนี้ใบหน้างามคิ้วขมวด น้ำตาคลอหน่วย เป็นไปได้อย่างไรที่จะไม่เจอ หรือเพนนี...สิ้นแล้ว ความวิตกนำพาความคิดของเด็กสาวออกทะเลไปไกล

เซนิตร่ำไห้โดยไม่เก็บกดความรู้สึกของตนเองอีกต่อไป นางแสดงสีหน้าท่าทางออกมาด้วยใจบริสุทธิ์

คลีโอแอบใจกระตุกกับภาพตรงหน้า เด็กสาวผู้นี้ดูไม่เหมือน….เสแสร้งเลย บุตรีของซาลีมานมีจิตใจอ่อนโยนถึงเพียงนี้เชียวหรือ...

ไม่ได้! เขาจะใจอ่อนให้กับความไร้เดียงสาเพียงเท่านี้ไม่ได้เด็ดขาด แผนที่จะกำราบแดนซาตานขึ้นอยู่กับเขาเท่านั้น

เทพหนุ่มค่อยๆ เขยิบเข้าไปใกล้นาง แขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามโอบร่างนิ่มเข้ามาในอ้อมอก เซนิตสะอื้นไห้ยิ่งกว่าเดิมเมื่อมีคนกอดปลอบ คลีโอจึงกระชับวงแขนแน่นขึ้นอีก ส่งผลให้อกอวบแนบชิดอกแกร่งจนไร้ช่องว่าง

มือใหญ่ลูบศีรษะทุยเล็กไปมา คางคมได้รูปจรดอยู่บนเรือนผมดำขลับ

"ชู่วว ไม่ร้องนะ ท่านอยู่ที่นี่จนกว่าจะเจอสหายและพบประตูกลับไปยังแดนซาตานก็ได้ เราจะดูแลท่านอย่างดี"

"ฮึก หม่อมฉันอยากเจอเพนนี อยากกลับบ้านแล้วเพคะ ฮือๆๆ"

"อีกไม่นานหรอก เราจะหาทางช่วยท่านเต็มที่"

ร่างนิ่มกับกายแกร่งแอบอิงใกล้ชิด จนคนที่มีสติรู้ทุกอย่างเริ่มใจเต้นเร็วขึ้น เหตุใดเรื่อนร่างของนางถึงทำให้เขาใจสั่นถึงพียงนี้ หรือที่ใจสั่นเพราะเขารู้สึกสงสารนาง...

ยามนี้สีหน้าที่เคยมั่นใจมาตลอดของบุรุษองอาจพลันเกิดความรู้สึกหลากหลาย แววตาสับสนระคนลังเล

ท่ามกลางน้ำตกที่ไหลเทลงมา คลีโอกอดปลอบคนตัวเล็กอยู่เช่นนั้นเนิ่นนาน จนนางเหนื่อยอ่อนและหยุดร้องไปในที่สุด

"ฝ่าบาท หม่อมฉันดีขึ้นแล้ว ขอบพระทัยเพคะ" เด็กสาวเอ่ย ก่อนจะผละตัวออกห่างจากแผงอกที่นางซุกเมื่อครู่

ดวงตาเฉี่ยวคมมองสีหน้าเศร้าหมองของนาง "ท่านคิดเสียว่าที่นี่เป็นบ้านของท่านเถิด บุตรีของราชินีเซลีนก็เหมือนน้องสาวของเราคนหนึ่ง คิดเสียว่าเราเป็นพี่ชายของท่านก็แล้วกัน"

นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนคล้ายมีน้ำตาคลอหน่วยขึ้นมาอีกครั้ง "หม่อมฉันไม่รู้จะตอบแทนพระองค์อย่างไรเลยเพคะ"

ปากบางหยักคลี่ยิ้มอ่อนโยน มือใหญ่ยกขึ้นขยี้เรือนผมของคนตัวเล็ก "เป็นเด็กดีและเชื่อฟังก็พอแล้ว อีกอย่างเลิกเรียกเราว่าฝ่าบาทได้แล้ว"

ดวงตาบวมเป่งช้อนมองบุรุษตรงหน้า "แล้วจะให้หม่อมฉันเรียกพระองค์ว่าอะไรเพคะ"

"คีลส์ เรียกเราว่าคีลส์ ลองเรียกสิ"

เซนิตเม้มริมฝีปากจิ้มลิ้ม พร้อมกระพริบตาปริบๆ "คีลส์..."

คลีโอฉีกยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ มือใหญ่ยีผมของเด็กสาวแรงๆ "เก่งมาก"

ทั้งสองคนสบสายตากันราวกับโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ เซนิตหยุดมองรอยยิ้มอบอุ่นนั่นไม่ได้เลย ยามเขา ชิดใกล้ ยามมือของเขาลูบศีรษะของนางเช่นนี้ หัวใจดวงน้อยรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก

โชคชะตาช่างโหดร้ายกับนางนัก เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเกิดมาท่ามกลางความร้าวฉานของบิดาและมารดา นางถูกบิดาหมางเมินราวกับไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไข ความรักและความอบอุ่นหนึ่งเดียวที่นางมีคือมารดาผู้ให้กำเนิด

เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ยังต้องห่างจากบ้านมาด้วยเหตุการณ์ระทึกขวัญ พรากนางจากความห่วงหาอาทรหนึ่งเดียวที่นางมี

แต่ยังนับว่าโชคดีที่สวรรค์ประทานบุรุษผู้นี้มาให้ ทำให้นางใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง เขาช่างดีกับนางเหลือเกิน

"อยากเล่นน้ำหรือไม่"

เซนิตมองน้ำตกและแอ่งน้ำไหลที่อยู่ตรงหน้า พลันนึกถึงยามที่นางเล่นน้ำกับบ่าวคนสนิทในแดนซาตานเป็นครั้งสุดท้าย

เซนิตส่ายศีรษะด้วยสีหน้าอมทุกข์

คลีโอถอนหายใจ นางคงยังเศร้าอยู่ เด็กสาวจากบ้านมาตัวคนเดียวคงยังปรับตัวไม่ได้ เช่นนั้นก็ค่อยๆ หว่านล้อมนางก็แล้วกัน…

"เช่นนั้นเราพาองค์หญิงกลับไปเสวยอาหารที่วิมานดีกว่า องค์หญิงคงหิวแล้ว" เทพหนุ่มชวนนางกลับ เพราะเห็นนางมีท่าทีไม่ร่าเริง

"ท่านคีลส์ เรียกหม่อมฉันว่าเซนิตเถิดเพคะ เราเปรียบเป็นพี่น้องกันแล้วไม่ใช่หรือ"

คลีโอมองนางนิ่ง "อืม เช่นนั้นต่อไปเราจะเรียกเจ้าว่าเซนิต" สรรพนามฟังดูสามัญและสนิทสนมมากขึ้น

"เพคะ" เด็กสาวยิ้มทั้งใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตา

คลีโอมองรอยยิ้มเศร้าสร้อยนั่นอย่างนึกสงสารโดยไม่รู้ตัว เขายิ้มตอบนาง "อืม กลับกันเถิด"

มือใหญ่ถือโอกาสคว้ามือเล็กจูงเดินออกจากถ้ำ เซนิตตัวเกร็งทำอะไรไม่ถูก เหตุใดเขาถึงมือไวใจไวเช่นนี้ ทำนางใจเต้นรัวอยู่เรื่อย

พี่น้องเขาทำกันเช่นนี้หรือ?

Próximo capítulo