หลังจากเหตุการณ์นั้นก็ผ่านมาเดือนครึ่งแล้ว ลูกน้อยทั้งสองก็แข็งแรงดีและเลี้ยงง่าย ทำให้คุณแม่มือใหม่เบาใจขึ้นเยอะ นางให้นมลูกเองไม่สนใจเสียงคัดค้านจากสาวใช้ทั้งสองที่เพียรบอกว่ามีแม่นมประจำตัวลูกน้อยนาม เลี่ยงรุ่ยคอยให้นมอยู่แล้วไม่จำเป็นที่นางจะต้องลำบากให้นมเอง
อีกทั้งนางยังได้ผู้ช่วยฝีมือดี? อย่างสี่สหายน้อยคอยเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกน้อยทั้งสองท่ามกลางความหวั่นใจของคนรอบข้าง เพราะยามที่สี่สหายน้อยอยู่ในร่างเด็กก็มักจะถกเถียงแย่งกันดูแลจนทำให้ลูกน้อยทั้งสองตกใจร้องไห้จ้าอยู่บ่อยๆ
ส่วนท่านแม่ทั้งสองก็หมั่นแวะเวียนมาเยี่ยมนางและลูกน้อยวันเว้นวัน พี่ใหญ่และน้องตู้เหมยฮวา ช่วงนี้ก็ดูแปลกๆแถมยังมาเยี่ยมนางพร้อมกันอยู่บ่อยครั้งพอไถ่ถามทั้งสองก็รีบโบกมือปฏิเสธบอกว่าบังเอิญเจอกันกลางทางหาได้นัดหมายกันไม่ แต่มันจะบังเอิญบ่อยเกินไปหรือไม่ แล้วไอ้อาการหน้าแดงลามไปถึงหูนั่นอีก ดูอย่างไรก็แปลกแต่นางเลือกที่จะดูเงียบๆไปก่อน กลัวว่าหากไม่เป็นอย่างที่คาดเดาไว้ อาจทำให้ทั้งสองเข้าหน้ากันไม่ติดคงทำให้รู้สึกผิดไปตลอดชีวิต
ในช่วงที่สามีรักไม่อยู่ก็มักจะเขียนจดหมายมาถึงนางและลูกๆอยู่เสมอ และมักจะลงท้ายด้วยด้วยคำว่า ยอดดวงใจของพี่ คำนั้นทำให้อายม้วนหน้าแดงทุกครั้งไป
-----------------
ยามเช้าวันหนึ่ง
"ฮูหยินน้อย มีขันทีจากวังตะวันออกมาขอพบ ยามนี้อยู่ที่โถงรับแขกขอรับ"พ่อบ้านเจาเดินเข้ามารายงานนายสาวที่กำลังหยอกเอินคุณชายน้อยและคุณหนูน้อยอยู่
"ข้ารู้แล้ว...."ชิงหลินยิ้ม "เสี่ยวอี้ เสี่ยวสุ่ย ฝากดูแลทางนี้ด้วย เดี๋ยวข้ามา"หันไปสั่งสาวใช้ แล้วเดินนำพ่อบ้านจางไปยังโถงรับแขก
"คารวะมู่กั๋วฟูเหริน"ฟู่จิวหรือฟู่กงกง ขันทีประจำตัวของพระชายาหลิวซูเหม่ย กล่าวทักทายหญิงสาวด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร
"ฟู่กงกงเชิญตามสบายเถิด...มาหาข้ามีธุระอันใดหรือ?"
"พระชายาให้ข้านำสิ่งนี้มามอบให้ท่านขอรับ"
"เครื่องประดับสตรี? ผ้าแพร? พี่สาว..เอ่อ..พระชายาได้ตรัสอะไรฝากมาหรือไม่?"
"อะแฮ่ม....พระชายาให้ข้านำความมาแจ้งท่านว่า พระชายาทรงครรภ์ได้เกือบสองเดือนแล้วขอรับ"ฟู่กงกงมองซ้ายมองขวาเห็นปลอดคน จึงกระซิบให้ได้ยินเพียงสองคน เพราะเรื่องนี้มีเพียงพระชายา หมอหลวงและฟู่กงกงเท่านั้นที่รู้แม้แต่องค์รัชทายาทเองก็ยังไม่ทรงทราบ แต่ฟู่กงกงไม่ได้แปลกใจที่พระชายาให้นำความมาแจ้งแก่มู่กั๋วฟูเหริน ด้วยหลัง จากกลับจากงานเลี้ยงที่จวนแม่ทัพไร้พ่าย พระชายาก็กลับมาร่าเริงแย้มยิ้มเหมือนเดิม ทำให้องค์รัชทายาทยิ่งโปรดปรานพระชายาและเสด็จไปตำหนักหงส์เหินแทบจะทุกวัน นี่นับเป็นความดีความชอบใหญ่เลยทีเดียว
"อา...ช่างเป็นข่าวดีในรอบหกเดือนเลยเจ้าค่ะ"ชิงหลินยิ้มกว้างด้วยความตื่นเต้นยินดี
"ขอให้ท่านเก็บเรื่องนี้ไว้ห้ามบอกกับผู้ใดเด็ดขาด เพราะพระชายาจะใช้สิ่งนี้เป็นของขวัญวันเกิดถวายแก่องค์รัชทายาทในอีกครึ่งเดือนข้างหน้า และพระชายายังให้ข้ามาแจ้งว่า ท่านไปเยี่ยมพระองค์ได้ทุกเมื่อไม่ต้องรอเทียบเชิญขอรับ"
"ลำบากฟู่กงกงแล้ว ขอบคุณมากเจ้าค่ะ"
"มู่กั๋วฟูเหรินกล่าวหนักไปแล้ว เป็นข้าที่ต้องขอบคุณท่านมากกว่า หมดธุระแล้วข้าขอตัวก่อน"
ชิงหลินเดินไปส่งฟู่กงกงเอง ทำให้ฟู่จิวที่แต่เดิมชื่นชมในตัวสตรีผู้นี้ ยิ่งชื่นชอบนางมากขึ้นไปอีกนับแต่พระชายาได้พูดคุยคบหานางเป็นสหาย ก็มีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้นในวังตะวันออกอยู่ตลอด หากจะกล่าวว่านางเป็นดาวนำโชคของพระชายาก็คงได้กระมัง?
--------------
หลายวันต่อมามู่หลิ่งเหวินกลับมาพร้อมนักโทษกว่าร้อยคนรวมถึง หานซือเฉิง อดีตเจ้าเมืองชานตงผู้เป็นญาติของหานหนิงเฉิง ศัตรูตัวฉกาจของสกุลชิง
หลังการไต่สวนสืบพยานสิ้นสุด หานซือเฉิงถูกตัดสินประหารชีวิต ข้อหาคิดก่อการกบฏละเลยหน้าที่ คดีนี้มีผู้รับเคราะห์ร่วมด้วยมากมายและเป็นคดีดังที่ผู้คนกล่าวขวัญถึงกันอย่างแพร่หลาย ยังดีที่หานซือเฉิง เป็นตระกูลสายรอง ทำให้ตระกูลหลักอย่างอดีตเสนาบดีหานหนิงเฉิง ซึ่งมีหานหนิงหลงประมุขจวนคนใหม่รอดพ้นจากข้อกล่าวหา ทั้งนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับความฉลาดเฉลียวของหานหนิงหลง ที่ไม่ลุ่มหลงในอำนาจยามที่หานซือเฉิงผู้มีศักดิ์เป็นลุงนำมาเสนอให้
แม้จะหลุดพ้นข้อกล่าวหามาได้ แต่ชื่อเสียงที่เหม็นโฉ่ว ไม่อาจจะมองหน้าใครได้ ทำให้หานหนิงหลงและครอบครัว ตัดสินใจย้ายกลับไปอยู่บ้านเกิดของมารดาซึ่งอยู่ห่างไกลจากเมืองหลวงนับพันลี้ เพื่อหลบลี้ผู้คน
"คุณชายหาน ฝากคำขอโทษมาถึงภรรยารักด้วย"แม่ทัพหนุ่มกล่าวพร้อมกับรวบร่างเล็กวางบนตักแกร่งของตน สองแขนโอบกอดเอวคอดกิ่วที่เล็กลงหลวมๆ วางคางสากได้รูปกับไหล่เล็กอย่างที่ชอบทำ
"เรื่องที่บิดาและน้องสาวเคยคิดสังหารภรรยารักใช่ไหมเจ้าคะ?"
"ใช่"
"เช่นนั้น..ภรรยารักยกโทษให้เจ้าค่ะ หากสามีรักพบคุณชายหานช่วยบอกตามนี้ด้วยนะเจ้าคะ"
"อืม...นอนเถิดยามไฮ่แล้วพรุ่งนี้สามีรักต้องเข้าวังแต่เช้า
"เอ๊ะ...ปกติพรุ่งนี้เป็นวันที่สามีรักไม่ต้องเข้าวังรายงานตัวไม่ใช่หรือ?"
"ใช่..แต่พรุ่งนี้เป็นกรณีพิเศษ ก็เรื่องเทียบเชิญจากองค์รัชทายาทแคว้นโจวนั่นอย่างไร"
"อ้อ...ภรรยารักเข้าใจแล้ว เช่นนั้นสามีรักก็รีบนอนเถิดเจ้าค่ะ"ชิงหลินขยับตัวจะลุกขึ้นเพื่อให้เขานอนได้สะดวก แต่กลับถูกดึงให้ล้มลงแล้วถูกคร่อมทับจนแทบขยับไม่ได้
"อุ๊ย..ไหนว่าจะรีบนอนไม่ใช่หรือเจ้าคะ?"ประท้วงเมื่อสามีรักซุกไซ้ใบหน้าลงที่ซอกคอขาวผ่องจนขนลุกเกรียวไปหมด
"อือ สามีรักต้องกินยานอนหลับก่อนนอนภรรยารักลืมไปแล้วหรือ?..."แม่ทัพหนุ่มเงยหน้าขึ้นสีตอบนางเสียงพร่า ดวงตาคมทรงเสน่ห์หรี่ปรือเต็มไปด้วยแรงเสน่หา ใบหน้าหล่อเหลายามนี้มีเสน่ห์น่าหลงใหลยิ่งนัก
"ยะยานอนหลับอะไรกัน? ภรรยารักไม่เคยเห็นกินสักครั้ง"รู้ทั้งรู้ว่าไอ้ยานอนหลับที่เขาว่าคืออะไร แต่ก็ทำเป็นโง่งมเพื่อแกล้งเขา
"อา..สามีรักกินทุกคืน คืนหนึ่งก็หลายครั้ง บางครั้งก็กิน....ยามเช้า...หรือสามีรักต้องกินยามเที่ยงและยามค่ำด้วย ภรรยารักจึงจะพอใจ"
"มะไม่ มะไม่เอาเจ้าค่ะ"ส่ายหน้าถี่ใบหน้าจิ้มลิ้มแดงก่ำ แค่แหย่เล่นไม่นึกว่าสามีรักจะคิดจริงจัง แค่นี้ก็แทบสลบแล้วหากเพิ่มตอนกลางวัน ตอนหัวค่ำเข้าไปอีกได้ตายคาเตียงกันพอดี! จะหื่นไปถึงไหนกันเนี่ยพ่อคุณเอ๊ย!!
"หึๆ..อะไรคือไม่เอา? ภรรยารักไม่ชอบให้สามีรักกินยาหรือ?"ใบหน้าจิ้มลิ้มกระตุกอย่างแรงกับคำพูดสองแง่สองง่ามของสามีรัก "หือ?...ไม่ตอบ? หมายความว่าภรรยารักไม่ชอบให้สามีรักกินยาจริงๆ?"แม่ทัพหนุ่มทำหน้าเศร้า ผุดลุกขึ้นนั่งข้างเตียงยกมือปิดหน้าถอนหายใจเฮือกๆ ไหล่กว้างสั่นไหวเล็กน้อย ชิงหลินที่นอนมองอยู่เห็นดังนั้นก็ใจหายวาบ เด้งตัวขึ้นโอบกอดเอวสอบแนบใบหน้ากับแผ่นหลังกว้างพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรน
"ไม่ใช่อย่างนั้นนะเจ้าคะ ภรรยารักไม่ได้หมายความอย่างนั้น"เห็นเขาเงียบจึงย้ำ "จริงๆนะเจ้าคะ"
"อย่าดีกว่า สามีรักไม่อยากฝืนใจเจ้า"
"ภรรยารักเต็มใจ จริงๆเจ้าค่ะ ภรรยารักเต็มใจถูก..กิน...."คำว่า กิน เบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน ใบหน้ายามนี้เห่อร้อนจนแทบจะมีควันลอยออกมาแต่พยายามข่มความอายไว้เพราะกลัวสามีรักโกรธ
นั่นทำให้มุมปากได้รูปยกขึ้นพอใจ เมื่อแผนเรียกร้องความสนใจได้ผล แผน..ที่แม่ทัพหนุ่มจำมาจากสาวงามที่มักใช้เรียกร้องความสนใจจากบุรุษ!! ใช้ครั้งแรกยังประสบความสำเร็จถึงเพียงนี้ อา...นับว่าฝีมือเข้าขั้นทีเดียว หึๆ แม่ทัพหนุ่มครุ่นคิดอย่างลำพองใจ
--------------
เช้าวันต่อมา
"ฮูหยินน้อย พระชายาในองค์รัชทายาทส่งเทียบเชิญมาให้ขอรับ"พ่อบ้านเจาส่งเทียบสีเหลืองทองหรูหราให้ฮูหยินน้อย นางรับเทียบเชิญมาแล้วเปิดอ่านเมื่ออ่านจบมุมปากอวบอิ่มสีชมพูพลันยกขึ้นตื่นเต้น
"พ่อบ้านเจาขอพู่กันกับกระดาษ ข้าจะตอบรับเทียบเชิญงานเลี้ยงวันเกิดในอีกสิบห้าวันของพระชายา"
"นี่ขอรับ ข้าเตรียมไว้พร้อมแล้ว"พ่อบ้านเจารีบวางของทั้งหมดตรงหน้าฮูหยินน้อย
"ขอบใจท่านมาก แล้วท่านแม่ทัพกลับมาหรือยัง?"เอ่ยถามพร้อมกับยื่นเทียบตอบรับที่เขียนเสร็จแล้วให้พ่อบ้านเจา
"ยังขอรับ"
"เข้าใจแล้ว ท่านไปเถิด"
----------------
ห้องทรงอักษรตำหนักฟ้าทรงธรรมหลังจากปรึกษาข้อราชกิจเสร็จสิ้น
"เราทราบมาว่าหยางหมิ่น นำเทียบเชิญไปให้เจ้าด้วยตนเอง?"ฉีเฉินหลงฮ่องเต้ถามแม่ทัพหนุ่ม
"พะย่ะค่ะฝ่าบาท"ตอบกลับเสียงเรียบ
"อืม...เราเองก็ต้องการให้เจ้าไปเป็นตัวแทนเราพอดี"รับสั่งของฉีเฉินหลงฮ่องเต้ไม่ได้สร้างประหลาดใจแก่แม่ทัพหนุ่ม ด้วยพอจะคาดเดาจุดประสงค์ที่ถูกเรียกให้เข้าเฝ้าเพียงลำพังในครั้งนี้
"...ดูเหมือนเจ้ามีเรื่องอยากถามเรา?"ถามขุนนางหนุ่มที่ตนไว้วางพระทัยและรักดุจบุตรชายคนหนึ่ง
"เหตุใดฝ่าบาทจึงมอบตำแหน่งกั๋วฟูเฟรินให้ฮูหยินกระหม่อมพะย่ะค่ะ?"
"เนื้อหาในราชโองการบ่งบอกชัดเจน ใยจึงมาถามหาเหตุผลกับเราอีกเล่า?"กล่าวพลางยกชาขึ้นจิบอย่างสบายอารมณ์
"...เท่าที่กระหม่อมทราบกั๋วฟูเหรินเป็นตำแหน่งสำหรับชายาเอกกั๋วกง ไคกั๋วกง หรือภริยาเอกขุนนางระดับสูงเท่านั้น"
"หึๆ ถูกต้อง"
"แล้วเพราะเหตุใด...."
"เรื่องนั้นอีกสองวันเจ้าก็จะรู้เอง วันนี้เราเหนื่อยแล้วเจ้ากลับไปก่อนเถิด"ฉีเฉินหลงโบกมือไล่แสดงออกถึงความเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด
"กระหม่อมทูลลา"เมื่ออีกฝ่ายไม่อยากบอกก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเซ้าซี้ต่อ แม่ทัพหนุ่มจึงล่าถอยออกมาและมุ่งตรงกลับจวนทันที
-------------
สองวันต่อมา คำถามนั้นก็ถูกไขจนกระจ่างเมื่ออู่กงกงขันทีประจำพระองค์มาพร้อมกับม้วนราชโองการสีเหลืองทอง
"ยินดีด้วยท่านแม่ทัพใหญ่"อู่กงกงกล่าวแสดงความยินดีกับแม่ทัพหนุ่มหลังจากประกาศราชโองการจบแล้ว ได้เลื่อนขั้นจากแม่ทัพมณฑลระดับสี่ขึ้นมาเป็นแม่ทัพใหญ่ระดับสองทั้งที่อายุยังน้อย ช่างเป็นบุรุษมากความสามารถหาผู้ใดทัดเทียมได้ยากยิ่งอู่กงกงชื่นชมในใจ
"ขอบคุณอู่กงกง"ขอบคุณเสียงเรียบ ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับตำแหน่งใหม่ที่ได้รับ
"เชิญดื่มน้ำชาก่อนเจ้าค่ะ"เสี่ยวอี้รีบรินน้ำชาให้อู่กงกงอย่างรู้งาน
"ขอบคุณมู่กั๋วฟูเหริน ข้ายังมีงานต้องทำอีกมาก คงต้องขอตัวก่อน"
เมื่ออู่กงกงและผู้ติดตามกลับไปแล้ว แม่ทัพหนุ่มก็ยืนม้วนราชโองการให้พ่อบ้านเจานำไปเก็บส่วนตัวเองกลับมานั่งหน้าขรึมข้างภรรยารัก
"เป็นอะไรเจ้าคะ? ไม่ดีใจหรือท่านแม่ทัพใหญ่"ชิงหลินเย้าเสียงหวานยื่นถ้วยชาดอกมะลิให้อย่างเอาใจ
"....สามีรักย่อมดีใจ เพียงแต่..."
"เพียงแต่อะไรเจ้าคะ?"
"สามีรักเพิ่งกลับมายังไม่หายคิดถึงภรรยารักกับลูกๆเลย ก็ต้องเดินทางไปแคว้นโจวพรุ่งนี้ยามเหม่าแล้ว ภรรยารักจะให้สามีรักหน้าชื่นตาบานได้เยี่ยงไร?"ไม่พูดเปล่ารวบร่างเล็กที่นั่งขึ้นมาวางบนตักเกยคางบนไหล่เล็กพลางถอนใจ เสี่ยวอี้เห็นดังนั้น จึงสะกิดเสี่ยวสุ่ยน้องสาว แล้วชวนกันออกมายืนรอนอกห้องโถงด้วยใบหน้าแดงเรื่อ
"แค่ยี่สิบวันเองเจ้าค่ะ ส่วนลูกๆภรรยารักจะดูแลอย่างดีที่สุด สามีรักไม่ต้องเป็นห่วง"พยายามพูดให้คนตัวโตสบายใจ
"แค่ยี่สิบวันอะไรกัน ตั้งยี่สิบวันต่างหากเล่า"แม่ทัพหนุ่มแย้งจริงจัง ครั้งที่ไปเมืองชานตงทุกค่ำคืนเขาต้องทรมานจากอาการนอนไม่หลับเพราะขาดร่างเล็กนุ่มนิ่มของภรรยารักนอนเคียงข้าง ต้องอาศัยผ้าเช็ดหน้าที่มีกลิ่นของนางจึงทำให้ผ่านค่ำคืนที่แสนจะทรมานนั้นมาได้
ช่างน่าขันนักหากผู้ใดทราบเรื่องนี้เข้า เห็นทีความน่าเชื่อถือที่สั่งสมมานานจนได้รับฉายา เทพสงคราม คงได้จบกันก็คราวนี้
เทพสงครามเป็นโรคติดภรรยา....อา...รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น!!...
ชิงหลินอมยิ้มไม่กล่าวตอบ เพราะเกรงว่าสามีรักจะหาเรื่องมาให้เธอเหนื่อยอีก
"ดังนั้นคืนนี้ภรรยารักต้องถนอมสามีรักมากเป็นพิเศษหน่อยรู้รึไม่?"
นั่นอย่างไรเดาผิดเสียเมื่อไหร่ หากซื้อหวยคงถูกรางรางวัลไปแล้ว!!คิดอย่างอ่อนใจ
"หือ?..ไม่ตอบแปลว่าตกลงใช่หรือไม่?เช่นนั้นก็กลับเรือนกันเถิด"ไม่พูดเปล่าช้อนร่างเล็กนุ่มนิ่มขึ้นแนบอกแกร่งทันที
"ดะเดี๋ยวก่อนนี่เพิ่งจะยามอู่เองนะเจ้าคะ ภรรยารักต้องไปจัดเตรียมของให้ท่านอีกตั้งหลายอย่าง"ชิงหลินร้องบอกเสียงหลงหน้าตาเหลอหลาด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะตัดสิน ใจปุบปับเช่นนี้
"บ่าวไพร่มีมากมายก็ให้จัดการไป ใยภรรยารักต้องลงแรงเองด้วยเล่า"กล่าวไปสาวเท้ามุ่งหน้าไปเรือนที่พักอย่างรีบร้อน
"โธ่..ก็เพราะเป็นของที่ต้องเตรียมให้สามีรักไงเจ้าคะ ภรรยารักถึงต้องลงมือด้วยตนเอง"เมื่อเห็นสามีรักเงียบชิงหลินก็รีบพูดโน้มน้าวต่อ "อีกอย่างนี่ก็ได้เวลาให้นมหลงเอ๋อร์กับเหม่ยเอ๋อร์แล้วด้วย"
"..แม่นมก็มีก็ให้นางจัดการไปเสียก็สิ้นเรื่อง"
"...แต่ภรรยารักอยากให้นมลูกเองนี่เจ้าคะ"
"แต่ไม่ใช่วันนี้!"
"ท่าน...ท่าน...ท่านนี่มัน...ฮึ่ย!..."จอมหื่นเอ๊ย!..ตะโกนต่อในใจทั้งโกรธทั้งอายจนหน้าแดงก่ำ สองมือเดี๋ยวกำเดี๋ยวแบอย่างมันเขี้ยวแต่ไม่กล้าลงมือกลัวว่าจะโดนหนักกว่าเดิม
แม่ทัพหนุ่มหลุบตามองร่างเล็กนุ่มนิ่มในอ้อมอกที่เม้มปากแน่นหน้าแดงราวกับผลอิงเถาพลันมุมปากได้รูปยกขึ้นสูงเป็นรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ความสุขที่ล้นไปถึงหัวใจ...
…..ขอบคุณสวรรค์..ขอบคุณที่ส่งนางมาให้ข้า…..
จบแล้วจ้า