webnovel

ดวงใจ...เจ้าเฟยหลง ตอนที่ 6.....ท่านหญิงเลี่ยงซู

ดวงใจ...เจ้าเฟยหลง

ตอนที่ 5.....ท่านหญิงเลี่ยงซู

เฉินลู่เหลียนมองเสื้อผ้ามากมายที่ถูกนำมาวางไว้ตรงหน้าด้วยสีหน้าเฉยเมย ถึงแม้จะมองด้วยตาโดยมิได้สัมผัสก็รู้ว่าผ้าพวกนี้เป็นผ้าที่มีราคาแพงและทอด้วยความประณีตเป็นที่สุด รวมถึงเครื่องประดับที่มีมากมายจนสามารถใส่แบบไม่ซ้ำกันได้ในแต่ละวันนั้นก็สวยงาม แต่ถึงจะรู้อย่างนี้นางก็ไม่ได้ตื่นเต้นหรือดีใจแต่อย่างใด ท่าทางแบบนั้นทำให้บรรดาสาวใช้ต่างพากันแปลกใจ

"นายหญิงไม่ชอบชุดพวกนี้หรือเจ้าคะ" สาวใช้นางหนึ่งเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าผู้เป็นนายของตนดูไม่ตื่นเต้นกับสิ่งสวยงามที่อยู่ตรงหน้าเลยสักนิด เฉินลู่เหลียนไม่ตอบ นางมองสบตาสาวใช้แล้วแสร้างทำเป็นสนใจสิ่งของตรงหน้าเพื่อไม่ให้สาวใช้ถามต่อ

"สวยดีนะ"

"สวยมากเลยเจ้าค่ะ ผ้าแพรนี่ก็เนื้อดีมาก ท่านแม่ทัพต้องรักนายหญิงมากเลยนะเจ้าคะถึงมอบแต่ของดีๆให้ท่าน" เฉินลู่เหลียนยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย อยากจะเถียงแต่ก็ไม่ได้ทำ

"ท่านแม่ทัพเคยมอบของแบบนี้ให้กับหญิงคนไหนบ้างหรือเปล่า" สาวใช้สองสามคนส่ายหน้าปฏิเสธ

"ไม่เจ้าค่ะ ท่านแม่ทัพไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนเข้ามาในจวนเลยด้วยซ้ำ จวนนี้ถ้าจะมีผู้หญิงก็มีแต่พวกเราสาวใช้เท่านั้นเอง"

"คุยอะไรกันอยู่" เสียงห้าวดังขึ้นทำให้การสนทนาของสาวๆหยุดลงกลางครันและทันทีที่แม่ทัพหนุ่มโบกมือบรรดาสาวใช้ก็พากันออกจากตรงนั้นทันทีโยที่ไม่ต้องรอให้เอ่ยปาก

เจ้าเฟยหลงเดินมาสำรวจสิ่งของที่กำลังถูกจัดเรียงให้เข้าที่ก่อนที่จะเดินมาหยุดตรงหน้าของเฉินลู่เหลียนและมองสบตาของนาง

"เจ้าชอบของพวกนี้ไหม" แม่ทัพหนุ่มเอ่ยถามแต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงนิ่ง เขาเลยพูดต่อขึ้นมาเสียเอง "เจ้าอาจจะชอบหรือไม่ชอบของที่ข้าให้ข้าก็ไม่ว่าอะไรเจ้าหรอก เพียงแต่อยากบอกว่าเมื่อคนเขามีน้ำใจให้แล้ว เจ้าก็ควรรับไว้ ก็เท่านั้น" เฉินลู่เหลียนรับฟังเงียบๆ

"ขอบใจท่านแม่ทัพมากนะเจ้าคะที่ซื้อของพวกนี้ให้ข้า" เจ้าเฟยหลงอมยิ้มบางๆ "แต่ว่าไม่จำเป็นเลย ท่านอาจจะเคยซื้อของพวกนี้มากำนัลให้กับผู้อื่นเพื่อซื้อใจพวกนาง แต่ของพวกนี้ซื้อใจข้าไม่ได้นะเจ้าคะ" รอยยิ้มนั้นหายไปจากใบหน้าหล่อเหลาแทบจะทันทีเมื่อฟังจบ แม่ทัพหนุ่มเดินเข้ามาใกล้และใกล้มากขึ้น วงแขนที่แข็งแรงโอบรอบเอวนางไว้เพื่อกันอีกฝ่ายหนี ใบหน้าหล่อเหลาโน้มเข้ามาใกล้ ใกล้เสียจนรับรู้ได้ถึงความร้อนของลมหายใจ

"ข้าไม่เคยซื้อของแบบนี้ให้กับหญิงสาวนางไหน เจ้าเป็นคนแรกรู้ไว้ด้วย" เฉินลู่เหลียนเบี่ยงหน้าหลบเมื่ออีกฝ่ายยื่นจมูกเข้ามาใกล้มากจนเกินไป ทว่าพยายามหลบแค่ไหนก็ถูกอีกฝ่ายจุมพิตที่แก้มอยู่ดี

"ท่านแม่ทัพ" เจ้าเฟยหลงปล่อยคนตัวเล็กให้เป็นอิสระ และทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"เสื้อผ้าพวกนี้ใส่ด้วยเข้าใจนะ"

"เป็นคำสั่งหรือเจ้าคะ" นางเถียงทั้งๆที่ยังประหม่าไม่หาย

"เป็นคำขอร้อง" เจ้าเฟยหลงตอบแค่นั้น ทำเอาคนฟังคาดไม่ถึง

"คำขอร้องต่างจากคำสั่งมากแค่ไหนเจ้าคะ" นางย้อนถามต่อ

"ต่างสิ ต่างมากด้วย เจ้ารู้ดีว่ามันต่างกันอย่างไร ที่ผ่านมาข้าไม่เคยขอร้องสตรีนางไหน เจ้าเป็นคนแรกดังนั้นจงภูมิใจกับมัน" แม่ทัพหนุ่มพูดเสียงเย็น และขยับตัวเข้ามาใกล้นางอีกครั้ง แต่ก่อนที่จะถึงตัวก็มีเสียงๆหนึ่งดังแทรกขึ้นมาเสียก่อน

"ท่านแม่ทัพขอรับ" เสียงนั้นทำให้คนตัวใหญ่เม้มปาก แต่ทำให้เฉินลู่เหลียนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

"มีอะไร" เสียงนั้นบ่งบอกความไม่พอใจของผู้พูดได้เป็นอย่างดี

"ท่านหญิงเลี่ยงซูมาขอพบขอรับ"

---------------------------+

เจ้าเฟยหลงยิ้มเมื่อพ่อบ้านของจวนบอกว่า ท่านหญิงเลี่ยงซูชายาของท่านอ๋องลู่ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องมาขอพบ ท่านหญิงผู้นี้เป็นญาติทางมารดามีอายุมากกว่าตน 12 ปี ตอนเด็กๆตนและนางสนิทสนมกันมากราวกับพี่น้องแท้ๆ เมื่อโตขึ้นความสนิทสนมนั้นก็ยังคงมีอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง

ภาพของสตรีสูงศักดิ์กว่าที่กำลังยืนมองภาพวาดในห้องรับรองทำให้แม่ทัพหนุ่มยิ้มอ่อนโยนออกมา ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนพี่หญิงของตนยังคงสง่างามเหมือนเดิม

"พี่หญิง" แม่ทัพหนุ่มเรียกองค์หญิงด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ท่านหญิงเลี่ยงซู่หันมาตามเสียงนั้น นางส่งยิ้มให้กับญาติผู้น้องที่รักเหมือนน้องชายแท้ๆและเดินเข้าไปใกล้ด้วยความดีใจ

"ไม่เจอกันหลายปีเลยนะเฟยหลง"

"ใช่ ไม่เจอกันนาน แต่พี่หญิงยังคงงามเหมือนเดิม" แม่ทัพหนุ่มเอ่ยชมพร้อมทั้งมองใบหน้าหวานของอีกฝ่ายพลันนึกขึ้นในใจ ตอนนี้เขารู้แล้วว่าแม่สาวใช้จอมอวดดีนางนั้นหน้าคล้ายกับใคร นางผู้นั้นมีใบหน้าคล้ายกับพี่หญิงของตนนี้เอง

"ยังปากหวานเหมือนเดิมไม่มีผิด ไหนบอกมาสิว่าข่าวลือที่ว่าเจ้าปฏิเสธสาวงามนับร้อยที่องค์จักรพรรดิพระราชทานให้แต่กลับอยากได้สาวใช้จากเมืองหน้าด่านเพียงนางเดียวเท่านั้น เรื่องนี้จริงหรือไม่" เจ้าเฟยหลงยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

"ข่าวช่างรวดเร็วเสียเหลือเกิน" แม่ทัพหนุ่มประชดเล็กๆในตอนท้าย

"น้องของพี่เป็นคนดัง ย่อมมีผู้ที่สนใจมากอยู่แล้ว ทีนี้บอกมาเสียทีว่าจริงอย่างที่เขาพูดกันหรือไม่" เจ้าเฟยหลงพยักหน้ายอมรับแทนคำพูด

"นางอยู่ที่นี่ด้วยใช่ไหม"

"ขอรับ"

"พี่อยากเห็นหน้าของนางจัง คงต้องงามมากแน่ๆ" ท่านหญิงพูดด้วยความอยากรู้อยากเห็น

"นางหน้าคล้ายพี่หญิงอยู่มากนะขอรับ" เจ้าเฟยหลงพูดออกมาเมื่อนึกขึ้นได้ ใบหน้าของเฉินลู่เหลียนสะดุดตาตนตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ คิดอยู่นานว่าโครงหน้า และแววตาของนางเขาเคยเห็นที่ไหน วันนี้ได้คำตอบแล้วว่าเฉินลู่เหลียนคล้ายกับญาติผู้พี่ของตนนี่เอง

"อะไรกัน"

"จริงๆนะพี่หญิง"

"ตอนนี้นางอยู่ไหนพี่ชักจะอยากเห็นหน้าเสียแล้ว" เจ้าเฟยหลงยิ้ม เขากวักมือเรียกเด็กรับใช้ที่อยู่แถมนั้นและออกคำสั่ง

"ไปตามนายหญิงของเจ้ามาพบข้าที่ห้องรับรองใหญ่ และบอกนางด้วยว่ามีหญิงผู้สูงศักดิ์อยากจะพบหน้าหญิงที่ต่ำต้อย" ท่านหญิงเลี่ยงซูมองหน้าญาติผู้น้องแล้วส่ายหน้าช้าๆ เมื่อฟังจบ พอจะรู้ว่าท้ายของประโยคนั้นเจ้าเฟยหลงประชดนางผู้นั้นไปในที

ดวงตาคู่หวานไหวเล็กน้อยเมื่อได้เห็นหน้าของหญิงสูงศักดิ์ที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากเจ้าเฟยหลงนัก แต่ก็เป็นเพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้นเพราะเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเฉินลู่เหลียนก็ปรับแววตาให้เย็นชาแทน

"ท่านหญิงเลี่ยงซู นางมีศักดิ์เป็นพี่สาวของข้า และในความจริงนางก็เป็นพี่สาวที่ข้าเคารพมาก" เจ้าเฟยหลงแนะนำ เฉินลู่เหลียนรับฟังด้วยท่าทางสงบและเมื่ออีกฝ่ายพูดจบนาก็ทำความเคารพผู้สูงวัยกว่าตามมารยาท

ท่านหญิงเลี่ยงซูยิ้มรับ นางเดินเข้ามาใกล้และค่อยๆประคองหญิงสาวที่อ่อนวัยกว่าให้ยืนขึ้น พลันสายตาเหลือบไปเห็นบางอย่างที่หลังหูขวาและหยกที่คล้องอยู่ที่เอวของอีกฝ่ายเข้าเลยทำให้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มซีดเผือดลงไปเล็กน้อย

"พี่หญิง ทำไมท่านหน้าซีดล่ะ ท่านไม่สบายหรือเปล่า" ท่านหญิงกระพริบตาติดกันสองสามครั้งและหันมาทางญาติผู้น้องก่อนที่จะส่ายหน้าช้าๆ

"เปล่า ข้าไม่เป็นไร" ท่านหญิงบอกปัดแต่สายตายังต้องอยู่ที่ใบหน้าหวานของเฉินลู่เหลียน

"เจ้าชื่อเฉินลู่เหลียนใช่ไหมจ๊ะ" น้ำเสียงที่ถามอ่อนโยน แต่คนฟังรู้สึกไม่ดีนัก

"เจ้าค่ะ"

"นางคล้ายท่านพี่มากนะ ท่านพี่คิดว่าอย่างไร" เจ้าเฟยหลงพูดบ้าง ท่านหญิงหันมายิ้มให้ญาติผู้น้องและหันมามองหน้าเฉินลู่เหลียนอีกครั้ง

"นางสวยและสาวกว่าข้ามาก" แม่ทัพหนุ่มส่ายหน้าไม่เห็นด้วย

"ท่านพี่ของข้ายังงามเสมอ ไปแปลกใจเลยว่าทำไมท่านพี่เขยทำไมถึงได้รักได้หวงท่านพี่มาก" คำพูดหยอกล้อกันของทั้งสองทำให้เฉินลู่เหลียนอยากจะร้องไห้ รู้สึกน้อยใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ชีวิตของท่านหญิงผู้สูงศักดิ์ ย่อมหรูหราสุขสบายอยู่แล้ว

"หยกชิ้นนี้เจ้าไปได้มาจากไหน บอกข้าได้หรือไม่" ท่านหญิงเอ่ยถามเมื่อได้โอกาส

"หยกชิ้นนี้ท่านย่าบอกข้าว่าเป็นของแทนใจที่แม่ของข้าให้กับพ่อเจ้าค่ะ" ตอบในสิ่งที่ตนรู้ออกมาช้าๆแต่น้ำเสียงมั่นคง

"แล้วพ่อของเจ้ายังอยู่หรือไม่" เฉินลู่เหลียนมองสบตาอีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนที่จะตอบ

"พ่อทำความผิดร้ายแรง เลยถูกเนรเทศไปทำงานที่ชายแดน ข้าไม่เคยพบหน้าพ่อ ชีวิตของข้ามีแค่ท่านย่าเท่านั้น พอท่านย่าเสียก็ได้ท่านเจ้าเมืองกับฮูหยินดูแลเจ้าค่ะ ส่วนแม่..." เฉินลู่เหลียนเว้นวรรคไว้แล้วมองสบตาอีกฝ่ายนิ่ง

"ข้าไม่เคยเห็นว่าแม่หน้าตาเป็นอย่างไร ท่านย่าบอกว่าแม่ของข้าอยู่สูงเกินกว่าที่พ่อจะไขว่คว้า และเพราะความรักที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจทำให้พ่อต้องพบกับวิบากกรรมที่เลวร้าย ส่วนแม่ตอนนี้คงมีความสุข และน่าจะมีครอบครัวใหม่ไปแล้ว แม่คงลืมทุกอย่างไปแล้ว"

"ถือว่าเป็นความรู้ใหม่สำหรับข้าเลยนะ เจ้าไม่เคยเล่าเรื่องของตนเองให้ข้าฟังเลย" แม่ทัพหนุ่มตัดพ้อแต่ก็ไม่จริงจังนัก

"เพราะท่านไม่เคยถาม"

"พ่อของเจ้าไปรักผู้หญิงที่มีศักดิ์สูงกว่า รู้ไหมมีคำพูดกล่าวกันมาว่าเป็นชายอย่าปองรักคนที่ศักดิ์สูงกว่าตนเอง เพราะความรักจะนำแต่เรื่องเดือดร้อนมาให้" เฉินลู่เหลียนหันมามองเจ้าเฟยหลงแล้วพยักหน้าเห็นด้วย ถึงแม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะติดดูแคลนนิดๆ แต่ก็เป็นเรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้

ท่านหญิงเลี่ยงซูนิ่ง น้ำตาเริ่มที่คลออยู่ในดวงตาทำท่าจะไหลออกมา และถึงแม้ว่าพยายามจะห้ามแค่ไหนก็ไม่ได้ผลเพราะสุดท้ายน้ำใสๆก็ไหลออกมาจากดวงตาอยู่ดี

"ท่านพี่ร้องให้" เจ้าเฟยหลงทัก และเดินเข้าไปใกล้ท่านหญิงด้วยความเป็นห่วง "ท่านพี่คงสะเทือนใจกับเรื่องของครอบครัวเจ้า นางเป็นคนอ่อนไหวง่าย"

"พี่รู้สึกไม่ค่อยดีนัก พี่ว่าวันนี้พี่กลับไปก่อนดีกว่า" ท่านหญิงบอกเสียงเศร้า

"ท่านพี่ไม่สบายแน่ๆ ให้ข้าตามหมอไหม" ท่านหญิงส่ายหน้าปฏิเสธ

"ไม่ต้องหรอกพี่ไม่ได้เป็นอะไร แค่รู้สึกไม่ค่อยดีเท่านั้น อาจจะเป็นเพราะพี่พักผ่อนน้อยจนเกินไป" ท่านหญิงเลี่ยงซูอธิบาย ตอนนี้ความรู้สึกบางอย่างกำลังกัดกินจิตใจของนางอยู่ ความรู้สึกที่ไม่สามารถบอกผู้ใดได้ สิ่งที่ทำได้คือเก็บความรู้สึกนั้นไว้กับตัว ดวงตาคู่สวยหันมามองหญิงสาวที่อ่อนวัยกว่าและหันไปมองเจ้าเฟยหลงต่อ

"เฟยหลง พี่อยากจะขออะไรสักอย่าง จะให้พี่ได้หรือไม่"

"ท่านพี่อยากได้อะไรบอกมาเลย ถ้าทำได้ ข้าพร้อมจะทำให้" น้ำเสียงของเขามั่นคง

"ลู่เหลียนต้องจากบ้านของนางมาอยู่ในที่ๆไม่คุ้นเคย พี่อยากให้เจ้าดูแลนางให้ดี"

"ทำไมท่านพี่พูดแบบนี้ ท่านพูดเหมือนว่าข้าเป็นคนใจร้ายใจดำ" ท่านหญิงยิ้มบางๆ

"พี่ขอแค่นี้ทำให้พี่ได้ใช่ไหม"

"ได้สิท่านพี่ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าตัวด้วยว่าอยากให้ข้าดูแลมากแค่ไหน" ท้ายประโยคมีการประชดนิดๆ แต่สายตาที่ส่งมาให้กับเฉินลู่เหลียนนั้นดูนิ่งจนอีกฝ่ายหลบตา

การสร้างสรรค์งานเป็นเรื่องยาก ส่งกําลังใจให้กันด้วยนะ!

Kulabkaewcreators' thoughts
Próximo capítulo